บทที่ 138 หว่านเยียน,เจ้าเปลี่ยนใจไปรักผู้อื่นแล้วหรือ

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ทุกคนเหมือนถูกฟ้าผ่า

สีหน้า​ของกู้โม่หานเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งไปทันที “เจ้าพูดว่าอะไรนะ!”

สิ่งแรกที่เขาได้ยิน​คือชู้รัก ชู้รักของหนานหว่านเยียน!

มุมปากของหยุนอี่ว์โหรวยกยิัม นางเอ่ยถามเสียงเบา

“พ่อบ้านกาว เจ้าได้ยินผิดไปหรือไม่ แม้ว่าเมื่อห้าปีก่อนพระชายาจะเสียพรหมจรรย์ก่อนแต่งงาน แต่ว่า…”

นางรีบปิดปาก แล้ว​มองไปทางกู้โม่หานอย่างรู้สึก​ผิด “อ๊ะ ท่านอ๋องโปรดยกโทษให้​หม่อมฉันด้วย! โหรวเอ๋อร์พูดผิดไป!”

ถึงแม้​ปากพูดเช่นนี้ แต่ในใจหยุนอี่ว์โหรวกลับดีใจมาก

ผู้ชายที่นางหามาให้​หนานหว่านเยียน มาถึงแล้ว!

หนานหว่านเยียนนั่งสบายอยู่บนเก้าอี้ นางเหมือนจะรู้เรื่อง​ทุกอย่างแล้ว

อ๋อ ที่ดอกบัวขาวน้อยแอบทำอะไรลับๆ ล่อๆ ช่วงนี้ เพราะมัวยุ่งกับเรื่องนี้เองหรือ?

เซียงอวี้ตกใจจนแทบล้ม พอมองไปทางหนานหว่านเยียนกลับนิ่งเงียบ​ นางร้อนใจจนแทบบ้า!

แย่แล้ว!

ครั้งนี้พระชายาต้องแย่แน่เลย!

เมื่อห้าปีก่อนเพราะเรื่องที่พระชายาเสียพรหมจรรย์​ก่อนแต่ง ท่านอ๋องโมโห​จนสั่งให้​นำตัวพระชายาไปขังที่เรือนเย็น วันนี้ ไม่รู้ว่าพระชายาจะถูกทรมานแค่ไหน!

พอได้ยินเช่นนี้เจียงหรูเยว่ก็รู้สึกว่าสวรรค์มีตา ผลกรรมของหนานหว่านเยียนในที่สุด​ก็​มาถึง​เสียที!

นางดีใจจนลุกขึ้นมาตบโต๊ะ

“พระชายา อุตส่าห์​ได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีเช่นท่านอ๋องท่านกลับไม่สนใจ แต่กลับแอบไปมีชู้รักข้างนอก นี่มันทำให้ท่านอ๋อและจวนอ๋องอี้ต้องอับอายขายหน้า​ไม่ใช่หรือ?”

หยุนอี่ว์โหรวขมวดคิ้ว แล้ว​บอกให้เจียงหรูเยว่หยุดพูด ก่อนจะพูดว่า “หรูเยว่! เจ้าพูดอะไรของเจ้า!”

กู้โม่หานขมวดคิ้ว “นำตัวเข้ามา!”

เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่จู่ๆ เขาก็รู้สึกไม่ชอบใจและไม่พอใจ เขาทั้งโกรธทั้งอึดอัด​ใจ​

“ขอรับ!” พ่อบ้านกาวรีบถอยออกไป ดูท่าทางของท่านอ๋องแล้ว เขากลัวว่าถ้าเขาอยู่ต่ออีกเพียงอึดใจเดียว เขาคงจะถูกหั่นเป็นชิ้นๆ

หนานหว่านเยียนมองไปทางเจียงหรูเยว่กับหยุนอี่ว์โหรวที่พูดเสริมกันด้วยสีหน้า​เย็นชา นางข่มกลั้นอารมณ์​ไว้ แล้ว​ส่งเสียง​ฮึออกมา

“ทำไม? เจ้ามีปากคนเดียวหรือไง? คนอื่นยังไม่พูดอะไรเจ้าก็พูดเองเออเองอยู่คนเดียว เจ้ารู้หรือไม่ว่าใส่ร้ายพระชายามีโทษ​เช่นไร”

กู้โม่หานขมวดคิ้วมองนิ่ง หนานหว่านเยียนผู้หญิงไร้ยางอายผู้นี้ ใกล้จะถูกลงโทษ​แล้ว แต่นางยังมีเวลามาต่อปาก​ต่อคำอีก!

นางไม่รู้จักที่จะมาอธิบายให้เขาฟังก่อนหรือไง !

หยุนอี่ว์โหรวก้าวไปข้างหน้าเพื่อจับมือของกู้โม่หาน แล้วพูดปลอบเขา “ท่านอ๋อง ใจเย็นๆ ก่อนนะเพคะ รอคนผู้นั้นมาถึง แล้ว​ค่อยตัดสิน​ลงโทษ​ก็ไม่สาย ไม่แน่ว่าพระชายาอาจจะถูกใส่ร้าย​ก็ได้”

กู้โม่หานสีหน้าเย็นชา และนิ่งเงียบ​ไม่พูดอะไร

บรรดาคุณ​หนูตระกูล​ดัง​ที่ดูอยู่รู้สึกว่าวันนี้มาไม่เสียเปล่า​ พวกนางก้มหน้า​ลงกระซิบคุย​กัน​อย่างชอบใจ

ไม่นาน ชู้รัก​ที่​ทุกคนพูดถึง ก็ถูกพ่อบ้านกาวพาตัวเข้ามา

ด้านนอก​ฝนตกหนัก ชายผู้นั้นจึงเปียกโชกไปทั้งตัว เขาลืมตาแทบไม่ขึ้น พอเห็นหนานหว่านเยียนที่เปร่งประกายท่ามกลางฝูงชน สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความเร่าร้อน​

เขาพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากพันธนาการของคนรอบข้าง แล้วตะโกนเรียกหนานหว่านเยียน “หว่านเยียน! ข้ามารัยเจ้าแล้ว! ข้าทำงานเก็บเงินได้พอแล้ว!”

“ข้าทำตามที่สัญญาไว้ได้แล้ว! สัญญาห้าปี! ตอนนี้ข้าจะพาเจ้าไปไปจากที่นี่ดีหรือไม่​?”

ชายผู้นี้พูดด้วยท่าทีจริงใจ ประกอบกับสายฝนที่โปรยปรายอยู่เบื้องหลัง ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาเป็นคนรักที่สมบูรณ์แบบมาก

บรรดาคุณ​หนูตระกูล​ดังต่างพากันส่งเสียง​อุทาน ดวงตาเบิกกว้าง อดที่จะซุบซิบ​คุยกันไม่ได้

สีหน้าของกู้โม่หานบึ้งตึง​ ดวงตาของเขาเย็นชาและเคร่งขรึม​

สัญญา​ห้าปี? !

หนานหว่านเยียนมีนัดกับชู้รักเช่นนี้จริงหรือ? !

หนานหว่านเยียนมองพิจารณา​ชายผู้นั้น แล้วส่งเสียง​จิ๊จ๊ะ​ในปาก

“ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีพอใช้ได้ ไม่ได้ขี้เหร่อะไร แต่เตี้ยเกินไป ผู้ชายแบบนี้จะเป็นชู้รักของข้าได้อย่างไร ล้อเล่นหรือไง”

เซียงอวี้ยืนอยู่ด้านหลังหนานหว่านเยียน แน่นอน​ว่า​ต้อง​ได้ยินสิ่งที่นางพูดด้วย

นางตกใจมาก แล้วพยายามกระตุกเสื้อของหนานหว่านเยียน ก่อนจะกระซิบ​พูดด้วยความหวาดหวั่น​ “พระชายา อย่าทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น​เช่นนี้สิเจ้าคะ นี่ทางเราใกล้จะเดือดร้อน​แล้วนะเจ้าคะ!”

หนานหว่านเยียนโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ แล้วมองไปที่ชายผู้นั้นอย่างไม่สนใจ “ข้าไม่มีทางสนใจเจ้า เหตุใดเจ้าถึงใส่ร้ายข้า รู้หรือไม่ว่าจะได้รับโทษ​เช่นไร”

ชายผู้นั้นได้ยินคำพูดนั้นก็ทำทีเสียอกเสียใจ และดูหมดหนทางและสิ้นหวังท่ามกลางฝนตกกระหน่ำ​

เขาตะโกนสุดเสียง “หว่านเยียน! ข้าคือฉางชิงหยางไง! เจ้าลืมข้าไปได้อย่างไร! ข้าเป็นคนขับรถม้าของเจ้ามาโดยตลอด ก่อนที่เจ้าจะแต่งงาน เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เจ้าจะบอกว่าไม่รู้จักข้าได้อย่างไร?”

เจียงหรูเยว่เห็นอย่างนี้ ดวงตาของนางก็เป็นประกาย

“นี่มันตื่นตกใจ​เกินไปแล้ว! พระชายา ในเมื่อท่านกับคนขับรถม้าของท่านรักกัน เหตุใดถึงยังแต่งงานกับท่านอ๋องอีก? นี่ท่านมีความคิดจะแก้แค้น​ใครหรือไม่”

หยุนอี่ว์โหรวถลึงตาโต มองที่เจียงหรูเยว่ และส่งสัญญาณ​ให้นางหยุดพูด

หลังจากนั้น นางก็ดึงมือกู้โม่หานที่มีใบหน้าเย็นชา แล้ว​พูดด้วยสีหน้า​สงสาร “ท่านอ๋อง บางที บางทีอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด​ก็ได้นะเพคะ? ช่วงนี้พระชายาได้รับความสนใจจากทุกคนมาก และยังเป็นที่โปรดปรานของไทเฮา คนเหล่านี้ อาจจะจงใจทำให้​พวกเราเกิดความบาดหมางกันขึ้นมา​ก็ได้” ”

“ท่านอ๋องใจเย็นก่อนนะเพคะ ถึงแม้​พระชายาเคยทำผิดพลาดในอดีต แต่นางรักท่านอ๋องจากใจจริง​ โหรวเอ๋อร์…”

ก่อนที่นางจะพูดจบ กู้โม่หานก็โบกมือ ถ้วยชาน้ำบนโต๊ะก็ตกแตกเป็นเสี่ยงๆ

สิ่งที่เจียงหรูเยว่กับหยุนอี่ว์โหรวพูดทำให้เขาโกรธมาก “พอได้แล้ว!”

แก้แค้นอะไร? !

เขาคิดว่าเจียงหรูเยว่พูดถูก! หนานหว่านเยียนทำเช่นนี้เพื่อแก้แค้นชัดๆ!

ผู้หญิงคนนี้ยอมมอบพรหมจรรย์​ให้คนแบบนี้! ตาไม่มีแววเสียจริง!

หยุนอี่ว์โหรวเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็นิ่งเงียบ​ไป​ นางมองไปทางหนานหว่านเยียนด้วยสีหน้าจนใจ “พระชายา ข้าคงช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้ว…”

หนานหว่านเยียนเลิกคิ้วอย่างเย็นชา ก่อนจะเม้มปากแล้วพูดอย่างเคร่งขรึม​ “ข้าขอความช่วยเหลือจากเจ้าหรือไง? อย่าทำเหมือน​ตนเองสำคัญ​เช่นนั้น​”

หัวใจของเซียงอวี้ตื่นเต้น​จนแทบกระเด็นออกจากคอ วันนี้พระชายาเป็นอะไรไป?

เรื่องนี้แก้ปัญหา​ยาก! ถือว่าเป็นหายนะที่แก้ไขไม่ได้เลยด้วย!

พ่อบ้านกาวยืนรอคำสั่งอยู่ข้างๆ เขาก้มหน้า​ถอนหายใจออกมา

เหตุการณ์​เมื่อห้าปีที่แล้ว หรือว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง?

พอฉางชิงหยางเห็นท่าทีที่ดูหยิ่งผยอง​ของกู้โม่หาน เขาก็โกรธเช่นกัน

เขาชี้ไปที่กู้โม่หานอย่างไม่เกรงกลัว ราวกับว่าเขาเป็นศัตรู​ความรักจริงๆ และพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยุ “กู้โม่หาน! ท่านมันไม่ใช่ผู้ชาย!”

“ถ้าท่านไม่รักหว่านเยียน! ไม่มีความสามารถแม้แต่จะปกป้องนาง ก็ปล่อยนางซะ! อย่าปล่อยให้หว่านเยียนต้องเสียเวลาอยู่​ในจวนแห่งนี้! ท่านไม่รักนาง! ข้าจะรักนางเอง!”