บทที่ 134 เขาคิดจะมอมเหล้านาง

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ด้านนอกห้อง เซียงเหลียนเอ่ยพูดอย่างนอบน้อม “พระชายา คุณหนู อาหารเช้าพร้อมแล้วเจ้าค่ะ”

เซียงอวี้รีบตอบออกไป “จะออกไปเดี๋ยวนี้!”

หนานหว่านเยียนทำการเปลี่ยนชุด ล้างหน้า และพาเด็กน้อยทั้งสองเดินออกไป

สามแม่ลูกทานอาหารเช้าอย่างมีความสุข ซาลาเปากับเกี๊ยวน้อยกินน้อย เซียงเหลียนจึงพาพวกนางไปเล่นกับล่าปู๋ล่า

รอจนเด็กน้อยทั้งสองวิ่งเล่นจนเหงื่อออกเต็มตัว หลินอวี้เฟิงก็เดินมาถึงหน้าประตูเรือนเซียงหลินช้าๆ

อวี๋เฟิงเข้ามารายงาน และพอเขาเห็นเซียงอวี้ที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ข้างๆ หนานหว่านเยียน เขาก็หน้าแดงขึ้นมาทันที เขาก้มหน้าลงและพูดเสียงเบา “พระ พระชายา อาจารย์หลินมาขอเข้าพบขอรับ”

เซียงอวี้เห็นเขาท่าทางแปลกๆ จึงกลอกตาใส่เขาเล็กน้อย “เหตุใดพูดเสียงเบาเหมือนยังไม่ได้กินเช่นนั้น!”

ไม่เหมือนองครักษ์เสิ่นเลยสักนิด!

หนานหว่านเยียนมีความสุขที่ได้เป็นกลุ่มมุงดู ดวงตาของนางเหลือบมองไปมาระหว่างทั้งสองคน และยกยิ้มอย่างมีเลศนัย

ดูเหมือนว่าเซียงอวี้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานนี้ อวี๋เฟิงน่าจะตื่นขึ้นมาก่อน ดังนั้นเขาจึงมีอาการเช่นนี้

หนานหว่านเยียนเองก็ไม่บีบบังคับ จึงบอกให้เขาออกไปเชิญอาจารย์หลินเข้ามา

อวี๋เฟิงรีบเดินออกไป ท่าทางเหมือนกำลังหนีไปนั้นดูตลกมากในสายตาของเซียงอวี้ “วันนี้เขาเป็นอะไรไป”

หนานหว่านเยียนรู้แต่ไม่พูดออกมา นางมองแผ่นหลังของอวี๋เฟิงพร้อมกับคิดในใจ “บางทีคงจะเป็นเพราะหัวใจเต้นแรงก็ได้”

เซียงอวี้กะพริบตามองมาด้วยความไม่เข้าใจ

หลินอวี้เฟิงกับเด็กน้อยทั้งสองสนิทกันแล้ว เกี๊ยวน้อยจึงไม่กลัวอีก พอซาลาเปาเห็นเขา เด็กน้อยก็ลงมายืนกับพื้น แล้วส่งยิ้มหวานกล่าวต้อนรับ “อรุณสวัสดิ์อาจารย์หลิน!”

พอเห็นเช่นนี้ หนานหว่านเยียนรู้สึกโล่งใจไม่น้อย

เรื่องของค่ายเสินเชื่อจบลงแล้ว ต่อไป คือคิดหาวิธีว่าจะจัดการกับดอกบัวขาวน้อยอย่างหยุนอี่ว์โหรวได้อย่างไร!

แต่ว่า เมื่อวานกู้โม่เฟิงเป็นปฏิปักษ์กับกู้โม่หานเช่นนั้น ไม่รู้ว่าตอนสุดท้ายผลจะเป็นอย่างไรดูจากท่าทางของเมื่อวานนี้ จุดจบคงไม่เลว

ในเวลานี้เอง หนานหว่านเยียนก็ได้ยินเซียงอวี้ที่อยู่ข้างๆ พูดพึมพำออกมา

“ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อวี๋เฟิงท่าทางแปลกๆ เชี่ยนปี้จากเรือนจู๋หลานก็เช่นกัน ช่วงนี้ออกไปข้างนอกบ่อยผิดปกติ!”

หนานหว่านเยียนชะงักงัน คิ้วของนางขมวดเข้าหากัน

ในขณะที่นางกำลังคิดหาวิธีจัดการกับหยุนอี่ว์โหรว ไม่แน่ว่าทางหยุนอี่ว์โหรวผู้หญิงคนนั้นคงไม่นิ่งนอนใจเช่นกัน

ทันใดนั้นเอง ในใจหนานหว่านเยียนรู้สึกกังวลใจอย่างอธิบายไม่ถูก…

หนานหว่านเยียนดวงตาหรี่ลง ก่อนจะหันไปมองเซียงอวี้แล้วเอ่ยถาม “สาวใช้ที่ชื่อเชี่ยนปี้คนนั้น วันนี้ออกไปข้างนอกหรือไม่”

เซียงอวี้ท่าทางงุนงง นางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เจ้าค่ะ บ่าวเห็นนางท่าทางลับๆ ล่อๆ เหตุใดพระชายาถึงถามเช่นนี้”

หรือว่าพวกนางคิดจะสร้างปัญหาอีก?

หนานหว่านเยียนไม่ทันได้ตอบ พอนึกขึ้นได้ นางก็รีบเรียกอวี๋เฟิงเข้ามา

อวี๋เฟิงยังคงหน้าแดง และไม่กล้ามองไปทางเซียงอวี้

หนานหว่านเยียนกระซิบสั่งงานข้าด้วยงหูเขา ก่อนจะเห็นว่าท่าทางของอวี๋เฟิงกลายเป็นเคร่งเครียด เขาขมวดคิ้วแน่น แล้วพยักหน้าอย่างเคร่งครัด ก่อนจะออกจากเรือนเซียงหลินไป

พอเห็นท่าทางแปลกประหลาดของพวกเขา เซียงอวี้เองก็รู้สึกสงสัย แต่ไม่กล้าพูด

ในเมื่อพระไม่พูดอะไร นั่นสดงว่าต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ทางจวนอ๋องอี้ นางคิดว่าคงจะเกิดเรื่องวุ่นวายอีก!

ทันใดนั้นเอง เสียงชายหนุ่มดังมาจากประตูทางเข้าเรือนเซียงหลิน “พระชายา! พระชายา!”

หนานหว่านเยียนมองออกไป แล้วเห็นอาจี้บ่าวรังใช้ของโม่หวิ่นหมิงรีบเดินเข้ามา เหงื่อไหลเต็มตัวรีบทำความเคารพนาง

หนานหว่านเยียนยกยิ้มเล็กน้อย คิ้วของนางคลายออก รีบเดินออกมา “ท่านลุงกินยาเสร็จแล้วใช่หรือไม่?”

อาจี้ลูบท้ายทอยและพูดอย่างเขินอายว่า “ขอรับ ดื่มเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแล้ว นายท่านบอกให้ข้ามาขอให้พระชายาจัดยาให้อีก”

หนานหว่านเยียนพาเขาเข้าไปในบ้าน แล้วบอกให้เซียงอวี้ยืนเฝ้าอยู่ข้างนอก

นางมุดหน้าอยู่กับการเขียนใบสั่งยาใหม่ นั่งก้มหน้าก้มตา จดจ่ออยู่กับมัน อาจี้เห็นเช่นนั้นก็ยิ่งพอใจมากขึ้น

พระชายาผู้นี้ เป็นหญิงงามจิตใจดี ถ้าสามารถ….

ไม่สิ ไม่ได้! นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่! นี่คือพระชายา! เป็นชายาของอ๋องอี้! นายท่านเป็นลุงของนาง!

อาจี้ตบหน้าตัวเองด้วยความหงุดหงิด หนานหว่านเยียนเพิ่งเขียนใบสั่งยาเสร็จ แล้วยื่นให้เขา พอเห็นท่าทางแปลกประหลาดนี้ นางรีบถามออกไป “เกิดอะไรขึ้น? มีอะไรเกิดขึ้นกับท่านลุงหรือไม่?”

น้ำเสียงของนางเต็มไปความห่วงใย อาจี้รีบโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

“ไม่ ไม่ใช่ขอรับ หลังจากดื่มยาที่พระชายาเขียนให้ ร่างกายของนายท่านก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมักจะพูดถึงทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของพระชายาให้บ่าวฟังเสมอ”

“ตอนนี้นายท่านดูแข็งแรงขึ้น บางครั้งบ้าวก็พานายท่านไปเดินเล่นบ้าง”

หนานหว่านเยียนเลิกคิ้วแล้วยิ้ม ตอนเห็นท่าทางของเขาเมื่อสักครู่ นางนึกว่ามีอะไรเกิดขึ้นเสียอีก

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว ถ้ารักษาต่อไปอีกสักพักท่านลุงก็สามารถทำการผ่าตัดได้ ช่วงนี้คงต้องลำบากท่านแล้ว อาจี้ จากนี้คงต้องรบกวนท่านดูแลท่านลุงอีกสักพัก”

อาจี้ได้รับคำชม จึงลูบจมูกด้วยความเขินอาย “มันเป็นหน้าที่ของบ่าว นายท่านใจดีต่อบ่าวมาก บ่าวจะดูแลนายท่านให้ดีที่สุด!”

หนานหว่านเยียนยกยิ้มด้วยความพอใจ แต่ในใจกำลังครุ่นคิด ว่าอุปกรณ์ฟื้นฟูที่ต้องใช้หลังจากผ่าตัดจะไปหาจากที่ไหน

ถ้าห้วงเวลาไม่ได้รับการอัปเกรด เครื่องมือต่างๆ ก็ไม่สามารถอัปเดตได้ ดูเหมือนว่า นางคงต้องหาทางอัปเกรดห้วงเวลาให้ได้!

อาจี้รับใบสั่งยาใหม่มาแล้ว หลังจากกล่าวขอบคุณหนานหว่านเยียนแล้ว จึงรีบออกจากเรือนเซียงหลินไป

เซียงอวี้เดินตามหลังหนานหว่านเยียนสีหน้าของนางดูชื่นชมยินดี “ถ้าท่านลุงของพระชายาหายดี คุณหนูทั้งสองคงจะดีใจมากเช่นกัน”

หนานหว่านเยียนพยักหน้า จากนั้นก็ยิ้มแล้วมองไปทางเซียงอวี้ “ข้าจำได้ว่า เมื่อวานนี้ ยังมีบางสิ่งที่ข้าไม่ได้ทำ”

ถึงเวลาจัดการเรื่องสำคัญแล้ว!

เซียงอวี้ลังเลใจเล็กน้อย “พระชายาหมายถึงเรื่องอะไรเจ้าคะ”

หนานหว่านเยียนกุมมือไว้ด้านหลัง แล้วกะพริบตาขี้เล่น “แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องเชิญท่านอ๋องกับพระชายารองหยุนทานข้าวไง! กู้โม่หานอุตส่าห์เชิญท่านอาจารย์ที่ดีอย่างอาจารย์หลินให้เด็กน้อยทั้งสอง ในฐานะมาราดของพวกนาง ข้าจะไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณได้อย่างไร จริงไหม เซียงอวี้?”

เซียงอวี้งุนงง “พระชายาคิดจะเชิญพระชายารองหยุนด้วยจริงๆ หรือเจ้าคะ”

แววตาของหนานหว่านเยียนเย็นชา

“อย่างไรก็เป็นคนจวนอ๋องอี้เช่นกัน ถ้าเราไม่เชิญนางมา จะทำให้คนอื่นคิดว่าเราใจแคบได้”

หลังจากพูดจบ นางก็สั่งสาวใช้ไปแจ้งหยุนอี่ว์โหรวกับกู้โม่หาน

เซียงอวี้ไม่กล้าถามคำถามเพิ่มเติม

แต่ว่า ถึงแม้พระชายาจะกล่าวเช่นนี้ แต่นางรู้สึกว่ามันไม่น่าจะแค่เชิญมาทานข้าวธรรมดาแน่นอน

เมื่อสักครู่ท้องฟ้าที่แจ่มใสกลับถูกเมฆดำปกคลุมจนมืดมิด เซียงอวี้รู้สึกอึดอัดใจ รู้สึกเหมือนว่าในจวนจะปกคลุมไปด้วยหมอกดำ เหมือนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น

ทางด้านกู้โม่หาน หลังจากที่พ่อบ้านกาวมารายงาน เขาก็ตอบตกลงโดยไม่ต้องคิด

“อืม รู้แล้ว ของบำรุงที่ข้าสั่งให้เจ้าจัดการ ส่งไปที่เรือนเซียงหลินแล้วหรือยัง”

พ่อบ้านกาวกล่าวด้วยความนอบน้อม “บ่าวส่งไปเมื่อเช้าขอรับ แต่พระชายายังไม่ตื่น บ่าวจึงขอให้บ่าวรับใช้ในเรือนยกเข้าไปแล้วขอรับ”

กู้โม่หานก้มหน้าลง ดวงตาของเขาเคร่งขรึม “อืม ออกไปได้”

ทันทีที่พ่อบ้านกาวออกไป กู้โม่หานก็ลุกขึ้นยืนเดินมาข้างหน้าต่าง มองท้องฟ้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่น แววตาสับสนอธิบายไม่ถูก

เขาไม่รู้ว่าหนานหว่านเยียนกำลังคิดจะทำอะไร แต่เขาจะใช้โอกาสนี้ เพื่อมอมเหล้าหญิงสาวเจ้าเล่ห์คนนี้แล้วเอากระดาษแผ่นนั้นมาให้ได้!