บทที่ 307 ไม่คิดว่าโง่ขนาดนี้

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 307 ไม่คิดว่าโง่ขนาดนี้

ตู้ม!

สายฟ้าระเบิดแสงเจิดจ้าออกมา บางสิ่งบางอย่างโดนฉู่ชวิ๋นต่อยกระเด็นออกไป

“พี่หลิว มันคืออะไรกัน” หยานหวูซวงถามพร้อมชักกระบี่ออกจากฝัก

ฉู่ชวิ๋นส่ายหัว สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง แรงปะทะเมื่อกี้แข็งกร้าวมาก จู่ ๆ สายตาของเขาก็นิ่งลงก่อนจะหยิบบางอย่างออกจากกำปั้น

พวกหยานหวูซวงให้ความสนใจกับสิ่งที่เขาทำ มันเป็นเกล็ดขนาดเท่ากำปั้นเด็ก แข็งปานเหล็กกล้า ด้านบนมีไฟฟ้าสถิต

“หรือว่าจะเป็นพวกงู” เมื่อเห็นเกล็ด ทุกคนนึกถึงงูเป็นอย่างแรก

“มันเหมือนมาก เป็นไปได้” ฉู่ชวิ๋นกล่าว เมื่อกี้ตอนต่อยโดนอีกฝ่ายเขารู้สึกลื่น ๆ เพราะเหตุนี้พลังส่วนหนึ่งจึงถูกดูดซับไป

“ไม่ว่ายังไงทุกคนก็ระวังตัวกันด้วย” ฉู่ชวิ๋นเตือนอีกครั้ง

ทุกคนมุ่งหน้าต่อไปด้วยสภาวะเฝ้าระวังเต็มที่

จี๊ด

สายฟ้าแสบตาจู่โจมเข้ามา เป็นผลให้สายฟ้าเส้นอื่นกระพริบอย่างดุดัน ลำแสงสาดลงมาอย่างรุนแรงจนทุกคนลืมตาไม่ขึ้น

“ระวัง” ฉู่ชวิ๋นตะโกน พวกหยานหวูซวงโคจรลมปราณคุ้มกาย

ฉู่ชวิ๋นยกค้อนสายฟ้าขึ้นทุบไปข้างหน้า

ตู้ม

สายฟ้าเปล่งแสงจ้า ลำแสงระเบิดออก ส่องประกายพื้นที่ด้านหน้าจนสว่างวาบ

ฟิ้ว

ฉู่ชวิ๋นควงค้อนสายฟ้าพุ่งออกไป มีสิ่งมีชีวิตบางอย่างโดนเขากระแทกใส่จนกระเด็นออกไป

แสงสายฟ้าแยงตาจนมองอะไรไม่เห็น

ด้านหน้าฟ้าร้องดังลั่น เสียงระเบิดดังไม่หยุด เนิ่นนานกว่าจะหยุดลง

“น้องหยาน พวกนายรีบมาเร็ว”

เมื่อได้ยินเสียงของฉู่ชวิ๋นทุกคนก็ก้าวไปข้างหน้าตามฉู่ชวิ๋น

“นั้นมันอะไรกัน” ทุกคนอึ้งกิมกี่ ใต้เท้าฉู่ชวิ๋นมีสัตว์ประหลาดตัวยาวหลายเมตร ปากกว้างมีเขี้ยวคม พร้อมเกล็ดอยู่รอบตัว

“ปลาไหลไฟฟ้า” ฉู่ชวิ๋นบอก “เมื่อกี้ก็ไอ้ตัวนี้แหละที่กัดแขนของหอคอยอาภรณ์ม่วงขาด”

“สถานที่แบบนี้มีปลาไหลไฟฟ้าได้ยังไง” หยานหวูซวงตกใจ ของแบบนี้อาศัยอยู่ในน้ำไม่ใช่เหรอ

ฉู่ชวิ๋นส่ายหัว “ตอนนี้ยังไม่รู้รายละเอียด ยังไงซะที่นี่ก็ไม่ชอบมาพากล ทุกคนระวังด้วย”

พูดจบ ค้อนสายฟ้าในมือฉู่ชวิ๋นถูกปาออกไปในเขตปักษา

ตู้ม

เสียงกระทบกระทั่งดังสนั่น เขตปักษาระเบิดแหวกสายฟ้าเป็นทาง

ทั้งหมดไล่ตามฉู่ชวิ๋นไป ก็เห็นปลาน้อยรูปร่างประหลาดขนาดเท่าฝ่ามือตัวหนึ่งโดนค้อนสายฟ้าทุบจนแบะ กลายเป็นประกายไฟฟ้าสลายออกไป

พวกหยานหวูซวงไม่รู้จักมัน แต่ฉู่ชวิ๋นและผู้หญิงผมม่วงมีแววปิติยินดีปรากฏออกมา

ปลาปักษาสายฟ้า กำเนิดจากประกายไฟฟ้าสถิต พลังโจมตีไม่รุนแรง อาศัยอยู่ในเขตปักษา และมีจำนวนน้อยมาก

ปลาปักษาหลอมรวมจากประกายไฟฟ้าสถิต เอามาหลอมรวมกับร่างกายได้เป็นอย่างดี

ฉู่ชวิ๋นเริ่มเสียใจที่เมื่อกี้ลงมือรุนแรงไปหน่อย

ฟิ้ว

ผู้หญิงผมม่วงขยับตัวและหายเข้าไปท่ามกลางเขตปักษาจู่ ๆ เธอก็ดุดันขึ้นอย่างฉับพลัน

ฉู่ชวิ๋นไม่ห่วงอะไรนัก ฝีมือของผู้หญิงผมม่วงคนนี้ไม่ด้อยไปกว่าเขาเลย

และก็จริง เพียงแปปเดียวเธอก็กลับมา แบมือเรียวสวยออก ปลาปักษาตัวขนาดฝ่ามือ โปร่งใสทั้งตัวโดนสะกดอยู่ในฝ่ามือของเธอ

“เป็นปลาที่แปลกจัง” หยานหวูซวงอุทานด้วยความตกใจ ปลาปักษานี้โปร่งแสงทั้งตัว สามารถมองเห็นประกายไฟฟ้าสถิตระยิบระยับที่ว่ายวนอยู่ข้างใน

“น้องหยาน นี่คือปลาปักษาสายฟ้า ถ้าเห็นอย่าปล่อยไปเด็ดขาด” ฉู่ชวิ๋น

กล่าวอย่างจริงจัง

เมื่อเห็นหยานหวูซวงไม่เข้าใจ ฉู่ชวิ๋นก็พรรณนาสรรพคุณของปลาปักษาให้หยานหวูซวงฟัง

“สามารถเพิ่มพลังวิญญาณและพลังกายได้” หยานหวูซวงตะลึง ขณะเดียวกันก็เกิดความอยากได้ จอมยุทธ์นอกจากฝึกลมปราณแล้ว ส่วนใหญ่เนื้อกายและพลังวิญญาณเป็นจุดที่อ่อนที่สุด วิชาฝึกกายบนโลกมีเพียงหยิบมือเท่านั้น ยิ่งวิชาที่พลังวิญญาณได้นั้นมีน้อยมากจริง ๆ ถ้าปลาปักษาแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ รับรองว่าเขาต้องแข็งแกร่งขึ้นมากแน่ๆ

เนื้อกายของพี่หลิวไร้เทียมทาน พลังวิญญาณแข็งกร้าว ถ้าเขาบอกว่าปลาปักษาเพิ่มพลังวิญญาณและพลังกายได้นั้นยอมเชื่อถือได้อย่างแน่นอน

จากนั้นดวงตาของพวกหยานหวูซวงก็เบิกกว้างดั่งไข่ห่าน พวกเขากวาดสายตาไปมาเพื่อมองหาปลาปักษา แต่ท่าทางเหมือนโจรย่องเบามากกว่า

พรึ่บ

จู่ ๆ หยานหวูซวงก็พุ่งตัวออกไป เขาพบปลาปักษาตัวหนึ่ง พลังลมปราณวนเวียนรอบฝ่ามือคว้าหมับเข้าที่ปลาปักษา

“จับได้แล้ว” หยานหวูซวงดีใจมาก

แต่ไม่นานนักรอยยิ้มของเขาก็แข็งอยู่บนใบหน้า ปลาปักษาแปรเปลี่ยนเป็นประกายไฟฟ้าสถิตไหลออกจากฝ่ามือ ก่อนจะหลอมรวมร่างกลายเป็นปลาปักษา และฟิ้วหายไปท่ามกลางสายฟ้าด้วยความเร็วแสง

หยานหวูซวง มึนงงราวกับคนบ้า

“น้องหยาน ปลาปักษาหลอมรวมจากประกายไฟฟ้าสถิต แม้ว่าพลังโจมตีจะไม่มาก แต่ฝีมือการหลบหนีถือว่ายอดเยี่ยมสุดยอด หากจับปลาปักษาได้อย่าประมาทเด็ดขาด ใช้พลังภายในพันธนาการไว้ก่อนจะเป็นการดีที่สุด จากนั้นค่อยใส่ไว้ในกล่องหยก” ฉู่ชวิ๋นบอกกลั้วหัวเราะ

หยานหวูซวงหน้าเซ็ง พอได้ยินก็อุทานด้วยความเสียดายอยู่ยกใหญ่

“ไม่เป็นไร แม้ว่าปลาปักษาจะมีไม่มากแต่ก็ยังพอหาได้ ที่สำคัญคนอื่นไม่รู้สรรพคุณของปลาปักษา พวกเราได้เวลากอบโกยแล้ว” ฉู่ชวิ๋นปลอบใจอีกฝ่าย

หยานหวูซวงกลับมาตั้งสติใหม่ คิดในใจว่าที่ฉู่ชวิ๋นพูดนั้นมีเหตุผล คนอื่นไม่รู้ มีแค่พวกเขาที่รู้ เขาซาบซึ้งในใจมาก ฉู่ชวิ๋นน่าคบหาเป็นเพื่อนจริงๆ ความลับสำคัญขนาดนี้กลับบอกเขาโดยไม่ปิดบัง ช่างเป็นสุภาพบุรุษตัวจริงเสียงจริง

หากฉู่ชวิ๋นรู้ความคิดของหยานหวูซวงในตอนนี้จะต้องหน้าแดงมากแน่ ๆ ที่จริงเขารู้อยู่แก่ใจว่าที่นี่แค่รอบนอกเท่านั้นก็มีปลาปักษาปรากฏด้านนอกด้านในย่อมต้องมีเยอะยิ่งกว่านี้ เขาจับคนเดียวยังไงก็จับไม่หมดแน่ ๆ เลยไม่คิดปิดบังอะไรให้มากความ

คนทั้งหมดดวงตาเบิกกว้างเท่าไข่ห่านมองไปรอบ ๆ ดูไม่เหมือนคนดีแน่ ๆ

พรึ่บ

จู่ ๆ เงาดำเงาหนึ่งจู่โจมพุ่งเป้าไปที่ค้อนสายฟ้าในมือฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋นบันดาลโทสะ ค้อนสายฟ้าเหลียวตัวหลบก่อนจะพุ่งออกไปอย่างรุนแรง

ตู้ม

เสียงโลหะกระแทกดังขึ้น หางยักษ์หางหนึ่งหดกลับไป

งูหลามยักษ์สีเขียวก่อนหน้านี้ มันแลบลิ้นขู่ฟ่อใส่ฉู่ชวิ๋น สายตาเย็นยะเยือก ก่อนจะหันหลังหายลับไปในเขตปักษา

พรึ่บ

ขณะเดียวกัน แสงกระบี่เจิดจรัสแสงหนึ่งฟาดไปที่งูหลามยักษ์สีเขียว

ตู้ม

เสียงโลหะกระแทกดังขึ้นอีกครั้ง รัศมีกระบี่ฟาดโดนงูหลามยักษ์ แต่ไม่รู้ว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร ทัศนวิสัยของทุกคนอยู่มองเห็นแค่รอบ ๆ ประมาณ 10 เมตร นอกจากนั้นจะเห็นแต่ฟ้าร้องฟ้าแลบไม่เห็นอะไรมากไปกว่านั้น

แน่นอนว่ากระบี่เมื่อกี้เป็นของหยานหวูซวง เขาก้าวขาจะไล่ตามไปแต่ก็โดนฉู่ชวิ๋นห้ามเอาไว้

“สถานการณ์ที่นี่เอาแน่เอานอนไม่ได้ อย่าตามไปเลย”

“คิดไม่ถึงว่าจักรพรรดิอสูรจะแข็งแกร่งขนาดที่เข้ามาถึงในนี้ได้” หยานหวูซวงเอ่ย

“เรื่องนี้น้องหยานเข้าใจผิดนะ พลังกายและพลังวิญญาณของสัตว์ร้ายแข็งแกร่งกว่ามนุษย์อยู่แล้ว บางทีการอยู่ที่นี่พวกมันอาจจะสบายตัวมาก กว่าข้างนอกก็ได้ แถมอาจได้ยืมพลังสายฟ้ามาหลอมรวมเข้ากับร่างกาย พัฒนาพลังไปอีกขั้น”

“ไม่น่ามั้ง” หยานหวูซวงตะลึง ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ท่ามกลางเขตปักษา มนุษย์ก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของสัตว์ร้ายได้เลย

“เอาเป็นว่าทุกคนระวังตัวด้วย” ฉู่ชวิ๋นบอก

ทุกคนเดินทางต่ออีกครั้ง

เดินไปได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงสู้กันจากทางด้านหน้า

“เป็นจังเฟิงหลิง” ผู้หญิงผมม่วงเอ่ยขึ้น “พวกเขาพัวพันอยู่กับปลาไหลไฟฟ้า 2 ตัว”

หยานหวูซวงตะลึง ฟ้าร้องฟ้าแลบขนาดนี้พวกเขามองอะไรไม่เห็นเลย เสียงก็ได้ยินแค่เลือนลางเท่านั้น ผู้หญิงผมม่วงรู้ได้ยังไง

“ไป แอบไปดูหน่อย”

ทั้งหมดเข้าใกล้อย่างเงียบเชียบ

จังเฟิงหลิงสายตาเย็นยะเยือก คนทั้งกลุ่มหันหลังชนกัน ตั้งสมาธิเพ่งมองไปรอบ ๆ

พรึ่บ

สายฟ้าเจิดจ้าแยงตาจู่โจมใส่พวกเขา ซึ่งเป็นปลาไหลไฟฟ้ายาวหลายเมตร

อาวุธของจังเฟิงหลิงคือทวนยาวสีดำ หัวทวนเชื่อมโซ่เอาไว้ เขาแทงทวนจนระเบิดแสงสีดำออกไป พุ่งเข้าใส่ปลาไหลไฟฟ้าราวกับธนู

ตู้ม

เกล็ดทั่วตัวปลาไหลแข็งดั่งโลหะ พลังป้องกันน่าทึ่ง ทวนยาวไม่อาจแทงเข้าไปได้ แต่ก็กระแทกจนมันจนกลิ้งออกมา

ขณะเดียวกัน ปลาไหลไฟฟ้าอีกตัวก็พุ่งจู่โจมอย่างรวดเร็ว ไม่ให้โอกาสใครได้ตั้งตัวสักนิด กัดหมับเข้าให้ที่ท้องของจังเฟิงหลิง

ตู้ม !

เสียงโลหะระเบิดดังขึ้น ภาพเหวอะหวะสยองขวัญไม่ได้เกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่เขี้ยวคมของปลาไหลไฟฟ้ากลับแตกหักไปหลายซี่

ขณะเดียวกันคนอื่นก็ตั้งสติได้ ทันใดนั้นทั้งกระบี่และดาบก็ถูกฟาดฟันออกไป หมัดถูกชกออกรัว ๆ

ปลาไหลไฟฟ้าร้องโหยหวน เจอกับจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิลงมือทีเดียวมากมายขนาดนี้ ไม่มีโอกาสให้พวกมันได้ต่อต้านเลยแม้แต่น้อย พวกมันโดนหั่นเป็นชิ้น ๆ หัวโดนระเบิดเละ

ฉู่ชวิ๋นและหยานหวูซวงมองหน้ากัน

ของวิเศษลึกลับงั้นเหรอ?

“ในตัวเขาน่าจะมีของวิเศษประเภทเกราะ” ฉู่ชวิ๋นกล่าว

หยานหวูซวงเองก็อยากได้ สงสัยตระกูลจังจะมีโอกาสวาสนายิ่งใหญ่ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีของวิเศษมากมายขนาดนี้

“มิน่าล่ะพวกเขาถึงมาถึงนี่ได้โดยไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย” หยานหวูซวงกล่าว

ฉู่ชวิ๋นตาเป็นประกาย หันกลับไปมองหยานหวูซวงและเอ่ย “น้องหยาน ถ้ายังไง พวกเรา… เฮ่ะ ๆ ๆ ….”

หยานหวูซวงเองก็ตาเป็นประกาย “พี่หลิวหมายความว่าพวกเราจะไปเอามาสักชิ้น 2 ชิ้นใช่ไหม?”

เหล่าจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิตระกูลหยานมองบนและโอดครวญในใจ

“มันจบแล้ว นายน้อยของพวกเขาโดนพาเสียคนแล้วจริง ๆ”

ฉู่ชวิ๋นและหยานหวูซวงวางแผนกันจริงจัง ฉู่ชวิ๋นบอก “น้องหยาน เดี่ยวนายเบี่ยงเบนความสนใจของจังเฟิงหลิงไว้ ฉันจะไปชิงเกราะมา”

“ไม่มีปัญหา” หยานหวูซวงกล่าว

ฉู่ชวิ๋นหยิบชุดดำออกมา 2 ชุด เป็นชุดที่เขาใช้ตอนปลอมตัวเป็นประตูวิญญาณสลายกับจักรพรรดิยาไปดักฆ่าพวกปราสาทเทียนหลง เขาลืมเอาไปทิ้ง เลยเอามาใช้ในตอนนี้พอดี

หยานหวูซวงกลับชะงักไปตั้งแต่ที่เห็นชุดดำ สายตาครุ่นคิด ชุดดำนี่คุ้นมาก ๆ เคยเห็นที่ไหนกันนะ?

ฉู่ชวิ๋นยื่นให้หยานหวูซวง ทันใดนั้นเขาก็เห็นหยานหวูซวงอึ้งจนใจกระตุก เขาแอบสบถในใจว่าประมาทเกินไป ชุดดำนี้เขาใส่ตอนไปขโมยดอกบัวจิตวิญญาณและน้ำวิเศษที่ตระกูลหยานเมื่อคืน ดูเหมือนหยานหวูซวงจะสงสัยเขาแล้ว

“พี่หลิว ชุดดำนี่คุ้น ๆ นะ” หยานหวูซวงพูดอย่างสงสัย

ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเฝื่อน ๆ หยานหวูซวงสงสัยจริง ๆ ด้วย เขาแกล้งพูดห้าว ๆ “มันก็แหงสิ ชุดดำที่ไหนก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ”

“ก็จริงของพี่” หยานหวูซวงแค่รู้สึกว่าคุ้นตาเท่านั้น ไม่ได้คิดว่าฉู่ชวิ๋นจะเป็นคนที่ขโมยดอกบัวจิตวิญญาณ เขารับมาและสวมใส่อย่างรวดเร็ว

ฉู่ชวิ๋นลอบถอนหายใจ ท่าทางหยานหวูซวงนึกไม่ออก เกือบไปแล้ว แต่เขาไม่กล้ามันแล้ว ขืนเขาใส่รับรองได้ว่าหยานหวูซวงเห็นปุ๊บนึกออกปั๊บแน่ ๆ

“อย่าเพิ่งรีบ มีคนมา” ช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานนี้ผู้หญิงผมม่วงก็เอ่ยขึ้นมา

ฉู่ชวิ๋นได้ยินก็คว้าหมับเข้าที่ชุดดำในมือหยานหวูซวงและโยนมันเก็บไปในแหวนมิติพลางบอกเสียงแผ่ว “มีคนมา พวกเราซ่อนตัวก่อน”

“ขอบคุณ” ฉู่ชวิ๋นส่งกระแสจิตบอกผู้หญิงผมม่วง

“ฉันไม่คิดว่านายจะโง่ได้ขนาดนี้” ผู้หญิงผมม่วงบอก

ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเฝื่อน ๆ ก็โง่จริง ๆ นั่นแหละ

มีฝีเท้าใกล้เข้ามาลาง ๆ

คนของหอคอยอาภรณ์ม่วง

พันเฉิงเฟิงเองก็เห็นพวกจังเฟิงหลิงตั้งท่าอย่างเข้มงวด

“พี่จัง นี่พวกนาย?”

ไม่ทันได้พูดจบ แสงของทวนยาวในมือจังเฟิงหลิงก็เปล่งประกายขึ้นมาอย่างล้นหลามและพุ่งจู่โจมอย่างไม่ลังเลใส่ทางพันเฉิงเฟิง

พันเฉิงเฟิงตกตะลึงและโกรธแค้น กำลังจะถามก็ได้ยินเสียงตู้ม สะเทือนจนหูเขาแว่วเสียงหึ่ง ๆ เลยมาดู

พอมาก็เห็นปลาไหลไฟฟ้ายาวหลายเมตรที่มีสายฟ้าล้อมรอบกลิ้งอยู่ข้างตัว

พันเฉิงเฟิงเองก็ไม่ได้โง่ เข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เขาหันกลับไปฟาดฝ่ามือทะลวงนภาออกไปใส่ปลาไหลไฟฟ้า

ขณะเดียวกันพวกลูกน้องของเขาก็ลงมือ ปลาไหลไฟฟ้าตัวนั้นไม่อาจหลบได้ โดนระเบิดเป็นชิ้น ๆ