ตอนที่ 324 : 35,000 ล้าน

ปัง ปัง ปัง !

เสียงเคาะประตูดังขึ้นจนทำให้หวังเย่าต้องเดินมาที่ประตูด้วยความสงสัย

“ใครกัน คนของหอสมบัติสวรรค์ไม่น่าจะทำเสียมารยาทแบบนี้” ในตอนที่คิดอยู่นั้นหวังเย่าก็เดินไปที่ประตูและเปิดออก

มันคือฟางอี้ที่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา ตอนนี้หน้าอกของเธอก็กระเพื่อมขึ้นลงเล็กน้อยเพราะเธอวิ่งมาที่นี่

เมื่อเห็นแบบนั้น หวังเย่าก็ต้องตัวแข็งทื่อ

ฟางอี้เหมือนจะรู้ว่าถูกมองอะไร มันก็ยิ่งทำให้หน้าเธอแดงขึ้นมาอีกครั้ง

“อื่ม” เธอไม่ได้พูดอะไร เธอแค่ฮึดฮัดใส่หวังเย่าแล้วเดินจากไป

“นี่เธอเป็นบ้าอะไร ? ”

“อย่าเคาะประตูห้องคนอื่นซี้ซั้วแบบนี้สิถ้าไม่มีธุระ”

“ความคิดผู้หญิงนี่เข้าใจยากจริง ๆ มาแล้วก็ไป”

หวังเย่าส่ายหน้าก่อนจะปิดประตูแล้วเดินกลับไปในห้อง

เขากลับมาที่หน้าต่าง ตอนนี้มันถึงช่วงสุดท้ายของการประมูลแล้ว

ฟางอี้เดินกลับไปที่ทางเดินก่อนจะไปนั่งยอง ๆ ที่มุมหนึ่งด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

“ฉันมาทำบ้าอะไรที่นี่ ทำไมฉันถึงมาที่นี่ มันคงอายน่าดูถ้าพ่อรู้เข้า” เธอนั่งยอง ๆ บ่นออกมาโดยไม่เหลือภาพลักษณ์ของลูกเจ้าเมืองเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เธอแทบไม่ต่างอะไรจากเด็กสาวทั่วไปที่วิ่งตามผู้ชายเลยก็ว่าได้

“น้องสาว เกิดอะไรขึ้น ? ให้ฉันช่วยอะไรไหม ? ”

เสียงชายหนุ่มดังขึ้น

เพราะฟางอี้นั่งปิดหน้าตัวเองอยู่ อีกฝ่ายจึงไม่เห็นหน้าเธอและไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร

หากอีกฝ่ายรู้ว่านี่คือฟางอี้ เขาคงไม่พูดแบบนี้ออกมา

“ออกไปให้พ้น ! ”

เมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่าย ฟางอี้ก็เอามือที่ปิดหน้าออกแล้วพูดขึ้นมา

เมื่อเห็นฟางอี้ สีหน้าของชายคนนั้นก็เปลี่ยนไปทันที ตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งรู้ว่านี่คือฟางอี้และรู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกไป

“คุณหนูฟางอี้ ผม…”

อีกฝ่ายยังพูดไม่ทันจบก็เห็นฟางอี้ลุกขึ้นยืนและมองมาที่เขา ก่อนที่เธอจะรีบเดินกลับไปที่ชั้นสาม

“น้องชาย มีอะไรกัน ? ”

หลังจากที่ฟางอี้ออกจากที่นั่นไป ก็มีคนอื่นเดินมาหาชายคนนี้

ชายคนนั้นสวมชุดดูคล้ายกัน ดูเหมือนว่าทั้งสองจะมาจากกองกำลังเดียวกัน

“ไม่มีอะไร” ชายคนแรกยิ้มออกมา เขาสลัดเรื่องในหัวทิ้งก่อนจะเดินกลับไปพร้อมกับอีกฝ่าย

….

ฟางอี้ได้กลับไปที่ชั้นสาม เธอกลับไปที่ข้างหน้าต่างและยืนข้าง ๆ ฟางฉิงหัวโดยไม่พูดอะไรออกมา

ฟางฉิงหัวก็ยังคงมองดูการประมูลด้านล่างต่อ

ตอนนี้การประมูลบอกได้ว่าดุเดือดที่สุด เมื่อคนใหญ่คนโตเริ่มประมูลมาแล้ว งั้นการประมูลก็เหมือนจะจบลง

“32,000 ล้าน” ผู้อาวุโสตระกูลลู่ยังไม่ยอมแพ้ ดูเหมือนว่าเขาจะยังสู้ต่อ

“32,500 ล้าน” ฮวงเทียนเจวี๋ยนพูดขึ้นมาด้วยความมั่นใจ

ยังไงซะผู้ตรวจสอบ 4 ดาวก็สู้อยู่ในมิติลับมาหลายปี พวกเขามีทั้งกองกำลังและเงินทองอยู่มาก ถึงจะไม่มากเท่ากับตระกูลใหญ่แต่ก็พอยังจ่ายเงินระดับหมื่นล้านไหว

ยิ่งกว่านั้นนี่ก็คือชุดเกาะระดับ SSS ที่สร้างขึ้นโดยท่านหลู่ แน่นอนว่ามันต้องมีค่าอย่างมาก เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป

“33,000 ล้าน” ผู้อาวุโสเขามังกรพยัคฆ์น่าจะรู้ความสามารถของตัวเองแต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงยังสู้ต่อ

“33,500 ล้าน” จางจื้อเฉียงเพิ่มราคาขึ้นอีก 500 ล้าน เพราะเขาต้องการมัน ก่อนหน้านี้เขาเสียเกราะระดับ SSS ไปแล้ว

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังหาเกราะระดับ SSS ที่เหมาะสมกับเขาไม่ได้

เขาชินกับการใช้เกราะระดับ SSS มานาน การที่เกราะของเขาพังไปเพราะกาลเวลา ถึงมันจะซ่อมได้แต่ก็ใช่ว่าจะใช้ได้ตลอดและประสิทธิภาพมันก็ย่อมลดลงไปด้วย

ยังไงซะทุกอย่างก็มีอายุขัยของมัน

จางจื้อเฉียงเคยหาซื้อชุดเกราะดี ๆ มามากมาย แต่เขาก็ยังไม่เคยเห็นเกราะที่เขาถูกใจ

ในเมื่อการประมูลครั้งนี้มีเกราะที่เขาพึงพอใจปรากฏขึ้นมา ดังนั้นจางจื้อเฉียงจึงคิดจะทุ่มจนสุดตัวเพื่อให้ได้มันมา

“34,000 ล้าน” แม้ว่าจะเคารพจางจื้อเฉียง แต่ผู้อาวุโสแห่งวัดเซียงกัวก็ยังไม่คิดยอมแพ้ บอกได้ว่าเกราะนี้มีประโยชน์ต่อคนของเขาอย่างมาก เขาไม่คิดจะยอมแพ้ง่าย ๆ

“35,000 ล้าน” ตอนนั้นเองเฉี่ยนเจินเฉียนก็ได้พูดขึ้น เขาได้เพิ่มราคาขึ้นไปอีก 1 พันล้านซึ่งทำให้ผู้คนต่างพากันแปลกใจอย่างมาก

“ผู้ตรวจสอบเฉี่ยนเจินเฉียนเด็ดขาดจริง ๆ เขาเด็ดขาดกว่าผู้ตรวจสอบคนอื่น ๆ ”

“ดูไปแล้ว ผู้ตรวจสอบเฉี่ยนเจินเฉียนคงหมายตาเกราะนี่จริง ๆ ”

“ผู้ตรวจสอบคนอื่นคงไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ มันยังมีตระกูลชั้นนำและสำนักอื่นด้วย”

“ตอนนี้การประมูลดุเดือดชะมัด คนพวกนี้ไม่สนใจเงินมหาศาลที่ต้องเสียไปเลยแม้แต่น้อย”

“ไม่รู้รึไงว่าพวกนี้เป็นคนแบบไหน แทบทุกคนน่ะต่างก็เป็นคนใหญ่คนโตของเมืองหัวเซี่ย”

“เราด้อยกว่าคนพวกนี้เกินกว่าที่เราจะคาดถึง”

….

ผู้คนด้านล่างพากันกระซิบกระซาบกัน สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพ