บทที่ 287 ศัตรูตัวฉกาจในอนาคตของเย่เทียนเฉิน

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

“พวกนายได้ยินหรือเปล่า? ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนถูกทำลายแล้ว!”

“อะไรนะ? เป็นไปไม่ได้น่ะ ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนเป็นตระกูลใหญ่ที่ปิดซ่อนตัวตน มีอำนาจลึกลับไม่อาจคาดเดา ยิ่งไปกว่านั้นใครจะหาเจอบ้างว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?”

“ได้ยินว่าตระกูลเซวียนเยวี๋ยนซ่อนตัวอยู่บนเกาะทะเลทรายของทะเลจำลองซือไห่ เมื่อคืนถูกคนทำลายไปแล้ว กระทั่งเกาะทะเลทรายก็จมไปด้วย!”

“นี่…คะ ใครมันร้ายกาจขนาดนี้? หรือจะเป็นรัฐบาลลงมือ?”

“ไม่ใช่ ได้ยินว่าเป็นตระกูลชั้นสามของเมืองหลวง เย่เทียนเฉินแห่งตระกูลเย่เป็นคนทำ…”

“เป็นไปได้ไง…เย่เทียนเฉินร้ายกาจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“ได้ยินว่าเย่เทียนเฉินพากองกำลังที่เขาสร้างขึ้นเองชื่อว่าสิบสามจ้าวสวรรค์ไปกำจัดตระกูลเซวียนเยวี๋ยน”

“สิบสามจ้าวสวรรค์? เป็นชื่อที่โอหังดีจริง!”

พียงพริบตาเดียวทั่วทั้งโลกเบื้องหน้าและเบื้องหลังต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันถึงเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าในตอนนี้ชื่อของสิบสามจ้าวสวรรค์จะโด่งดังกว่าเย่เทียนเฉินเสียอีก จะอย่างไรมีชื่อแบบนี้ปรากฏขึ้นมา ในการต่อสู้ครั้งแรกก็สามารถกำจัดตระกูลเซวียนเยวี๋ยนที่เป็นตระกูลใหญ่ซึ่งปิดซ่อนตัวตนไปได้ ทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านจริงๆ หลายคนต่างกำลังคาดเดาว่า คนในกลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์นี้มีหน้าตาอย่างไรกันแน่ มีความสามารถที่ลึกลับไม่อาจคาดเดาอย่างไรกัน?

ปัง! โอวหยางเจิ้นฮว๋าตบลงบนโต๊ะกาแฟครั้งหนึ่ง โกรธเป็นอย่างมาก เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเย่เทียนเฉินจะร้ายกาจขนาดนี้ และยังมีอำนาจที่ร้ายกาจขนาดนี้อีกด้วย ในขณะเดียวกันก็แอบด่ามู่หรงอวี๋ตูอยู่ในใจที่ทำให้เขาลงมือกับตระกูลเย่ไม่ทัน ถ้าหากเมื่อคืนเขาลงมือกับตระกูลเย่ ไม่แน่ว่าตอนที่เย่เทียนเฉินกลับมาถึงเมืองหลวง ตระกูลเย่ก็อาจจะล่มสลายไปแล้วก็เป็นได้ แต่ตอนนี้สายไปแล้ว

“หึ สิบสามจ้าวสวรรค์? ฉันกลับอยากจะเห็นสักหน่อยว่ากลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์มันจะร้ายกาจขนาดไหน เถี่ยเป้า กองกำลังเสือดาวของแกไม่ใช่ว่ามี ราชาเสือดาวอยู่สิบสามคนเหรอ? ไปทดสอบสิบสามจ้าวสวรรค์นั่นสักหน่อย ฆ่ามันให้หมด!” โอวหยางเจิ้นฮว๋าแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่งแล้วเอ่ยปากพูด

“ครับนายท่าน!” เถี่ยเป้าตอบ

“ไม่ใช่ว่าฉันบอกให้แกส่งคนไปจับตาดูตระกูลเย่หรือไง? ตอนนี้บอกให้คนพวกนั้นให้ลงมือได้แล้ว ฆ่ามันให้หมด ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว!” โอวหยางเจิ้นฮว๋าพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา

“ผมจะพาคนออกเดินทางเดี๋ยวนี้เลยครับ!”

เถี่ยเป้าพูดจบก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง โอวหยางเจิ้นฮว๋าที่เป็นวีรบุรุษแห่งโลกเบื้องหลัง ออกคำสั่งไปแล้วว่าให้กำจัดตระกูลเย่ ถ้าอย่างนั้นยังมีอะไรให้พูดมากอีก? เขาควรจะรีบพาราชาเสือดาวทั้งสิบสามของตนออกเดินทางไปฆ่าสิบสามจ้าวสวรรค์ของเย่เทียนเฉินทั้งหมด แล้วกลับมารายงาน

เพียงแค่คำสั่งเดียวเท่านั้น คฤหาสน์ของเย่เทียนเฉินและบ้านเดิมตระกูลเย่ก็จะพบกับการโจมตีของมือสังหาร ตอนนี้เย่เทียนเฉินยังอยู่บนเครื่องบิน กำลังบินกลับมาที่เมืองหลวง เขาไม่รู้ถึงการจัดการของตน และไม่สามารถขัดขวางการลงมือของตระกูลโอวหยางได้ ที่สำคัญก็คือคิดไม่ถึงว่าข่าวที่ตระกูลเซวียนเยวี๋ยนถูกฆ่าล้างจะแพร่ไปเร็วขนาดนี้ ทำให้โอวหยางเจิ้นฮว๋านรอไม่ไหวอีกต่อไป ต้องการที่จะฆ่าล้างตระกูลเย่ก่อนค่อยเก็บกวาดเย่เทียนเฉิน

ตอนนี้ ริมทะเลสาบแห่งเมืองหลวงที่โอวหยางเฟยอวิ๋นเคยไปพบคุณชายใหญ่แห่งมหาวิทยาลัยหลงเถิง ยังคงเป็นทะเลสาบเล็กๆ เช่นเดิม ยังคงมีเงาร่างผอมบางนั่งตกปลาอยู่เช่นเดิม หันหลังให้ผู้คน รอบตัวเขาในระยะพันเมตร มีบอดี้การ์ดชั้นยอดยืนอยู่ แต่ละคนล้วนเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่ง

โม๋สู่ กุนซือของคุณชายใหญ่แห่งมหาวิทยาลัยหลงเถิง ซึ่งเป็นคนที่เย่เทียนเฉินเคยเจอบริเวณประตูใหญ่ของมหาวิทยาลัยหลงเถิง กำลังยืนอยู่บริเวณที่ห่างจากคุณชายใหญ่สองเมตรอย่างเคารพนอบน้อม ไม่กล้าเดินไปเบื้องหน้าแม้เพียงครึ่งก้าว พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “คุณชายใหญ่ เพิ่งจะได้รับข่าวมาครับ เย่เทียนเฉินฆ่าล้างตระกูลเซวียนเยวี๋ยนไปแล้ว โอวหยางเจิ้นฮว๋าโกรธมาก และรู้สึกกังวลจึงสั่งให้เถี่ยเป้าพาราชาเสือดาวทั้งสิบสามคนไปลงมือกำจัดตระกูลเย่!”

“อ้อ? ดูท่าฉันจะประเมินเย่เทียนเฉินต่ำไป เขาถึงกับสามารถฆ่าล้างตระกูลเซวียนเยวี๋ยนได้ในค่ำคืนเดียว พอมีความสามารถอยู่บ้าง งั้นตอนนี้สถานการณ์ทางฝังตระกูลเย่เป็นยังไงบ้างแล้ว?” คุณชายใหญ่หันหลังให้โม๋สู่ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสนุก ดูเหมือนจะไม่มีความแปลกใจเลยแม้แต่น้อย เหมือนกับเป็นคนนอกที่คอยดูละครอย่างไรอย่างนั้น

“ตอนนี้ยังไม่แน่ชัด รู้แค่ว่าหลังจากเย่เทียนเฉินฆ่าล้างตระกูลเซวียนเยวี๋ยนแล้ว ก็กลับเมืองหลวงมาในคืนนั้นเลย ตอนนี้อยู่บนเครื่องบิน ใช่แล้ว กลุ่มอำนาจของเย่เทียนเฉินเรียกว่า “สิบสามจ้าวสวรรค์” ครับ!” โม๋สู่เอ่ยปากพูด

“สิบสามจ้าวสวรรค์? ฮ่าๆ น่าสนใจ ฉันอยากจะเห็นจริงๆ ว่าตอนที่เย่เทียนเฉินกลับมาถึงบ้านแล้วได้เห็นทุกคนตายกันหมด ราชันอย่างเขาจะโกรธขนาดไหน!” คุณชายใหญ่พูดอย่างเย็นชา

“คุณชายใหญ่ งั้นตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี?” โม๋สู่ถามลองเชิง

“ไม่รีบ ให้โอวหยางเจิ้นฮว๋าเล่นกับเย่เทียนเฉินไปก่อนเถอะ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องทำให้แน่ใจสักหน่อย!” คุณชายใหญ่พูดอย่างเรียบเฉย

“ครับ!” โม๋สู่พยักหน้าตอบ

“ใช่แล้ว ฉันสั่งให้แกส่งคนไปรวบรวมบันทึกการต่อสู้ของเย่เทียนเฉินมา รวบรวมมาได้หรือยัง?” คุณชายใหญ่เอ่ยปากถาม

“รวบรวมได้แล้วครับ นี่คือบันทึก คุณชายใหญ่เชิญดู!”

โม๋สู่เดินไปเบื้องหน้า นำเอกสารแผ่นหนึ่งส่งไปให้คุณชายใหญ่ เขารู้สึกไม่เข้าใจอยู่บ้าง เหตุใดคุณชายใหญ่จึงให้ตนเองรวบรวมสถานการณ์การต่อสู้ทุกครั้งของเย่เทียนเฉิน หรือคุณชายใหญ่ต้องการลงมือด้วยตัวเอง? ในฐานะที่เป็นกุนซือของคุณชายใหญ่แห่งมหาวิทยาลัยหลงเถิง โม๋สู่ย่อมรู้ดีว่าภายใต้คุณชายใหญ่มีคนเช่นไรอยู่ คนกลุ่มนี้ไม่อาจใช้คำว่ายอดฝีมือมาบรรยายได้แล้ว พวกเขาเป็นดั่งราชาปีศาจกลุ่มหนึ่ง การสู้สังหารกันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง คุณชายใหญ่แห่งมหาวิทยาลัยหลงเถิงก็ไม่ใส่ใจ นั่นก็เพราะจะได้สามารถเลือกคนที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาได้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นั่นคือปีศาจกลุ่มนึงที่เมื่อลงมือก็จะกลายเป็นคนกระหายเลือด วคนกลุ่มนี้ไม่ได้เคลื่อนไหมาหลายปีแล้ว หรือคราวนี้คุณชายใหญ่ก็ไม่คิดจะใช้งาน แต่จะลงมือด้วยตัวเอง?

คุณชายใหญ่แห่งมหาวิทยาลัยหลงเถิงเป็นตัวตนที่ลึกลับมาก กระทั่งพ่อของหลิงอวี่สวิ๋นก็เคยพูดมาก่อน คุณชายใหญ่เป็นคนที่ลึกล้ำยากจะคาดเดา ไม่เพียงมีอำนาจที่แข็งแกร่ง ตัวเขาเองก็เป็นผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งอีกด้วย แข็งแกร่งไร้เทียมทาน ดูเหมือนเย่เทียนเฉินจะไม่สามารถเป็นคู่มือของผู้ชายใหญ่ได้ นี่เป็นสาเหตุที่พ่อของหลิงอวี่สวิ๋นไม่อนุญาตให้หลิงอวี่สวิ๋นคบหากับเย่เทียนเฉิน และกักบริเวณเธออยู่ในบ้าน

“ดิน สายฟ้า ทอง น้ำ สายฟ้าอยู่ในสังกัดธาตุทอง ถ้างั้นก็มีธาตุทอง ธาตุดิน ธาตุน้ำ เคล็ดวิชาพลังพิเศษของธาตุทั้งสามก็เคยใช้ออกมาแล้ว ดูท่าฉันจะเดาไม่ผิด เย่เทียนเฉินคงเป็นผู้ใช้พลังพิเศษห้าธาตุ มิน่าล่ะคนคนนี้ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้” คุณชายใหญ่มองข้อมูลที่โม๋สู่ส่งมาให้ หัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้น

“ผู้ใช้พลังพิเศษห้าธาตุ? นี่…คุณชายใหญ่ครับ ถ้าหากเป็นเรื่องจริงเย่เทียนเฉินก็จะเป็นเหมือนกันกับคุณ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงจะรับมือไม่ง่ายเลย!” โม๋สู่ได้ยินคำพูดของคุณชายใหญ่ก็กล่าวอย่างตื่นตะลึง

บนโลกใบนี้ดูเหมือนจะมีเพียงไม่กี่คนที่ทราบว่าคุณชายใหญ่แห่งมหาวิทยาลัยหลงเถิงคือใคร และยิ่งไม่มีใครรู้ว่า การที่คุณชายใหญ่แห่งมหาวิทยาลัยหลงเถิงแข็งแกร่งจนเล่าลือกันว่าแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยพ่ายแพ้ในการต่อสู้มาก่อน นั่นเป็นเพราะคุณชายใหญ่เป็นผู้ใช้พลังพิเศษห้าธาตุอย่างแท้จริง ทองไม้น้ำไฟดิน เคล็ดวิชาพลังพิเศษของธาตุหลักทั้งห้าล้วนใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญ แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ไม่อาจต่อต้านได้ ยิ่งไปกว่านั้นคนเช่นนี้หากอยู่ในในช่วงยุคสิ้นโลก การจะได้เป็นจักรพรรดิที่กล่าวขานกันก็เป็นแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น

ใครก็คิดไม่ถึงว่าคุณชายใหญ่แห่งมหาวิทยาลัยหลงเถิงจะถึงกับเป็นผู้ใช้พลังพิเศษห้าธาตุในตำนาน เป็นไปได้มากกว่าจะเป็นเช่นเดียวกับเย่เทียนเฉินที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาพลังพิเศษของธาตุหลักทั้งห้าธาตุในเวลาเดียวกัน แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แน่นอนว่านี่มีความเสี่ยงอันยิ่งใหญ่ ตอนที่ยังบ่มเพาะไม่สำเร็จไม่ว่าใครก็ไม่กล้ารับประกันความสำเร็จ พลังพิเศษอันแข็งแกร่งที่แตกต่างกันทั้งห้าประเภทอยู่ในร่างกายเดียวกัน มีความอันตรายที่จะตัวระเบิดจากการปะทะกันเองของพลังได้ทุกเวลา ทันทีที่ควบคุมไม่ดีจะต้องตายโดยไม่ต้องสงสัยเลย แต่หากสามารถหลอมมันเข้าด้วยกันได้ ก็จะประสบความสำเร็จอย่างไร้ขีดจำกัด

“เรื่องนี้ฉันกลับไม่กังวล เย่เทียนเฉินจะเป็นผู้มีพลังพิเศษห้าธาตุหรือเปล่าก็ยังไม่มีทางพิสูจน์ แค่บอกว่ามีแววว่าจะเป็นแบบนี้เท่านั้น ฉันฝึกฝนเคล็ดวิชาพลังพิเศษทั้งห้าธาตุแล้ว ความสามารถเหนือเขาแน่นอน ตอนนี้สิ่งที่ฉันสนใจมากที่สุดก็คือ เย่เทียนเฉินที่เคยเป็นลูกหลานไร้ค่าของตระกูลผู้โง่งม ทำไมอยู่ดีๆ ถึงได้กลายเป็นผู้มีพลังพิเศษที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้? ในส่วนนี้น่าสงสัยมาก!” คุณชายใหญ่พูดขึ้นด้วยความสงสัย

“คุณชายใหญ่ครับ ผู้มีพลังพิเศษแบ่งออกเป็นผู้มีพลังแต่กำเนิดและผู้ปลุกพลังขึ้นมาภายหลัง ที่เหมือนคุณก็คือผู้มีพลังพิเศษโดยกำเนิด เย่เทียนเฉินอาจจะปลุกพลังพิเศษตื่นขึ้นมาภายหลังก็ได้ ผมเดาว่าตอนที่เขาไปเป็นทหารคงจะได้รับการฝึกฝนอย่างโหดร้าย จนไปกระตุ้นแก่นพลัง ดังนั้นเมื่อกลับเมืองหลวงมาแล้วจึงมีการเปลี่ยนแปลงไปครั้งใหญ่แบบนี้ แข็งแกร่งขึ้นทุกวันจริงๆ!” โม๋สู่พูดออกมาอย่างคาดเดา

“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น!” คุณชายใหญ่ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นัก แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อาจหาคำอธิบายที่ดีกว่านี้ได้

“คุณชายใหญ่ ผมคิดว่าไม่ว่าเย่เทียนเฉินจะเป็นผู้มีพลังพิเศษห้าธาตุหรือเปล่า พวกเราก็ควรจะลงมือฆ่าเขาซะ อำนาจของเขาในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนจะมีบุคคลระดับสูงของประเทศสนับสนุนเขาอยู่ด้วย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปผมเกรงว่าเขาจะคุกคามคุณได้!” โม๋สู่เปิดปากพูด

คุณชายใหญ่ใคร่ครวญคู่หนึ่ง เขารู้สึกถึงอันตรายอยู่บ้างจริงๆ หลายปีมาแล้วที่ไม่มีใครสามารถทำให้เขารู้สึกอันตรายได้ เย่เทียนเฉินเป็นคนแรก ดังนั้นเขาจึงให้ความสำคัญกับเย่เทียนเฉินซึ่งเป็นคู่ต่อสู้คนนี้มาก ต้องการที่จะเล่นกับเขาสักหน่อย แต่กลับไม่อยากให้เขาคุกคามมาถึงอำนาจของตน

“เอาแบบนี้แล้วกัน ส่งเสวี่ยโม่เจียวไปเล่นด้วยสักหน่อย บอกเขาว่าไม่ต้องฆ่าเย่เทียนเฉิน ตัดแขนกลับมาข้างนึงก็พอแล้ว!” คุณชายใหญ่พูดแล้วหัวเราะ

“ครับคุณชาย!”

โม๋สู่ถอยออกไป ข้างทะเลสาบเล็กๆ ยังคงมีคุณชายใหญ่ตกปลาอยู่ แต่ตัวเขาปรากฏสถานะคล้ายมีคล้ายไม่มี หากเป็นตอนนี้มีคนมาเห็นเหตุการณ์ในทะเลสาบเล็กๆ จะต้องตกใจจนสลบไปแน่นอน เนื่องจากในทะเลสาบเล็กๆ แห่งนี้ดูเหมือนจะมีคุณชายใหญ่แห่งมหาวิทยาลัยหลงเถิงนั่งไขว่ห้างอยู่ห้าคน ทุกคนต่างก็หันหลังบางตกปลา เต็มไปด้วยความรู้สึกลึกลับ และเต็มไปด้วยความรู้สึกคุกคาม นี่คือความสามารถแห่งเคล็ดวิชาพลังพิเศษทั้งห้าธาตุของเขา สร้างจินตภาพออกมาเป็นตนเองห้าคน ทำให้ผู้คนไม่กล้ามองตรงๆ

ในตอนที่เย่เทียนเฉินและสิบสามจ้าวสวรรค์เดินออกมาจากสนามบินแห่งเมืองหลวง มือถือของเย่เทียนเฉินก็ส่งเสียงดังขึ้น เมื่อมองดูก็พบว่าเป็นชางหลางโทรเข้ามา จึงรีบกดรับ

“ผมเอง มีเรื่องอะไรเหรอครับ?” เย่เทียนเฉินเลยถาม

เพียงแค่ถามไปประโยคเดียวเท่านั้น เย่เทียนเฉินก็ไม่ได้พูดอะไรอีก จากนั้นจึงพูดกับสิบสามจ้าวสวรรค์ด้วยรอยยิ้มว่า “ตระกูลโอวหยางลงมือแล้ว เวลาที่ชื่อเสียงของพวกเราจะโด่งดังมาถึงอีกแล้ว ฉันหวังว่าทุกคนจะกระตุ้นจิตวิญญาณขึ้นมาและไปกำจัดตระกูลโอวหยางด้วยกัน สร้างรากฐานของพวกเรากลุ่มสิบสามจ้าวสวรรค์ในเส้นทางแห่งโลกเบื้องหน้าและเบื้องหลังให้มั่นคงยิ่งใหญ่!”

“ครับ/ค่ะพี่ใหญ่!” สิบสามจ้าวสวรรค์ทุกคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกฮึกเหิม ตอบรับเสียงดัง

……………….