ตอนที่ 549 ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้
ตอนนี้ถือว่าเผยอวี่ถังเข้าใจเรื่องหนึ่งแล้ว…
เหมือนเขาจะประเมินสติปัญญาพี่ใหญ่ตัวเองสูงเกินไป
หรือจะพูดว่าพี่ชายเขาไม่เหลือสติปัญญาแม้แต่น้อย เมื่ออยู่ต่อหน้าพี่สะใภ้
แค่คำพูดหวานหูส่งๆ ประโยคเดียว กลับชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้เสียแล้ว…
คนมีความรักสติปัญญาจะกลายเป็นศูนย์จริงด้วย…
หลังจากวางสาย หลินเยียนยืนยันกับเผยอวี่ถังอีกครั้งว่าเมื่อคืนตนเองนอกจากใช้ไช่เหวินจีทำให้วังจิ่งหยางจวนเจียนจะตายแล้วก็ไม่ได้ทำเรื่องอื่นใดอีก เธอถึงรู้สึกวางใจได้อย่างเต็มที่
หลังจากพ้นช่วงวิกฤติไปแล้ว เผยอวี่ถังจึงจากไปด้วยความสบายใจ
หลินเยียนนั่งรินน้ำอยู่บนโซฟา พร้อมสไลด์โทรศัพท์ตามความเคยชิน ให้ความสนใจต่อข่าวสารที่เกิดขึ้นในช่วงนี้
หลินเยียนจ้องมองโทรศัพท์ กองถ่ายเลเจนด์น่าจะเพิ่งแจ้งประกาศไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน
เนื้อหาโดยสังเขปคือใกล้ถึงช่วงคัดเลือกนักแสดงที่จะมาแสดงเป็นเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาซึ่งเป็นตัวละครสุดท้ายแล้ว จะประกาศผลเร็วๆ นี้ นอกจากนี้การออดิชันก็จะสิ้นสุดในอีกไม่กี่วัน
ส่วนคอมเมนต์ด้านล่างส่วนใหญ่ต่างตั้งตารอ และเสียงเชียร์หลินซูหย่ากลับมีมากที่สุด
ช่วงสุดท้าย เพื่อให้ได้รับบทเยวา หลินซูหย่าลงทุนลงแรงไปไม่น้อยเลยจริงๆ เธอเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแข่งรถอย่างเป็นทางการสารพัดงาน ทั้งยังกลายเป็นสมาชิกเกียรติยศและสปอนเซอร์ของทีมรถแข่งสายหนึ่งที่มีชื่อเสียงในประเทศทีมหนึ่งอีกด้วย
มิหนำซ้ำบนแอคเคาท์ทางการเวยปั๋วของหลินซูหย่าก็แทบจะโพสต์การแข่งรถสารพัดรูปแบบ รวมทั้งการวิเคราะห์ที่ดูเหมือนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะจำนวนหนึ่งแทบจะทุกวัน
ถ้าไม่มีเรื่องที่เชิญเยวาตัวปลอมมาก่อนหน้านี้ หลินซูหย่าคงได้บทนี้ไปตั้งนานแล้ว ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ยังมีโอกาสเก้าในสิบอยู่ดี
เพียงแต่หลินเยียนไม่มีวันยกบทเยวาให้คนอื่นโดยง่ายแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลินซูหย่ายิ่งไม่มีทาง
หลินเยียนพลิกค้นกล่องและตู้เพื่อหานามบัตรใบหนึ่ง เธอมองหมายเลขที่อยู่บนนามบัตรพลางกดโทรหา
“ฮัลโหล สวัสดีครับ” เสียงที่มีความเซ็กซี่เล็กน้อยดังมาจากโทรศัพท์
“คุณมาร์คใช่หรือเปล่าคะ” หลินเยียนกล่าวระคนยิ้ม
“ผมเองครับ ผมคือมาร์ค”
“คุณมาร์ค คือแบบนี้นะคะ ฉันคิดว่าจะไปลองออดิชันเป็นเยวา ไม่ทราบว่าพอจะมีเวลาคุยด้วยหรือเปล่าคะ?”
เมื่อหลินเยียนพูดจบ ปลายสายก็เงียบไปพักหนึ่ง
“อ้อ…คือแบบนี้นะครับ น่าเสียดายมากเลย ตอนนี้ผมเปลี่ยนงานแล้ว เปลี่ยนมาทำงานบริการด้านการเงิน ถ้าเป็นเรื่องออดิชัน ผมให้ที่อยู่กับเบอร์ติดต่อคุณได้…จริงสิ คุณชื่อว่าอะไรครับ สนใจเรื่องการเงินไหม?”
หลินเยียนพูดไม่ออก “…”
หลังจากวางสาย หลินเยียนก็จดที่อยู่ในการออดิชันรวมถึงผู้ที่รับผิดชอบการออดิชันตอนนี้
ไม่นานนักหลินเยียนก็ติดต่อจ้าวหงหลิง
…
ณ ร้านกาแฟที่อยู่ละแวกใกล้เคียง จ้าวหงหลิงมาถึงก่อนเวลา
“เธออยากเข้ากองถ่ายเลเจนด์เพื่อชิงบทเยวา?”
หลังจากรู้ความคิดหลินเยียน จ้าวหงหลิงก็ประหลาดใจเล็กน้อย
กองถ่ายเลเจนด์ไม่ใช่กองถ่ายเล็กๆ ภายในประเทศ กองถ่ายคู่ปรับมหากาฬที่หลินเยียนเคยร่วมงานด้วยก่อนหน้านี้ก็นับว่าเป็นโปรดักชันขนาดใหญ่แล้ว แต่หากเทียบกับเลเจนด์ก็เหมือนเด็กน้อยกับผู้ใหญ่ นี่คือยักษ์ใหญ่ระดับนานาชาติ
จ้างหงหลิงย่อมคุ้นเคยกับโปรดักชันขนาดยักษ์ที่ช่วงนี้ได้รับการรอคอยมากที่สุดอย่างเลเจนด์อยู่แล้ว ถึงแม้จะบอกว่าบทของเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวา เข้าฉากน้อยมาก ถึงกระนั้นกลับเป็นจิตวิญญาณที่เป็นแก่นของเรื่องนี้ บุคคลที่เป็นตำนานเชื่อมโยงบททั้งเรื่อง ทั้งยังออกในช่วงสุดท้ายพร้อมกับลูกศิษย์ของตัวเองเพื่อมาเข้าร่วมศึกบนสนามแข่งครั้งใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็นการดวลกันแห่งศตวรรษอีกด้วย
และในหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าบทพระเอกนางเอกจะมีมากแค่ไหน ยิ่งใหญ่แค่ไหน มีความดังมากสักแค่ไหน บทจะดีมากแค่ไหน แต่สิ่งที่ผู้ชมให้ความสนใจมากที่สุด มุ่งหวังรอคอยมากที่สุด ก็ยังเป็นเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาเท่านั้น
ตอนที่ 550 ชิงบทเยวา
กระทั่งว่าจ้าวหงหลิงยังจินตนาการได้ว่า หากแสดงบทเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวานี้ได้ไม่ดี จะต้องเผชิญหน้ากับคำวิจารณ์และแรงกดดันมากแค่ไหน
“พี่หลิง พี่คิดว่ายังไง” หลินเยียนมองจ้าวหงหลิงที่กำลังครุ่นคิดอยู่ พร้อมเอ่ยถามพลางหัวเราะเบาๆ
“ยากมาก” หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน จ้าวหงหลิงก็ได้สติกลับมาพร้อมมองหลินเยียนอีกครั้งหนึ่ง
อันที่จริงจ้าวหงหลิงไม่อยากดับความหวังหลินเยียน แต่ความจริงมันก็เป็นแบบนี้
ที่จริงบทนี้ไม่ว่าใครจะแสดงก็เป็นเผือกร้อนทั้งสิ้น ต่อให้แสดงดีอีกสักแค่ไหน ตัวละครแบบนี้ก็ต้องถูกจับผิดอยู่ดี
มิหนำซ้ำด้วยสถานการณ์ของหลินเยียนในตอนนี้ ถ้าอยากชิงบทนี้กับหลินซูหย่า เหมือนจะทำไม่ได้เลยจริงๆ
“แฟนคลับของตัวละครตัวนี้มีมากเหลือเกิน นอกเสียจากเยวามาแสดงเอง ไม่อย่างนั้นจงอย่าไปลองออดิชันบทนี้เลย มันท้าทายมากเหลือเกิน” จ้าวหงหลิงวิเคราะห์ให้หลินเยียนฟัง
เมื่อได้ฟัง หลินเยียนก็ผงกศีรษะด้วยท่าทีเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
ถ้าพูดแบบนี้ อย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาแล้วล่ะ ก็เธอคือเจ้าตัวนี่นา
“นอกจากนี้เหมือนหลินซูหย่าตั้งใจอยากจะได้บทนี้มาก” จ้าวหงหลิงวิเคราะห์ต่อไป “ถ้าหากกองถ่ายเลเจนด์คำนึงถึงตลาดประเทศจีน ถ้าอย่างนั้นหลินซูหย่าถือว่าเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างเหมาะสมสำหรับพวกเขาจริงๆ ใครก็ตามที่อยากจะชิงบทนี้ต้องมีฝีมือการแสดงที่ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงได้เท่านั้น”
หลินเยียนกลับเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของจ้าวหงหลิง หลินซูหย่ามีความเป็นได้ที่จะได้รับบทเยวาสูงมาก การเชิญเยวาตัวปลอมครั้งก่อนก็ถือเป็นการสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองกับตัวละครเช่นกัน เพียงแต่น่าเสียดายที่เชิญตัวปลอมมา
“แน่นอนว่าถ้าเธออยากชิงบทนี้มากจริงๆ ฉันก็จะสนับสนุนเธอเช่นกัน แต่ทางที่ดีอย่าตั้งความหวังไว้มากเกินไปนักเลยนะ ทางฉันพอจะมีลู่ทางพาเธอไปออดิชันได้อยู่บ้าง” จ้าวหงหลิงมองหลินเยียน
เมื่อได้ยิน หลินเยียนก็ผงกศีรษะ “งั้นฉันจะไปลองออดิชันก็แล้วกัน เผื่อจะได้ขึ้นมา”
……
สองวันต่อมา มีทีมงานกองถ่ายเลเจนด์ติดต่อหาหลินเยียนตามที่คาดไว้ แจ้งให้หลินเยียนไปยังสถานที่ออดิชันให้ตรงเวลา
หลินเยียนตื่นแต่เช้า หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็แต่งหน้าบางๆ เท่านั้น เธอสวมชุดลำลอง ให้เผยอวี่ถังขับรถส่งตนเองไปที่สถานที่ออดิชันเรื่องเลเจนด์
“พี่สะใภ้ คุณพ่อ…ผมไม่ได้หูฝาดนะ พี่จะไปชิงบทเยวาอย่างงั้นเหรอ!”
เผยอวี่ถังมองหลินเยียนตรงที่นั่งข้างคนขับ ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“อย่ามองฉัน มองทาง” หลินเยียนเอ่ย
“อ้อๆๆ!” เผยอวี่ถังรีบเคลื่อนสายตา ตั้งใจขับรถ
“พี่สะใภ้ ผมสนใจเลเจนด์มาตั้งแต่แรกแล้ว ผมอยากให้หนังเรื่องนี้เข้าฉายสุดๆ ไปเลย พี่สะใภ้ ถ้าพี่ได้บทเยวามาจริงๆ ผมรับประกันว่าจะเหมาโรงหนึ่งรอบ…ไม่สิ เหมาสิบรอบ… แต่ พูดก็ส่วนพูดเถอะ ผมคิดว่าพี่สะใภ้เหมือนจะไม่ค่อยเหมาะกับบทเยวานี้นะครับ” เผยอวี่ถังเอ่ย
“ทำไมถึงไม่เหมาะ” หลินเยียนไม่เข้าใจอยู่บ้าง
“ผมไม่รู้เหมือนกัน ผมรู้สึกว่า นอกจากเยวาจะมาแสดงเอง ไม่อย่างนั้นใครมาแสดงก็ไม่เหมาะสม พี่สะใภ้ พี่ลองคิดดูสิครับ ชื่อเสียงกับอิทธิพลของเยวายิ่งใหญ่แค่ไหนในวงการรถแข่ง ขอแค่ไม่ใช่เยวา ผมรู้สึกว่าต่อให้เอาใครมาแสดงบทนี้ ผมก็ถือเป็นการไม่ให้เกียรติเยวาทั้งนั้น!” เผยอวี่ถังตอบ
หลินเยียน “…”
“พี่สะใภ้ เยวาไม่ใช่ตัวละครสมมติ นั่นมีหลักฐานให้ตรวจสอบอยู่เต็มไปหมดเลยนะครับ มีคลิปการแข่งสารพัดสารพัน ทำอะไรมีสไตล์เป็นของตัวเอง หากแสดงไม่ถึงเพียงนิดเดียว ก็จะทำให้แฟนคลับแอนตี้ได้ พี่สะใภ้ พี่ต้องเตรียมใจให้ดีนะครับ”
ต้องบอกว่าสมองของเผยอวี่ถังไม่นับว่าทึ่มมากนัก ความเข้าใจของเขาถือว่าตรงประเด็นเลย