ตอนที่1247 ราชินีมังกรอ้าวจุน

 

ตรงเข้าสู่ส่วนลึกภายในถ้ำ เย่หยวนเร่งใช้พลังปราณทั้งหมดที่เหลืออยู่ผนึกเป็นเกราะลมปราณปกป้องตัวเองทันที

ยิ่งเขาก้าวย่างเข้าไปลึกเท่าไหร่ เย่หยวนก็ยิ่งใจสั่นมากขึ้น พร้อมไอเย็นหอบใหญ่ที่เจาะทะลุเข้าร่างกายอย่างหนาวเหน็บ

เบื้องหน้าปรากฎว่าสระน้ำบรรพกาลทั้งลึกและเงียบสงัด ไม่ว่าจะพยายามมองหาก้นสระอย่างไร ทว่ากลับไม่สามารถมองเห็นได้

 

ไอเย็นแผ่สะท้านในบริเวณนี้มิใช่ธรรมดา กระทั้งจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ยังแทบเหยือกแข็งทะลุจุดศูนย์เช่นกัน

ไขกระดูกทั่วร่างเย็นจับใจ เย่หยวนถึงขั้นทั่วร่างสั่นเทาโดยไม่รู้ตัว

 

เย่หยวนหรี่ตาแคบจับจ้องอย่างผิดสังเกต ก่อนโพล่งกล่าวขึ้นว่า

“นี่มัน…รัศมีเหมันต์นิรันดร์!”

 

“ถูกต้อง นี่คือรัศมีเหมันต์นิรันดร์! ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้รับสืบทอดศาสตร์วิชาจากเขามาเต็มๆ สัมผัสเย็นหอบหนึ่งเพียงชั่วครู่ก็รู้ทันทีว่าเป็นรัศมีเหมันต์นิรันดร์!”

สุ้มเสียงหญิงสาวดังออกจากเบื้องหน้า และนั้นเป็นเสียงเดียวกับที่เย่หยวนได้ยินตอนอยู่ข้างนอกอย่างแม่นยำ

เสียงนี้เรียบนิ่งปราศจากสภาวะอารมณ์ใด และนั้นทำให้ภายในใจเย่หยวนอลหม่านอีกครั้ง

 

รัศมีเหมันต์นิรันดร์นี้เกิดขึ้นบนแดนเหนือสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น และนี่ยังเป็นหนึ่งในสมุนไพรสุดหายาก สำหรับใช้หลอมกลั่นโอสถที่มีคุณสมบัติธาตุน้ำโดยเฉพาะ

สิ่งนี้มีค่าหาที่เปรียบไม่ แม้แต่ปริมาณของมันแค่เศษเสี้ยวก็มีค่าเท่ากับหลายสิบเมืองเทวะรวมกัน

เหตุที่มันมีชื่อว่า รัศมีเหมันต์นิรันดร์เป็นเพราะ มันมีสถานะคล้ายน้ำไม่สามารถจับต้องได้ด้วยมือเปล่า และยังไม่มีวันละเหยหายไปไหนได้ แม้จะถูกปราณแห่งไฟหล่อหลอมสิบวันสิบคืนเต็ม มันก็ยังคงความเย็นนิรันดร์กาล

หากเป็นนักสู้อาณาจักรเต๋าลึกล้ำทั่วไป เผลอสัมผัสมันเข้าอาจถึงตายทันที!

อย่างไรก็ตามแต่ ไอเย็นไร้ขอบเขตภายในส่วนลึกของสระน้ำตรงหน้า กลับมีปริมาณรัศมีเหมันต์นิรันดร์ที่สูงมาก!

 

“ท่าน…ท่านคือ?”

เย่หยวกลืนน้ำลายอึดใหญ่ก่อนเอ่ยปากถามขึ้น

 

หญิงสาวนางนั้นถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง นางเอ่ยปากขึ้นว่า

“หยุนเอ๋อ… เจ้าโตขึ้นมา”

 

ทั่วทั้งร่างกายของเย่หยวนสั่นเทาหนัก เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่หยวนแทบทรุดฮวบลงบนพื้น

“หรือว่า…ท่านคือ…ท่านคือ…”

เสียงหายใจของเย่หยวนหอบถี่ อันที่จริงเขาพอจะคาดเดาได้มาตั้งนานแล้ว ทว่าเมื่อความจริงอยู่ตรงหน้า เขากลับกลายเป็นว่าทำอะไรไม่ถูกไปซะดื้อๆ

สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือ อีกฝ่ายอาจจะปฏิเสธเขาอย่างไร้เยื้อใย เย่หยวนกลัวความจริงเบื้องหน้าที่ต้องเผชิญ

เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมา เขาไม่เคยมีคำว่า‘แม่’มาก่อน

 

ระยะเวลากว่าห้าร้อยปีที่ผ่านมา ชีวิตของเขามีแต่พ่อที่อยู่ดูแลกันมาโดยตลอด

เป็นเช่นนี้เรื่อยมาจวบจนมาถึงช่วงชีวิตปัจจุบัน เขาลืมตาขึ้นอีกครั้งในดินแดนที่ไม่คุ้นเคยและเห็นความห่วงใยที่เหรินหงหลิงมอบให้ ซึ่งนั้นเป็นครั้งแรกที่เย่หยวนได้สีมผัสถึงความรักของแม่

เพียงแต่เย่หยวนทราบดี เขาเป็นแค่ตัวแทน‘เย่หยวน’เจ้าของร่างคนเดิมที่ตายไปแล้ว ความรักของผู้เป็นแม่นั้นมิใช่ของจักรพรรดิโอสถ,จี้ฉิงหยุนผู้นี้

ถึงกระนั้นเขาก็รู้สึกมีความสุขอย่างมากที่ได้รับความรักจากแม่ แม้จะเป็นในนาม‘เย่หยวน’ก็ตามที

 

ทว่าในท้ายที่สุดนี้ เขาก็ยังเป็นจี้ฉิงหยุน!

 

“ถูกต้องแล้ว ข้าคือ…แม่ของเจ้า”

สุ้มเสียงของอ้าวจุนส่งผ่านออกมาอย่างแผ่วเบา

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลายหลากมากอารมณ์พลันพรั่งพรูเข้ามาในหัวใจเย่หยวน แสนซับซ้อนหาที่เปรียบไม่

ทั้งดีใจ เสียใจ สงสัย โกรธ สรรพอารมณ์ล้วนผสมปนเปกันไปหมด เสมือนว่าตัวเขากำลังจะระเบิดออกมา

เขาไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่า แม่ของตนคือใคร หน้าตาเป็นอย่างไร

และก็ไม่เข้าใจด้วยว่า ทำไมท่านพ่อถึงไม่เคยพูดถึงแม่เลย

ในที่สุด หลากหลายคำถามมากมายที่ถูกฝังลึกภายในจิตใจก็ถูกดึงออกมาอีกครั้ง

 

“ทำไม?!”

ร้อยพันอารมณ์ความรู้สึกกลั่นรวมกลายเป็นคำพูดเดียว

เย่หยวนย่อมไม่ทราบว่าที่นี่คือดินแดนเนรเทศ และมิได้รู้เรื่องราวของอ้าวจุนในอดีตเลยแม้แต่น้อย

ดังนั้นเมื่อเขาทราบว่าตนมีแม่ จึงรู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง!

 

ฟูวว…

 

ฟองอากาศจำนวนมากปรากฏขึ้นบนสระน้ำเหมันต์เย็น เงาขนาดใหญ่ค่อยๆปรากฏขึ้นเหนือผิวน้ำพร้อมเสียงหวือ ศีรษะมังกรขนาดมหึมาโผล่ออกมาและจับจ้องไปยังเย่หยวน

สองคู่สายตาเข้าเผชิญหน้ากัน สายตาคู่หนึ่งจับจ้องด้วยความตื่นตะลึง ในขณะที่อีกหนึ่งคู่สายตาจับจ้องเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่แสนอ่อนโยน

 

เย่หยวนรู้จักเผ่ามังกรเป็นอย่างดี ซึ่งมังกรฟ้าขนาดมหึมาตนนี้มีหน้าตาค่อนข้างเหี่ยวย่นและผิวหนังแห้งกร้าน เห็นได้ชัดว่ามันใกล้ถึงช่วงชีวิตสุดท้ายเป็นทนแล้ว

นอกจากนี้เอง โดยทั่วไปแล้วเผ่ามังกรจะนิยมคงสภาพในร่างมนุษย์ตลอดเวลา ทว่ายามใดที่แกนอสูรเกิดความเสียหายหนักหรืออ่อนแอจนพลังปราณไม่เพียงพอ พวกมันจะไม่สามารถรักษาความเสถียรพร้อมจำแลงกายกลับเป็นรูปลักษณ์เดิมของมัน

มังกรฟ้าที่ใกล้ตายตนนี้ หรือว่าจะเป็นแม่ของเขาจริงๆ?

 

แต่…ต่อให้นับรวมชาตินี้กับชาติก่อนหน้า เวลาเพิ่งผ่านไปแค่ห้าร้อยปีเท่านั้น

ดังนั้นแล้ว กาลเวลาผ่านเพียงห้าร้อยปี ไฉนแม่ของเขาถึงดูมีอายุขนาดนี้ได้?

 

 

“หยุนเอ๋อ ทั้งหมดเป็นความผิดของแม่เอง! แม้แม่จะเป็นคนให้กำเนิดเจ้ามา ทว่ากลับไม่มีโอกาสได้ดูแลเจ้าเลยแม้นสักวัน! แต่ตลอดห้าร้อยปีที่ผ่านมา ไม่มีวันใดที่แม่ไม่คิดถึงเจ้า!”

ก่อนหน้าสุ้มเสียงของอ้าวจุนนิ่งสงบดุจบ่อน้ำบรรพกาลไร้ระลอกคลื่น ทว่ายามนี้เสียงของนางกลับสั่นเทาด้วยความโศกเศร้าสุดขั้วหัใจ ลึกลงไปในดวงตามังกรคู่นั้น ปรากฏน้ำตาสีใสบริสุทธิ์ไสวเล็กน้อย

แต่ทันทีทันใดรัศมีกลิ่นอายชีวิตของอ้าวจุนก็ตกฮวบลง ดั่งว่าไฟแห่งชีวิตใกล้มอดดับเข้าไปทุกทีแล้ว

 

เย่หยวนที่เห็นภาพฉากดังกล่าวก็เข้าใจได้ในทันที พลังชีวิตภายในร่างของอ้าวจุนแทบไม่เหลืออยู่แล้ว!

ทันทีที่ตระหนักทราบเช่นนี้ เย่หยวนกลับตื่นตกใจยิ่งโดยมิตั้งใจ

 

“ท่าน…ท่านเป็นอะไรหรือไม่?”

เย่หยวนกล่าวถามขึ้นพร้อมความตื่นตระหนกอย่างยิ่ง

แม้เขาจะไม่สามารถกล่าวได้ว่า พลังชีวิตของอีกฝ่ายเหลือมากน้อยขนาดไหน แต่เพียงนางเกิดอาการผันผวนทางอารมณ์เล็กน้อย กลับทำให้พลังชีวิตไร้เสถียรตกฮวบถึงขั้นนี้?

 

แม้ศาสตร์แห่งโอสถของเย่หยวนจะท้าทายสวรรค์เพียงใด แต่เขาเองก็ไม่เคยพบเห็นสถานการณ์แบบนี้เช่นกัน

 

น้ำตามังกรไหลรินหยดลงมา อ้าวจุนกล่าวขึ้นอย่างโล่งใจว่า

“แม่ไม่เป็นไร ยามได้เห็นหน้าเจ้าอีกครั้ง แม่รู้สึกดีใจเหลือเกิน ต่อให้ต้องตายลงตอนนี้ ข้าก็ไม่มีอะไรให้เสียใจอีกแล้ว แล้วพ่อเจ้า…ดูแลเจ้าดีไหม?”

 

“ดี…เขาดีกับข้ามา-ก!”

เย่หยวนโพล่งตอบทันทีตามใจเอ่ยสั่ง แต่ทันใดนั้น เขาก็เพิ่งคิดได้ว่า อ้าวจุนไม่สามารถรองรับอารมณ์ต่างๆได้มากนัก มิฉะนั้นจะส่งผลถึงพลังชีวิตโดยตรง จึงเร่งหยุดปากทันที

 

ในขณะเดียวกัน อ้าวจุนพยายามข่มกลั้นความรู้สึกต่างๆที่โฉบแล่นมาทันที ก่อนกล่าวขึ้นอีกครั้งว่า

“หรือเป็นไปได้ไหมว่า…เกิดเหตุร้ายกับพ่อเจ้า?”

เห็นได้ชัดว่า คำกล่าวของเย่หยวนเช่นนี้พร้อมกับกิริยาท่าทางที่เปลี่ยนไปโดยพลันของเย่หยวน ทำให้อ้าวจุนสังหรณ์ไม่ดีในทันใด

 

เย่หยวนส่ายหัวและกล่าวว่า

“ท่านพ่อเพียงคิดการใหญ่เกินตัว เขาประสบอุบัติเหตุขึ้นในระหว่างการหลอมก็เลยต้องพักฟื้นเป็นการใหญ่”

 

อ้าวจุนนึกภาพตามและกล่าวว่า

“นั้นแหละ…สมแล้วที่เป็นเขา”

 

เย่หยวนคลี่ยิ้มบางตอบพร้อมภายในใจที่ต้องเก็บซ่อนความจริงอย่างขมขื่น ไม่นานเขาก็เอ่ยปากถามต่อว่า

“ท่านช่วยบอกข้าหน่อยได้หรือไม่…เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

 

อ้าวจุนถอนหายใจเฮือกใหญ่และเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นรวมไปถึงคำสาปแห่งดินแดนเนรเทศ

เย่หยวนที่ได้ฟังดังนั้นพลันตื่นตกใจอย่างหาที่เปรียบไม้ ยามนี้เขาเพิ่งจะมาเข้าใจว่า เหตุใดแม่ของเขาถึงทอดทิ้งเขาและพ่อไป

และท้ายที่สุดนี้ เหตุใดเขาถึงมีฤทัยแห่งฟ่านจู้หลง!

ความจริงทั้งหมดถูกไขกระจ่างชัดแจ้ง เขาคือลูกครึ่งมนุษย์มังกร!

 

“แม่ขอโทษ! แม่ไม่เคยทำหน้าที่แม่ที่ดีให้เจ้าได้เลยแม้แต่วันเดียว! หลายร้อยปีที่ผ่านมมา ทั้งเจ้าและพ่อของเจ้าต่างต้องประสบความทุกข์ทรมานโดยลำพัง!”

อ้าวจุนกล่าวขึ้นทั้งน้ำตา

 

“นั้นมิใช่ความผิดของท่าน! ท่านแม่ คำสาปของดินแดนแห่งนี้ไม่มีทางทำลายได้เลยรึ?”

 

อ้าวจุนส่ายหัวเล็กน้อยและกล่าวว่า

“เว้นเสียแต่บรรพชนต้นกำเนิดเป็นคนคลายคำสาปเอง มิฉะนั้นคำสาปนี้จะคงอยู่นิรันดร์กาล! หากเป็นเมื่อหนึ่งแสนปีก่อนยังมีโอกาส หากใครสักคนเผ่ามังกรของข้าสามารถไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งอาณาจักรพระเจ้าได้ ยามนั้นคำสาปจะถูกคลายออกทันที ทว่าปัจจุบันศาสตร์แห่งสวรรค์ได้สูญสิ้นไปแล้ว แม้กระทั้งท่านบรรพบุรุษยังถูกระงับพลังไว้ที่อาณาจักรกึ่งพระเจ้าเท่านั้น”

 

แต่เย่หยวนที่ได้ยินดังนั้น คู่แววตาพลันเปล่งประกายขึ้นทันทีและกล่าวว่า

“บรรพชนต้นกำเนิด? ลูกคนนี้มีฤทัยแห่งฟ่านจู้หลง! ฟังว่า,ฤทัยแห่งฟ่านจู้หลงคือกายวิญญาณดั่งเดิมของบรรพชนต้นกำเนิด! ตราบใดที่ลูกสามารถขึ้นกลายเป็นเซียนอาณาจักรพระเจ้าและปลุกฤทัยแห่งฟ่านจู้หลงได้ ถึงตอนนั้น ลูกอาจสามารถคลายคำสาปลงได้?”

 

“อะไรนะ?! เจ้า…เจ้ามีฤทัยแห่งฟ่านจู้หลง!?”

อ้าวจุนตื่นตะลึงสุดขีดเมื่อได้ยินเช่นนั้น

ตำนานของฤทัยแห่งฟ่านจู้หลงล้วนปรากฏอยู่ในความทรงจำสืบทอดของเผ่ามังกรทุกตน แต่กลับไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนและยากที่จะตรวจจับได้เช่นกัน

เพราะยังไม่เคยมีใครสามารถไต่เต้าจนประสบความสำเร็จเทียบเทียมบรรพชนต้นกำเนิดแห่งเผ่ามังกรมาก่อน!

ดังนั้นเอง แม้อ้าวจุนจะเป็นผู้ให้กำเนิดเย่หยวนมา แต่นางกลับหาทราบไม่ว่า เย่หยวนมีฤทัยแห่งฟ่านจู้หลงติดตัวมาตั้งแต่เกิด