บทที่ 287 แผนซ้อนแผน
บทที่ 287 แผนซ้อนแผน

อวี้ฮ่าวหรานมองไปที่พนักงานบัญชีหญิงวัยกลางอย่างขู่เข็ญ

“ม…ไม่นะ ได้โปรดอย่าแจ้งความจับฉันเลย! ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริง ๆ! ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเกิดมาจากพนักงานบัญชีสองคนเก่าที่ลาออกไป พวกเขาเป็นคนของตระกูลอู๋ทั้งหมด!”

หญิงวัยกลางคนส่ายหัวด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เมื่อคิดว่าเธอจะถูกจับเข้าคุก เธอจึงเผยทุกอย่างที่เธอรู้

“แน่ใจนะว่ามันไม่เกี่ยวกับเธอจริง ๆ?”

“จริง! ที่ฉันพูดเป็นความจริงนะ! ฉันเพิ่งเข้ามาทำงานได้ยังไม่ถึงเดือนเลย ฉันจะไปมีปัญญาทำให้บัญชีเละเทะถึงขนาดนั้นได้ยังไง! ได้โปรดอย่าแจ้งความจับฉันเลย!”

อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วอีกครั้งเมื่อได้ยินเช่นนี้ จากที่สังเกตอาการและสีหน้าของผู้หญิงคนนี้ ชายหนุ่มสามารถบอกได้เช่นกันว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหก!

ถ้างั้นเรื่องของบัญชีมันก็เกี่ยวกับพนักงานบัญชีที่เพิ่งลาออกไปแน่นอน

“รู้หรือเปล่าว่าไอ้พนักงานสองคนที่ลาออกบ้านพวกมันอยู่ที่ไหน?”

เมื่อพอจะสรุปอะไรได้บ้างแล้ว อวี้ฮ่าวหรานจึงหันไปถามหลี่หรง

หลี่หรงอึ้งไปอยู่ครู่หนึ่ง หญิงสาวไม่นึกเลยว่าบริษัทของตัวเองจะมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่เธอไม่รู้ตัวเลยแบบนี้

ตระกูลอู๋ที่เงียบหายไปนานกลับมาสร้างความลำบากให้กับพวกเธออีกแล้วงั้นเหรอ?

“ฉันรู้พี่เขย”

ถัดมา หลี่หรงได้ไปหาข้อมูลของพนักงานสองคนที่เพิ่งลาออกและส่งมันให้กับอวี้ฮ่าวหราน

“เอาล่ะ เดี๋ยวพี่จะไปตามหาไอ้สองคนนั้นก่อน ส่วนเธอก็ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยจับตาดูผู้หญิงคนนี้เอาไว้ อย่าให้ออกไปจากห้องนี้และยึดโทรศัพท์มาไว้ด้วย รอพี่กลับมาก่อน จากนั้นเราค่อยมาคิดกันว่าจะเอายังไงกับผู้หญิงคนนี้ต่อ”

ถึงแม้ว่าพนักงานบัญชีคนใหม่นี้จะไม่ได้เป็นคนปรับแต่งบัญชี แต่อวี้ฮ่าวหรานค่อนข้างแน่ใจว่า เธอจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องบางอย่างด้วย ดังนั้นเขาจึงยังปล่อยอีกฝ่ายไปไม่ได้ หลังจากพูดจบ ชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องไปในทันที

ถึงแม้ว่าบริษัทของหลี่หรงจะไม่ได้สร้างผลกำไรอะไรนักหากเทียบกับเครือฮ่าวหราน แต่ที่นี่คือผลงานจากการทำงานหนักของหลี่หรง ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครที่มาสร้างความวุ่นวายลอยนวลไปได้…

อวี้ฮ่าวหรานเหยียบคันเร่งรถจนมิด หวังว่าจะไปให้ถึงที่อยู่ของพนักงานบัญชีที่ลาออกไปทั้งสองคนให้เร็วที่สุด ก่อนที่พวกนั้นจะได้ไหวตัวทันและหนีไป

ทว่า หลังจากขับรถไปได้ครึ่งชั่วโมง จู่ ๆ ชายหนุ่มก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ซึ่งเมื่อตัวเองได้คิดวิเคราะห์ทุก ๆ อย่างแล้ว เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้

แต่แล้วเมื่อชายหนุ่มขับรถไปได้อีกราวสิบนาที ความรู้สึกวิตกกังวลและร้อนใจมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนเขาต้องขมวดคิ้ว

จากนั้นชายหนุ่มก็นึกอะไรบางอย่างออก ทำไมสีหน้าของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ถูกเรียกเข้ามาพวกนั้นมันถึงดูแปลก ๆ ดูราวกับว่ากำลังกลัวอะไรบางอย่าง? พวกนั้นมีอะไรต้องกลัวกันด้วย?

เดี๋ยวนะ คำสารภาพของผู้หญิงคนนั้นมีแค่เรื่องเกี่ยวกับบัญชีแค่นั้นเองและนั่นมันคงเป็นความจริง แต่ถ้าเธอปกปิดเรื่องอื่นเอาไว้อีก เขาคงไม่ทันสังเกตเห็นในตอนนั้นแน่!

ตอนนั้นเขาเอาแต่พุ่งเป้าไปที่เรื่องบัญชีเพียงอย่างเดียวจนละเลยประเด็นอื่นไปซะสนิท!

ในบริษัทของหลี่หรง มันจะต้องไม่ได้มีแค่สองคนที่ทรยศแน่ ๆ!

การหายตัวไปของหัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มันคือความผิดปกติที่ไม่ควรเกิดขึ้น!

เมื่อพอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้คร่าว ๆ อวี้ฮ่าวหรานจึงรีบกลับรถทันที ชายหนุ่มไม่สนใจเกี่ยวกับบัญชีอีกต่อไป เขาต้องกลับไปหาหลี่หรงให้เร็วที่สุดก่อน!

ในขณะเดียวกันที่บริษัทฮัวหรง

“น…นี่ พวกนายจะทำอะไรฉัน!”

ในออฟฟิศ หลี่หรงตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

ฝ่ายตรงข้ามของเธอขณะนี้คือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้าคนที่เธอเรียกมาเมื่อครู่ และผู้จัดการเจาที่เธอเพิ่งไล่ออกไป รวมไปถึงหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยที่หายตัวไปก็มาปรากฏตัวตรงหน้าเธอเช่นกัน

“ฮ่า ๆ คุณหลี่ คุณฉลาดนักไม่ใช่เหรอ? ทำไมคราวนี้คุณถึงไม่รู้ล่ะว่าพวกเรากำลังจะทำอะไร?”

ชายวัยกลางคนหัวเราะอย่างชั่วร้าย ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีแผนชั่วในใจ

“หึหึ ในเมื่อคุณทำลายแผนการของเราที่วางเอาไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้นนายน้อยอู๋จึงมีคำสั่งใหม่ให้เราพาตัวคุณไป และหลังจากที่นายน้อยอู๋พึงพอใจแล้ว พวกเราก็จะได้เล่นสนุกกับคุณต่อก่อนที่จะฆ่าคุณทิ้งซะ!”

“พวกแกกล้างั้นเหรอ! อีกไม่นานพี่เขยของฉันก็กลับมาแล้ว!”

หลี่หรงรู้สึกแย่สุดขีด เธอไม่นึกเลยว่าบริษัทของเธอถูกฝ่ายตรงข้ามแทรกซึมลึกจนถึงขนาดนี้

“จับนังนี่ซะ!”

เมื่อเห็นเช่นนี้ ชายวัยกลางคนก็ไม่อยากจะพูดอะไรให้มากความอีก เขาสั่งพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เป็นพวกเดียวกับตัวเองจับตัวหลี่หรงทันที

แน่นอนว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างหลี่หรง ไม่มีทางสู้แรงผู้ชายห้าคนได้ ดังนั้นเธอจึงถูกล็อกตัวเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

เธอถูกมัดมือมัดปากและถูกเอาถุงผ้าสีขาวคลุมหัวเอาไว้อย่างแน่นหนา

“พวกแก….”

ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้สบถด่าอะไรต่อ สติของเธอก็เริ่มเลือนราง เนื่องจากเธอโดนผ้าเช็ดหน้าสีขาวโปะเข้ามาที่จมูก ซึ่งบนผ้านั้นเต็มไปด้วยยาสลบแบบสูดดม

ชายวัยกลางคนที่เห็นว่าหลี่หรงสลบไปแล้วคามือของพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความหื่นกระหาย เขาก้าวเข้ามาใกล้หลี่หรง และค่อย ๆ ยื่นมือออกไป แต่ก่อนที่จะทันได้แตะตัวหญิงสาว จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเตือน

“เฮ้! หยุดสิ่งที่แกคิดจะทำเดี๋ยวนี้! นายน้อยอู๋สั่งมาอย่างชัดเจนว่าห้ามพวกเราแตะต้องผู้หญิงคนนี้! ถ้าแกแตะเธอ แกได้ตายแบบไม่มีหลุมฝังศพแน่!”

เมื่อเห็นแววตาหื่นกระหายของชายวัยกลางคน หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

แน่นอนว่าเมื่อโดนเตือนเช่นนี้ ชายวัยกลางคนรีบชักมือกลับทันทีพร้อมกับรู้สึกหนาวไปถึงสันหลัง โชคที่เขายังไม่ได้ทำอะไรลงไป ไม่งั้นเขาโดนฆ่าแน่!

เขารู้ดีว่าคนอย่างอู๋เส้าฮัวทำอะไรได้บ้าง หากขัดใจอีกฝ่าย เขาคงได้ตายเหมือนหมาข้างถนน!

“อ…อืมเข้าใจแล้ว งั้นพวกเรารีบไปกันเถอะ…”

หลังจากนั้นพวกเขาก็อุ้มหลี่หรงออกไปทางบันไดหนีไฟและออกประตูหลังไปขึ้นรถตู้ที่พวกเขาแอบเตรียมไว้

ครึ่งชั่วโมงถัดมา อวี้ฮ่าวหรานกลับมาถึงบริษัทฮัวหรงอีกครั้ง เขารีบวิ่งขึ้นไปที่ออฟฟิศของหลี่หรงทันที แต่เมื่อไปถึงเขาก็พบแต่ความว่างเปล่าและสภาพเละเทะของออฟฟิศ ยิ่งทำให้เขาโมโหจนแทบระเบิด!

“ไอ้ระยำอู๋เส้าฮัว!”

หลังจากที่ชายหนุ่มสั่งสอนตระกูลอู๋ไปเมื่อตอนนั้นจนอีกฝ่ายสติแตก เขาไม่คิดเลยว่าอู๋เส้าฮัวจะยังกล้าระรานเขาและคนของเขาอีก!

ชายหนุ่มนึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าคนในโลกยุคปัจจุบันนี้จะไม่กลัวตายและกล้าทำอะไรโง่ ๆ ได้ถึงขนาดนี้

เขาประเมินอีกฝ่ายต่ำเกินไป มันเป็นเขาที่โง่เอง!

หลังจากนั้น อวี้ฮ่าวหรานพยายามสงบใจและใช้พลังวิญญาณในการจับกลิ่นอายของหลี่หรงที่เหลือทิ้งไว้ว่า เธอถูกพาไปทางไหน

ทว่าก่อนที่เขาจะทันได้ออกไปตามหา โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

แน่นอนว่าคนที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอู๋เส้าฮัว!

“ฮ่า ๆ! แกคงคิดไม่ถึงล่ะสิว่าตอนนี้หลี่หรงจะมาอยู่ในอุ้งมือฉันแล้ว!”

อวี้ฮ่าวหรานแสดงสีหน้าเย็นชาทันทีเมื่อได้ยินประโยคนี้

“นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าแกจะอยากตายก่อนแก่มากขนาดนี้!”

หากพวกคนในดินแดนแห่งเทพมาได้ยินเสียงของอวี้ฮ่าวหรานในเวลานี้ พวกเขาสามารถบอกได้ทันทีว่าวันนี้จะต้องมีคนตายแน่นอน!

“ฮ่า ๆ ฉันเนี่ยนะรีบอยากตาย? เอาล่ะ ๆ ฉันไม่ล้อแกเล่นแล้วก็ได้ ฉันจะจริงจังล่ะนะ เพราะโชว์ที่แท้จริงมันเริ่มจากนี้ต่างหาก!”

อู๋เส้าฮัวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเบิกบานเป็นอย่างมาก

“ฉันขอสั่งแกให้มาที่โกดังซิงหยวน คนเดียวภายใน 40 นาที จำเอาไว้ว่าแกต้องมาคนเดียวเท่านั้น ฉันอยากจะให้แกดูโชว์เด็ดที่ฉันเตรียมเอาไว้ให้แกเป็นอย่างดี!”

“อ้อ และอีกอย่าง หากแกไม่มาล่ะก็ หลังจากนี้ฉันจะส่งคลิปวิดีโอเด็ดไปให้กับแก เพื่อที่แกจะได้รู้สึกเสียใจไปจนวันตาย!”

หลังจากพูดประโยคนี้จบ อู่เส้าฮัวก็หัวเราะอย่างสะใจก่อนจะวางสายไป