ตอนที่ 757 ลูกพี่ของพวกเราต้องการพบเฉินเสี่ยวเชี่ยน

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

มิตรภาพระหว่างผู้หญิงด้วยกันควรเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ

 

 

อาข่าคิดว่าพยายามเข้าหา กินข้าวด้วยกัน เที่ยวด้วยกันก็จะกลายเป็นอยู่กลุ่มเดียวกัน จากนั้นก็หาหัวข้อสนทนาร่วมกัน ทางที่ดีคือการนินทาคนอื่น อย่างเช่นเม้าเรื่องเถ้าแก่ของตัวเอง เรื่องเพื่อน เพื่อนร่วมงาน เรื่องซุบซิบต่างๆ จากนั้นก็จะกลายเป็นเพื่อนสนิท

 

 

บอสเคยบอกเธอว่า มิตรภาพของผู้หญิงสร้างขึ้นบนพื้นฐานของการเม้าท์

 

 

อาข่ารู้สึกว่าตัวเองทำมาจนถึงขั้นนี้แล้ว แต่ประธานเชี่ยนก็ยังไม่สนใจเธอ วิธีที่เธอใช้กับคนอื่นได้อย่างง่ายดาย แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลกับประธานเชี่ยน…

 

 

นี่ต้องทำถึงขั้นไหนถึงจะถูกใจบอส การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งค์เฉินเสี่ยวเชี่ยนไม่ใช่เรื่องง่าย เฉินเสี่ยวเชี่ยนไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไป

 

 

“เสี่ยวเชี่ยน เธอสนิทกับอาข่าเหรอ” ศาสตราจารย์หลิวสังเกตเห็นศิษย์รักจ้องไปทางอาข่า จึงกระซิบถามเสี่ยวเชี่ยน

 

 

เสี่ยวเชี่ยนส่ายหน้า “ไม่สนิทค่ะ”

 

 

“สาขาเอกของอาข่ะไรก็ไม่รู้อีนุงตุงนัง…ไม่มีความรู้อะไรให้แลกเปลี่ยนเลย จริงสิ เพิ่งนึกขึ้นได้เรื่องหนึ่ง เหล่าชีไม่ตอบอีเมลเธอเลยเหรอ”

 

 

นี่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้ที่เธอถามเสี่ยวเชี่ยนเรื่องนี้

 

 

“อาจารย์ไม่ได้อยู่ในวัยทองใช่ไหมคะ หนูบอกกี่ครั้งแล้วคะว่าหนูส่งไปแล้ว ไปส่งที่ห้องเสี่ยวฉาเลยด้วย ใช่ไหมเสี่ยวฉา”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนหันไปมองเสี่ยวฉาที่นั่งอยู่ข้างๆ หลังจากเกิดเหตุการณ์ในตอนนั้นเสี่ยวเชี่ยนก็รักษาระยะห่างระหว่างเธอกับเสี่ยวฉาไม่ให้ใกล้ชิดจนเกินไป หลุ่ยเสี่ยวฉาจึงคิดว่าตัวเองยังไม่ถูกจับได้

 

 

พอได้ยินเสี่ยวเชี่ยนพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีก หลุ่ยเสี่ยวฉาก็มองซ้ายมองขวาไม่กล้าสบตาเสี่ยวเชี่ยน พยักหน้าด้วยความร้อนตัว

 

 

เพราะความอิจฉาเป็นเหตุ ตอนที่เสี่ยวเชี่ยนให้หลุ่ยเสี่ยวฉาช่วยส่งอีเมลให้เธอจงใจส่งอีเมลเปล่าไป ตอนนี้การที่เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้รับเมลตอบกลับก็ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายสำหรับเธอ แต่ศาสตราจารย์หลิวถามหนึ่งครั้งเสี่ยวเชี่ยนก็ให้เธอตอบหนึ่งครั้ง ทำให้หลุ่ยเสี่ยวฉาเริ่มกระวนกระวาย

 

 

“หลุ่ยเสี่ยวฉา เธอแน่ใจนะว่าส่งแล้วจริงๆ” ศาสตราจารย์หลิวไม่ค่อยอยากเชื่อว่าเสี่ยวเชี่ยนจะถูกปฏิเสธ ศิษย์รักของเธอเก่งแค่ไหนเธอรู้ดี รายงานที่เสี่ยวเชี่ยนทำออกมา คัดสักเรื่องก็สามารถเอาไปตีพิมพ์ในวารสารด้านจิตวิทยาของต่างประเทศได้ ไหนจะช่วงเรียนปริญญาตรีที่เป็นตัวแทนประเทศไปแข่งขันระดับนานาชาติจนได้รางวัลกลับมากมายอีก แล้วเด็กแบบนี้เหล่าชีจะไม่อยากได้เหรอ

 

 

“หนู ส่งแล้วค่ะ” คำพูดตะกุกตะกักของหลุ่ยเสี่ยวฉาทำให้ศาสตราจารย์หลิวสงสัยหนัก

 

 

หลุ่ยเสี่ยวฉาอยู่ในความดูแลของเถ้าแก่เล็ก ศาสตราจารย์หลิวจึงไม่ค่อยรู้จักเธอดีเท่าไร ได้ยินเถ้าแก่เล็กบอกว่าดูเหมือนช่วงนี้หลุ่ยเสี่ยวฉาจะโดนเรื่องคัดลอกผลงาน แต่คัดลอกมาไม่ถึง20%ยังไม่ถึงขั้นต้องลงโทษหนัก แค่ให้กลับไปเขียนมาใหม่ แต่นี่ก็เพียงพอที่จะทำให้เถ้าแก่หลิวเกิดความสงสัยในตัวหลุ่ยเสี่ยวฉาได้แล้ว

 

 

คนอย่างศิษย์รักเสี่ยวเชี่ยนส่งอีเมลไปเป็นไปได้เหรอที่จะไม่ได้รับการตอบกลับ ศาสตราจารย์หลิวรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี

 

 

“เดี๋ยวฉันจะกลับไปติดต่อเหล่าชีดู—”

 

 

“อาจารย์คะ เขาไม่ติดต่อเรามาทำไมอาจารย์ยังอยากจะยัดเยียดหนูอีกล่ะคะ เดือนนี้อาจารย์คุยกับหนูเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว ลูกศิษย์อาจารย์ไร้ค่าถึงขนาดต้องผลักไสไล่ส่งเลยเหรอคะ หนูจะอยู่เป็นศิษย์อาจารย์ต่อไม่ได้เลยเหรอคะ” เสี่ยวเชี่ยนขัดจังหวะศาสตราจารย์หลิว แล้วทำหน้าเหมือนน้อยใจ

 

 

“หนูคิดดีแล้ว หนูจะเรียนดอกเตอร์ที่นี่ไม่ไปเมืองอื่น อาจารย์เลิกพยายามเถอะค่ะ ถึงหนูไม่ไปอยู่กับศาสตราจารย์ดังระดับโลกนั่นหนูก็ทำผลงานออกมาได้อย่างแน่นอน”

 

 

ศาสตราจารย์หลิวมองหลุ่ยเสี่ยวฉาพลางสงสัยเสี่ยวเชี่ยนที่อยู่ๆก็ทำดราม่า เธอพอจะเดาได้ว่าเรื่องของเสี่ยวเชี่ยนเกี่ยวข้องกับหลุ่ยเสี่ยวฉา เรื่องนี้เธอต้องตามสืบให้ได้

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเห็นสีหน้าของศาสตราจารย์หลิวและท่าทางของหลุ่ยเสี่ยวฉา ในใจมีแต่คำว่า หึหึ เธอตั้งใจไม่ไปเองแหละ ไม่อย่างนั้นมีเหรอหลุ่ยเสี่ยวฉาจะเล่นงานเธอได้

 

 

อย่าว่าแต่เรื่องที่เธอสนิทกับอาจารย์จนไม่อยากเปลี่ยนอาจารย์ที่ปรึกษาเลย เอาแค่ว่าตอนนี้เสี่ยวเฉียงย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้แล้ว ถ้าเธอเรียนดอกเตอร์ที่นี่ก็ไม่ต้องไปจากเมืองนี้ ลงตัวทั้งเรื่องเรียนทั้งเรื่องครอบครัว ถ้าเรียนดอกเตอร์ราบรื่นดีล่ะก็ไม่แน่อาจตั้งท้องระหว่างเรียนเลยก็ยังได้ แบบนั้นเสี่ยวเฉียงก็จะได้อยู่ดูแลเธอข้างๆ แล้วใครจะอยากจากบ้านไปไกลขนาดนั้น

 

 

ถ้าอาจารย์สืบได้ว่าหลุ่ยเสี่ยวฉาเล่นตุกติกจะต้องไม่ปล่อยเธอแน่ ซึ่งก็ไม่เกี่ยวอะไรกับประธานเชี่ยน เธอไม่ได้เอามีดจ่อคอหลุ่ยเสี่ยวฉาให้ทำแบบนั้นเสียหน่อย

 

 

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกลอยตัว

 

 

เสี่ยวเชี่ยนวางแผนทั้งหมดไว้อย่างดีแล้ว เธอเห็นสีหน้าของศาสตราจารย์หลิวกับหลุ่ยเสี่ยวฉา แต่เธอไม่เห็นสาวผมทองที่ยืนห่างจากเธอไปไม่ไกลกำลังจ้องมองเธออยู่

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพูดเสียงเบา นอกจากเถ้าแก่ใหญ่แล้วก็ไม่มีใครได้ยิน แต่อาข่าเป็นภาษาปากเหมือนกับอวี๋หมิงหลาง เธอเข้าใจ

 

 

จึ๊ๆ บอสถูกรังเกียจอีกแล้ว นี่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วเนี่ยที่เฉินเสี่ยวเชี่ยนแสดงออกว่าไม่ชอบบอส อันที่จริงอาข่าเองก็รังเกียจบอส เพราะเธอเพิ่งถูกหักเงินเดือนไปหนึ่งอาทิตย์ ปวดตับ…

 

 

การประชุมเสร็จสิ้น เสี่ยวเชี่ยนเดินออกไปตามลำพัง รถเธอจอดอยู่นอกมหาวิทยาลัย เธอว่าจะขับรถไปที่บ้านใหม่ก่อน วันนี้บ่ายนัดคนงานมาซ่อมบ้าน อยากรีบทำให้เสร็จก่อนปิดเทอมภาคฤดูร้อน เสี่ยวเฉียงบอกไว้ว่าอยากพาเธอกลับไปจัดงานแต่งที่เมืองQช่วงปิดเทอม พอกลับมาก็มาอยู่บ้านใหม่

 

 

“ประธานเชี่ยน”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนหันไปแล้วก็เห็นอาข่าวิ่งยิ้มหน้าแป้นเข้ามาหา

 

 

“มีอะไรเหรอ”

 

 

“ทางเดียวกันขอกลับด้วยคนได้ไหม” เคล็ดลับการสร้างมิตรภาพระหว่างผู้หญิงข้อที่หนึ่ง ‘ขอติดรถไปด้วย’

 

 

“ฉันไม่ได้กลับบ้าน คงไม่สะดวกน่ะ” ตอนนี้เสี่ยวเชี่ยนแทบจะมองว่าอาข่าเป็นพวกเดียวกับรุ่นพี่ก้นร้อนนั่น ไม่อยากคุยด้วยเท่าไร

 

 

“งั้นเธอจะไปไหนเหรอ มีอะไรให้ฉันช่วยไหม”

 

 

“ไม่จำเป็น” เสี่ยวเชี่ยนพูดตัดสัมพันธ์

 

 

ถ้าเป็นคนปกติคงถอยไปแล้ว แต่อาข่าไม่ได้ตกใจกับท่าทีเย็นชาของเสี่ยวเชี่ยน กลับตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะทำตัวติดหนึบเสี่ยวเชี่ยนให้ได้ ไม่เพียงแต่เป็นการทำภารกิจให้บอส ยังเป็นเพราะชอบเสี่ยวเชี่ยนด้วย

 

 

“พวกเราอยู่บ้านใกล้กันขนาดนี้ ไว้มามหาลัยด้วยกันเถอะ ประธานเชี่ยนขับรถฉันขอเป็นผู้อาศัย เดี๋ยวฉันช่วยออกค่าน้ำมัน แบบนี้วินวินทั้งคู่” เคล็ดลับการสร้างมิตรภาพระหว่างผู้หญิงข้อที่สอง ‘แบ่งปันคนละครึ่ง’

 

 

“ไม่สะดวก รถของฉันมีไว้ให้เพื่อนกับคนในครอบครัวนั่ง”

 

 

“ฉันไม่ถือว่าเป็นเพื่อนเหรอ”

 

 

“เธอคิดว่าไงล่ะ” เสี่ยวเชี่ยนพูดในใจ มีใครเป็นเพื่อนกับคนที่ดักฟังตัวเองมั่ง สมองยังไม่เพี้ยนเสียหน่อย

 

 

อาข่ายังไม่ยอมแพ้ ขณะที่กำลังจะหน้าด้านคุยกับเสี่ยวเชี่ยนต่อ ทันใดนั้นสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปเมื่อเห็นด้านหลังเสี่ยวเชี่ยน

 

 

ไม่รู้ว่ามีคนต่างชาติสูงใหญ่ใส่สูตรสวมแว่นตาดำสองคนมายืนอยู่ข้างหลังเสี่ยวเชี่ยนตั้งแต่เมื่อไร ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี

 

 

สิ่งแรกที่อาข่าทำก็คือดึงเสี่ยวเชี่ยนมาไว้ข้างหลังตัวเอง แล้วมองสองคนที่เพิ่งมาด้วยความระแวง

 

 

“ประธานเชี่ยน รีบขึ้นรถแล้วโทรหาเสี่ยวเฉียงของเธอเร็ว”

 

 

เมื่อเจอกับศัตรูภายนอก อาข่าที่ปกติหน้าตายิ้มแย้มก็เป็นครั้งแรกที่ทำสีหน้าจริงจัง มือเสี่ยวเชี่ยนเพิ่งจับประตูรถก็ได้ยินชายหนุ่มสองคนด้านหลังพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า

 

 

“ลูกพี่ของพวกเราต้องการพบเฉินเสี่ยวเชี่ยน”