บทที่ 355

บทที่ 355

เมื่อชาวบ้านคนนั้นเข้าไปพบกับอู่กวน ฝ่ายหลังก็พลันกวาดตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่จะร้องถามออกมา “ข้าคืออู่กวน เจ้าชื่ออะไร ?”

“ข้าน้อยมีนามว่า จางหยี” ชายคนนี้รู้จักแม่ทัพตรงหน้า ดังนั้นเขาจึงคุกเข่าลงแล้วรายงานในทันที “ท่านแม่ทัพ พวกศัตรูได้ล่าถอยกลับไปที่วังหลวงหมดแล้วขอรับ”

อู่กวนตาเป็นประกาย “เจ้ารู้ไหมว่าวังหลวงอยู่ที่ไหน ?”

“แน่นอนขอรับ”

“นำทางไปสิ”

“รับทราบ !”

อู่กวนกับกำลังทหารของเขามุ่งหน้าตรงไปยังวังหลวงในทันที ก่อนที่อู่กวนจะต้องถึงกับเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อพบว่ามีทหารและแม่ทัพนายกองอยู่ข้างบนกำแพงเต็มไปหมด ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเลย เพราะกำแพงในเขตวังนั้นสูงยิ่ง !

ยิ่งไปกว่านั้นคือทหารเปิงในครั้งนี้พร้อมสำหรับการป้องกันแล้ว ทั้งหินและซุงพร้อมที่จะถูกงัดเอามาใช้งานทันทีเช่นเดียวกับหม้อน้ำมันเดือด อู่กวนขมวดคิ้วครุ่นคิด เพราะหากเขาบุกเข้าไปตรง ๆ ยังไงก็ต้องเสียหายหลายแสนแน่ !!

ระหว่างที่คิด เขาก็เดินออกมาแล้วตะโกนออกไป “เมืองหยานถูกพวกเรายึดได้แล้ว ! วางอาวุธลงเสียแล้วพวกเจ้าจะรอดตาย !”

หลังจากที่อู่กวนพูดออกมาก็ไม่มีใครตอบกลับเลย ทหารเปิงไม่มีอารมณ์จะพูดอะไรทั้งนั้น พวกเขามองไปยังถนนก็เห็นแต่พวกเทียนหยวนเต็มไปหมด และเมื่อเห็นอู่กวน พวกเขาก็ใจหายกันหมดแล้ว

อู่กวนรู้สึกเสียใจที่ไม่มีใครคุยด้วย ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องโจมตีซึ่ง ๆ หน้าแล้ว ! เขาสูดหายใจแล้วยกอาวุธขึ้นมาพร้อมตะโกน “ฆ่าพวกมันให้หมด !”

คำสั่งของเขาทำให้พวกทหารปิงหยวนพากันตะโกนลั่นเพื่อปลุกใจตนเอง ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปวางบันไดที่กำแพงวังในทันที

พวกปิงหยวนสามารถคว้าโอกาสจากความตกใจตอนโจมตีเมืองหยานได้สำเร็จ และเหตุที่ได้ชัยชนะก็เพราะพวกเปิงนั้นยังไม่กลับมาประจำการบนกำแพง แต่ตอนนี้พวกมันกำลังตั้งรับอย่างสุดชีวิตพร้อมด้วยอุปกรณ์ต่อต้านเต็มอัตราศึก ดังนั้นแล้วเรื่องมันไม่ง่ายเหมือนก่อนหน้าแน่ !

อู่กวนและจ้านหูนำทัพ พวกเขาบุกโจมตีเข้าไปในทันที ! ทว่าก็ต้องถูกทำให้ถอยกลับมาด้วยท่อนซุงและน้ำมันเดือด

เมื่อเห็นว่าเป็นแบบนี้ อู่กวนจึงสั่งให้ทหารของเขาหยุดการโจมตีสักพัก แล้วให้ไปเอาเครื่องยิงหินออกมาเพื่อทำลายแนวป้องกันของพวกเปิงแทน

ไม่นานนักพวกเขาก็นำเอาเครื่องยิงหินจำนวนหนึ่งมาได้พร้อมกระสุนเป็นหินก้อนใหญ่ยักษ์

ก่อนที่อู่กวนจะออกคำสั่งให้มันใช้งาน และขว้างหินออกไปเข้าใส่กำแพงวัง ! …แม้ว่าการทำแบบนี้จะทำให้ประชาชนโกรธแค้นเพราะที่แห่งนี้คือสัญลักษณ์ของแคว้น แต่ไม่นานนักเดี๋ยวมันก็ซ่อมแซมตัวเองในภายหลัง

อู่กวนตกอยู่ในสถานการณ์บีบบังคับ เขาไม่มีทางเลือกมากนัก และได้แต่สั่งให้พวกทหารเตรียมพอ ก่อนเข้าปะทะพวกเปิงในราชวังทันทีเมื่อกำแพงแตก !

อีกด้านหนึ่ง กองทัพของหลีฉี่ที่ไล่ตามหลังก็ได้ตามกองทัพเทียนหยวนมาทันแล้ว

และเมื่อหลีฉี่ตามมาทัน พวกเทียนหยวนก็กำลังพักผ่อนอยู่พอดี ทำให้เมื่อพวกเขาเห็นธงที่กำลังโบกสะบัดนั่น พวกทหารก็พลันตกตะลึง

“พวกเปิงมันไล่ตามพวกเรามา !”

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกน แต่มันก็ทำให้ทั้งกองทัพตกอยู่ในความวุ่นวายทันที

เพราะการตายของถังหยิน ทำให้พวกเขาหมดกำลังใจต่อสู้ บวกกับเมื่อเห็นว่าศัตรูกำลังไล่ตามมา พวกเขาก็ถึงกับกรีดร้องด้วยความสิ้นหวังแล้วแตกกระจายไปคนละทิศทาง

ชิวเจิ้นไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ เขารีบหนีออกไปพร้อมกับแม่ทัพคนอื่น ๆ

กองทัพเทียนหยวนหนีไปทันทีโดยไม่ทันได้เก็บของใด ๆ

เมื่อหลีฉี่ เสี่ยวฮุ่ยและคนอื่น ๆ เห็นภาพตรงหน้า พวกเขาก็พากันหัวเราะออกมาดังก้อง เพราะถ้าไม่มีถังหยิน กองทัพเทียนหยวนมันก็แค่มังกรที่ไม่มีเขี้ยวเล็บดี ๆ นี่เอง แม้ว่าจะมีกันนับแสน แต่ก็ทำอะไรใครไม่ได้หรอก !

ระหว่างที่กองทัพเปิงกำลังเก็บกวาดข้าวของต่าง ๆ หลีฉี่ก็แทบจะสะกดความตื่นเต้นเอาไว้ไม่ไหว ก่อนเป็นนายทหารคนหนึ่งที่พูดขึ้น “แม่ทัพหลี่ พวกเรายึดอุปกรณ์ของพวกกบฏได้แล้วครับ”

หลีฉี่เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังทันที “กระจายคำสั่งออกไป ห้ามแตะต้องของพวกเทียนหยวนเด็ดขาด ทั้งกองทัพจะต้องตามไล่พวกเทียนหยวนต่อ !”

หลีฉี่เป็นแม่ทัพที่ดี เขารู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรในสถานการณ์แบบนี้

…การฆ่าศัตรูก็คือเป้าหมายหลักของเขา และเขาก็จะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ไปแน่ ๆ!

แม่ทัพคนอื่น ๆ ที่ได้ยินก็พากันพยักหน้าให้ “ท่านแม่ทัพพูดถูก ตอนนี้กองทัพเทียนหยวนกำลังแตกพ่ายไป พวกมันไม่มีกำลังใจจะสู้กับใครแน่ ถ้าพวกเราสามารถล้มพวกมันจะต้องได้รางวัลแน่ ๆ!”

ภายใต้คำสั่งของหลีฉี่ พวกเปิงก็พลันออกไล่ล่าพวกเทียนหยวนขึ้นไปทางเหนือต่อ และไม่คิดว่านี่จะเป็นแผนการล่อลวงของศัตรูเลยแม้แต่น้อย

ในความคิดของพวกเขา ถังหยินได้ตายไปแล้ว และไม่มีทางที่จะคิดว่าอีกฝ่ายวางแผนหลอกล่อแม้แต่น้อย เพราะว่ามีทั้งการไว้ทุกข์ให้เห็นทั้งกองทัพแบบนี้ นอกจากนี้การแตกตื่นของพวกเทียนหยวนก็เป็นของแท้ไม่ใช่การปลอมแปลง

เพราะสองเหตุผลข้างต้น ทำให้หลีฉี่เชื่อว่าคนพวกนี้กำลังหนีตายกันจริง ๆ!

ความเร็วของกองทัพเทียนหยวนและกองทัพเปิงนั้นต่างกันมาก ไม่นานนักพวกเปิงก็ไล่ตามเทียนหยวนได้ทันเวลา และไล่ฆ่าพวกเทียนหยวนอย่างบ้าระห่ำ ทำให้เกิดเสียงกรีดร้องดังให้ได้ยินเป็นระยะพร้อมกับพวกทหารที่ล้มตายลงไป

เสี่ยวฮุ่ยหัวเราะลั่นแล้วหันไปหาหลีฉี่ “แม่ทัพหลี่ดูสิ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ใช่แค่พวกเราจะจัดการพวกมันได้เท่านั้น แต่เราอาจยึดเอาดินแดนคืนจากพวกมันคืนได้ด้วย !”

การต่อสู้เป็นไปอย่างราบรื่น ทำให้หลีฉี่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ถ้าพวกเรากวาดล้างพวกเทียนหยวนได้ ข้าจะให้รางวัลพวกเจ้าอย่างงาม !”

พวกแม่ทัพที่ได้ยินก็ถึงกับหัวเราะออกมา

ทว่าทันใดนั้นเอง จู่ ๆ ชิวเจิ้นและเหล่าแม่ทัพก็หยุดการหนี กองทัพปิงหยวนที่นำโดยมูฉิง กองทัพจี้เฟิง เปิงเฮาฉู และแม่ทัพคนอื่น ๆ ต่างก็สั่งให้รวบรวมทหารเข้าด้วยกัน

พวกทหารที่ได้ยินคำสั่งต่างก็ตะโกนลั่นเพื่อรวมกองทหารของตัวเอง เพียงพริบตาเดียวกองทัพทั้งหมดก็จัดขบวนรบพร้อมเสร็จสรรพ !

กองทัพเทียนหยวนได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี ต่อให้จะหมดกำลังใจพวกเขาก็ยังคงฟังคำแม่ทัพอยู่บ้าง ดังนั้นแล้วเมื่อถึงตอนนี้ พวกเขาจึงพากันตั้งขบวนรบ และอยู่ในรูปแบบขบวนสี่เหลี่ยมเรียบร้อยแล้ว !

เมื่อพวกทหารเปิงเข้ามา ก็เป็นทหารแนวหน้าที่ยกโล่ขึ้นป้องกันศัตรูเอาไว้ ก่อนจะเป็นพวกทหารข้างหลังที่ยกชูหอกและง้าวเสือกแทงเข้าใส่พวกเปิงที่เข้ามาทั้งหมด

ทหารเปิงมากมายที่พุ่งเข้าใส่รูปขบวนนี้ถูกหอกแทงจนตายกันยับ

“หา นี่มันบ้าอะไรกัน ?”

วินาทีนี้หลีฉี่เริ่มเห็นแล้วว่าพวกเทียนหยวนกำลังตั้งขบวนรบเพื่อเตรียมรับมือพวกเขาแล้ว

แม้ว่าพวกเทียนหยวนจะหมดกำลังใจ แต่คนพวกนี้ก็ยังมีจำนวนที่มากกว่า ถ้าหากสู้กันตรง ๆ ยังไงก็เสียเปรียบ หลีฉี่เริ่มลังเลและบอกกับคนของตัวเอง “พวกมันตั้งขบวนรบแล้ว ! พวกเราต้องถอยกันก่อน !”

“หา ?” เสี่ยวฮุ่ย และคนอื่น ๆ ต่างก็โบกมือพร้อมกัน “แม่ทัพหลี่ พวกมันก็แค่หลอกท่านเท่านั้น ท่านจะกลัวอะไรเล่า !”