บทที่ 309 สดชื่นคำเดียว!

ต่อไปก็ถึงเวลาตามหาโชคลิขิตบนเกาะแห่งนี้

ตอนนี้เอง องค์หญิงเงือกอวี้เผียนเซียนพลันมีสีหน้าตื่นตกใจขึ้นมา

นางรีบนำถาดหยกขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากอกเสื้อ ตอนนี้ถาดหยกนั้นสั่นไหวอย่างรุนแรง

อวี้เผียนเซียนสูดลมหายใจเข้าลึก ประสานมุทราหลายครั้งตบใส่ถาดหยก ถาดหยกที่สั่นไหวอยู่ถึงค่อยๆ หยุดลง

ด้านบนถาดหยกสีมรกตในตอนแรกค่อยๆ มีจุดเล็กสีแดงลอยขึ้นมาทีละจุด

อวี้เผียนเซียนอึ้งไปทันใด

เยอะมาก เหตุใดถึงเยอะเช่นนี้

นี่มันเหนือกว่าที่นางจินตนาการไว้อีก!

เอ๋าอูชะเง้อหน้าเข้ามานับอย่างละเอียด ก็พบว่าบนถาดหยกมีจุดสีแดงเล็กห้าจุด ดูสวยงามมาก

เอ๋าอูยิ้ม “พี่เผียนเซียน นี่อะไร”

อวี้เผียนเซียนสูดลมหายใจเข้าลึก “นี่คือกระจกค้นหาสมบัติที่สืบทอดกันมาลับๆ ของเผ่าข้า สามารถค้นหาน้ำตาดาวเทพสมุทรในขอบเขตที่แน่นอนได้ ไม่นึกเลยว่าบนเกาะนี้จะมีน้ำตาดาวเทพสมุทรมากขนาดนี้ น่าเหลือเชื่อ!”

จุดสีแดงหนึ่งจุดก็คือน้ำตาดาวเทพสมุทรหนึ่งเม็ดหรือ

ฉีเซ่าเสวียนตาเป็นประกายขึ้นมา เขาเคยใช้น้ำตาดาวเทพสมุทรแล้ว จึงรู้ลึกว่ามันให้ประสิทธิผลแข็งแกร่งเพียงใด

สำหรับโอรสสวรรค์ที่แข่งกับเวลาพวกนั้น มูลค่าของน้ำตาดาวเทพสมุทรหนึ่งเม็ดยังสูงกว่าอาวุธวิญญาณระดับสูงด้วยซ้ำ

ถึงอย่างไรอาวุธวิญญาณระดับสูงแกร่งกว่านี้ก็เพียงแค่เพิ่มกำลังภายนอก แต่น้ำตาดาวเทพสมุทรเพิ่มระดับความแกร่งของจิตวิญญาณ เพิ่มศักยภาพของตนได้

อย่างอื่นไม่ว่า แค่สำหรับฉีเซ่าเสวียน ในตัวไม่ได้มีอาวุธอริยะแค่ชิ้นเดียวอยู่แล้ว อาวุธวิญญาณระดับสูงสุดแทบจะไม่มีประโยชน์กับเขาเลย

เทียบกันแล้ว เขายอมแลกเป็นน้ำตาดาวเทพสมุทรหยดหนึ่งดีกว่า อย่างน้อยก็เพิ่มศักยภาพของเขาได้มาก

…….

เดิมทีมีประสิทธิผลไม่ธรรมดา ผนวกกับน้ำตาดาวเทพสมุทรหายากมาก

เกาะดาราเบิกฟ้าเปิดทุกสามร้อยปี น้ำตาดาวเทพสมุทรที่ปรากฏในทุกครั้งไม่เกินร้อยเม็ด

น้ำตาดาวเทพสมุทรร้อยเม็ดนี้ เก้าส่วนถูกโอรสสวรรค์ที่หาพบใช้งานเพิ่มศักยภาพของตนเองและตามหาโชคลิขิตที่ใหญ่กว่า

มีโอรสสวรรค์ส่วนน้อยมากที่จะขายน้ำตาดาวเทพสมุทรให้ตลาด

ของหายากแพงเสมอ ราคาย่อมสูงขึ้นเอาๆ

“ถ้าห้าจุดแดงเท่ากับน้ำตาดาวเทพสมุทรห้าเม็ด ต่อให้บนเกาะนี้ไม่มีโชคลิขิตอื่น ก็ได้ทรัพยากรมาค่อนข้างน่าดีใจแล้ว”

คุณชายเซี่ยเผยรอยยิ้มหลงใหลในความมั่งคั่ง “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีดวงชะตาสะท้านฟ้าจริงๆ แค่เลือกตามใจก็เจอเกาะล้ำค่าเช่นนี้”

อวี้เผียนเซียนส่ายหน้าช้าๆ “ไม่ ไม่ใช่แค่น้ำตาดาวเทพสมุทรห้าเม็ด”

ทุกคนอึ้งไป ก่อนจะเห็นอวี้เผียนเซียนจ้องถาดหยกนั้นเขม็ง “กลิ่นอายของน้ำตาดาวเทพสมุทรตรวจสอบได้ยาก ถาดหยกของเผียนเซียนตรวจสอบน้ำตาดาวเทพสมุทรในระยะหลายสิบลี้เท่านั้น แต่พื้นที่เกาะดารานี่มีอย่างน้อยหลายร้อยลี้ หรือก็คือที่อื่นๆ ของเกาะ อาจจะมีน้ำตาดาวเทพสมุทรอยู่มากกว่า!”

ขณะพูดอยู่นั้น อวี้เผียนเซียนก็อ้อมรอบนอกเกาะบินออกไปจากระยะร้อยลี้

จุดสีแดงบนถาดหยกเปลี่ยนไปจริงๆ ทุกจุดกำลังเคลื่อนที่ ออกจากพื้นที่ตรวจสอบของถาดหยกเล็กน้อย

ขณะเดียวกันก็มีจุดแดงใหม่ปรากฏขึ้นบนถาดหยก จำนวนขยับไหวระหว่างสามถึงแปดจุด ดูแล้วยังอยู่ในค่าเฉลี่ย

ความจริงพิสูจน์แล้วว่าทุกที่ในเกาะนี้ซ่อนน้ำตาดาวเทพสมุทรไว้จำนวนมาก!

ซี้ด~

ต่อให้ทุกคนที่ร่วมเดินทางมาจะเป็นโอรสสวรรค์แกนหลักของเผ่าใหญ่ทะเลอุดร ตอนนี้ก็ยังตกตะลึงกับข่าวนี้ไม่เบา

ภายในระยะหลายสิบลี้ก็ตรวจสอบน้ำตาดาวเทพสมุทรได้ห้าเม็ด เช่นนั้นถ้าเป็นเกาะดาราที่มีพื้นที่หลายร้อยลี้ล่ะ!

พึงรู้ไว้ว่าพื้นที่ของระยะโดยรอบร้อยลี้มากพอจะมีสิบลี้เป็นร้อย นี่จะหาน้ำตาดาวเทพสมุทรได้เท่าไร

อีกทั้งที่อื่นๆ ก็ยังมีน้ำตาดาวกระจัดกระจาย มองว่าเจ้านี่เป็นผักกาดขาวจริงๆ หรือ

……..

อวี้เผียนเซียนมองเสิ่นเทียน ในดวงตางามมีความเลื่อมใสและเร่าร้อน

ข่าวเกี่ยวกับเสิ่นเทียนที่นางได้มาก่อนหน้านี้ไม่ผิดเลยจริงๆ เขาคือบุตรแห่งโชคที่อยู่สูงสุดจริงๆ

เกาะดาราเบิกฟ้ามีเกาะตั้งมากมาย เสิ่นเทียนแค่เลือกมาตามใจหนึ่งเกาะ กลับมีน้ำตาดาวเทพสมุทรกระจัดกระจายอยู่ทุกที่มากมายเช่นนี้

หากค้นหาออกมาทั้งหมด คงจะมีน้ำตาดาวอย่างน้อยสามสี่ร้อยเม็ด

นี่หมายความว่าอย่างไร

หากแพร่งพรายออกไป เผ่าทั้งทะเลอุดรได้บ้าคลั่งเพราะเหตุนี้แน่

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ คือสิ่งมงคลโชคลิขิตจริงๆ!

ไม่ใช่แค่มีใบหน้าเป็นหนึ่ง แต่ยังมีสวรรค์ดูแล ช่างสมบูรณ์แบบ

รักเลยๆ!

เสิ่นเทียนเผยรอยยิ้ม “จากที่ถาดหยกคาดการณ์ น้ำตาดาวบนเกาะนี้มากพอจะให้พวกเราใช้ และยังมีเหลืออีกเยอะ แซ่เสิ่นว่า การจะหาน้ำตาดาวพวกนี้ได้คงหนีไม่พ้นคุณูปการขององค์หญิงเผียนเซียน น้ำตาดาวพวกนี้ก็น่าจะแบ่งให้องค์หญิงสี่ส่วน ส่วนที่เหลือแซ่เสิ่นกับสหายทุกท่านแบ่งเท่ากัน ว่าอย่างไร”

สารภาพตามตรง น้ำตาดาวเทพสมุทรเป็นของดีจริงๆ แต่สำหรับคนคนเดียว สามเม็ดก็เหลือแหล่แล้ว

ถึงอย่างไรทุกครั้งที่ใช้เจ้านี่ ประสิทธิภาพจะลดลงหนึ่งครั้ง หลังจากใช้ไปสามเม็ดก็แทบจะไม่มีผลอะไรเลย

เสิ่นเทียนเองก็ไม่ขาดแคลนเงิน สู้มอบให้อวี้เผียนเซียนไปเยอะๆ แลกเป็นการเสริมดวงชะตาที่มากที่สุดของตนดีกว่า

ถึงอย่างไรเดิมทีน้ำตาดาวเทพสมุทรพวกนี้ก็เป็นโชคลิขิตของอวี้เผียนเซียน เขาแค่มาขอกินฟรีเท่านั้น

“นี่จะได้อย่างไรกัน หากไม่ได้สหายเสิ่นชี้ทาง เผียนเซียนคงไม่มีทางพบเกาะนี้ ข้าจะรับไว้คนเดียวสี่ส่วนได้อย่างไร”

อวี้เผียนเซียนรีบส่ายหน้า

สารภาพตามตรง น้ำตาดาวหลายร้อยเม็ดมากพอจะทำให้คนร่ำรวยอย่างบ้าคลั่งเลย

หากเสิ่นเทียนกับคนอื่นเป็นเพียงโอรสสวรรค์ธรรมดา อวี้เผียนเซียนจะไม่เกรงใจเลย ถึงอย่างไรมีใครบ้างไม่อยากให้ตัวเองมีเงินเยอะๆ

แต่อวี้เผียนเซียนเป็นองค์หญิงของเผ่าเทพเงือก ไม่ใช่คนปัญญาอ่อนไอคิวเป็นศูนย์

ตั้งแต่โบราณมาความมั่งคั่งเย้ายวนใจคน แย่งโชคลิขิตคนอื่นเหมือนสังหารบุพการีเขา เรื่องชิงสมบัติสังหารคนยิ่งเกิดขึ้นไม่ขาดสาย

แม้อวี้เผียนเซียนจะไม่ถึงขั้นไร้เรี่ยวแรง แต่กำลังรบพอๆ กับสี่คุณชายได้ ด้อยกว่าเอ๋าอูเล็กน้อย

จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงในกลุ่มยังมีฉีเซ่าเสวียนกับเสิ่นเทียน หากนางจะเอาครึ่งหนึ่งจริงๆ นั่นคงจะไม่รู้จักบุกถอยเกินไป

อีกทั้งยิ่งอยู่ต่อหน้าใบหน้าหล่อเหลาของเสิ่นเทียน อวี้เผียนเซียนก็ยิ่งพูดจาหน้าไม่อายไม่ได้

แม้น้ำตาดาวเทพสมุทรจะสำคัญ แต่ความรู้สึกดีของสหายเสิ่นก็สำคัญมากเช่นกัน

อืม อาจจะสำคัญกว่าอีก!

……

ฉีเซ่าเสวียนมองเสิ่นเทียนลึกๆ ทีหนึ่ง ดวงตาขยับประกายวาววับ

เขามองเสิ่นเทียนเป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตนมาตลอด ไม่ว่าจะด้านศักยภาพหรือดวงชะตา

แต่เขาก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกว่าดวงชะตาเสิ่นเทียนแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้ ถึงขนาดนำกลุ่มมาหาน้ำตาดาวมากขนาดนี้เจอได้ง่ายๆ

นี่ สร้างแรงกดดันให้ฉีเซ่าเสวียนค่อนข้างมากเลย!

“แซ่ฉีก็คิดว่าไม่เหมาะสมเช่นกัน!”

หลังจากขบคิดแล้ว ฉีเซ่าเสวียนก็เอ่ยช้าๆ “หากแบ่งตามคุณูปการ ก็น่าจะให้สหายเสิ่นครึ่งหนึ่งก่อน จากนั้นค่อยแบ่งให้องค์หญิงเผียนเซียน”

แม้จะอยากพลิกตัวกลับมายิ่งใหญ่ตลอด แต่ฉีเซ่าเสวียนก็มีความโอหังของตนเอง

นี่ควรเป็นคุณความดีของเสิ่นเทียน ฉีเซ่าเสวียนจึงพูดอย่างยุติธรรม

เสิ่นเทียนมองฉีเซ่าเสวียนด้วยอาการอึ้งไป

จะว่าไปตามบทเดิมแล้ว อวี้เผียนเซียนน่าจะลากฉีเซ่าเสวียนมาผจญภัยด้วยกัน ส่วนเอ๋าอูกับสี่คุณชายก็ตามฉีเซ่าเสวียนมาที่เกาะนี้

สุดท้ายจะแบ่งกันเป็นอวี้เผียนเซียนได้ไปสามส่วน ฉีเซ่าเสวียนสามส่วน เอ๋าอูกับสี่คุณชายแบ่งไปอีกสี่ส่วนที่เหลือ

นี่คือโชคลิขิตร่วมกันของพวกเขา!

แต่ตอนนี้เสิ่นเทียนเป็นคนนำทาง ก็จะหาเหตุผลแบ่งให้ฉีเซ่าเสวียนเยอะๆ ไม่ได้จริง ได้แต่ให้เขาแบ่งโชคลิขิตเท่าๆ กับคนอื่น

ดีที่หากได้แบ่งโชคลิขิต ดวงชะตาของฉีเซ่าเสวียนจะเพิ่มขึ้น นี่ถือว่าเป็นการเติมเต็มไปอีกแบบ

แต่เสิ่นเทียนไม่นึกเลยว่าฉีเซ่าเสวียนจะพูดแทนตน ให้เขาแบ่งไปห้าส่วนก่อน

นี่จะไม่ให้กระดากใจได้อย่างไร~

แม้น้ำตาดาวเทพสมุทรจะเป็นของดีจริง แต่เทียบกันแล้วดวงชะตาก็ยังสำคัญกว่าหน่อย ถึงอย่างไรขอแค่ดวงชะตาสูงขึ้นตลอดไป ภายภาคหน้ายังต้องกลัวว่าจะหาโชคลิขิตที่มากกว่านี้ไม่ได้หรือ

…….

“ถ้าไม่เช่นนั้น พวกเราก็แบ่งน้ำตาดาวเทพเท่าๆ กันแล้วกัน!”

เมื่อเห็นให้โชคลิขิตไปฟรีๆ ไม่ได้ เสิ่นเทียนจึงได้แต่แนะนำด้วยความจำใจ

ทุกคนมองหน้ากัน คิดว่าข้อเสนอนี้ก็ไม่เลว ถึงอย่างไรคนลงแรงก็มีหน้าได้แบ่งผลประโยชน์

เมื่อยืนยันกฎเกณฑ์การกระจายของน้ำตาดาวแล้ว ทุกคนก็เริ่มมุ่งหน้าไปตามหาในพื้นที่ของน้ำตาดาวพวกนั้นตามที่อวี้เผียนเซียนชี้นำ

ขั้นตอนการตามหาไม่ได้สบายเหมือนที่พวกเขาคิด

สำหรับสิ่งมีชีวิตท้องถิ่นและสัตว์แปลงร่างของเขตทะเลเบิกฟ้าแล้ว แม้น้ำตาดาวพวกนี้จะไม่มีประโยชน์อะไร แต่พวกมันก็ชอบกลิ่นอายที่แผ่ออกมามาก

คนนอกคิดจะมาแย่ง พวกมันย่อมไม่พอใจ

แทบทุกครั้งที่ทุกคนหาน้ำตาดาวเทพสมุทรพบจะเกิดการกระทบกระทั่งและต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตพวกนั้น อีกทั้งยังไม่ง่ายด้วย

ไม่ว่าจะสิ่งมีชีวิตท้องถิ่นหรือสัตว์ร่างแปลง กำลังรบก็เทียบเท่ากับผู้แข็งแกร่งจุดสูงสุดดวงจิตดรุณ

ตัวที่อยู่สุดยอดในนั้นถึงขั้นสู้กับฉีเซ่าเสวียนอย่างสูสี

ถ้าไม่ใช่เพราะทุกคนสามัคคี รู้จักการรุมกระทืบอย่างรู้ใจกัน แต่สิ่งมีชีวิตพวกนั้นส่วนใหญ่ต่างคนต่างสู้กันละก็ จะชนะหรือไม่ก็ยังพูดยากจริงๆ

และในขั้นตอนนี้ เสิ่นเทียนก็แทบจะคอยคุมเกมอยู่ตลอด

ขอแค่มีศัตรูที่รับมือยากจริงๆ เขาถึงจะออกมือมาคุมสถานการณ์

ไม่ใช่ว่าเขาแอบขี้เกียจไม่ยอมออกแรง แต่หากเขาออกแรงต่อไป คนอื่นๆ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันเลยสิ

ถึงตอนนั้นเขาจะหาเหตุผลอะไรมาแบ่งผลประโยชน์ให้พี่น้องพวกนี้กัน หรือจะให้แบ่งไปคนเดียวเจ็ดแปดส่วน เป็นเศรษฐีไปเลยกัน

ใจดำเกินไปจะโดนกรรมตามสนองได้ง่าย สู้แอบขี้เกียจ เกาะดวงชะตาสบายกว่าเยอะ

………

หลังจากเครื่องมือมนุษย์อย่างพวกฉีเซ่าเสวียนต่อสู้และค้นหาสมบัติกันอย่างยากลำบากแล้ว ในที่สุดก็รวบรวมน้ำตาดาวเทพสมุทรในเกาะแห่งนี้มาได้พอประมาณ

ตอนนี้ทุกคนได้น้ำตาดาวเทพสมุทรมาทั้งหมดถึงห้าร้อยสองเม็ด และใช้เวลาไปทั้งหมดห้าวัน

หลังจากต่อรองราคากันไปๆ มาๆ สุดท้ายก็ได้วิธีการแบ่งน้ำตาดาวเทพสมุทร

อันดับแรกเสิ่นเทียนพบเกาะนี้ คุมสถานการณ์ในการต่อสู้ชิงน้ำตาดาว ได้อภิสิทธิ์แบ่งน้ำตาดาวเทพสมุทรไปสี่ส่วน

จากนั้นอวี้เผียนเซียนค้นพบน้ำตาดาว ได้แบ่งไปสองส่วน

อีกสี่ส่วนที่เหลือ ฉีเซ่าเสวียนออกแรงเยอะสุดตอนหาน้ำตาดาว ต้านศัตรูไว้มากกว่าครึ่ง ได้แบ่งไปสองส่วน

เอ๋าอูมีฐานะพิเศษเป็นเจ้าชายเผ่ามังกร ได้แบ่งหนึ่งส่วน

สี่คุณชายได้กินข้าวฟรีครึ่งหนึ่ง ได้แบ่งหนึ่งส่วนที่เหลือ เท่านี้ก็มีความสุขจนแสยะปากยิ้มแล้ว

ถึงอย่างไรด้วยจำนวนทั้งหมดห้าร้อยสองเม็ด ต่อให้ได้แบ่งไปหนึ่งส่วนก็เท่ากับคนละสิบกว่าเม็ดแล้ว

หากแปลงเป็นศิลาวิญญาณ นี่คือจำนวนมหาศาลถึงขนาดใครได้ยินยังต้องตกใจ

มากพอจะให้พวกเขาฝึกถึงระดับหลอมรวมเทพเหลือๆ!

ต่อให้จากนี้พวกเขาไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลย การผจญภัยครั้งนี้ก็ไม่ขาดทุนแล้ว

…….

รูปแบบการแบ่งเช่นนี้ ดวงชะตาของทุกคนจะเพิ่มขึ้นมากที่สุด

เมื่อน้ำตาดาวเทพสมุทรแบ่งไปถึงมือทุกคน เสิ่นเทียนพลันรู้สึกเบาตัว ลอยล่องจะเป็นเซียน

ทางด้านเหนือศีรษะของทุกคนต่างเปล่งแสงสว่างจ้า ดูเหมือนกับไฟสำรวจพร่างพราว

โชคลิขิตที่เพิ่มดวงชะตาของผู้มีมหาโชคถึงเจ็ดคนในอึดใจเดียว ความรู้สึกเช่นนี้มีเพียงคำเดียว

สดชื่น!

…………………………………………..