บทที่ 266 มุ่งร้ายอย่างเปิดเผย
มันเป็นไอเทมชิ้นที่ 3 แล้วสำหรับชุดมังกรปีศาจนี้! คุณสมบัติของมันแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย ค่าสถานะพื้นฐานเหมือนกับของทั้งสองชิ้นก่อน ซึ่งยึดตามเลเวลของผู้ใช้เป็นหลัก มันทำให้ค่าสถานะพื้นฐานทั้งห้าค่าของเซียวเฟิงเพิ่มขึ้นอีก 58 แต้มตามเลเวลปัจจุบันของเขาที่อยู่ที่ 29
นอกจากนั้นแล้ว ก็เหมือนกันอีกตรงที่ไอเทมชิ้นที่ 3 ของชุดมังกรปีศาจเองก็มีสกิลติดตัว 2 สกิล และมีสกิลให้กดใช้อีก 1 สกิลเช่นกัน
สกิลแรกเป็นสกิลสะท้อนความเสียหายที่สะท้อนได้แค่ 10% เท่านั้น ทว่าสำหรับเซียวเฟิงแล้วเขารู้สึกว่าสกิลนี้มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรสักเท่าไหร่ นั่นเพราะเขายังต้องแบกรับความเสียหายอีก 90% ไว้เองยังไงล่ะ
สำหรับบอสที่มีพลังชีวิตเป็นหมื่นเป็นแสน สกิลนี้คงจะมีประโยชน์ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าหากศัตรูเป็นผู้เล่นที่มีพลังชีวิตเท่าหยิบมือ มันคงจะทำความเสียหายอะไรไม่ได้มากอยู่แล้ว ความเสียหายจาก 10% ของพลังโจมตีอันน้อยนิดไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บได้แต่อย่างใด เว้นแต่ว่าผู้เล่นคนนั้นมีพลังโจมตีที่สูง ซึ่งบางทีอาจจะทำให้เจ้าตัวตายในครั้งทันทีเลยก็ได้
สกิลติดตัวที่ 2 นับว่าเป็นอะไรที่แข็งแกร่งที่สุดในสายตาของเซียวเฟิง เพราะมันสามารถเจาะเกราะของเป้าหมายได้ถึง 50% เทียบเท่ากับสกิลศรทะลวงเกราะอนันต์ได้เลย แล้วด้วยพลังโจมตีที่สูงเป็นทุนอยู่แล้วของเซียวเฟิง ความเสียหายที่ทำได้จะต้องเพิ่มขึ้นสูงไปอีกระดับแน่ ๆ
สกิลกดใช้ของไอเทมชิ้นนี้เป็นสกิลประเภทป้องกัน เมื่อเซียวเฟิงลองกดใช้ดู ตัวสกิลก็อัญเชิญโล่กระดูกที่ถูกตกแต่งไว้อย่างประณีตสำหรับถือมือเดียวมาไว้ที่แขนซ้ายของเขา มันมีระยะเวลา 1 นาทีกว่าโล่จะหายไป โล่กระดูกนี้สามารถป้องกันทุกการโจมตีที่เข้ามาทางด้านหน้าได้แบบ 100% ถือเป็นสกิลป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงมากแต่ก็แลกมาด้วยระยะเวลาคูลดาวน์สกิลที่ค่อนข้างจะนานมาก
ถึงแม้ว่าทั้งเกราะไหล่มังกรและกรงเล็บมังกรจะเป็นไอเทมอุปกรณ์สำหรับติดตั้งที่แขนเหมือนกัน แต่รูปลักษณ์ของมันกลับต่างกันราวกับฟ้าและเหว
กรงเล็บมังกรมีรูปร่างเหมือนกับกระดูกที่ยื่นออกมาจากใต้ฝ่ามือและหลังมือ ขณะที่ส่วนท่อนแขนช่วงล่างจนถึงข้อศอกก็มีกระดูกงอกขึ้นมาเหมือนเป็นส่วนที่งอกเกินออกมาจากผิวหนังด้วย
ในส่วนของเกราะไหล่มังกรนั้นจะครอบคลุมตั้งแต่หัวไหล่ลงมาจนถึงแขนท่อนบน รูปร่างคล้ายกับเกราะกระดูกที่มีส่วนของโครงกระดูกหลายชิ้นงอกขึ้นมาที่หัวไหล่ ซึ่งทำให้ดูน่ากลัวและน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น
การสวมทั้งเกราะไหล่มังกรและกรงเล็บมังกรนั้นมันแทบจะกลายเป็นเกราะครึ่งตัวบนไปโดยปริยาย อย่างน้อย ๆ ตอนนี้ทั้งแขนของเซียวเฟิงก็มีแต่กระดูกเต็มไปหมดทั้งแขน
“ว้าว! อาร์ติแฟกต์! มันเป็นอาร์ติแฟกต์จริง ๆ ด้วย! นี่มันอาร์ติแฟกต์ชิ้นที่ 3 ของเซิร์ฟเวอร์แล้ว… โอ๊ะ ไม่สิ อาร์ติแฟกต์ชิ้นที่ 4!”
แววตาของหานเฟิงนั้นลุกโชนไปด้วยไฟร้อน เขามองไปยังแขนของชายหนุ่มที่พาเขามาด้วยกันก่อนจะสลับกลับไปมองยังจุดที่บอสดร็อปของ หลังจากคิดอะไรได้บางอย่าง
“เอ๊ะ? แล้วที่เหลือล่ะ? ทำไมมันถึงไม่มีไอเทมอื่นดร็อปลงมาเลย? แล้วของระดับเทพของฉันล่ะ?!!”
เห็นดังนั้นหานเฟิงก็แทบจะเป็นบ้าขึ้นมา เพราะพื้นตรงจุดนั้นไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย!
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีอาจจะเป็นความโชคร้ายของพวกเราก็ได้ที่มันดร็อปของมาแค่ชิ้นเดียว” เซียวเฟิงพูดเอื่อย ๆ
“ฮะ!?”
หานเฟิงนั้นไม่สงสัยเรื่องนี้เลย เขาทำได้เพียงถอนหายใจไล่ความโกรธเท่านั้น
“ไปกันได้แล้ว ขอบคุณที่มาช่วยวันนี้นะ”
หลังจากที่สวมใส่ไอเทมใหม่ไปยังตำแหน่งที่ควรอยู่แล้ว เซียวเฟิงก็หันไปพูดกับหานเฟิง
ตอนนี้เซียวเฟิงควรจะรีบไปยังชั้น 3 ของปราสาทใต้พิภพต่อ แต่ชายหนุ่มก็ไม่อยากจะพาหานเฟิงไปยังชั้นนั้นด้วย เซียวเฟิงไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าทุก ๆ ชั้นของปราสาทใต้พิภพนั้นจะดร็อปอาร์ติแฟกต์มาให้ คนคนนี้เป็นคนฉลาดและเก่งกาจในระดับที่ทำให้คนทั้งเขตฮัวเซียจดจำเขาได้ ดังนั้นขืนให้อยู่นานกว่านี้ล่ะก็ จะต้องรู้ความลับที่พยายามปกปิดไว้แน่ ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกลูกพี่ เรื่องเล็กน้อย ถ้าลูกพี่อยากให้ฉันช่วยอะไรอีกในอนาคตก็บอกฉันมาได้ตลอดเลยนะ ตอนนี้ฉันจะกลับไปที่เมืองเพื่อทำภารกิจต่อก่อน”
ด้วยความหัวไวของหานเฟิงเอง เขาก็หยิบเอาใบวาร์ปและใช้มันเพื่อออกจากที่แห่งนี้ เจ้าตัวมั่นใจว่าแผนที่นี้จะต้องสำคัญกับเจ้าแห่งฮีลเลอร์แน่ ๆ ดูจากชื่อของอาร์ติแฟกต์นั่นแล้ว หานเฟิงพอจะเดาได้ว่าบางทีอาร์ติแฟกต์ชิ้นอื่น ๆ ของเซียวเฟิงก็คงจะดร็อปมาจากที่นี่ด้วย เช่นนั้นแล้ว เขาจึงเลือกที่จะไม่ออกความเห็นหรือถามอะไรให้มากความนัก
ตอนนี้เป็นเวลาอาหารเย็นแล้ว เซียวเฟิงเดินทางมาจนถึงชั้นที่ 3 ของปราสาทใต้พิภพ ชายหนุ่มตั้งใจจะกำจัดมอนสเตอร์สักพักก่อนจะออฟไลน์จากเกม ทว่าตอนนั้นเอง สกายก็ติดต่อเข้ามาก่อนที่ชายหนุ่มจะหาทางเข้าประตูของชั้นที่ 3 เจอเสียอีก
“เอ่อ เจ้าแห่งฮีลเลอร์ พอจะมีคำแนะนำอะไรเกี่ยวกับกิลด์กลอรี่บ้างไหม?” สกายเอ่ยถามก่อนด้วยน้ำเสียงลังเลใจ
“หมายความว่ายังไง?” เซียวเฟิงถามด้วยความงุนงง
“พวกเราพอจะรู้มาบ้างเกี่ยวกับปัญหาของนายกับกิลด์กลอรี่ เพราะงั้นเลยอยากจะมาถาม เผื่อว่านายอยากจะเปิดฉากกับกิลด์กลอรี่” สกายรีบพูดต่ออย่างรวดเร็ว
“อะไรดลใจให้มาถามแบบนี้น่ะ?” ยิ่งอีกฝ่ายพูดเซียวเฟิงก็ยิ่งประหลาดใจ
มันก็ใช่ที่เขากับกิลด์กลอรี่นั้นมีปัญหากันอยู่นิดหน่อย และตัวเซียวเฟิงเองก็พร้อมที่จะเปิดฉากปะทะกับกิลด์กลอรี่มาตั้งนานแล้วด้วย แต่เพราะยังหาโอกาสเหมาะเจาะไม่ได้เสียทีเลยยังไม่ลงมืออะไร ยังไงซะเขาก็แค่ตัวคนเดียว ถ้าไม่ใช่ในกิลด์วอร์แล้ว เขาไม่สามารถหาช่องโหว่ของกิลด์ขนาดใหญ่แบบนี้ได้เลย
“จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้ 2 ชั่วโมง มิดซัมเมอร์เพิ่งจะไปเจอแคมป์ของกิลด์ดูมส์เดย์ลีกมา แถมกิลด์นั้นกำลังเข้าร่วมสงครามป้องกันแคมป์โดยมีกิลด์กลอรี่คอยช่วยเหลืออยู่ด้วย แต่ด้วยการเข้าโจมตีของมิดซัมเมอร์ สงครามป้องกันแคมป์ของดูมส์เดย์ลีกจึงพ่ายแพ้ไม่เป็นท่าไปตามระเบียบ ยังไงซะทั้งดูมส์เดย์ลีกกับกิลด์กลอรี่น่ะ ไม่มีทางรับมือทั้งมอนสเตอร์ทั้งผู้เล่นจากมิดซัมเมอร์พร้อม ๆ กันได้หรอก”
สกายอธิบายอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้ทำให้เซียวเฟิงช็อกมาก อันที่จริงเขาก็อยากจะจัดการดูมส์เดย์ลีกด้วยเหมือนกัน ด้วยแต่ไหนแต่ไรแล้วดูมส์เดย์ลีกน่ารังเกียจกว่ากลอรี่กิลด์เสียอีก…
แต่เพราะช่วงหลังมานี้การเคลื่อนไหวของดูมส์เดย์ลีกในเมืองเทียนหลง นั้นหายไปเลย มันเลยทำให้ชายหนุ่มไม่ได้คิดเลยว่าหลิวเฉียงเหว่ยจะเป็นฝ่ายหาอีกฝ่ายเจอก่อน
ไม่เพียงเท่านั้น หลิวเฉียงเหว่ยยังเข้าจู่โจมดูมส์เดย์ลีกในช่วงสำคัญของสงครามป้องกันแคมป์ และกดดันให้กิลด์นั้นเข้าไปสู่จุดจบอย่างโหดร้าย แสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งของกิลด์มิดซัมเมอร์ที่เลื่องลือกันมาตั้งแต่กิลด์วอร์ครั้งก่อน ปัจจุบันแม้แต่ดูมส์เดย์ลีกหรือกิลด์กลอรี่ก็ไม่สามารถเทียบชั้นได้แล้ว…
จากเหตุการณ์นี้ มันทำให้เซียวเฟิงตระหนักได้แล้วว่าหลิวเฉียงเหว่ยนั้นไม่ได้เป็นพวกนิ่ง ๆ ทำตัวสบาย ๆ เหมือนอย่างที่เห็นจากรูปลักษ์อย่างแน่นอน และชายหนุ่มไม่คิดด้วยว่าการเข้าโจมตีครั้งนี้จะเกิดขึ้นจากความบังเอิญ หลิวเฉียงเหว่ยจะต้องแอบส่งคนไปซ่อนตัวอยู่ในดูมส์เดย์ลีกมาตั้งนานแล้วเพื่อคอยส่งข่าวกลับมาแน่ ยังไงซะทั้งสองกิลด์นี้ก็เป็นศัตรูกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม้ครั้งหนึ่งจะเคยร่วมกันสู้เพื่อเมืองเทียนหลง แต่ลึก ๆ แล้วก็ยังเป็นศัตรูกันอยู่ดี!
“เมื่อครั้งเข้าจู่โจม กิลด์มิดซัมเมอร์แสดงให้เห็นชัดเลยว่าพวกเธอตั้งใจจะเป็นศัตรูกับดูมส์เดย์ลีกและกลอรี่อย่างเปิดเผย ตอนนี้ดูมส์เดย์ลีกไม่มีแคมป์อยู่แล้ว ดังนั้นก็ไม่มีอะไรต้องกลัว ในขณะที่ทางกิลด์กลอรี่นั้นต่างออกไป พวกเขาไม่กล้าจะหาเรื่องมิดซัมเมอร์แล้วแต่ทางมิดซัมเมอร์กลับยังมีกำลังเหลือเฟือพอที่จะก่อสงครามกับกลอรี่กิลด์ต่อ เพราะงั้นพวกเราเลยมาถามนายว่านายมีคำแนะนำอะไรบ้างหรือเปล่า?” ตลอดเวลาที่อธิบายให้เซียวเฟิงนั้น น้ำเสียงของสกายก็เต็มไปด้วยความลังเลอยู่จนกระทั่งอธิบายจบ
“มันไม่ใช่เรื่องของฉัน ถ้าพวกนั้นอยากจะบวกก็เชิญตามสะดวกเลย”
เซียวเฟิงตอบไปตามตรง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลิวเฉียงเหว่ย ‘หักหลัง’ เขาไปแล้ว
จริง ๆ หลิวเฉียงเหว่ยคิดจะทำอะไรอยู่นั้นเซียวเฟิงก็ยังไม่รู้ เพราะมิดซัมเมอร์เพิ่งจะผ่านกิลด์วอร์มา แน่นอนว่าตัวกิลด์เองจะยังต้องฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่แน่ ๆ ขืนปล่อยให้สงครามที่เกิดขึ้นเพราะความหยิ่งผยองนี้ดำเนินต่อไป ท้ายสุดแล้วมิดซัมเมอร์ก็จะเป็นฝ่ายแบกรับความเสียหายไว้ไม่ได้เสียเอง…
เพราะงั้นแล้ว เซียวเฟิงจึงออฟไลน์ออกจากเกมหลังจากวางโทรศัพท์ไปแล้ว ชายหนุ่มตั้งใจจะไปถามหลิวเฉียงเหว่ยด้วยตนเองว่าเจ้าตัวคิดจะทำอะไรต่อ
หลังจากที่วางสายไปแล้ว สกายก็หันไปมองไนฟและจืออี้ที่อยู่ด้วยกัน พวกเขาได้แต่มองหน้ากันด้วยความว่างเปล่า แต่เดิมแล้วสกายพอจะเดาทางชายหนุ่มไว้ได้ และคิดว่าไม่ว่ายังไงเซียวเฟิงจะต้องเข้าร่วมกับสงครามครั้งนี้แน่ ซึ่งพวกเขาก็จะเข้าร่วมด้วย ทว่าเมื่อผลออกมาแบบนี้ สกายเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำยังไงต่อ…
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่วอร์สปิริตที่จนปัญญา เพราะแม้แต่เซียวเฟิงเองก็จนปัญญากับหลิวเฉียงเหว่ย ชายหนุ่มออกไปรอเธอที่โต๊ะอาหาร ทว่าก็ไม่เห็นทั้งหลิวเฉียงเหว่ยและซือเยี่ยจิ๋งออกมาจากห้อง ทั้งสองคนนี้ยังคงอยู่ในเกม ขนาดที่อาหารที่วางไว้หน้าห้องของทั้งสองโดยหนิงเคอเค่อก็ยังไม่ได้เอาเข้าไปในห้องเลย
ดังนั้นแล้ว เซียวเฟิงไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เพราะงั้นเขาจึงล็อกอินกลับเข้าเกมไปอีกครั้งเพื่อจะไปถามทั้งสองในเกมอีกที
ทว่าเมื่อเข้าเกมมา ข่าวที่แพร่กระจายไปทั่วก็ต้องทำให้ชายหนุ่มต้องตกใจ ทั้งสองสาวกล้ามาก ๆ ที่จะไปท้ากิลด์วอร์กับกิลด์กลอรี่!
กลุ่มผู้เล่นจำนวนมากของมิดซัมเมอร์พากันไปรวมที่จุดวาร์ปประจำเมืองเทียนหลง และหายไปต่อหน้าต่อตา พวกเขาทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรของเอลฟ์ คนเหล่านี้เปรียบเสมือนทัพขนาดใหญ่ที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง
แผนที่วางไว้ว่าจะไปยังชั้น 3 ของปราสาทใต้พิภพของเซียวเฟิงนั้นต้องถูกยกเลิกไปก่อนและเปลี่ยนไปตามดูสงครามในครั้งนี้ที่อาณาจักรของเอลฟ์ด้วย
ทำเลที่ตั้งของกิลด์กลอรี่นั้นจัดว่าดีมาก ๆ มันถูกต้นไม้แห่งชีวิตขนาดใหญ่คอยสนับสนุนอยู่แถมยังมีเกราะกำบังจากธรรมชาติคอยช่วยอีก อย่างไรก็ตาม แคมป์ของกลอรี่กิลด์นั้นกลับไม่ได้ใหญ่ ดูจากภาพรวมแล้วมันน่าจะใหญ่กว่าแคมป์เดิมของมิดซัมเมอร์เพียงนิดหน่อยเท่านั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือเรื่องกิลด์กลอรี่สูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมากในการลงทุนเพื่อแคมป์นี้
กิลด์วอร์นั้นได้เริ่มต้นขึ้นไปบ้างแล้ว เมื่อตอนเซียวเฟิงมาถึง สงครามครั้งนี้ก็เข้าสู่ช่วงสำคัญไปแล้ว การโจมตีของผู้เล่นจากมิดซัมเมอร์นั้นอุกอาจและแข็งขันจนกิลด์กลอรี่ไม่สามารถรับมือได้ มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะป้องกัน
และผลลัพธ์ของกิลด์วอร์ในครั้งนี้ก็ประจักษ์เป็นหลักฐานว่าเซียวเฟิงดูถูกหลิวเฉียงเหว่ยและกิลด์มิดซัมเมอร์มากเกินไป…!
กิลด์วอร์ครั้งก่อนเพิ่งจะจบลงไม่ถึง 4 ชั่วโมงด้วยชัยชนะของกิลด์มิดซัมเมอร์ หลังจากนั้นมิดซัมเมอร์ก็เข้ามาท้ากิลด์วอร์กับกิลด์กลอรี่ถึงแคมป์เลย
มันเป็นความจริงที่หลังจากผ่านกิลด์วอร์รอบแรกไป มิดซัมเมอร์เองก็บอบช้ำกันบ้าง ทว่ากำลังหลักของกิลด์นั้นกลับยังคงแข็งแกร่งอยู่เพราะการสนับสนุนจากร้านค้ามหาสมบัติ
อย่างไรก็ตาม เหล่าสมาชิกในกิลด์มิดซัมเมอร์เองก็น่าจะถูกปลุกใจด้วยการที่เป็นผู้ชนะกิลด์วอร์ครั้งแรกในเซิร์ฟเวอร์ไปแล้ว ถึงได้ฮึดสู้ได้ขนาดนี้
ยิ่งไปกว่านั้น เพราะตัวหลิวเฉียงเหว่ยลงไปคุมแผนการรบต่าง ๆ ด้วยตนเอง คนเหล่านี้ถึงได้มีกำลังสู้มากขึ้นไปกว่าเดิมอีกภายใต้ออร่าแห่งเทพธิดาอันดับหนึ่งของเขตฮัวเซีย!
ไม่เพียงเท่านั้น มิดซัมเมอร์เองก็เพิ่งจะอัปเกรดเลเวลทำให้มีสมาชิกกิลด์สูงสุดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ด้วยชื่อเสียงจากการเป็นกิลด์แรกที่พิชิตดันเจี้ยนเลเวล 25 เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน มันก็ช่วยดึงดูดผู้คนให้เข้ามาสมัครจนเต็มอัตราอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้คงพูดได้ว่ากิลด์มิดซัมเมอร์นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกเก่า ๆ ที่พร้อมจะทำเพื่อกิลด์ด้วยความจงรักภักดีหรือจะเป็นสมาชิกใหม่ที่อยากจะแสดงความแข็งแกร่งให้เห็น ทุก ๆ คนทำให้กิลด์มิดซัมเมอร์ก้าวเข้าสู่การเป็นกิลด์ที่มีพลังในการต่อสู้สูงไปโดยปริยาย
โดยเฉพาะการที่มีร้านค้ามหาสมบัติคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เพียงแค่สงครามเริ่มกิลด์กลอรี่ก็ต้องพบกับความยากลำบากแล้ว พวกเขาเพิ่งจะเสียกำลังคนจากสงครามป้องกันแคมป์เมื่อไม่นานนี้ แล้วนี่ยังต้องมาเจอกับการรุกรานด้วยกิลด์วอร์จากมิดซัมเมอร์อีก จำนวนคนของพวกเขาตอนนี้เหลือเทียบเท่ากับกิลด์เลเวล 1 เท่านั้น
[ทุกท่านในเขตโปรดทราบ! กิลด์วอร์จบลงแล้ว! กิลด์กลอรี่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และถูกลดระดับลงมา 1 ระดับ! กิลด์มิดซัมเมอร์เป็นฝ่ายชนะ และได้รับรางวัลเป็นค่าประสบการณ์กิลด์!]
เสียงประกาศนั้นดังไปทั่วสนามรบ จากนั้นมันก็ตามมาด้วยเสียงกู่ร้องดีใจของเหล่าสมาชิกกิลด์มิดซัมเมอร์ที่ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งอาณาจักรเอลฟ์ พวกเขาฮึกเหิมกันมาก ๆ ในขณะที่สมาชิกกิลด์กลอรี่ต่างก็พากันหดหู่และเสียใจ
[ทุกท่านในเขตโปรทราบ! กิลด์มิดซัมเมอร์ได้ประกาศสงครามกับกิลด์กลอรี่! กิลด์วอร์จะดำเนินต่อไปอีก 12 ชั่วโมง! ภายใน 12 ชั่วโมงนี้ ถ้าหากแคมป์ของกิลด์กลอรี่ถูกทำลายไปจนหมด จะถือว่าพ่ายแพ้ แต่ถ้ากิลด์กลอรี่สามารถป้องกันแคมป์ไว้ได้ จะถือว่าชนะ! หลังจากที่กิลด์วอร์เสร็จสิ้น กิลด์ที่พ่ายแพ้จะถูกลงโทษจากระบบ และการลงโทษนั้นคือลดเลเวลของกิลด์ลงมา 1 เลเวล! เมื่อใดที่กิลด์นั้น ๆ เลเวล -1 กิลด์นั้นจะถูกเพิกถอน! ส่วนกิลด์ที่ชนะ จะได้รับรางวัลจากระบบ เป็นแต้มกิลด์ของฝั่งที่พ่ายแพ้ที่ถูกลดระดับ! ระหว่างที่กิลด์วอร์กำลังดำเนินอยู่ การฆ่ากันของผู้เล่น จะไม่ทำให้ค่าความเกลียดชังเพิ่มขึ้น!]
อย่างไรก็ตาม ไม่ทันทีที่ทุกคนจะได้ใจเย็นลง ซึ่งรวมถึงเซียวเฟิงด้วย ประกาศจากระบบก็ดังขึ้นและบอกว่ากิลด์มิดซัมเมอร์กำลังทำสงครามกับกิลด์กลอรี่อีกครั้ง!
พวกนั้นทำกิลด์วอร์อีกแล้ว!
รอบ ๆ สนามรบที่เต็มไปด้วยเสียงกู่ก้องเมื่อครู่กลับมาเงียบสงบอีกครั้งราวกับทุกคนกลายเป็นน้ำแข็งกันไปหมดแล้ว
กิลด์มิดซัมเมอร์ตั้งใจจะถอนรากถอนโคนกิลด์กลอรี่ให้หายไปจากเกมนี้เลยจริง ๆ ! พวกเธอไม่ปิดบังจุดประสงค์อันมุ่งร้ายนี้เลยแม้แต่น้อย!