Ch.102 – สัตว์ร้ายเกราะคริสตัล

Translator : Muntra / Author

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.102 – สัตว์ร้ายเกราะคริสตัล

 

ฉินเฟิงนำเกราะที่ดูบุบบี้ไม่เป็นทรง ออกมาจากแหวนมิติบนนิ้วของเขา

 

เนื่องจากเขาได้รับแต้มสงครามมามากมายจากการปราบปรามกองทัพซากศพ ฉินเฟิงเลยนำส่วนหนึ่งของมันไปแลกเปลี่ยนกับอุปกรณ์รูนมิติ เพื่ออำพรางสถานะพลังมิติของไป๋หลี

 

นอกจากนี้ มันยังช่วยให้สะดวกสบายกว่าเดิมมาก

 

ทันทีที่ชุดเกราะราชันย์อัศวินปรากฏขึ้น หลิวเซินซานก็เบิกตากว้างอ้าปากค้าง

 

เห็นได้ชัดว่าเกราะนี้ถูกสร้างขึ้นโดยสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากโลกอื่น มันไม่มีรังสีแสงเกิดขึ้นหลังจากทำการหลอมรวมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่เหมือนดั่งอุปกรณ์รูน แถมรูปลักษณ์ยังดูเก่าแก่ดั้งเดิม เรียบง่ายกว่ามาก และวัตถุดิบที่ใช้ปรับแต่งนี้ก็เป็นระดับราชันย์สัตว์ร้ายเป็นอย่างน้อย

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าหลังจากที่เขาหลอมคืนเจ้าสิ่งนี้แล้ว แม้ว่าจะต้องสูญเสียปริมาณส่วนหนึ่งไป แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาย่อมเป็นวัตถุดิบระดับราชันย์อย่างแน่นอน

 

วัตถุดิบระดับราชันย์เลเวล F มันมีค่าเท่าไหร่น่ะหรือ? อย่างน้อยๆก็หลักสิบล้าน!

 

แม้ร้านขายอุปกรณ์รูนของเขา จะเป็นร้านค้าขนาดใหญ่และมีสินค้ามากมาย แต่สภาพคล่องหรือเงินที่ใช้หมุนเวียนมันมีไม่ถึงสิบล้านด้วยซ้ำ

 

“เอ่อ … คุณลูกค้าอยากให้ฉันเป็นคนหลอมคืนจริงๆน่ะหรือ?”

 

ของดีๆเช่นนี้ มันควรจะมอบหน้าที่หลอมคืนให้กับบริษัทใหญ่ โดยจักรกลหลอมคืนที่มีความแม่นยำระดับสูงไม่ใช่หรือ? ไม่อย่างวัตถุดิบบางส่วนอาจเกิดการเสียหายได้ง่ายๆ

 

“ร้านค้าเล็กๆเองก็มีข้อดีของมัน ยังไงซะที่นี่ก็มีเทคโนโลยีพร้อมอยู่แล้วนี่ใช่ไหม?” ฉินเฟิงกล่าว

 

พอได้ยินคำว่า ‘ข้อดี’ จากปากอีกฝ่าย จู่ๆหลิวเซินซานก็คล้ายจะตระหนักได้ว่า ฉินเฟิงต้องการเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ บางทีที่มาของเกราะนี้อาจไม่สมควรจะมีใครล่วงรู้

 

เมื่อค้นพบคำตอบ จึงเป็นธรรมดาที่หลิวเซินซานจะไม่อยากพลาดธุรกิจนี้

 

“มีอยู่แล้วคุณลูกค้า ค่าใช้จ่ายในการหลอมคืน ราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 8 ล้าน และคุณต้องวางเงินมัดจำ1/10 ทางเราจะผลิตจนเสร็จสมบูรณ์ภายใน 3 วัน” หลิวเซินซานกล่าว

 

“ตกลง”

 

ฉินเฟิงพยักหน้ายอมรับ และเซ็นสัญญากับอีกฝ่าย จ่ายเงิน พร้อมทิ้งหมายเลขโทรศัพท์ เดินออกจากประตูไป

 

อย่างไรก็ตาม แทนที่เขาจะก้าวขึ้นไปบนรถศึกเลย ตนกลับเดินเข้าไปในโรงแรมที่ตั้งอยู่ข้างๆแทน

 

เจ้าของโรงแรมนี้ อายุราวๆ 37 – 38 ปี แต่หน้ายังเด็กมาก ยังไงก็ตาม ฉินเฟิงทราบดีว่าเธอคือแม่ของหลิวซู หรือก็คือภรรยาของหลิวเซินซานนั่นเอง

 

โรงแรมแห่งนี้และร้านขายอุปกรณ์รูนเป็นธุรกิจของตระกูลหลิว มีพื้นที่กว้างขวาง เหนือขึ้นไปบนร้านขายอุปกรณ์รูนเองเป็นห้องสวีทของโรงแรม กล่าวได้ว่าหากไม่มีพื้นเพที่แข็งแกร่ง คงไม่มีความมั่งคั่งถึงขนาดนี้

 

ยังไงก็ตาม โปรดอย่าสงสัยสถานะของผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล F เลย สำหรับเมืองนี้ แม้ว่าหลิวซูจะมีอายุเพียง 20 ปี แต่ด้วยความแข็งแกร่งถึงเลเวล F หากเทียบกับสถานที่ชุมชนทางตอนเหนือ เธอมีสถานะสูงกว่าซูซิงฝูซะอีก

 

หลังจากเข้าพักในโรงแรมแล้ว ฉินเฟิงก็เริ่มมุ่งสมาธิเข้าสู่การฝึกฝนทันที

 

หลังจากที่กินยาฟ้าฟื้นไปนับไม่ถ้วน เดิมทีกำลังภายในของฉินเฟิงก็พร้อมยกระดับไปถึงขั้น F4 แล้ว และในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย เขายังได้ทำการดูดกลืนกำลังภายในของสองผู้ใช้วรยุทธโบราณมาอีกด้วย

 

เพียงแต่ตอนนี้ตันเถียนของเขากว้างมากขึ้น มันเลยไม่จำเป็นต้องได้รีบใช้พลังดูดกลืนในทันทีแบบทุกครั้งก็เท่านั้นเอง

 

เนื่องจากปัจจุบันเขามาถึงสถานที่ปลอดภัยแล้ว และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในอนาคต ฉินเฟิงจึงตั้งใจที่จะกลืนกินพวกมันในตอนนี้

 

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

 

กำลังภายในของผู้ใช้วรยุทธโบราณที่ดูดมาก่อนหน้านี้ ไหลไปตามเส้นลมปราณของฉินเฟิง เสริมแกร่งให้เขา ถูกนำไปหลอมรวมในแก่นอบิลิตี้ และถูกส่งกลับมายังตันเถียนในสภาพสมบูรณ์แข็งแรงอีกครั้ง

 

ก้าวขึ้นสู่เลเวล F4!

 

แม้ปริมาณกลุ่มหมอกกำลังภายใน ในตันเถียนจะมีจำนวนเทียบเท่าแค่ในเลเวล F4 แต่ในด้านของความแข็งแกร่ง ฉินเฟิงแกร่งกว่าผู้ใช้วรยุทธโบราณทั่วๆไปกว่า 10 เท่า!

 

จากนั้น ฉินเฟิงก็นำเอาโครงกระดูกอีกสองกองชิ้นออกมา

 

ไม่ต้องสงสัยเลย ว่ากระดูกทั้งสองนี้ หนึ่งคือของราชันย์อัศวิน อีกหนึ่งคือของชุดคลุมดำกระหายเลือด แต่ในส่วนของชุดคลุมดำจะมีน้อยกว่า เนื่องจากต้องแบ่งปันกับเลเวล E ทุกๆคนที่เข้าร่วมการปราบปราม แต่ฉินเฟิงก็ยังกำไรอยู่ดี เพราะเขาแอบฉกแก่นอบิลิตี้ของมันมาแล้วก่อนหน้านั้น

 

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

 

พลังกลืนกินปะทุขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ฉินเฟิงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ากระดูกของเขากำลังแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

และสีของกระดูกเอง ก็ค่อยๆถูกย้อมจนเป็นสีดำ แวววาวราวกับเหล็ก!

 

ในความเป็นจริง สองกองกระดูกของสองราชันย์นี้ เทียบไม่ได้กับมือเจ้านายของมัน แต่มือที่ว่านั่นมันเล็กเกินไป และอย่างที่บอกว่าตามกฏเกณฑ์ของมิติ หากมันโผล่มาก็จะถูกลดพลังลด ดังนั้นเลยช่วยเสริมแกร่งให้ฉินเฟิงได้นิดหน่อยเท่านั้น

 

ในทางตรงกันข้าม กระดูกระดับราชันย์ทั้งสองนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง หลังจากดูดกลืนมัน เลยส่งผลให้กระดูกของฉินเฟิงทานทนขึ้นตาม

 

กร๊อบ!

 

ทั้งร่างของฉินเฟิงส่งเสียงลั่น หากสังเกตดีๆ จะพบว่าความสูงของเขาเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ตอนนี้มันเพิ่มขึ้นไปเป็น 1.81 ม.!

 

“ฟู่ว .. ”

 

ฉินเฟิงลืมตาขึ้น และรู้สึกแค่ว่าร่างกายของเขาครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่

 

บางทีความแข็งแกร่งของมวลกระดูกระดับนี้ อาจมีเพียงระดับราชันย์สัตว์ร้ายเท่านั้นที่ครอบครองได้

 

และมันคงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่า ร่างกายของฉินเฟิงในปัจจุบัน เทียบเท่าได้กับราชันย์สัตว์ร้าย!

 

สุดท้าย ฉินเฟิงก็นำเอาแก่นอบิลิตี้ของชุดคลุมดำกระหายเลือดออกมา

 

หลังจากฝึกฝนเล็กๆน้อยๆ พลังสมาธิก็ยังอยู่แค่เลเวล F3 แม้ว่ามันจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับทางฝั่งผู้ใช้วรยุทธโบราณ แต่ก็นับว่าเพียงพอแล้ว

 

ท้องฟ้าเริ่มมืด ฉินเฟิงจึงตัดสินใจพาเสี่ยวไป๋ลงไปยังโถงอาหารชั้นล่าง เพื่อรับประทานมื้อค่ำ

 

โถงชั้นล่างเต็มไปด้วยอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ผู้คนต่างนั่งจับกลุ่มกัน บ้างสาม บ้างห้าคน สนทนาโต้ตอบจนร้านกระหึ่มไปด้วยเสียงดัง

 

น่าแปลกจริงๆ เมืองเล็กๆเกือบริมสุดแบบนี้ ไม่ได้อยู่ในแนวหน้าสักหน่อย มันไม่สมควรที่จะมีลูกค้ามากมายขนาดนี้สิ

 

“ให้ตายเถอะ ก่อนหน้านี้ใครกันที่บอกว่ามี ‘สัตว์ร้ายเกราะคริสตัล’ อยู่ที่นี่ ทำเอาฉันมาเสียเที่ยวเลย!”

 

“นั่นดิ ตอนนี้ยังไม่เห็นมันเลยแม้แต่เงา!”

 

“คนในสถานที่ชุมชนแห่งนี้กระจายข่าวลือออกไป เพื่อหลอกลวงผู้คนให้มาใช้จ่ายเงินที่นี่รึเปล่า?”

 

“เหอะ พวกเขาไม่กล้าหรอก!”

 

“ไม่ใช่ว่าเมื่อวานมีใครบอกว่าเห็นมันอยู่นอกเมืองหรอกหรอ?”

 

“หึ! หวังว่าคราวนี้จะไม่ใช่เรื่องโกหกอีกก็แล้วกัน!”

 

ฉินเฟิงเดิมไม่คิดตั้งใจฟัง แต่เสียงก็ดันลอดผ่านหูเข้ามา

 

สัตว์ร้ายเกราะคริสตัล เป็นสัตว์ร้ายที่สามารถกลืนกินแร่ธาตุ และเปลี่ยนเป็นพลังงานแก่ตัวเองได้ ร่างกายของมันจะเป็นสีโปร่งใสเหมือนคริสตัล

 

ประเด็นสำคัญก็คือ แก่นพลังงานของมันเป็นวัตถุดิบสังเคราะห์ที่แข็งแกร่งมาก สามารถใส่เข้าไปในอุปกรณ์รูนได้ และจะช่วยให้อุปกรณ์รูนชิ้นนั้นมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้จบ

 

ตัวอย่างเช่นมีดกษัตริย์คราม ที่สามารถใช้วัตถุดิบขั้นสูงบางอย่างเปลี่ยนจากอาวุธเลเวล G ไปเป็นเลเวล F ได้ แต่การปรับแต่งมันยังคงมีข้อจำกัด บางทีอาจจะไม่สามารถปรับจนขึ้นไปถึงเลเวล D ได้

 

แต่ถึงเวลานั้น สมควรที่จะเปลี่ยนอาวุธมีดใหม่เลยไม่ง่ายกว่าหรือ?

 

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกัน หากฉินเฟิงใส่เหล็กดาราลงในมีดกษัตริย์คราม? หากทำเช่นนั้น ต่อมาถึงคุณจะทำการหลอมคืนอีกครั้ง ก็ยังสูญเสียเหล็กดาราไปเป็นจำนวนมากอยู่ดี แต่มันจะดีกว่าไหมหากคุณใส่แก่นพลังงานของสัตว์ร้ายเกราะคริสตัลลงไปก่อน แล้วตามด้วยวัตถุดิบชั้นสูง

 

ดังนั้น แก่นพลังงานของสัตว์ร้ายเกราะคริสตัลจึงไม่ใช่สิ่งที่คนจำนวนมากใช้กัน แต่สำหรับพวกผู้เชี่ยวชาญบางคน พวกเขายินดีที่จะรับซื้อมัน

 

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้มูลค่าของแก่นพลังงานสัตว์ร้ายเกราะคริสตัล พุ่งสูงขึ้นถึง 30 ล้านเหรียญ เป็นจำนวนเงินที่มากพอจะทำให้ผู้ใช้พลังเลเวล F ธรรมดาๆ แทบจะโบยบินบนท้องฟ้า

 

เพราะยังไงซะ ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำเงินด้วยความเร็วที่เหมือนกับฉินเฟิง

 

“เสี่ยวไป๋ แกอยากกินอะไรก็ไปตักเอาเองได้เลย” ฉินเฟิงเอื้อมมือไปหยิบจานให้ไป๋หลี

 

แต่ไป๋หลีไม่สนใจอาหารเหล่านี้เลย ก่อนหน้านี้มันก็ลองเดินวนๆดูรอบหนึ่งแล้ว

 

เธอเม้มริมฝีปาก ทำหน้ามุ่ยและกล่าว “ที่รัก ฉันอยากจะกินขาไก่ หรือไม่ก็ปีกไก่ แต่ที่นี่มันไม่มีเลย!”

 

ดูเหมือนไป๋หลีจะยังคงติดใจมื้ออาหารหน้ากองไฟของโจวฮ่าวอยู่

 

ฉินเฟิงยิ้มบางๆ “อย่าจู้จี้เรื่องกินนักเลย ไปชิมพวกสเต็กดูสิ มันก็รสชาติดีเหมือนกันนะ ลองดูไหม?”

 

ไม่รอให้ไป๋หลีทันได้เอ่ยปาก ผู้ใช้พลังเลเวล F ที่ยืนอยู่ข้างๆพวกเขาก็หัวเราะออกมา

 

“น้องสาว ที่รักของเธอหาไก่ให้เธอกินไม่ได้ งั้นก็มากับฉันสิ ฉันมีพร้อมทุกอย่าง เราจะไปหาไก่กินกันตลอดทั้งคืนเลย!”

 

เมื่อเอ่ยคำนี้ออกมา ชายคนนั้นก็เปล่งเสียงหัวเราะอย่างน่ารังเกียจ

 

ดวงตาของฉินเฟิงสาดแสงเย็นชาขึ้นทันใด