ตอนที่ 326 : ช่วงสุดท้าย

“สุดท้ายตระกูลตงฟางก็ลงมือ”

ฟางฉิงหัวบนชั้นสามกวาดตามองไปที่เฉี่ยนเจินเฉียนและผู้ตรวจสอบคนอื่น ๆ แล้วพูดขึ้นมา

ตอนที่ตระกูลตงฟางพูดขึ้นมานั้น เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ต่างก็พากันสีหน้าเปลี่ยนไป

“ตามข่าวลือแล้ว ตระกูลตงฟางใช้เงินไปเยอะกับการหาซื้อวัสดุเพื่อสร้างชุดระดับ SSS จนพวกเขาสร้างมันขึ้นมาได้สำเร็จ”

“ไม่คิดเลยว่าตระกูลตงฟางจะสนใจเกราะนี่ด้วย เงินที่เรามีคงสู้พวกเขาไม่ได้” ฮวงเทียนเจวี๋ยนพูดขึ้น

“เมื่อพวกเขาคิดจะแข่งแล้ว เราคงไปยุ่งอะไรไม่ได้ ฉันคิดว่าดูจากสถานการณ์แล้วเดาไม่ออกว่าตระกูลตงฟางคิดจะทำอะไรกันแน่ ? ” ไป๋พั่วหล้างคิ้วขมวด

“รอดูไปก่อน ฉันเองก็อยากได้เกราะนี่มาไม่น้อย” จางจื้อเฉียงพูดขึ้น

“มันขึ้นอยู่กับว่านายจะเอามันมาได้รึเปล่า” ไป๋พั่วหล้างพูดขึ้น

“คนที่มีเงินมากพอก็ได้มันไป ฮ่าฮ่า แต่ฉันเตรียมตัวมาดีแล้ว” ฮวงเทียนเจวี๋ยนพูดขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ

“ในเรื่องเงินน่ะ ฉันจะแพ้ให้นายรึไง ? ” ไป๋พั่วหล้างกรอกตาใส่และเพิ่มราคาขึ้นมาทันที “38,500 ล้าน”

“38,600 ล้าน” ฮวงเทียนเจวี๋ยนไม่รู้ว่าจงใจรึไม่แต่กลับเพิ่มราคาขึ้นตามทันที

“38,700 ล้าน” จางจื้อเฉียงยังกดดันต่อ

เฉี่ยนเจินเฉียนไม่ได้พูดอะไรออกมา เขามองไปที่ห้องของตระกูลตงฟางแล้วพึมพำออกมา “ดูเหมือนว่าตระกูลตงฟางที่นิ่งมานานจะเคลื่อนไหวแล้ว”

บนชั้นสองนั้นผู้อาวุโสตระกูลลู่ไม่ได้สนใจว่าทำไมตระกูลตงฟางถึงเข้ามาร่วมด้วย ตอนนี้เขาสนใจแค่เกราะไม่ได้สนใจเรื่องอื่น

“38,800 ล้าน” ผู้อาวุโสตระกูลหลี่พูดขึ้น

“38,900 ล้าน ” ผู้อาวุโสตระกูลลู่เพิ่มราคาขึ้นมาทันที

ตัวแทนตระกูลเซี่ยงนิ่งเงียบชั่วครู่ เขาเหมือนจะคิดถึงบางอย่างและสุดท้ายก็ได้พูดขึ้น “39,000 ล้าน”

“39,100 ล้าน ”

“39,200 ล้าน ”

ผู้อาวุโสเขามังกรพยัคฆ์และผู้อาวุโสภูเขาอู่ตังคิ้วขมวดก่อนจะเพิ่มราคาขึ้นมา

ตอนนี้ตระกูลตงฟางไม่ได้พูดอะไรออกมา ราวกับว่ายอมแพ้แต่ความคิดที่แท้จริงของพวกนั้นไม่มีใครรู้ได้

เป็นธรรมดาที่ผู้คนด้านล่างจะพากันซุบซิบ

“ตระกูลตงฟางเงียบไปอีกแล้ว พวกเขายอมแพ้แล้วหรือ ? ”

“ตระกูลตงฟางเริ่มถ่อมตัวอีกแล้ว…”

“นี่หมายความว่ายังไง ? ”

“ก็หมายความว่า…เอ่อ…ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร….เฮ้อ”

“ถ้าไม่รู้แล้วแกจะพูดต่อฉันทำไมห๊ะ ! ยังจะมาเฮ้ออีก ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ในการประมูลล่ะก็ ฉันคงต่อยนายไปแล้ว”

“เด็กน้อย …มาเจอกันหลังจบการประมูล อย่าหนีก็แล้วกัน”

“ใครคิดจะหนีกัน”

….

ไม่ว่าผู้คนด้านล่างจะพูดอะไร แต่เฉี่ยนเจินเฉียนกับผู้ตรวจสอบคนอื่น ๆ ก็ยังเพิ่มราคาขึ้นต่อ

“40,000 ล้าน”

เฉี่ยนเจินเฉียนเพิ่มราคาขึ้นไปถึง 40,000 ล้านทันที

ผู้อาวุโสเขามังกรพยัคฆ์ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ยอมแพ้ไป

หากไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน พวกเขาคงไม่อาจจะเทียบกับผู้ตรวจสอบเหล่านี้ได้ ยังไงซะก็ยังมีการประมูลอีกวัน เขาไม่อยากหมดเงินทั้งหมดไปกับการประมูลวันแรก

ถ้าเขาทำแบบนั้นเขาคงได้แต่มองดูคนอื่น ๆ ประมูลของกัน ของดี ๆ ที่เขาไม่อาจจะได้มันมาครองและได้แต่มองมันเท่านั้น

แม้จะอยากได้เกราะซวนอู่ แต่ผู้อาวุโสเขามังกรพยัคฆ์ก็เลือกที่จะถอนตัว เพราะต่อให้ทุ่มสุดตัวแต่ก็อาจจะสู้พวกนี้ไม่ได้

มันจะดีกว่าถ้าถอนตัวตั้งแต่แรก

ผู้อาวุโสภูเขาอู่ตังก็ไม่คิดจะประมูลต่อเหมือนกัน ชัดแล้วว่าเขาก็เลือกที่จะถอนตัว

ตอนนี้คนที่ประมูลต่อมีแค่เฉี่ยนเจินเฉียน, ฮวงเทียนเจวี๋ยน, ไป๋พั่วหล้าง, จางจื้อเฉียง, ผู้อาวุโสตระกูลลู่, ตัวแทน, ผู้อาวุโสตระกูลหลี่

สำหรับว่าจะมีใครเข้าร่วมหลังจากนี้หรือไม่นั้นไม่อาจจะรู้ได้

แต่แน่นอนว่าตระกูลตงฟางนั้นดูมีอำนาจที่สุด ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาจะเสนอราคาขึ้นมาอีกหรือไม่ แต่โอกาสนั้นน่าจะสูง ทุกคนต่างก็คาดหวังอยากให้มันเกิดขึ้น

“40,100 ล้าน ” จางจื้อเฉียงกดดันเฉี่ยนเจินเฉียนต่อ เขาบอกไปแล้วว่าเขาต้องการเกราะนี่ ยังไงซะเขาก็ต้องเอามันมาให้ได้

“40,200 ล้าน” ฮวงเทียนเจวี๋ยนไม่ลังเลที่จะเพิ่มราคา

มีแค่ไป๋พั่วหล้างเท่านั้นที่เงียบไป ดูเหมือนว่าเขาจะยอมแพ้

“ดูเหมือนว่าฉันคงต้องถอนตัวก่อน” ด้วยเหตุผลบางอย่าง ไป๋พั่วหล้างก็พูดขึ้นมา

“ไป๋พั่วหล้าง ด้วยนิสัยของนายแล้ว นายไม่น่าจะถอนตัว เราจะสู้กันจนถึงที่สุดไม่ใช่หรือไง ทำไมนายถึงเลือกถอนตัวตอนนี้ ? ” เฉี่ยนเจินเฉียนมองไปที่ไป๋พั่วหล้างแล้วถามขึ้นมา

“ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ไป๋พั่วหล้าง นายคิดอะไรอยู่ ? ” ฮวงเทียนเจวี๋ยนมองไปที่ไป๋พั่วหล้างแล้วถามขึ้นมา

จางจื้อเฉียงไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่ก็ยังมองไปที่ไป๋พั่วหล้าง

“ฉันถอนตัวจริง ๆ พวกนายไม่เชื่อรึไง ? ” ไป๋พั่วหล้างกรอกตาใส่ทุกคน

“ช่างเถอะ สุดท้ายเกราะนี่ก็ต้องเป็นของฉัน ถึงนายจะมาเพิ่มราคาแค่ไหนก็ตาม”

“สหายจาง อย่ามั่นใจไป ฉันเองก็เตรียมเงินมาเหมือนกัน” ฮวงเทียนเจวี๋ยนพูดขึ้น

“ใครกลัวนายกัน” จางจื้อเฉียงพูดขึ้น

“อย่าลืมฉันสิ” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้น

“เราจะลืมคนเจ้าเล่ห์แบบนายได้ยังไง” ฮวงเทียนเจวี๋ยนพูดขึ้น

“ใช่ นายนี่แหละเป็นคนแรกที่เราต้องระวัง” จางจื้อเฉียงตามน้ำ

“ฉันเป็นคนแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันออกจะตรงไปตรงมา” เฉี่ยนเจินเฉียนแสดงท่าทีใสซื่อ

“นายคิดว่าเราจะเชื่อรึไง ? ” ฮวงเทียนเจวี๋ยนและจางจื้อเฉียงกรอกตาใส่

ไป๋พั่วหล้างที่อยู่ข้าง ๆ เองก็เช่นกัน

ทั้งสี่ไม่ได้พูดคุยกันนานนัก นอกจากฟางอี้และฟางฉิงหัวที่อยู่ชั้นเดียวกันซึ่งได้ยินที่พวกเขาคุยกันแล้ว นอกจากนั้นคนที่ชั้นสองและด้านล่างก็ไม่มีใครได้ยิน

พวกนั้นไม่รู้เลยว่านอกจากการประมูลแล้ว ผู้ตรวจสอบทั้งสี่คนนี้ยังคิดแข่งกันเองอีก