บทที่ 237
เมื่อพูดจบ ฉือโฉงหวาก็วางสายทันที

โทรศัพท์เปิดลำโพงอยู่ ทำให้เฉินโม่และคนอื่นๆได้ยินน้ำเสียงโกรธของฉือโฉงหวาอย่างชัดเจน

เวินฉิงเกือบจะหัวเราะออกมา สีหน้าของเธอมีแต่ความเยาะเย้ยและมองหน้าฉือรุ่ยปิงด้วยสายตาดูถูก

เฉินซงจื่อและคนอื่นๆรู้สึกดีใจในความโชคร้ายของฉือรุ่ยปิง

เฉินซงจื่อพูดอย่างเย็นชา:”นี่คือครั้งแรกที่ฉันได้ยินพ่อด่าลูกว่าสมองมีปัญหา มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมากๆ!”

ซังซังเตือนด้วยความหวังดี:”รู้จักเลี้ยงดู แต่กลับไม่อบรมนิสัยของลูก มันเป็นความผิดของพ่อ ถึงแม้พ่อจะพูดจามีคุณธรรมและองอาจผึ่งผายแค่ไหน แต่เมื่อมีลูกที่มีนิสัยแย่ๆแบบนี้ พ่อของเขาก็คงไม่ต่างกันอย่างแน่นอน”

ฉือรุ่ยปิงเขินอายจนหน้าแดง ตัวเองเสียหน้าไม่พอ หลังจากนี้เขาจะทำให้คุณพ่อหายโกรธได้ยังไง เรื่องนี้สำคัญมากๆ

เฉินโม่เป็นคนที่คว้าโอกาสในการแกล้งคนอื่นเก่งมากๆ เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง:”ตอนนี้ยังจะถอนหุ้นอีกไหม?”

ในที่สุดเวินฉิงก็ทนไม่ไหวอีกแล้ว เธอหัวเราะเสียงดังออกมาทันที

สีหน้าของซังซังกับเอียนชิงเฉิงมีแต่รอยยิ้ม พนักงานต้อนรับหญิงสองคนนั้นก้มหน้าทันที แต่พวกเธอพยายามไม่หัวเราะเสียงดังออกมา ทำให้พวกเธอกลั้นหัวเราะจนรู้สึกปวดท้อง

ฉือรุ่ยปิงไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกแล้ว เรื่องที่เขาโดนดูถูกเหยียบหยามในวันนี้เป็นเพราะเฉินโม่เพียงคนเดียว เขาจ้องเฉินโม่อย่างไม่พอใจ:”ไอ้เศษสวะ คุณรอไปก่อน ต้องมีสักวันที่ฉันจะทำให้คุณยอมคุกเข่าขอร้องฉัน!”

เมื่อพูดจบ ฉือรุ่ยปิงจากไปด้วยความโกรธ

สายตาของเฉินโม่เย็นชาทันทีและเผยรังสีฆ่าฟันออกมาอย่างชัดเจน ถ้าตรงนี้ไม่ใช่ใจกลางเมือง เขาคงตบหน้าฉือรุ่ยปิงจนเสียชีวิตไปแล้ว และคงไม่ให้โอกาสเขาได้พูดมากแบบนี้

เวินฉิงมองหน้าเฉินโม่ สายตาของเธอมีแต่ความชื่นชม:”เสี่ยวโม่ นายดูออกได้ยังไงว่าอีกฝ่ายแค่ข่มขู่เฉยๆเท่านั้น?”

เฉินโม่พูดเบาๆ:”มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ เพราะไม่มีใครไม่อยากได้เงิน!”

อันที่จริงเหตุผลหลักที่เฉินโม่ไม่ได้สนใจเรื่องที่ตระกูลฉือถอนหุ้นนั้น ถึงแม้ตอนนี้เหม่ยหวากรุ๊ปล้มละลายจริงๆ เฉินโม่ก็มีกำลังที่จะทำให้เหม่ยหวากรุ๊ปกลับมาเจริญรุ่งเรืองได้

เวินฉิงยกนิ้วโป้งขึ้นมาทันที:”เสี่ยวโม่ นายเก่งมากๆ ฉันรู้สึกว่าครั้งนี้นายแตกต่างจากเมื่อก่อนมากๆ ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย”

เฉินโม่รู้สึกตกตะลึงทันที ดูเหมือนเขาแสดงออกมากจนเกินไปแล้ว คนอื่นๆอาจจะมองไม่ออก แต่คนใกล้ชิดอย่างคุณแม่กับพี่เวินฉิงสามารถสัมผัสการเปลี่ยนแปลงของเขาได้อยู่แล้ว

เฉินโม่เกาหัวตัวเองและพูดด้วยรอยยิ้ม:”เพราะฉันโตขึ้นแล้ว มันก็ต้องต่างจากเมื่อก่อนอยู่แล้ว”

เวินฉิงเผยรอยยิ้มออกมาและนวดหน้าผากของเฉินโม่:”ไปกันเถอะ ฉันจะพาพวกนายไปพักผ่อนก่อน”

……

เวินฉิงพาทั้งสี่ไปที่โรงแรมที่อยู่ในเครือเหม่ยหวากรุ๊ปทันที

หลังจากจัดการห้องพักให้เฉินซงจื่อกับเอียนชิงเฉิงและซังซังแล้ว เวินฉิงพูดกับเฉินโม่ด้วยความรู้สึกผิด:”เสี่ยวโม่ ประธานกรรมการไม่อยู่ ฉันยังต้องไปจัดการเรื่องต่างๆในบริษัท ฉันคงอยู่เป็นเพื่อนนายไม่ได้ หลังจากจัดการเรื่องต่างๆสองสามวันแล้ว ฉันจะหาเวลาพานายออกไปเที่ยว”

เฉินโม่ไม่ได้ตอบ แต่เขามองหน้าเวินฉิงและเผยรอยยิ้มแปลกๆออกมา เขามองเวินฉิงจนทำให้เธอเขินอาย

“พี่เวินฉิง เกิดอะไรขึ้นกับเหม่ยหวากรุ๊ปกันแน่? เมื่อสักครู่มีคนนอกอยู่ฉันก็เลยไม่ได้ถาม ตอนนี้สามารถบอกฉันได้หรือยัง?”เฉินโม่จ้องมองเวินฉิงด้วยสายตาอันร้อนแรง ราวกับเขาสามารถมองทุกอย่างได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

เวินฉิงทำอะไรไม่ถูก ถ้าเฉินโม่ยังเป็นเด็กเกเรเหมือนเมื่อก่อน เธออาจจะสามารถหลอกอีกฝ่ายได้ แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปจนเธอมองไม่ออกแล้ว เธอรู้ว่าเรื่องเหล่านี้ไม่สามารถปิดบังเฉินโม่ได้อีกแล้ว

เวินฉิงมองเฉินซงจื่อและคนอื่นๆที่อยู่ด้านหลังเฉินโม่ ทำให้เฉินโม่เข้าใจทันทีและพูดเบาๆ:”วางใจได้ พวกเขาเป็นคนสนิทของฉัน พี่เวินฉิงมีเรื่องอะไรก็พูดออกมาตามตรงเลย”

เวินฉิงถอนหายใจ:”อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย เนื่องจากประธานกรรมการได้ที่ดินผื่นใหม่มา และเตรียมที่จะพัฒนาที่ดินผืนนี้ เดิมทีหลายๆธนาคารที่รับปากว่าจะกู้ยืมเงินให้บริษัทเรา แต่จู่ๆพวกเขาก็ไม่ยอมกู้เงินให้ ทำให้เหม่ยหวากรุ๊ปขาดสภาพคล่องทางการเงิน”

“เดิมทีหลายๆบริษัทที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเหม่ยหวากรุ๊ป จู่ๆพวกเขาก็ปฏิเสธที่จะร่วมธุรกิจกับเหม่ยหวากรุ๊ป ทั่วทั้งฮ่านหยางก็หาบริษัทที่จะร่วมธุรกิจกับเหม่ยหวากรุ๊ปไม่ได้แม้แต่บริษัทเดียวเลย”