ตอนที่ 10 เรามาคุยกันดีๆ เถอะ (1)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ซย่าซย่ายิ้มอย่างงงๆ “เอ่อ… แล้วไง” 

 

 

เธอเป็นคนประเภทที่น่ารักแต่ก็แอบบื้อนิดๆ แทบไม่รู้ตัวเลยว่าคำพูดของเธอนั้นสร้างความเกลียดชังได้ยิ่งกว่าคำว่า “เชิญเลย” ของเซิ่งอี่เจ๋อเสียอีก เจี้ยนซินเอ๋อร์จ้องหน้าเธอน้ำตารื้น “ฉันจะจำคำพูดเธอเอาไว้! ฮึ!” 

 

 

หล่อนเหลือบตามองเซิ่งอี่เจ๋อด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยระหว่างที่ปีนกลับเข้ามาจากราวระเบียง จากนั้นก็ร้องไห้วิ่งลงบันไดไป 

 

 

อันซย่าซย่าอับจนซึ่งคำพูดขณะที่เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะหึ 

 

 

เป็นเสียงหัวเราะเบาๆ แต่แฝงด้วยความเยาะเย้ย และอันซย่าซย่าก็บอกไม่ได้เลยว่าเขากำลังหัวเราะเยาะเจี้ยนซินเอ๋อร์หรือตัวเองเธอกันแน่ ดังนั้นเธอจึงจ้องหน้าเขาพลางเย้ยหยัน “นายนี่มันทุเรศอย่างที่อินเตอร์เน็ตว่าไว้จริงๆ ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่านายจะปฏิบัติกับแฟนคลับตัวเองแบบนี้! นายจะพอใจไหมถ้าหล่อนโดดลงไปจริงๆ?” 

 

 

หมอนี่ร้ายกาจที่สุดเลย!  

 

 

อันซย่าซย่าย้ำกับตัวเองในใจ แต่พอมองไปเห็นว่าเขากำลังยืนอยู่ที่ไหนแล้วเธอก็อึ้งไป  

 

 

ตอนที่ไม่มีใครทันสังเกต เขาขยับเข้าไปใกล้ขอบดาดฟ้าและพร้อมที่จะวิ่งเข้าหาถ้าจำเป็น  

 

 

เขาคงมั่นใจว่าเจี้ยนซินเอ๋อร์จะไม่กระโดด แต่ถ้าหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ที่ๆ เขากำลังยืนอยู่ในตอนนี้นั้นก็ใกล้พอที่จะวิ่งเข้าไปช่วยหล่อน!  

 

 

เขาดูเหมือน… ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำอย่างที่เห็น… 

 

 

หญิงสาวงงงัน ในฐานะแอนตี้แฟน เธออยากจะเชื่อว่าเซิ่งอี่เจ๋อเป็นคนเลวไร้หัวใจมากกว่าที่จะค้นพบว่าที่จริงแล้ว เขามีมุมแบบนี้ที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มมุมปาก “ฉันคิดว่าเธอเชื่อข่าวลือมั่วๆ พวกนั้น แล้วสร้างให้ฉันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายเพียงแค่มองอย่างผิวเผินสินะ พอใจหรือยัง” 

 

 

ด้วยความละอายใจ อันซย่าซย่าอยากจะอธิบาย ทว่าเซิ่งอี่เจ๋อกำลังก้าวลงบันไดไปอย่างไม่เร่งรีบมือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง 

 

 

ทิ้งให้เธอยืนอยู่ตรงนั้นท่ามกลางสายลม หญิงสาวทั้งอึดอัดใจและรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก 

 

 

เมื่อเรียกสติกลับคืนมาได้ เธอจึงสำนึกได้เดี๋ยวนั้นเองว่าเธอต้องทำความสะอาดดาดฟ้ามหึมาแห่งนี้ตามลำพัง! 

 

 

– 

 

 

กวาดพื้นดาดฟ้าตามลำพังเสร็จแล้ว อันซย่าซย่าก็เหนื่อยจนแทบก้าวขาไม่ออก คังเจี้ยนต้องมาลากเธอออกจากประตูโรงเรียน 

 

 

เด็กหนุ่มไปเอาจักรยานมาเพื่อปั่นไปส่งเธอที่บ้าน 

 

 

อันซย่าซย่าหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดเว็บเวยปั๋วเล่นอย่างมีความสุข หลังจากเล่นอยู่สักพัก อยู่ๆ โทรศัพท์ก็สั่น เธอคลิกดูข้อความเตือนซึ่งเป็นข้อความจากแอปบ้านเช่า 

 

 

บ้านเธออยู่ในย่านที่ดี ป่าป๊าอันเปิดร้านกาแฟอยู่ที่ชั้นล่าง ครอบครัวอาศัยอยู่บนชั้นสอง และวางแผนกันไว้ว่าจะเปิดให้เช่าชั้นสาม ดังนั้นอันซย่าซย่าจึงจัดการประกาศให้เช่าออนไลน์ 

 

 

เธอไม่คิดว่าการเปิดให้เช่าทั้งชั้นนั้นจะเป็นเรื่องง่าย แต่คนที่ส่งข้อความมาหาเธอก็ตกลงง่ายๆ อย่างน่าประหลาดใจ หลังจากถามว่าผนังเก็บเสียงหรือเปล่าและขอดูรูปเพิ่มเติมอีกไม่กี่รูป พวกเขาก็โอนเงินค่ามัดจำครึ่งปีตรงเข้าบัญชีอันซย่าซย่าและแจ้งว่าจะย้ายเข้ามาอยู่สัปดาห์หน้า 

 

 

อันซย่าซย่าจ้องมองเงินจำนวนมากในบัญชีของเธออย่างอึ้งๆ พลางหยิกเอวคังเจี้ยน เด็กหนุ่มร้องด้วยความเจ็บ “เธอทำอะไรน่ะ” 

 

 

“ฮ่าๆ ชั้นสามของบ้านฉันเพิ่งถูกเช่าและเขาจ่ายเงินมัดจำมาแล้วน่ะสิ นี่เป็นข่าวดีสุดๆ! นายเลี้ยงข้าวฉันเลย!” 

 

 

คังเจี้ยนถามกลับด้วยความข้องใจ “อ้าวทำ ไมเธอไม่เป็นฝ่ายเลี้ยงฉันล่ะ” 

 

 

“ทำไมฉันต้องเลี้ยง! นายควรจะเป็นฝ่ายแสดงความยินดีกับฉันไม่ใช่เหรอ” 

 

 

คังเจี้ยนอยากจะร้องไห้อีกแล้ว เขารู้ว่าเขาไม่เคยเอาชนะอันซย่าซย่าได้เลยถ้าเถียงกันและเขาก็ทำได้แค่ยอมรับมัน 

 

 

ทั้งสองกำลังกินเนื้อย่างที่ร้านแถวบ้านอย่างมีความสุข จู่ๆ โทรศัพท์หญิงสาวก็สั่นอีกครั้ง เธอตรวจสอบข้อความแล้วก็หน้าซีดเผือด 

 

 

ข้อความนั้นมีแค่สามคำ “จ่ายคืนมา” 

 

 

รูปที่แนบมาด้วยคือใบเสร็จค่าซ่อมและค่าชดเชยจากประกัน 

 

 

อันซย่าซย่านับเลขศูนย์ด้วยนิ้วอันสั่นระริก เนื้อย่างในมือตกลงพื้นดังตุ้บ 

 

 

คนที่ส่ง… จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเซิ่งอี่เจ๋อ! 

 

 

เขาจำเธอได้จริงๆ เหรอเนี่ย! โอ๊ย!!