บทที่ 1033+1034 โดย Ink Stone_Romance
บทที่ 1033 ไม่สามารถถ่ายเทความรักไปที่ร่างเธอได้
เย่หงเฟิงแข็งทื่อไปทันที มือฉวยเอี๊ยมผืนนั้นไว้ ดูทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง “นี่…” ใบหน้าเฉิดฉันแดงเรื่อก่อนแล้วจึงขาวซีด จู่ๆ ก็คุกเข่าลงเสียงดังตุ้บ น้ำตาเริ่มหลั่งรินลงมา “อาจารย์ ขอท่าน…ขอท่านโปรดอย่าถามเลยเจ้าค่ะ หงเฟิง…หงเฟิงไม่อาจให้ท่านรับผิดชอบได้ หงเฟิงรู้ว่าท่านชมชอบแม่นางกู้ หงเฟิงจะไม่แพร่งพรายออกไปเด็ดขาด…”
หลงซือเย่ไร้ซึ่งวาจา เดิมทีเขายังโอบอุ้มความหวังสายน้อยไว้ หวังว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นความจริง แต่ตอนนี้…
ทั้งร่างเขาคล้ายจมดิ่งลงไปในธารน้ำแข็ง ราวกับพบพานหายนะ เบื้องหน้ามืดมนลงทันที มองไม่เห็นแสงแห่งความหวังอันใดอีกต่อไป
เขาก้าวลงจากเตียงเงียบๆ จัดการตัวเองเล็กน้อยแล้วเดินออกไป
ยามที่เดินผ่านเย่หงเฟิงเขาก็ไม่ได้หยุดฝ่าเท้าเลย ถึงขั้นไม่มองเธอเลยสักแวบ
เขาทราบความคิดของเย่หงเฟิง แต่เขาแค่ติดค้างเธอไว้ในชาติก่อน ด้วยเหตุนี้จึงรับเธอเป็นศิษย์ คิดจะอบรมเลี้ยงดูให้กลายเป็นยอดฝีมือเพื่อชดเชยให้ เขาไม่ได้คิดกับเธอในแง่นั้น แม้ว่าเขาจะเป็นผู้สร้างร่างนี้ของเธอขึ้นมาก็ตาม!
แม้ว่ารูปลักษณ์ของเธอจะเหมือนกู้ซีจิ่วในชาติก่อนทุกอย่างก็ตาม…
แต่เขาก็ไม่สามารถถ่ายเทความรักไปที่ร่างเธอได้
ถึงแม้จะจดจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ แต่ตนเป็นประเภทที่เมาแล้วไม่ทำตัวเหลวไหล ยืนยังยืนแทบไม่อยู่ ต่อให้เมาจนทำตัวเหลวไหล เข้าใจผิดว่าเย่หงเฟิงเป็นกู้ซีจิ่วจนไปข่มเหงเธอ ขอเพียงเธอไม่ยินยอม ก็สามารถผลักเขาออกได้ทันที…
ถึงอย่างไรเธอในตอนนี้ก็มีพลังวิญญาณขั้นห้าตอนกลางแล้ว บุรุษทั่วไปไม่มีทางเขาใกล้ตัวเธอได้
ตอนนี้เธอปรุงข้าวสารให้กลายเป็นข้าวสุกแล้ว การทำเช่นนี้ในยามนี้เป็นเพียงการบอกปัดเพื่อตอบรับเท่านั้น…
เย่หงเฟิงมองแผ่นหลังเขาหายลับประตูไป ลอบกำมือแน่นอย่างข่มอารมณ์ไว้ไม่ได้ นัยน์ตามีประกายมืดมนพาดผ่านแวบหนึ่ง
….
หลังจากกู้ซีจิ่วตามตี้ฝูอีกลับมาที่โรงเตี๊ยมก็ค่อนข้างกระวนกระวายใจ
เธอกลับมาแบบนี้หากว่าหลงซือเย่วางมือไปจริงๆจะทำยังไง? ตอนนี้เขาเป็นความหวังเดียวในการฟื้นฟูตี้ฝูอี!
เธอนอนพลิกไปพลิกมาทั้งคืน รุ่งสางวันถัดมาหลังจากตื่นนอนก็รอคอยการมาของหลงซือเย่
หลงซือเย่เคยนัดหมายกับเธอวันนี้ตอนแปดโมงเช้าจะมารวมตัวกับเธอ เพื่อทำการรักษาตี้ฝูอี
นึกไม่ถึงว่าเธอรออยู่กว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่เห็นเงาของหลงซือเย่เลย เขาถึงขั้นไม่ส่งเด็กรับใช้มาแจ้งเธอให้เธอทราบเลย
กู้ซีจิ่วเซื่องซึม เมื่อก่อนหลงซีรักษาคำพูดยิ่งนักเสมอมา ต่อให้ล่วงเกินให้เขาไม่พอใจ แต่ถ้าหากเขารับปากเรื่องใดไว้แล้วเขาก็จะส่งคนมาทำแทน แต่ตอนนี้เขากลับผิดนัด…
ดูเหมือนเขาคิดจะวางมือไม่สนใจแล้วจริงๆ
เธอไม่ยอมถอดใจ เดิมทีคิดจะไปหาตัวคนที่สำนักถามสวรรค์เสียเลย กูว่ายังเหลือหนทางให้กอบกู้สถานการณ์หรือไม่ ทว่าถูกตี้ฝูอีสกัดไว้ บอกว่ามีละครฉากใหญ่ให้เธอชม ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรลากเธอไปที่ห้องของตน
กู้ซีจิ่วไม่เข้าใจต้นสายปลายเหตุ จวบจนตี้ฝูอีหยกป้ายหยกที่ใช้สื่อสารกับลูกน้องออกมา กดเปิดป้ายหยก บนป้ายหยกปรากฏภาพขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ กู้ซีจิ่วจึงได้ชมละครฉากใหญ่อย่างแท้จริงๆ…
….
คืนนี้ก็เป็นคืนที่วังหลวงของอาณาจักรเฟยซิงไม่อาจข่มตาหลับได้เช่นกัน
ยามที่หรงเช่อพาจิ้งจอกดำกลับมาถึงเมืองหลวงในคืนนั้น เป็นรุ่งสางของวันถัดมาแล้ว
ในช่วงนี้เขาได้รับรายงานจากลูกน้องแล้วเช่นกัน การลอบสำเร็จหรงฉู่เมื่อคืนสำเร็จลุล่วงก่อนฟ้าสาง พรรคพวกฝ่ายหรงฉู่ก่อกบฏแล้ว
ข้างกายหรงฉู่มียอดฝีมือมากมายดั่งเมฆา องครักษ์นับไม่ถ้วน นักฆ่าที่ลอบสังหารเขาเป็นผู้พิสดารในบรรดายอดฝีมือ เป็นวิชาพรางกายชนิดหนึ่ง เพียงแต่ขณะที่ลอบสังหารหรงฉู่ก็เผยตัวออกมา ถูกรุมฟันจนสิ้นชีพ
มีคนจำได้ว่านักฆ่าคนนั้นเป็นองครักษ์เงาคนหนึ่งที่ยู่ข้างกายองค์รัชทายาทหรงเจียหลัว ดังนั้นเสียงร่ำลือว่าหรงเจียหลัวเป็นฆาตกรสังหารผู้อื่นจึงหนาหูขึ้นเรื่อยๆ พรรคพวกฝ่ายหรงฉู่จึงรวมกันในวังหลวงเพื่อแสดงความเดือดดาลโศกสลดอาลัยต่อจักรพรรดิซวน ขอให้จักรพรรดิซวนให้ความเป็นธรรมแก่งองค์ชายหรงฉู่ ลงโทษฆาตกรอย่างสาสม
————————————————————————————-
บทที่ 1034 เขาจะรับไหวได้อย่างไร?
จักรพรรดิซวนประชวรหนัก การสูญเสียลูกหลานในยามชราเดิมทีก็เป็นความกระทบกระเทือนที่ไม่อาจทนรับได้อยู่แล้ว เป็นธรรมดาที่เขาจะทั้งปวดใจทั้งโกรธกริ้ว หลับไม่ลงทั้งคืน ทั้งต้องปลอบขวัญพรรคพวกฝ่ายหรงฉู่ ทั้งต้องส่งคนไปสืบสวนเรื่องนี้ วุ่นวายกันไปทั้งวังอยู่ช่วงหนึ่ง
ทุกอย่างเป็นไปตามที่หรงเช่อคาดไว้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงโล่งอก
องครักษ์ลับที่เขาจัดวางไว้ในเมืองหลวงเหล่านั้นมีอยู่ไม่น้อย คนเหล่านี้ทยอยส่งข่าวมาให้เขา ล้วนไม่พบร่องรอยของหรงเจียหลัวเลย…
นี่ทำให้หรงเช่อวางใจยิ่งขึ้น
เพียงต่ถึงอย่างไรในใจเขาก็ยังมีปมอยู่ เกรงว่าหรงเจียหลัวจะยังไม่ตายแล้วหวนกลับมา ดังนั้นเขาต้องรีบจัดการโดยเร็ว ขึ้นครองบัลลังก์ก่อน
แน่นอนว่าเขาลอบส่งลูกน้องไปปิดกั้นถนนทุกสายที่เข้าสู่เมืองหลวงแล้ว รวมไปถึงรถม้าต่างๆ ที่เหาะเหินบนฟ้าได้เหล่านั้น…
ก่อนที่เขาจะขึ้นเป็นจักรพรรดิ คนทั้งหลายรถม้าทั้งปวงล้วนต้องตรวจสอบอย่างเข้ามงวด! เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาดขึ้น
ลูกน้องของเขาย่อมไปจัดการแล้ว
เรื่องการตายด้วยอุบัติเหตุของหรงเจียหลัวก็ไม่อาจโอ้เอ้ล่าช้าได้ ดังนั้นถึงแม้เขาจะเร่งรีบเดินทางอย่างลำบากลำบนอยู่ทั้งคืน เขาก็ยังเข้าเฝ้าพร้อมกับจิ้งจอกดำ
จักรพรรดิซวนก็ไม่ได้นอนทั้งคืนเช่นกัน เมื่อได้ยินข่าวว่าเขากลับมาแล้วก็เรียกตัวเข้าพบทันที
เนื่องจากจักรพรรดิซวนประชวรหนัก ลุกจากเตียงแทบไม่ได้ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะเรียกผู้ใดเข้าพบล้วนเป็นการพบในห้องบรรทมของเขา
จักรพรรดิซวนคล้ายจะชราลงหลายสิบปีในชั่วข้ามคืน เส้นผมเป็นสีดอกเลาไปกว่าครึ่ง สีหน้าซีดเหลือง สองตาไร้แวว ไม่มีราศีปรีชาห้าวหาญดั่งในอดีตอีกแล้ว
เห็นได้ชัดเจนยิ่งนักว่าการตายของหรงฉู่สร้างความสะเทือนใจให้เขาจริงๆ…
หรงเช่อมองเขาอยู่เงียบ จากการตัดสินของเขา จักรพรรดิซวนเป็นเปลวเทียนกลางสายลมแล้ว มีชีวิตได้ไม่ถึงเดือน เขาสามารถเติมเชื้อไฟได้อีก…
ด้วยเหตุนี้เขาจึงคุกเข่าลงบนพื้นซ้ำเติมจักรพรรดิซวนอีกครา ร่ำไห้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเดินทางกลับ ได้ถูกเหยี่ยวไสยดำโจมตี หรงเจียหลัวพลันหล่นจากที่สูงเป็นหรือตายไม่อาจทราบได้
ไม่ทันรอให้เขาได้พูดจบ จักรพรรดิซวนก็กระอักโลหิตออกมาทันที!
เขาไม่กล้าเชื่อเลยจริงๆ แต่ด้านหน้ามีหลงเช่อที่พูดจามีหลักฐานน่าเชื่อถือ ด้านหลังมีจิ้งจอกดำที่ร่ำไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือดช่วยยืนยัน ต่อให้เขาไม่อยากเชื่อก็ไม่มีหนทางแล้ว
หรงเจียหลัวเป็นโอรสที่เขาให้ความสำคัญที่สุด ยามนี้เขาประสบเหตุไม่คาดฝัน เขาจะรับไหวได้อย่างไร?
ได้รับข่าวการตายของโอรสสองคนภายในคืนเดียว จักรพรรดิซวนแทบจะไม่ไหวแล้ว เขากระอักโลหิตออกมาหลายคำ สลบไปทันที
หรงเช่อรีบเข้าไปพยุงเขาไว้ ด้านหนึ่งสั่งให้จิ้งจอกดำรีบไปเรียกหมอหลวงมา อีกด้านก็ตะโกนเรียกจักรพรรดิววนไม่อยู่ “เสด็จพ่อ เสด็จพ่อ!”
ห่างออกไปนับพันลี้ ฉากนี้กำลังปรากฏอยู่บนป้ายหยกของตี้ฝูอี
ภาพบนป้ายหยกชัดเจนยิ่งนัก ชัดเจนจนแทบมองเห็นว่าขนคิ้วจักรพรรดิซวนมีกี่เส้น
กู้ซีจิ่วดูอยู่พักหนึ่ง เอ่ยขึ้นมาอย่างอดไว้ไม่อยู่ “ดูจากเรื่องนี้ จักรพรรดิซวนคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่วันแล้ว”
ตี้ฝูอีก็มองอยู่เช่นกัน “อืม ดูจากสีหน้าของเขา น่าจะมีอายุขัยอีกสิบวัน เพียงแต่เกรงว่าหรงเช่อคงไม่ปล่อยให้เข้าอยู่พ้นสิบวัน”
“ที่ท่านพูดคือหรงเช่อจะสังหารเขางั้นหรือ? เพราะอะไร?”
“หรงเช่อผู้นี้กระทำการถี่ถ้วนรอบคอบ เขาไม่ยินยอมให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันแม้เพียงน้อยเด็ดขาด การหายไปของหรงเจียหลัวเป็นเงามืดในใจเขา เพื่อป้องกันไม่ให้หรงเจียหลัวกลับมาเป็นตัวแปร เขาจะต้องรีตัดความยุ่งยากวุ่นวาย ให้จักรพรรดิซวนกำหนดราชโองการก่อนแล้วค่อยลงมือ อาณาจักรไม่อาจขาดกษัตริย์ได้แม้เพียงวันเดียว เมื่อจักรพรรดิซวนสิ้นชีพ เขาจะเถลิงถวัลยราชสมบัติขึ้นเป็นจักรพรรดิทันที พอเขาเป็นจักรพรรดิแล้ว กุมอำนาจเป็นตายไว้ในมือ ต่อให้หรงเจียหลัวรอดชีวิตกลับมาก็ไม่อาจก่อคลื่นลมอันใดได้อีก…”
กู้ซีจิ่วมองดวงหน้าน้อยๆ ของตี้ฝูอีที่มุมปากหยักขึ้นนิดๆ “ในเมื่อท่านคาดการณ์แผนนี้ของเขาได้ จะต้องคิดแผนยับยั้งตลบหลังเอาไว้แล้วใช่หรือไม่?”
————————————————————————————-