บทที่ 130 ปฐมจอมจักรพรรดิคือใคร?

จอมบงการเทพยุทธ์

บทที่ 130

ปฐมจอมจักรพรรดิคือใคร?

ไม่ใช่แค่ผู้มีพลังยุทธ์ที่เป็นนิรันดร์

จําเป็นต้องสร้างผลงานที่ไม่มีใครเทียบได้ให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์ ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ในโลกเคารพนับถือและต้องได้รับการยอมรับจากใจก่อนจึงจะเรียกว่าปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษยได้

และตอนนี้ จอมจักรพรรดิโบราณที่สงสัยว่าเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ปรากฏตัวขึ้นในโลกเรียกตัวเองว่าปฐมจอมจักรพรรดิทําให้โลกต้องสั่นสะเทือน!

“หลายพันปีผ่านไปแล้ว และไฟของเผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้ายังไม่ดับลงและมันยังคงมีอยู่ในโลก…”

จอมจักรพรรดิ์สุริยะมีความสง่างาม ยืนอย่างเป็นธรรมชาติ มีผมสีดําและผ้าคลุมไหล่ดวงตาของเขามองผ่านข้ามทุกยุคทุกสมัยและทุกสิ่งในโลกอยู่ในสายตาของเขา

“ในสมัยโบราณ แม้ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จะดํารงอยู่ในโลกอย่างยากล่ายากแต่ก็ยังคงเป็นผู้ปกครองของโลกและตอนนี้มันลดลงมาถึงจุดนี้นี่เป็นการลงโทษจากฟ้าดินงั้นรึ?”

จอมจักรพรรดิสุริยะถอนหายใจเบาๆ ข้อมูลที่เปิดเผยในคําพูดของเขาทําให้สรรพชีวิตทั้งหมดในโลกต่างสั่นสะท้านเมื่อได้รู้อีกมุมหนึ่งของสมัยโบราณ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์เมื่อหลายปีก่อนและช่วงเวลานั้นก็ยาวนานกว่าล้านปีอีกด้วย

นานมาแล้วเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ครองโลกอย่างงั้นรึ? นี่เป็นเรื่องจริงหรือไม่?

ในภาคกลางสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนไม่เชื่อหลังจากได้ยินคําพูดเหล่านี้และรู้สึกรับไม่ได้และต้องการหักล้างมัน

แต่คําพูดเหล่านี้ถูกพูดโดยอดีตจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ไม่มีใครเทียบได้แม้ว่าร่างจริงจะไม่มีอยู่แล้วในตอนนี้เป็นเพียงการฟื้นคืนชีพและมาสู่โลกเท่านั้นซึ่งไม่มีสิ่งมีชีวิตใดกล้าตั้งค่าถามและลบล้างคําพูดของเขา

ปฐมจอมจักรพรรดิก้าวเดินไปบนดินแดนทั้งห้าอันยิ่งใหญ่ของภาคกลาง

ฟ้าดินเงียบสงบเส้นทางขึ้นลงระเบียบและกฎแห่งฟ้าดินทั้งหมดถูกเหยียบย่าอยู่ใต้เท้าของเขาและมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นในโลกนี้

ปฐมจอมจักรพรรดิที่อยู่ที่นี่มาช้านาน ในตอนนี้ทุกวิถีแห่งเต๋กําลังสะท้อนกับเขาฟ้าดินกําลังสั่นสะเทือนเหนือเก้าสวรรค์ความรู้สึกอันไร้ที่สิ้นสุดเกิดนิมิตมากมายดอกบัวสีทองเข้ามาในโลกเหล่าเทพเจ้าและอสูรต่างคุกเข่าลง

นอกจากนี้ยังมีม้วนภาพโบราณที่เชื่อมโยงกับหมื่นวิถีซึ่งปรากฏออกมาอย่างอิสระและดูเหมือนว่าจะทําการกระทําแสดงให้เห็นทุกอย่างในสมัยโบราณ

มันเป็นม้วนภาพโบราณที่มีกระแสพลังแห่งความผันผวนของยุคสมัยหมุนเวียนอยู่

ในม้วนภาพ สวรรค์และโลกนั้นคลุมเครือพลังแห่งจิตสรรพชีวิตต่างกระจัดกระจายวิถีเกิดความโกลาหลและกฎฟ้าดินต่างๆไม่ชัดเจนเช่นเดียวกับฉากในสมัยโบราณ

ระหว่างฟ้าดิน มีสัตว์ป่ามากมายกําลังอาละวาด

ในขณะนั้น สรรพชีวิตทั้งหมดมีความรุ่งเรือง และเผ่าพันธุ์มนุษย์ถือกําเนิดขึ้น พวกเขาอ่อนแอมากและไม่ได้ฝึกฝนเลยแม้แต่น้อย

นี่คือฉากเริ่มต้นของโลกที่แท้จริงซึ่งเป็นปีที่ยากล่าบากและอ่อนแอที่สุดในตอนที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ถือกําาเนิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในปีที่ยากลําบากและมืดมนนี้เหล่าผู้ฝึกยุทธ์มนุษย์ยังคงปรากฏตัวอยู่ดิ้นรนเปิดเส้นทางแห่งการฝึกยุทธ์ให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์เพื่อต่อสู้กับเผ่าพันธุ์อื่นๆที่ท่องไปทั่วโลกและเพื่อช่วยให้เผ่าพันธุ์มนุษย์กลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

และในที่สุด ก็มีคนคนหนึ่งถือกําเนิดขึ้นในโลกเขาก้าวไปยังจุดสูงสุดบนเส้นทางของการฝึกยุทธ์เขาเป็นคนที่มีอํานาจคนแรกที่ครองอํานาจสูงสุดในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์!

เส้นทางของเขา เปิดเผยถึงความลับดั้งเดิมที่สุดระหว่างฟ้าดิน

คัมภีร์โบราณที่เขาสร้างขึ้นได้กลายเป็นคัมภีร์สูงสุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์และได้จุดประกายความมืดแห่งยุคสมัยและชี้ให้เห็นทางข้างหน้า

แม้แต่จอมจักรพรรดิโบราณที่เกิดภายหลังในเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ยังยืมและอ้างถึงคัมภีร์โบราณที่เขาสร้างขึ้น

เขามีพลังการต่อสู้ที่ไม่มีใครเทียบได้ มีความน่าสะพรึงกลัว และเป็นนิรันดร์ในการต่อสู้ทั่วโลกและมีความเหงาอันไม่มีที่สิ้นสุด

เขายังเป็นผู้นําการเติบโตของเผ่าพันธุ์มนุษย์และกลายเป็นผู้ครอบครองจักรวาลอย่างแท้จริง!

เขาเป็นจอมจักรพรรดิคนแรกของเผ่าพันธุ์มนุษย์ตั้งแต่กําเนิดโลก!

ฝึกฝนวิถีแห่งสุริยะ กลายเป็นจอมจักรพรรดิสุริยะ!

นอกจากนี้เนื่องจากความสําเร็จสูงสุดของเขาต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาได้รับเกียรติให้เป็นปฐมจอมจักรพรรดิโดยเผ่าพันธุ์มนุษย์อีกด้วย!

นี่เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและเป็นข้อพิสูจน์ถึงความเคารพอย่างสูงสุด

มีจอมจักรพรรดิมากเท่าใดในสมัยโบราณ

พวกเขาทั้งหมดล้วนก้าวไปยังจุดสูงสุด แล้วทําให้ทั้งโลกต้องสั่นสะเทือน

แต่ตําแหน่งปฐมจอมจักรพรรดิของเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่คู่ควร

เพราะเขาเป็นผู้บุกเบิกและเป็นผู้จุดประกายอนาคตอันมืดมิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์!

ชื่อของปฐมจอมจักรพรรดินั้นสมควรได้รับแล้ว!

“เผ่าพันธุ์มนุษย์…จักรพรรดิคนแรกตั้งแต่กําเนิดโลก!”

“นี่คือบรรพบุรุษที่แท้จริงของเผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้า!”

“จอมจักรพรรดิสุริยะโบราณ! ปฐมจอมจักรพรรดิ!”

“นี่คือต้นกําเนิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้างั้นรึ? เส้นทางข้างหน้าของการฝึกยุทธ์นั้นมืดมิดแต่ด้วยความแข็งแกร่งของตัวเองเขาได้เปิดเส้นทางสู่ท้องฟ้าเพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเราส่องกระจ่างความมืดแห่งนิรันดร์

ชื่อของปฐมจอมจักรพรรดินั้นสมควรได้รับอย่างยิ่ง!”

“ลูกหลานของคนรุ่นหลัง พบกับปฐมจอมจักรพรรดิ!”

“พบกับปฐมจอมจักรพรรดิ!”

ม้วนภาพโบราณเกิดจากความเห็นอกเห็นใจของหมื่นวิถีและกฎของฟ้าดินแสดงให้เห็นความสําเร็จสูงสุดและความฉลาดที่ไม่มีใครเทียบได้ของปฐมจอมจักรพรรดิในอดีต

ในตอนนี้ เผ่าพันธุ์มนุษย์นับอนันต์คุกเข่าลงคํานับและตะโกนด้วยความจริงใจให้กับจอมจักรพรรดิสุริยะในฐานะจอมจักรพรรดิคนแรกนับตั้งแต่พิภพถือกําเนิดขึ้นมาและแสดงความเคารพและ ชื่นชมจากภายในใจของพวกเขา!

จากนั้น สิ่งมีชีวิตจากทุกเผ่าพันธุ์ต่างก็ตกใจและไม่สามารถอธิบายความรู้สึกนี้ได้หัวใจของพวกเขาเต้นแรงอารมณ์ของพวกเขาตอนนี้ราวกับพายุโหมกระหน่าและเป็นการยากที่จะสงบลง

ปฐมจอมจักรพรรดิ!

จอมยุทธ์ระดับสุดยอดคนแรกของเผ่าพันธุ์มนุษย์มีอยู่จริง!

“ภูเขาและแม่น้ำนั้นงดงามและเผ่าพันธุ์มนุษย์จะคงอยู่ตลอดไป หลังจากล้านปีผ่านไปข้าได้มองย้อนกลับไปและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ข้าก็ไม่เสียใจอีกต่อไปแล้ว”

จอมจักรพรรดิสุริยะกระซิบเบาๆ ถ้อยคําแฝงไปด้วยความพึงพอใจและความเหงาในน้ำเสียงของเขา

ความรุ่งโรจน์เปลี่ยนไปในหมื่นปี หลายล้านปีผ่านไปโลกยังคงเหมือนเดิม และเผ่าพันธุ์มนุษย์ยังคงดํารงอยู่ แต่นี้ไม่ใช่ยุคของเขาอีกต่อไปแล้ว

ระหว่างฟ้าดิน วิถีแห่งเต๋นับพันคร่ําครวญเหมือนจะเคลื่อนไหวไปตามอารมณ์ของปฐมจอมจักรพรรดิ

แต่ทว่า ความรู้สึกเหงาเกิดขึ้นในใจของปฐมจอมจักรพรรดิเพียงครู่เดียวเท่านั้น แล้วก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

เขากําลังก้าวไปข้างหน้า ราวกับแสงนิรันดร์ มองดูทิวทัศน์ของภูเขาและแม่น้ำโดยไม่มีสิ่งใดมาบดบัง

ภูเขากลับกลาย ท้องทะเลอันกว้างใหญ่เดือดแห้งหายจอมจักรพรรดิสุริยะมองลงมายังโลกเฝ้ามองดูระหว่างฟ้าดินทุกหนทุกแห่ง

เขาเฝ้ามองอย่างเงียบๆ

มองดูโลกที่คุ้นเคยนี้

เมื่อมองไปยังเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เขาปกป้องในอดีต

ญาติสนิทมิตรสหายในอดีตได้ล่วงลับไปแล้วกับสายลมเมื่อหลายล้านปีก่อน

โลกยังคงเหมือนเดิม และเผ่าพันธุ์มนุษย์ยังคงเหมือนเดิม

สําหรับจอมจักรพรรดิสริยะนี่เป็นสิ่งที่น่ายินดีที่สุดในโลกอยู่แล้ว

ชีวิตนี้เพียงพอแล้วที่จะไม่เสียใจ

ในที่สุด เขาก็กลับมาที่ต้นหม่อนศักดิ์สิทธิ์

เขามองไปที่จักรพรรดินีชีหยางที่คุกเข่าลงด้านหน้าด้วยท่าทางนอบน้อม และกล่าวอย่างช้าๆ

“เจ้ามีสายเลือดพลังสุริยะในร่างกายของเจ้า แม้ว่าจะไม่ใช่ร่างเทพสุริยะที่บริสุทธิ์ที่สุดแต่หลังจากวันรุ่งที่เจ้าได้ฝึกยุทธ์แล้วก็ยังคงมีโอกาสที่จะเปลี่ยนเป็นร่างเทพสุริยะได้อีกครั้ง

เจ้าจงตั้งใจอย่างหนักเพื่อฝึกฝนท้องฟ้าแห่งอนาคตของเผ่าพันธุ์มนุษย์ยังคงต้องการให้เจ้าสนับสนุน

ปฐมจอมจักรพรรดิ์ยกมือของเขาไปข้างหน้าและชี้นิ้วไปที่ระหว่างคิ้วของจักรพรรดินีชี้หยางจารึกศักดิ์สิทธิ์โบราณที่ไร้ที่สิ้นสุดพุ่งออกมาจากปลายนิ้วของเขาและถูกจารึกไว้ในจิตสํานึกอัน ศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดินีชี้หยาง

มันเป็นคัมภีร์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งฟ้าดินและเป็นคัมภีร์ต้นกําเนิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์

คัมภีร์โบราณสุริยะ!

หลังจากทําทั้งหมดนี้แล้วปฐมจอมจักรพรรดิก็มองย้อนกลับไป มองไปที่ต้นหม่อนศักดิ์สิทธิ์อันวิจิตรที่อยู่ห่างออกไปหกจ้างด้วยท่าทางที่สงบและมีความสุขในดวงตาของเขา

“หลายล้านปีผ่านไป และยุคของข้าได้ผ่านไปแล้ว และมีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ยังคงอยู่

ข้ารู้แจ้งที่นี่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และข้ายังคงถูกฝังอยู่ที่นี่หลังจากการตายของข้าบางที่นี่อาจเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสมที่สุดสําหรับข้าแล้ว”

ใต้ต้นหม่อนศักดิ์สิทธิ์ โลงศพโบราณสั่นสะเทือนและปิดลง ในที่สุดพลังสุริยะก็ไม่ได้แผ่กระจายอีกต่อไป
และร่างของจอมจักรพรรดิสุริยะก็พร่ามัวและเริ่มสลายไป

พลังสุริยะเพิ่มสูงขึ้น และฝนที่ตกไม่รู้จบก็โปรยปรายลงมาจากหุบเขาต้นหม่อนศักดิ์สิทธิ์ตกลงบนดินแดนอันไร้ที่สิ้นสุดในภาคกลางและโปรยปรายลงสู่มนุษย์ทุกคน

ณ เวลานี้ เหล่ามนุษย์ทุกคนต่างรู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาดูเหมือนจะได้รับการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

ในขณะเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีเสียงเบาบางเกิดขึ้น ซึ่งดูเหมือนจะดังอยู่ในหัวใจของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งมวล

“กาลเวลาล่วงเลยผ่านไป หลายปีที่ยากในการติดตาม ความงามที่สลายหายไปสิ่งที่เรียกว่าสู่นิรันดร์มันหมายความว่าอย่างไรกัน?

ไม่มีอะไรมีความหมายมากไปกว่าการได้เห็นเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของลูกหลานที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความมีชีวิตชีวา

ยุคที่เป็นของข้าได้ผ่านไปแล้วแต่ยุคที่เป็นของเผ่าพันธุ์มนุษย์เพิ่งเริ่มต้นขึ้น!

เผ่าพันธุ์มนุษย์…ไฟจะไม่มีวันดับสิ้น!”