บทที่ 85 แสงของสมบัติ!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

เมื่อออกมาจากสาขาของหอยุทธ์

ดวงตาคู่งามของเย่วหลิงจ้องไปยังเย่เทียน “เย่เทียนตอนนี้คุณเป็นมหาเศรษฐี 325,000 ล้านแม้แต่ฉันก็ยังคิดจะปล้นคุณ”

“ถ้าอย่างนั้นคงต้องรอให้คุณแข็งแกร่งกว่านี้ก่อน !”

เย่เทียนพูดติดตลก

“ดี! ตอนนี้คุณกล้าแม้กระทั้งแกล้งฉันแล้ว!”

เย่วหลิงแสร้งทําเป็นโกรธ

ทั้งสองคนแค่พูดคุยหยอกล้อกันเล็กน้อย จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็เตรียมตัวแยกย้ายกันไป

แต่ก่อนจะจากไป

เย่วหลิงกล่าวเตือนอีกครั้ง “เย่เทียน ตอนนี้คุณรวยแล้วอีกสิบวันจะมีการจัดประมูลขึ้นที่หอยุทธฉันคิดว่าคุณอาจจะสนใจเพราะมีหลายสิ่งที่คุณอาจต้องการเพราะการที่คุณไม่ได้เข้าร่วมกองกําลังใดๆ มันมีหลายอย่างที่คุณไม่สามารถซื้อได้ด้วยตัวเอง”

“เย่วหลิง คุณช่วยบอกได้ไหมว่าสิ่งที่คุณหมายถึงคืออะไร?”

เย่เทียนถามออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ตอนนี้เขามีเงินมากพอแล้ว แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาหาซื้อไม่ได้หากไม่มีช่องทางยกตัวอย่างเช่นถุงเก็บสมบัติเขาเคยถามหอยุทธหลายครั้งแต่เขาก็ยังไม่มีสิทธิ์ที่จะซื้อมัน

“เทคนิครวบรวมลมปราณขั้นสูง!”

เย่วหลังกล่าว

“มันจะถูกนําออกมาประมูลจริงๆหรือ?”

เย่เทียนเต็มไปด้วยความสนใจ!

ตอนที่เขามาถึงฐานทะเลมารได้ไม่นาน แน่นอนว่าเขาเคยสอบถามเกี่ยวกับเทคนิครวบรวมลมปราณขั้นสูงแล้วแต่สิ่งนี้เป็นความลับของขุมกําลังใหญ่ๆดังนั้นจึงไม่มีใครนํามันออกมาขาย

นอกเสียจากว่าเขาจะเข้าร่วมกับขุมกําลังใหญ่และประกาศถึงความจงรักภักดี มิเช่นนั้นเขาก็ไม่มีทางได้รับเทคนิครวบรวมลมปราณขั้นสูง

และตอนนี้เขามีเพียงเทคนิครวบรวมลมปราณขั้นกลางเท่านั้นซึ่งเย่วหลิงคือผู้มอบมันให้กับเขาเทคนิครวบรวมลมปราณขั้นกลางให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในตอนนี้แต่เมื่อถึงระดับปรมาจารย์ผลของมันจะต่ำลงมากและจะค่อยๆหมดประสิทธิภาพไป

หากเขาต้องการฝึกฝนต่อ เขาทําได้เพียงพึ่งพาเลือดสัตว์อสูรระดับสุดยอดเท่านั้น

ปรมาจารย์ที่มีครอบครองเทคนิครวบรวมลมปราณขั้นสูงและปรมาจารย์ที่ไม่ได้ครอบครองเทคนิครวบรวมลมปราณขั้นสูงทั้งสองมีอัตราความก้าวหน้าแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

เย่เทียนวางแผนไว้ว่าหลังจากบรรลุขอบเขตปรมาจารย์แล้ว เขาค่อยไปแสวงหาเทคนิครวบรวมลมปราณขั้นสูงอีกครั้งแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะมีโอกาสแล้ว

“เย่วหลิง ผมจะต้องเข้าร่วมแน่นอน!”

เย่เทียนตอบอย่างมั่นใจ

“ดี ฉันจะให้คนส่งบัตรเชิญการประมูลให้คุณภายใน 2 วัน!”

เย่วหลิงกล่าว

“ขอบคุณมาก!

เย่เทียนกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ ถ้าหากเขาหาบัตรเชิญด้วยตัวเองคงจะต้องใช้เวลาไม่น้อย

จากนั้นทั้งสองก็แยกย้ายกันไป

ตอนนี้เป็นเวลาเย็น

เย่หยกลับมาจากโรงเรียนของนักรบแล้ว เมื่อเห็นเย่เทียนกลับมา เธอก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ

“ท่านพี่ ในที่สุดท่านก็กลับมา!”

เย่หยวิ่งเหยาะๆเข้ามา

แต่ไม่นานเธอก็ถูกดึงดูดโดยเสี่ยวจื่อ

“ว้าว หนูน้อยน่ารักตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของพี่หรอ? หรือพี่จะนํามันมาเป็นของขวัญให้ข้า?”

ดวงตาของเย่หยุเต็มไปด้วยความคาดหวัง

จะโทษเธอก็ไม่ได้ เสี่ยวลื่อน่ารักมาก โดยเฉพาะขนสีทองเล็กๆ ตรงหว่างคิ้วทําให้มันน่ารักขึ้นหลายเท่า “อม นี่เป็นของขวัญพี่มอบให้เจ้า!”

เย่เทียนพยักหน้า

เมื่อเย่เทียนส่งเสี่ยวจื่อให้เย่หยู เสี่ยวจอก็ตกตะลึง

เกิดอะไรขึ้น?

ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร? มันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่น่ารักของเจ้านายหรอกหรือ? ทําไมมันถึงกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของสาวน้อยคนนี้ไปได้?”

“นายท่าน ท่านจะขายข้าหรือ?”

เสี่ยวจอพูดกับเย่เทียนด้วยความคับข้องใจ

“ไม่ได้ขาย แต่ข้ามักจะยุ่งมากไม่มีเวลาที่จะดูแลเจ้านี่คือเย่หยน้องสาวของข้าดูแล้วนางจะชอบเจ้ามากข้าเชื่อว่านางคงจะปฏิบัติต่อเจ้าเป็นอย่างดี!”เย่เทียนอธิบาย

“เห้อ!! เสี่ยวจ่อเชื่อฟังนายท่าน!”

เสี่ยวจื่อพูดอย่างเชื่อฟัง

เมื่อมีเสียวจออยู่ในบ้าน สถานะของเสี่ยวจินก็ตกต่าลงทันที

เดิมที่เย่หยุมักจะเล่นกับเสี่ยวจินแต่ตอนนี้มีเสียวจอแล้วมันเกือบจะถูกทอดทิ้งแน่นอน

เย่หยุเองก็ฝึกฝนอยู่บ่อยๆ เธอไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนเสียวจื่อและเสี่ยวจนได้สัตว์เลี้ยงทั้งสองจึงผูกมิตรกันอย่างรวดเร็ว

เสี่ยวจอ: ข้าชื่อเสี่ยวจ่อ เจ้าตัวใหญ่ เจ้าชื่ออะไร?

เสี่ยวจิน: ข้าชื่อเสี่ยวจินเป็นชื่อที่นายท่านตั้งให้

เสี่ยวจ่อ: เจ้าตัวใหญ่ เจ้ามีความสามารถอะไร?

เสี่ยวจิน: ข้านั้นมีความแข็งแกร่งทางกายภาพ และสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว!

เสี่ยวจื่อ: ดูเหมือนว่าความสามารถของเจ้าจะไม่ค่อยมีประโยชน์มากนักเจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ามความสามารถเช่นไร?ตัวข้านั้นมีพรสวรรค์ในการล่าสมบัติสมบัติอะไรก็หนีไม่พ้นสายตาของข้า หากเจ้ายอมเป็นลูกน้องข้าต่อไปข้าจะพาเจ้าออกไปหาสมบัติมากมาย!

เสี่ยวจิน: คาระวะพี่ใหญ่!

เสี่ยวจื่อ: ข้าเป็นตัวเมีย เจ้าต้องเรียกข้าว่าพี่สาว!

เสี่ยวจิน: ตกลงพี่สาว

หลังจากพูดจากันไม่กี่คํา เสี่ยวจินก็กลายเป็นลูกน้องของเสี่ยวซื้อโดยปริยายและหลังจากนั้นเสี่ยวจ่อก็ไม่เห็นด้วยขาตัวเองอีกเลย นางนั่งบนร่างใหญ่โตของเสี่ยวจิน และคิดว่าเสี่ยวจนเป็นพาหนะของนาง

เมื่อเย่เทียนได้เห็นมัน เขาก็หัวเราะอยู่หลายวัน

เมื่อเห็นว่าเสี่ยวจิน เสียวจื่อและเย่หยูเล่นกันอย่างสนุกสนาน เย่เทียนก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก

วันที่สี่หลังจากการกลับมาบ้าน

คนของเย่วหลิงก็มามอบบัตรเชิญเข้าร่วมการประมูลให้แก่เขา

หลังจากได้รับบัตรเชิญร่วมการประมูลเย่เทียนก่าลังจะเริ่มฝึกฝน แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าพรสวรรค์ในการคัดลอกของเขาสามารถใช้ได้อีกครั้งแล้ว

“ต้องคัดลอกพรสวรรค์ในการล่าสมบัติของเสี่ยวจื่อก่อน!”

เย่เทียนตัดสินใจ

พรสวรรค์นี้ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ หากไม่คัดลอกคงจะเป็นเรื่องที่โง่มาก

“คัดลอก!”

“หลอมรวม!”

พรสวรรค์ล่าสมบัติระดับสูงไม่ได้ทําให้เย่เทียนต้องทนทุกข์ทรมานมากนัก เขาแค่รู้สึกร้อนไปทั่วทั้งร่างและมีเหงื่อไหลออกมาเท่านั้น สิบนาที่ผ่านไปและหลอมรวมก็สิ้นสุดลง

[พรสวรรค์ในการล่าสมบัติ: ระดับสูง]

เมื่อมองไปที่ข้อมูลของพรสวรรค์ เย่เทียนก็ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจจากนั้นเขาก็เริ่มทดสอบความร้ายกาจของพรสวรรค์ในการล่าสมบัติระดับสูง

– โสมร้อยปี โสมพันปี หินลมปราณหนึ่งก่อน

เย่เทียนวางของทั้งสามชิ้นลงบนโต๊ะและเปิดใช้งานพรสวรรค์ล่าสมบัติ

จากนั้นฉากที่ไม่น่าเชื่อก็ปรากฏขึ้น

กลุ่มแสงสามก่อนปรากฏออกมาจากสมบัติทั้งสามชิ้น

แสงจากโสมร้อยปีเป็นแสงสีขาวอ่อน แสงที่โสมพันปีเป็นแสงสีขาวที่เข้มข้นแต่หินปราณเปล่งแสงสีแดงอ่อนออกมา จากนั้นเย่เทียนก็หยิบสมบัติออกมาอีกจํานวนมากและใช้พรสวรรค์ในการล่าสมบัติอีกครั้ง

ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุป

สีของแสงเกี่ยวข้องกับระดับของสมบัติเรียงจากต่าไปสูง มันสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายระดับ

แสงสีขาว, แสงสีแดง, แสงสีเหลือง, นี้เป็นสามระดับจากต่าไปสูง.

สมบัติทั้งหมดที่เขาได้รับมาส่วนใหญ่จะเปล่งแสงสีขาว มีส่วนน้อยพี่เป็นแสงสีแดงและแสงสีเหลืองนั้นเป็นสมบัติสวรรค์เช่นดอกไม้จิตวิญญาณสวรรค์ส่วนจะมีแสงที่มีระดับสูงกว่าสีเหลืองหรือไม่นั้นเย่เทียนเองก็ไม่รู้เช่นกัน

ในเวลาเดียวกันเยู่เทียนก็ทดสอบขอบเขตของพรสวรรค์ในการล่าสมบัติผลปรากฏว่าระยะการตรวจสอบคือ 10 ลี้

ตราบเท่าที่อยู่ภายในระยะ 10 ลี้ เขาสามารถสัมผัสถึงการมีอยู่ของสมบัติและตัดสินระดับของสมบัติได้

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงใช้พรสวรรค์ในการล่าสมบัติตรวจสอบโดยรอบในระยะ 10 ลี้ และเห็นแสงของสมบัติที่อยู่รวมกันอย่างหนาแน่นในระยะสิบล็ใกล้เขาน่าเสียดายที่สมบัติเหล่านี้ล้วนมีเจ้าของดังนั้นเขาจึงไม่สามารถนํามันมาได้

และในบรรดาสมบัติเหล่านี้สิ่งที่มีค่าที่สุดก็เปล่งแสงสีเหลืองออกมาเท่านั้น

“เราต้องใช้พรสวรรค์ในการคัดลอก คัดลอกพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้น!”เย่เทียนกล่าว

เท่าที่เขารู้ พรสวรรค์ในการบ่มเพาะสูงสุดของฐานทะเลมารคือพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้นเขาไม่สามารถหาพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับที่สูงกว่านั้นได้ดังนั้นเขาจึงต้องการคัดลอกพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้นเพื่อที่จะทําให้พรสวรรค์ในการบ่มเพาะของเขายกระดับสูงขึ้น

“คงต้องไปแถวๆตระกูลหยุนก่อน!” เย่เทียนออกไปในทันที