ตอนที่ 759 เปิดโหมดสามีภรรยาผนึกกำลังหลอกต้มคน

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

เสี่ยวเชี่ยนเห็นอาเหม็ดยืนอยู่ข้างถนนพร้อมช่อดอกไม้ ดูเหมือนเขาจะไม่เห็นเหตุการณ์อันตรายเมื่อครู่ เขากำลังจ่ายเงินค่าแท็กซี่ หรือสองคนนั้นจะถอยเพราะอาเหม็ด 

 

 

มันไม่สมเหตุสมผล ถ้าอาเหม็ดอยากมาเสนอหน้าให้เธอเห็นงั้นก็ควรใช้โอกาสนี้ทำตัวเป็นฮีโร่เข้ามาช่วยสิ ทำไมอาเหม็ดทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสงสัยมาก ปะติดปะต่อยังไงก็ดูจะไม่เข้ากัน 

 

 

อาเหม็ดจัดดอกไม้ให้เข้าที่ จากนั้นก็ยิ้มในแบบที่เขาคิดว่าเป็นรอยยิ้มพิชิตใจสาว จากนั้นก็ออกเดินเพื่อไปหาเสี่ยวเชี่ยน 

 

 

แค่ไม่กี่ก้าวนี้เขาฝึกอยู่นานมาก 

 

 

ชุดสูทสีขาว ทรงผมที่ลงแวกซ์จัดทรงอย่างดี รอยยิ้มสุดเพอร์เฟค ลมฤดูร้อนในเวลานี้พัดเส้นผมที่เขาจงใจปล่อยทิ้งลงมาข้างหน้าเล็กน้อย อาเหม็ดคล้ายกับรู้สึกว่าอีกเดี๋ยวเสี่ยวเชี่ยนจะต้องหลงเขาอย่างหัวปักหัวปำแน่นอน 

 

 

รถที่มีป้านทะเบียนทหารคันหนึ่งขับเข้ามาอย่างรวดเร็ว ขับผ่านแอ่งน้ำที่อยู่ข้างถนน น้ำโคลนกระเด็นเลอะชุดสูทของอาเหม็ด ที่หน้าก็ด้วย… 

 

 

รถเบรกอย่างกะทันหัน อาเหม็ดโมโหสุดขีด เขาเตรียมจะไปเอาเรื่อง ใครกันที่กล้าบังอาจทำลายภาพลักษณ์สุดเพอร์เฟคของเขา 

 

 

ปรากฏว่าพอเห็นผู้ชายที่ลงจากรถมาคืออวี๋หมิงหลาง อาเหม็ดก็รีบหอบดอกไม้หันหลังเดินกลับ เฮ่ แท็กซี่มารับหน่อย 

 

 

ทำไมทุกครั้งเวลาจีบสาวต้องถูกอวี๋หมิงหลางก่อกวนด้วยวะ ทำไมมันถึงได้มาไวแบบนี้…อาเหม็ดครุ่นคิดหลังจากขึ้นรถแท็กซี่ไปแล้ว 

 

 

ตอนที่อวี๋หมิงหลางได้ยินว่าเสี่ยวเชี่ยนมีอันตราย เขากำลังจะมารับเธอที่มหาวิทยาลัยพอดีถึงได้มาไวขนาดนี้ 

 

 

พอเขากระโดดลงจากรถก็เห็นกระจกรถเก๋งสีแดงของเสี่ยวเชี่ยนแตกละเอียด บนพื้นมีรอยเลือด หัวใจของเขาแทบเต้นไม่เป็นจังหวะ 

 

 

“ลูกเชี่ยนบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” 

 

 

“ฉันไม่เป็นไร อาข่าบาดเจ็บเพราะปกป้องฉัน” 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพอเห็นเขามาก็โล่งใจ 

 

 

“ตัวการล่ะ” อวี๋หมิงหลางโกรธมาก กล้าทำร้ายเมียเขา เรื่องนี้ไม่มีทางจบง่ายๆ 

 

 

“ขับหนีไปทางนั้น ฉันจำทะเบียนรถได้ น่าจะไปได้สามนาทีแล้วมั้ง” เสี่ยวเชี่ยนชี้ไปทางทิศเหนือ 

 

 

“ขึ้นรถ ผมจะพาไปตาม” 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเอากุญแจรถตัวเองให้อาข่า 

 

 

“เธอขับรถฉันกลับไป” 

 

 

อาข่ามองรถที่กระจกแตกละเอียดพลางเอามือกุมท้องตัวเอง 

 

 

“ฉันเป็นคนเจ็บนะ…เธอทำกับคนที่ช่วยเธอไว้แบบนี้เหรอ” 

 

 

เธอคิดว่าสองผัวเมียจอมเจ้าเล่ห์คู่นี้จะมีน้ำใจขับรถพาเธอกลับไปเสียอีก เธอถึงขนาดลงทุนเจ็บตัวเพื่อช่วยเสี่ยวเชี่ยน ตอนนี้ฟกช้ำไปทั้งตัวเลยนะ 

 

 

“มันเทียบกันไม่ได้ มากสุดอีกหน่อยฉันก็แค่เอาคืนเธอให้น้อยลง” ถึงอาข่าจะเพิ่งช่วยเธอไป แต่ประธานเชี่ยนยังไม่ลืมเรื่องที่อาข่าแอบดักฟังเธอ 

 

 

นึกถึงตอนที่เธอกับเสี่ยวเฉียงมีอะไรกันแล้วถูกคนอื่นได้ยินเข้า แค่นี้ประธานเชี่ยนก็รู้สึกติดลบกับอาข่าแล้ว 

 

 

“เมียผมไม่ชอบให้ผู้หญิงอื่นนั่งรถผม เรื่องครั้งนี้ผมจะจำไว้ ต่อไปค่อยว่ากัน” อวี๋หมิงหลางพยักหน้าให้อาข่า เขามีท่าทางดีขึ้นมาหน่อยเมื่ออยู่กับคนที่ช่วยภรรยาของเขาไว้ ถึงจะยังไม่รู้ที่มาที่ไปของอาข่าก็ตาม 

 

 

พอสองคนนี้ขับรถออกไปแล้ว อาข่าก็เอามือกุมท้องพลางมองรถที่หน้าต่างแตกคันนี้อย่างลังเล นี่เธอต้องขับกลับไปเองจริงเหรอ ฮือๆ 

 

 

เธอทำความสะอาดรถอย่างยากลำบาก จากนั้นก็นั่งตรงเบาะข้างคนขับโทรหาบอส 

 

 

“เขาเป็นไงบ้าง” 

 

 

“แฟนมาช่วยไปแล้ว…เห็นบอกว่าจะไปไล่ตามชายชุดดำ แต่ฉันบาดเจ็บค่ะบอส” 

 

 

“ชายชุดดำเหรอ ช่วงนี้เขาไปมีเรื่องกับใครหรือเปล่า” 

 

 

“ไม่มีนะ ช่วงนี้เห็นไปปั่นหัวรักร่วมเพศที่จะหลอกผู้หญิงแต่งงานแค่นั้น แต่ฉันคิดว่าเขาทำดีนะ ฉันมั่นใจว่าครอบครัวนั้นไม่กล้าเอาคืนเขาหรอก ส่วนชายชุดดำสองคนนี้ดูเหมือนจะเป็นลูกน้องของอาเหม็ด หน้าตาเหมือนคนต่างชาติ” 

 

 

“เธอแน่ใจนะว่าหน้าตาเหมือนคนต่างชาติ” 

 

 

“ใช่ค่ะ ร่างกายกำยำ ชอบใช้ความรุนแรง ไม่พูดไม่จาเอะอะก็ใช้กำลัง เบบี๋ของบอสไม่รู้อยู่ๆเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนฟาดล้มไปหนึ่ง จากนั้นพอสองคนนั้นเห็นอาเหม็ดก็เผ่นไปเลย ต่อมาผู้ชายที่แสนเก่งกาจเหมือนตกลงมาจากฟ้า มาพาตัวผู้หญิงของตัวเองไปไล่ล่าสองคนนั้น ฉันว่ามันแปลกๆอยู่นะบอส ประธานเชี่ยนไม่ได้โทรศัพท์บอกแล้วเขามาที่นี่ได้ยังไง แล้วประธานเชี่ยนก็บอกว่าไม่ให้ฉันไปด้วย ให้ขับรถพังๆนี่กลับไป…” 

 

 

“เธอหมายความว่า เขาทิ้งรถไว้ให้เธอขับ” 

 

 

“ใช่ค่ะ กระจกแตกละเอียดเต็มพื้นเลย เอ๊ะ เบบี๋ของบอสลืมโทรศัพท์ไว้ ให้ฉันเปิดดูไหมคะว่าในโทรศัพท์มีข้อมูลอะไรบ้าง” 

 

 

“…หยุดการดักฟังทั้งหมด คอยคุ้มกันเขาก็พอแล้ว นับแต่นี้ไประวังคำพูดด้วย อีกอย่างฉันจะหักโบนัสเธอหนึ่งเดือน” 

 

 

“ทำไมอ้ะ” อาข่าอยากจะกระอักเลือด กว่าเธอจะได้เงินมาแต่ละบาททำไมช่างยากเย็นแบบนี้ 

 

 

“เพราะความโง่ของเธอเลยถูกเสี่ยวเชี่ยนหลอกเข้าแล้วไง แค่โง่ยังไม่เท่าไร ทำไมไม่ลงไปโทรข้างนอก” 

 

 

“ฉันเจ็บท้องนี่นา…” 

 

 

“สปายที่ถูกโละทิ้งพึ่งพาไม่ได้เลยจริงๆ สมควรแล้วที่ถูกหักเงินเดือน” บอสหมดคำจะพูด เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆว่าทำไมถึงได้เอาคนแบบนี้มาไว้ข้างตัวเสี่ยวเชี่ยน แค่ลงไปโทรนอกรถเรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ 

 

 

ที่อวี๋หมิงหลางมาหาเสี่ยวเชี่ยนได้อย่างรวดเร็ว มีความเป็นไปได้สูงว่าที่ตัวเสี่ยวเชี่ยนติดเครื่องดักฟังไว้ และที่เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางไม่พาอาข่าไปด้วยก็เพราะมีแผน และลูกน้องโง่ของเขาก็หลงกลเข้าเต็มๆ โง่จริงๆ 

 

 

“พวกหักเงินเดือนมันตะกร้า…” อาข่าบ่นเสียงเบา ช่วงนี้เธอถูกหักเงินบ่อยมาก 

 

 

“เป็นผู้หญิงพูดคำแบบนี้ติดปากคิดว่าน่ารักเหรอ” บอสไม่พอใจสุดๆ 

 

 

“ให้ตายเหอะบอส ตะกร้าเป็นคำด่าที่เสี่ยวเชี่ยนเบบี๋ของบอสใช้ด่าบ่อยที่สุดเคมะ เขาพูดคล่องปากมากพูดเลย” 

 

 

“…อันที่จริงฟังดีๆคำๆนี้ก็ดูมีระดับเข้ากับท้องถิ่นดีนะ แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง เวลาด่าคนไม่ดูเชยเกินไป ใช้ได้” 

 

 

โวะ เปลี่ยนไวจังนะ อาข่าไม่โอเค 

 

 

“บอส ทำไมทีกับประธานเชี่ยนมีแต่คำชมล่ะ บอสกับเขาเป็นอะไรกัน” 

 

 

“ที่ไม่ควรถามก็ไม่ต้องถาม” 

 

 

บอสวางสาย นึกถึงคำพูดของอาข่าเมื่อครู่คงถูกเสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางได้ยินแล้ว แต่เขาก็ไม่กังวลอะไร กลับรู้สึกรอคอยมากกว่า 

 

 

ผู้หญิงที่ฉลาดแบบนี้น่าจะสงสัยอาข่าแล้วสินะ ไม่รู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนจะรู้สึกเซอร์ไพร้ส์แค่ไหน อยากให้ถึงวันที่ได้เจอกันเร็วๆ 

 

 

บนรถ อวี๋หมิงหลางถอดหูฟังบลูทูธพลางขมวดคิ้ว 

 

 

“มีอะไรเหรอ” เสี่ยวเชี่ยนถามอวี๋หมิงหลาง 

 

 

“แปลกๆ อาข่าไม่ใช่คนของอาเหม็ด” 

 

 

เหมือนกับที่คิดไว้ เสี่ยวเชี่ยนแค่เสนอให้อาข่าขับรถกลับไป อวี๋หมิงหลางก็เข้าใจจุดประสงค์ ให้ความร่วมมือกับเสี่ยวเชี่ยนเปิดโหมดสามีภรรยาผนึกกำลังหลอกต้มคน 

 

 

ถูกอาข่าดักฟังมานานขนาดนี้ มันก็ถึงคราวที่ต้องเอาคืนบ้างแล้ว 

 

 

แต่ผลที่ได้จากครั้งนี้ทำให้อวี๋หมิงหลางรู้สึกเหนือความคาดหมาย 

 

 

“ไม่น่ามั้ง” 

 

 

“ตอนเขาคุยโทรศัพท์ น้ำเสียงของ ‘บอส’ ที่ใช้ถามเขาไม่เหมือนอาเหม็ด ยิ่งไปกว่านั้นประโยคสุดท้ายถามได้แปลกมาก เขาถามคนลึกลับคนนั้นว่า ทำไมทีกับคุณมีแต่คำชม เป็นอะไรกับคุณกันแน่ คุณว่าถ้าปลายสายเป็นอาเหม็ดเขาจะถามแบบนั้นเหรอ”