นิยาย จอมบงการเทพยุทธ์ บทที่ 133 จุดเริ่มต้นแห่งยุคสมัย
วิถีแห่งเต๋คํารามฟ้าดินพร่ามัว
ม้วนคัมภีร์โบราณกางออกต่อหน้าปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์และจอมจักรพรรดิสวรรค์
มันคือสิ่งที่ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ประสบในอดีต หลังจากผ่านไปเนิ่นนานมันก็ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้งต่อหน้าสิ่งมีชีวิตทั้งปวง
ในม้วนภาพ มีความมืดอันไร้ขอบเขตอันเงียบสงัด
มันเป็นโลกแบบไหนกัน ท้องฟ้า ผืนดิน และทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสีดําทมิฬแม้จะเป็นเพียงภาพจําแลงก็ยังทําให้รู้สึกสิ้นหวังและหนาวเหน็บไปจนถึงกระดูก
มันเป็นความมืดที่ทําให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดรวมไปถึงจิตวิญญาณของพวกเขาดูเหมือนจะถูกแช่แข็งราวกับค่ำคืนอันเป็นนิรันดร์เงียบสงัดและไร้ขอบเขต
ในพิภพที่เยือกเย็นและมืดมิดนี้นี้ มีเส้นทางคดเคี้ยวไปด้านหน้า
เส้นทางโบราณนั้นกว้างใหญ่ ส่องประกายอยู่ในความมืดอันไร้ที่สุด ราวกับแสงจ้าในคืนที่มืดมิดนําทางสิ่งมีชีวิตทั้งปวง
“เส้นทางโบราณสู่ยมโลก พลังแห่งความมืดดูเหมือนว่าจะไม่แข็งแกร่งเท่าตอนนี้การคาดเดาของข้านั้นถูกต้อง เมื่อเวลาล่วงเลยไปพลังแห่งความมืดก็ได้แข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง”
ในภาพ จอมจักรพรรดิสวรรค์กล่าวออกมา น้ําเสียงของเขาค่อนข้างต่ำ
เขาเดินบนเส้นทางสายนี้แต่ยังไปไม่ถึงจุดสิ้นสุด ไม่ใช่ว่าเขาไม่กล้าแต่เพียงต้องการเตรียมความพร้อมอย่างที่สุด
เนื่องจากว่าเขามีลางสังหรณ์ว่าหากเขายังคงเดินหน้าต่อไป จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจบรรยายได้และแม้ว่าจะต้องการหันหลังกลับก็ไม่อาจเป็นไปได้
ด้วยเหตุนี้เขาจึงมาแสดงความเคารพต่อร่องรอยของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์โดยหวังว่าจะได้เห็นความจริงในอดีตจากปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์
เบื้องหน้าจอมจักรพรรดิสวรรค์ เหตุการณ์ในม้วนภาพนั้นยังคงดําเนินต่อไป
มีใครบางคนกําลังเดินอยู่บนเส้นทางโบราณนี้ เขามีท่าที่อันแข็งแกร่งและสง่างามร่างกายของเขาก็ปลดปล่อยพลังสุริยะอันพุ่งพล่านออกมาราวกับดวงสุริยะอันเป็นนิรันดร์สาดส่องไปใน ความมืดอันไร้ขอบเขตนี้
คนผู้นี้คือจอมจักรพรรดิสุริยะ!
สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขณะที่กําลังเดินไปบนเส้นทางสายนี้ และสิ่งที่ทําให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดสั่นสะท้านนั่นก็คือถึงแม้ด้วยพลังของจอมจักรพรรดิสริยะเขาก็แทบจะไม่อาจส่องสว่างขับไล่ความมืดรอบตัวเขาได้
พลังแห่งความมืดอันไร้ที่สิ้นสุดนั้นดูเหมือนจะมีพลังบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ซึ่งสามารถกดดันพลังทั้งหมดในพิภพ
แม้แต่ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ไม่อาจให้แสงกระจ่างแก่สถานที่แห่งนี้ได้และเขายังเคลื่อนไหวได้อย่างยากล่าบาก
เส้นทางนั้นเรืองแสง ส่องสว่างเส้นทางข้างหน้าอย่างเที่ยงตรงแม่นย่าไม่นอกนลู่นอกทาง
สถานที่แห่งนั้นแปลกประหลาด หากไม่มีเส้นทางโบราณแห่งนี้ เกรงว่าแม้แต่จอมยุทธ์ระดับสุดยอดก็จะหลงติดอยู่ที่นี่ไปตลอด
หากไม่ใช่จอมยุทธ์ระดับสุดยอด แม้ว่าจะมีเส้นทางเช่นนี้อยู่ก็ตาม จิตวิญญาณก็คงจะหลงทางไม่อาจเดินหน้าต่อหรือถอยกลับไปได้ และติดอยู่ในความมืดมิดโบราณนี้ไปตลอด
ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ แต่เส้นทางสายนี้ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด
และในขณะที่ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ยังคงเดินหน้าต่อไปพลังมืดระหว่างฟ้าดินก็ดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆกัดเซาะทุกอย่างในฟ้าดิน
พลังสุริยะที่จํากัดอยู่รอบๆ ร่างของจอมจักรพรรดิ์สุริยะ ถูกกัดเซาะโดยความมืดและถูกทําลายอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่เขายังคงเดินหน้าต่อไป มีเสียงที่ไม่แยแสดังขึ้นในฟ้าดิน ราวกับว่าจะดังมาจากต้นยุคโบราณและกว้างใหญ่
“ท้ายที่สุดของการเวียนว่ายตายเกิด ฟ้าดินจะถึงจุดจบ มีเพียงความมืดมิดอันเป็นนิรันดร์เท่านั้นที่เป็นปลายทางของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง
“จ่านนต่อความมืดและรับชีวิตอันเป็นนิรันดร์!”
“ทุกสิ่งถูกกําหนดไว้แล้ว ชะตากรรมของสรรพชีวิตทั่วปวงล้วนถูกลิขิตไว้แล้วการดิ้นรนและต่อต้านทั้งหมดนั้นไร้ความหมาย”
“ด้วยพรสวรรค์ของเจ้า ย่อมทําให้สามารถไปถึงเขตแดนจอมจักรพรรดินิรันดร์ได้แต่ตอนนี้เจ้าถูกจํากัดไว้โดยพิภพที่พังทลายและทําได้เพียงอยู่จุดสูงสุดของมนุษยชาติ
มาสิ เข้าร่วมกับข้า ยอมจํานนต่อความมืดมิด แล้วข้าจะมอบพลังอันไร้ขอบเขตอายุขัยที่ได้จุดจบกลายเป็นจอมยุทธ์ผู้เป็นนิรันดร์ในฟ้าดินอย่างแท้จริง!”
เสียงอันเยือกเย็นและมืดมิด ดังก้องอยู่ในความมืดอันไร้ขอบเขต ราวกับว่ามันก้องอยู่ในใจทุกคน
แม้จะเป็นเพียงภาพจําแลงจากปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ยังทําให้ทุกสรรพชีวิตสูญเสียจิตวิญญาณและต้องการที่จะเข้าร่วมตลอดไป
แม้แต่กิ่งจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าอีกาทองคําก็ยังแสดงสีหน้าอันดิ้นรนฝืนทน หัวใจของเขาสั่นไหวอย่างไรก็ตาม ในม้วนภาพ สีหน้าของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ยังคงไม่ เปลี่ยนแปลงเปลวสุริยะยังคงแผดเผาอยู่ในดวงตาของเขา
“เจ้าต้องการที่จะสั่นคลอนจิตเติของข้างั้นรึ?พลังเพียงเท่านี้ ไม่เพียงพอหรอก!”
ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ก้าวต่อ สั่นสะเทือนวิถีนับหมื่นเปลวสุริยะที่แท้จริงแผดเผาสะเทือนทั้งสามภพทั่วทุกสารทิศ
กระแสพลังจอมจักรพรรดิเพิ่มขึ้น สั่นสะเทือนจากอดีตถึงอนาคต กําราบและฝ่าฝืนวัฏจักรฟ้าดิน!
นี่คือวิถีปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ มันคือการรวมเป็นรูปร่างของชีวิตอันรุ่งโรจน์ของเขาและยังแสดงถึงเจตจํานงของเขาซึ่งมันคงและไม่สั่นคลอนอีกด้วย
คําพูดที่มืดมนเปี่ยมไปด้วยการล่อลวง ไม่อาจโน้มน้าวเขาได้แม้แต่น้อยและไม่อาจแม้แต่จะทําให้จิตเต่ของเขาสั่นคลอนแม้แต่นิด
ความมืดได้แหลกสลาย ดวงอาทิตย์ส่องแสงเจิดจรัส ท้องฟ้าสว่างไสว
ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้ไร้เทียมทานไม่สั่นคลอน!
“ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์…”
ณ เวลานี้ แม้แต่กิ่งจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าอีกาทองค่าก็ยังตัวสั่น
นี่หรือคือพลังที่แท้จริงของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์?
เขาคือกิ่งจอมจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ก้าวเข้าสู่วิถีจักรพรรดิอันไร้ผู้ต้านทานเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในจักรวาลอย่างแท้จริง.
..
แต่ถึงกระนั้น เมื่อเผชิญหน้าคําพูดอันมืดมิดในม้วนภาพที่ราวกับจะสัมผัสไปถึงวิญญาณและสั่นคลอนจิตเตของสิ่งมีชีวิตทั้งปวงก็ยังไม่อาจต้านทานได้
กิ่งจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าอีกาทองคํานึกภาพไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเข้าไปอยู่ในพิภพโบราณอันมืดมิดนั้นจริงๆเกรงว่าดวงวิญญาณของเขาจะสูญหายไปในทันทีและก็ไม่อาจต้านทานใดๆ ได้เลย
แต่ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นปิดกั้นไว้อย่างแน่วแน่ ไม่มีความมืดใดๆสามารถล่อลวงและหยุดไม่ให้เขาก้าวไปข้างหน้าได้
เสียงอันมืดมิดและเยือกเย็นเงียบหายไปไม่ปรากฏขึ้นอีก ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าไม่อาจสั่นคลอนปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้จึงเลือกที่จะยอมแพ้ไป
ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์เดินหน้าต่อไป ความมืดทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเส้นทางโบราณใต้เท้าของเขาเริ่มเลือนลางรางกับว่ากําลังจะหายและถูกความมืดลบออกไป
ในเวลาเดียวกัน บนเส้นทางโบราณก็มีรอยเท้าจางๆ ปรากฏขึ้น มันตื้นมากราวกับว่าจะถูกลบออกไปด้วยกาลเวลา
เส้นทางโบราณนั้นเลือนลาง รอยเท้าที่แทบจะเลือนหาย แต่เป็นที่แน่นอนว่าถูกทิ้งไว้โดยมนุษย์!
“มีมนุษย์เคยมาที่นี่!”
บนเส้นทางโบราณ สีหน้าแห่งความตกใจปรากฏบนใบหน้าปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นครั้งแรก
เขาไม่ใช่คนแรกที่เหยียบบนเส้นทางนี้ ก่อนหน้านี้มีผู้ที่มาถึงและไปไกลกว่าเขาแล้ว!
และในขณะที่ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์กําลังตัวสั้น ปลายสุดของความมืดก็มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และสง่างามดังขึ้นทําลายความมืดอันเป็นนิรันดร์และก้องในหูของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์!
“กลับไปซะ ที่นี่อันตรายเกินไป ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถเข้าไปได้ในตอนนี้หากเจ้าทําลายขอบเขตของพลังยุทธ์ระดับสุดยอดเจ้าจึงจะสามารถมาที่นี่ได้
ความมืดจะแผ่ขยายต่อไปและแผ่ไปทั่วจักรวาล เตือนผู้มาทีหลังหากถึงจุดสูงสุดแล้วการทําลายที่เป็นเรื่องสําคัญมาก มันคือ…”
ถึงตรงนี้ ค่าพูดก็ได้เงียบไปราวกับถูกพลังอานาจสูงสุดลบล้างไป
ในเวลาเดียวกัน ที่ท้ายสุดของความมืดมิดอันไร้ที่สุด มีพลังอันยิ่งใหญ่เกินกว่าจินตนการได้ปะทุขึ้นราวกับสิ่งมีชีวิตสูงสุดทั้งสองกําลังเผชิญหน้าและต่อสู้กัน!
สดขอบความมืดอันไร้ขอบเขต มีแสงสีทองสว่างขึ้นทะลวงผ่านความมืดมิดและส่องกระจ่างไปทั้งดินแดน
ในตอนนี้ ทั้งพิภพสว่างขึ้น ความมืดเจือจางลง
บัดนี้ ในม้วนภาพ ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ดูเหมือนจะมองทะลุผ่านความมืดอันเป็นนิรันดร์และเห็นถึงจุดสิ้นปลายสุดของความมืด!
มีร่างอันเลือนลาง นั่งขัดสมาธิอยู่เพียงลําพังบนเส้นทางสู่ยมโลก ดูเหมือนว่าเขาอยู่ที่นี่มานานนมแล้ว หันหลังให้ทั้งพิภพ เผชิญหน้ากับความมืดมิดอันเป็นนิรันดร์เพียงล่าพัง!
สกัดกั้นทุกอย่างขัดขวางทุกสิ่งด้วยตนเอง!มีผู้ขัดขวางความมืดมิดอันเป็นนิรันดร์!