ตอนที่ 277 ความลับที่ซุกซ่อนในก้นลึกของจิตใจ

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ตอนที่ 277 ความลับที่ซุกซ่อนในก้นลึกของจิตใจ!
ซูมู่หลินถูกเย่เฉินขังไว้ในห้อง ออกมาไม่ได้ ดังนั้นจึงทุบประตูห้องเสียงดัง

ไม่นานนักหลิวเจิ้งคุนที่รับผิดชอบเฝ้าซูมู่หลินก็เดินมาแล้วกล่าว

“คนแซ่ซู! พูดเหลวไหลอะไร! ว่าง่ายๆ เตรียมตัวไปดาวอังคารได้เลย”

ซูมู่หลินตะโกน “ไปกับพ่อแกสิ! ฉันไม่ไปดาวอังคาร แกไปเรียกเย่เฉินมาเดี๋ยวนี้!”

หลิวเจิ้งคุนรู้ว่าซูมู่หลินกลัวแล้ว เขาจึงไปเรียกเย่เฉินมา

เย่เฉินมาถึงห้องของซููมู่หลิน เห็นซูมู่หลินที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวพลางกล่าว “คิดดีแล้วใช่ไหม? จะไปดาวอังคารหรือจะยอมสารภาพมาเสียดีๆ?”

ตลอดชีวิตนี้ของซูมู่หลินไม่เคยต้องทนแบกรับความทรมานแบบนี้ ถึงจะโดนคนต่อยจนหน้าบวม ก็อย่าหวังให้เขายอมรับความพ่ายแพ้

แต่ครั้งนี้เขากลัวแล้ว เขากลัวแล้วจริงๆ

ซูมู่หลินกล่าว “อย่าส่งฉันไปดาวอังคาร ฉันจะบอกเลย ฉันจะบอกหมดเลย!”

สองนาทีผ่านไป เย่เฉินก็ให้นักบินอวกาศแล้วพวกหลิวเจิ้งคุนออกไป ปล่อยให้เขาอยู่กับซูมู่หลินสองคนในห้อง

“พูดมาสิ ทำไมถึงต้องไปนอนกับหวังเจียเหยา แกมันไอ้คนสารเลว!”

เย่เฉินมองซูมู่หลิวด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาอยากรู้คำตอบ เขาคงจัดการซ้อมหมอนี่จนพิการไปแล้ว!

ทว่าซูมู่หลินยังคงหัวแข็ง “แกสิคนสารเลว! เย่เฉิน! ถ้าไม่ใช่เพราะแกทำเรื่องเลวๆ ใส่พี่สาวฉัน ฉันจะไปนอนกับเมียแกทำไม!”

เย่เฉินชะงักไปทันที “พี่สาวนายคือใคร? แล้วฉันเคยไปทำเรื่อง…สารเลวอะไรใส่หล่อน?”

เย่เฉินโดนปู่สั่งสอนมาให้เป็นคนจิตใจดี เขาเชื่อมั่นเหลือเกินว่าในตลอดหลายปีมานี้เขาก็ทำแต่เรื่องที่อยู่ในกรอบศีลธรรม

ไม่เคยทำร้ายใครยกเว้น…

ซูมู่หลินแค่นเสียง “เย่เฉิน แกเคยยทำอะไรไว้ แกไม่รู้เลยเหรอ? อย่าให้ฉันเป็นคนพูดเลย แกมันเป็นคนดี!แต่เรื่องต่ำๆ ที่แกเคยทำน่ะ ฉันรู้ดีเชียวล่ะ!”

ลมหายใจเย่เฉินถี่กระชั้น เขาไม่อยากจะย้อนคิดถึงเรื่องพวกนั้น!

ผ่านไปนานเย่เฉินจึงกล่าวถาม “พี่สาวนายชื่ออะไร?”

ซูมู่หลินตอบ “ซูมู่ชิง!”

เย่เฉินถามต่อ “หล่อนเคยไปสงครามที่ซีเรียใช่ไหม”

และแล้วคำตอบที่เขาได้รับก็คือ “ใช่!”

ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็ก้มหน้าลง แล้วเขาก็เริ่มคิดออก

เรื่องนั้นซุซ่อนอยู่ในใจเขามาเป็นระยะเวลานาน เป็นความทรงจำที่เขาไม่อยากจะนึกถึงก็ปรากฏขึ้นในหัวเขาอีกครั้ง…

……

สีปีก่อน ณ สนามรบที่ซีเรีย

“บุกๆ…”

“ปังๆ”

ในระหว่างที่เข้าร่วมสงคราม เขากับเพื่อนๆ ในทีมกำลังพักผ่อนกันอยู่นั้น เสียงปืนก็ดังขึ้นรอบทิศทาง!

จู่ๆ ศัตรูก็บุกเข้ามาในค่ายของพวกเขา แล้วถล่มยิง!

เย่เฉินกับพวกยิงสวนพลางถอยไปด้วย

จนสุดท้ายอาวุธสงครามของฝ่ายศัตรูทรงพลังเกินไป อีกทั้งพวกเขามีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ทำให้เพื่อนร่วมทีมของเย่เฉินที่หนีมาพร้อมกันตายจนหมด

ส่วนเย่เฉินโดนคนสามคนล้อมเอาไว้ ทุกคนล้วนแต่คลุมหมวกไอ้โม่ง แล้วเล็ง AK มาที่เย่เฉิน!

เย่เฉินกำลังตกอยู่ในอันตราย!

และในเวลานี้เอง เย่เฉินก็หยิบป้ายหยกที่มีตัวอักษร ‘เย่’ ชิ้นหนึ่งออกมา วางอาวุธในมือลง ชูมือสองข้างขึ้นแล้วตะโกน

لاتطلقواالنار!لاتطلقواالنار!

“อย่ายิง! อย่ายิง!”

เย่เฉินกลัวว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจ จึงใช้ภาษาอารบิก ฝรั่งเศส อังกฤษและภาษาต่างๆ เพื่อบอกให้พวกเขาหยุดยิง

จากนั้นก็ใช้ภาษาอารบิกกล่าวต่อ “ผมเป็นคนตระกูลเย่!”

เย่ฉงไห่ส่งเด็กในบ้านมาร่วมฝึกฝนในสงครามที่อันตรายแบบนี้ ย่อมไม่อาจปล่อยให้พวกเขารบจนตาย

เขาจึงได้กำชับกับพวกหัวหน้าของทุกฝ่ายเอาไว้ อีกทั้งยังให้ผลประโยชน์พวกเขาไปไม่น้อย

แล้วบอกเย่เฉินเอาไว้ว่าหากเกิดอันตรายขึ้น ให้แสดงป้ายหยกประจำตระกูลเพื่อแสดงตัวตนของเขา

เย่เฉินจึงยื่นป้ายหยกให้คนที่ใส่หมวกปิดหน้าปิดตาดู “เอาของชิ้นนี้ไปให้เจ้านายพวกนายดู นายต้องได้รางวัลอย่างงามแน่!”

แล้วป้ายหยกก็ถูกส่งต่อไปให้เจ้านายของพวกทหารอย่างรวดเร็ว

แต่ว่าหลังจากที่ได้รับป้ายหยกมาแล้ว ก็ไม่ได้ปล่อยตัวเย่เฉินในทันทีแต่อย่างใด แต่เอาเขาไปขังในห้องมืดๆ แทน

แน่อนว่าเย่เฉินย่อมไม่เข้าใจว่าเกิดดเรื่องอะไรขึ้นจึงโวยวายเสียงดัง “พวกนายจับฉันไว้ทำไมเนี่ย?”

คนด้านนอกจึงตะโกนบอกเขา “มีคนอยากให้ของขวัญนาย นายได้ของขวัญชิ้นนี้แล้วค่อยไปเถอะ”

ไม่นานนักในห้องมืดๆ ก็มีผู้หญิงอีกคนโดนจับโยนเข้ามา!

เย่เฉินไม่รู้เห็นหน้าตาของผู้หญิงคนนี้ เพราะว่าในห้องไม่มีแสงไฟ แต่เขาพอจะคาดเดาอายุของหญิงสาวผ่านกระแสเสียงสะอื้นของเจ้าหล่อนได้ว่าอีกฝ่ายน่าจะยังอายุไม่มาก

เย่เฉินไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาต้องทำแบบนี้จึงตะโกนอีก “ปล่อยฉันออกไป ทำไมต้องปั่นหัวฉัน!”

เย่เฉินโดนขังในห้องนั้นเป็นเวลาหกชั่วโมงเต็มๆ ไม่ว่าจะร้องตะโกนยังไง คนด้านนอกก็ไม่ยอมเปิดประตูปล่อยเขาออกไป

เขาลองคุยภาษาอารบิกกับเพื่อนร่วมห้องต่างเพศคนนี้โดยใช้ภาษาอารบิก และฝรั่งเศส แต่อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรนอกจากร้องไห้เท่านั้น

จนสุดท้ายเย่เฉินจำได้แค่ว่าเขาเองคแห้งจนแสบผาก ส่วนหู้หญิงก็เหมือนจะร้องไห้จนหมดแรง

ตอนนั้นเย่เฉินคิดว่าอย่างไรเสียผู้หญิงที่โดนคจับ ก็คงจะเป็นเหมือนผู้หญิงในกองทัพที่เป็นเหมือนของเล่นระบายอารมณ์ของผู้ชาย

ดังนั้นเย่เฉินจึงทำตามข้อเรียกร้องของพวกเขา

แต่หลังจากทุกอย่างจบลง เย่เฉินก็พบว่านั่นเป็นครั้งแรกของหญิงสาว!

อีกทั้งหลังจากที่หญิงสาวโดนพาตัวไปแล้ว เย่เฉินถึงได้เห็นแผ่นหลังของอีกฝ่ายเต็มตา เรืนร่างแบบบางนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นคนเอเชีย!

หลังจากที่รู้เรื่องแล้ว เย่เฉินก็รู้สึกผิดกับหญิงสาวคนนั้นอย่างมาก

แต่จนวันนี้เขาก็ไม่รู้ความจริงของเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าทำไมตนเองถึงได้เจอสาวบริสุทธิ์และสวยขนาดนั้นที่นั่น

……

“คิดออกหรือยัง? ไอ้ชั่ว!” ซูมู่หลินจ้องเย่เฉินตาถลึง

ในเวลานี้เย่เฉินถึงเพิ่งเข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงเกลียดชังเขาขนาดนี้

ที่แท้ ผู้หญิงในห้องมืดที่สงครามคนนั้นเป็นพี่สาวเขา เป็นลูกสาวของตระกูลซู ซูมู่ชิง!

“หล่อนไปทำไมที่สนามรบ?” เย่เฉินถาม

ซูมู่หลินตอบอย่างไม่พอใจ “เรื่องนี้แกไปถามพี่สาวฉันเองเถอะ!”

เย่เฉินครุ่นคิดแล้วพยักหน้ารับ “ก็ได้ ฉันเองก็ควรต้องไปขอโทษหล่อนเหมือนกัน ตอนนี้พี่สาวนายอยู่ไหนล่ะ? ฉันจะได้ไปหาหล่อน”

ถึงแม้ว่าเขาจะทำผิดไปแล้ว แต่ลูกผู้ชายก็ควรจะกล้ายอมรับในความผิดที่ตนเองทำ

ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้เย่เฉินเองก็ทำอะไรไม่ได้ ที่เขาทำไปก็เพื่อช่วยชีวิตพวกเขาสองคน ไม่อย่างนั้นแล้วทั้งสองคนก็อาจจะโดนขังไว้ในห้องดำนั้นจนหิวตาย

เย่เฉินรู้ว่าที่เมืองหลวงเป็นถิ่นของตระกูลซู “ได้ ฉันจะไปเมืองหลวงกับนาย!”

แล้วพวกเขาก็รีบเก็บข้าวของเพื่อเตรียมจะจากไป

Musk เห็นพวกเย่เฉินจะไปก็รีบรั้งพวกเขาเอาไว้สุดชีวิต “คุณซูไม่ไปดาวอังคารเหรอ? ถ้าไม่ชอบดาวอังคาร เรามีจุดหมายปลายทางอื่นให้เลือกนะ”

ซูมู่หลินตกใจจนรีบร้อนปฏิเสธ “คุณ Musk ไม่ว่าสถานที่ใดในอวกาศผมก็ไม่ไปทั้งนั้น! ผมอยากจะอยู่บบนโลก!”

Musk คว้ามือของซูมู่หลิน “ทิ้งวิธีติดต่อไว้เถอะ หากว่าวันไหน”

ซูมู่หลินสะบัดมือ Musk ทิ้ง “ไม่มีวันนั้นหรอก!