ตอนที่ 769 ชื่อแผนส่งดอกไม้

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

“นายมันพูดมากเหมือนผู้หญิง วันๆเอาแต่เจื้อยแจ้วไม่หยุด ฝึกเสร็จแล้วเหรอ ถ้ายังไม่เสร็จก็รีบไป แล้วก็นาย ไม่ไปทำงานของตัวเองแล้วหรือไง อย่ามัวแต่มาเพ้อเจ้อต่อหน้าเมียฉัน น่ารำคาญ” 

 

 

ท่าทางของอวี๋หมิงหลางเหมือนคนร้อนตัวมาก เขาทั้งเขินทั้งโกรธ 

 

 

“พี่สะใภ้ดูสิครับ” 

 

 

อวี๋หมิงหลางค้นพบอย่างเซ็งๆว่า คนรอบตัวเขาคล่องมากเรื่องหาทางหลบเลี่ยงไม่ต้องถูกเตะด้วยการไปหลบอยู่หลังเมียเขา 

 

 

“พอแล้วๆ เลิกเล่นเถอะ พวกเรามาเข้าเรื่องกันหน่อย น้องสะใภ้ช่วยบอกหน่อยได้ไหมครับว่าคุณคิดจะดำเนินตามแผนยังไง” พลาธิการสนใจเรื่องที่เสี่ยวเชี่ยนพูดกับผู้บัญชาการมาก 

 

 

พอพูดถึงเรื่องนี้ หัวหน้ากลางก็เงียบทันที 

 

 

ทุกคนต่างอยากรู้ว่าจิตแพทย์จะเก่งสักแค่ไหน สามารถทำให้ผู้ชายที่ชอบผู้หญิงยอมรับการจีบจากผู้ชายได้ด้วยเหรอ 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนลากเก้าอี้มานั่ง อวี๋หมิงหลางและคนอื่นๆพากันนั่งตาม บรรยากาศเหมือนกำลังประชุมอยู่ 

 

 

“ถ้าจะว่ากันอย่างเคร่งครัด ด้วยจรรยาบรรณของจิตแพทย์ไม่สามารถเอาเรื่องของผู้ป่วยไปพูดส่งเดชได้ ฉันต้องรักษากฎ—” เสี่ยวเชี่ยนยิ้มกรุ้มกริ่มมองอวี๋หมิงหลาง อยู่ๆอวี๋หมิงหลางก็สังหรณ์ใจไม่ดี 

 

 

เธอคิดจะทำอะไรน่ะ 

 

 

“แต่ว่านะ เรื่องกฎเนี่ยก็ไม่ถึงกับคอขาดบาดตาย พวกเราไม่ได้เคร่งเหมือนกองทัพ พูดให้ฟังนิดหน่อยก็พอได้ เพียงแต่ว่า เรื่องในหน่วยที่เกี่ยวกับสามีฉันที่ไม่ได้เป็นความลับพวกนั้น—” 

 

 

“พี่สะใภ้วางใจได้ เดี๋ยวผมจะแฉให้หมดเปลือกเลย ผมจะเล่าส่วนที่ไม่เกี่ยวกับความลับให้ฟัง ใช่ไหมพลาธิการ พวกเราก็ต้อนรับพี่สะใภ้เหมือนกับเวลาที่มีครอบครัวทหารคนอื่นมาเยี่ยม ไม่เป็นไรเนอะ” 

 

 

“จัดไป” 

 

 

อวี๋หมิงหลางหมดแรง จบกัน เมียเขาถ้าลองเกิดอยากรู้ขึ้นมาใครก็ห้ามไม่อยู่ 

 

 

“ช่างเถอะ แล้วแต่พวกนายเลย ยังไงอีกไม่กี่วันเมียฉันก็จะย้ายมาอยู่ด้วยแล้ว ช้าเร็วก็ต้องมาเชิญพวกนายไปบ้านอยู่ดี” 

 

 

สองคนนี้ก็อยู่ในหมู่บ้านทหาร ต่อให้พวกเขาไม่พูด ภรรยาของพวกเขาอีกหน่อยเจอเสี่ยวเชี่ยนก็ต้องมีหลุดปากพูดอยู่ดี ตามสบายเลยแล้วกัน 

 

 

เสี่ยวเฉียงยอมแพ้ 

 

 

“ก่อนอื่นฉันขออธิบายเรื่องความตั้งใจในการรักษาของฉันก่อน ถ้าตัดเรื่องหน้าที่ที่ต้องทำต่อประเทศชาติไป พวกเราดูแค่อาเหม็ด ทุกคนอย่าได้สงสารเขาเป็นอันขาด คิดซะว่าการที่ฉันช่วยซ่งชิงอู๋ก็เพื่อเอาคืนเขา คนๆนี้ไม่ให้เกียรติผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย ในช่วยวัยเด็กเขาจะต้องเคยเห็นพ่อทำร้ายแม่ของเขาอย่างแน่นอน ทำให้เขาฝังใจเลยกลายเป็นชอบดูถูกผู้หญิง แต่กลับอยากพึ่งบารมีของผู้หญิงเพื่อให้ตัวเองได้รับทรัพย์สินมหาศาล” 

 

 

“พี่สะใภ้ เขาเป็นพวกแมงดาหรือเปล่า” 

 

 

“ก็ประมาณนั้นแต่ไม่เหมือนกัน แมงดาเป็นแค่คนที่อยากได้เงินของผู้หญิงแต่ก็ดูแลเอาอกเอาใจเป็นอย่างดี แต่คนอย่างอาเหม็ดมีนิสัยเห็นแก่ตัว เอาเงินของคนอื่นไปยังไม่สำนึก ยังจะถีบหัวส่งเขา คิดว่าการที่ตัวเองหลอกผู้หญิงเป็นสิ่งที่ทำถูกแล้ว” 

 

 

อาเหม็ดก็อารมณ์เหมือนเป็นหม่าลุ่ยเวอร์ชั่นไฮโซ ถึงสถานะจะแตกต่างกัน แต่ระดับความเลวไม่ต่าง อยากอาศัยผู้หญิงเป็นบันไดปีนขึ้นไป 

 

 

“คนๆนี้มันขยะจริงๆ” 

 

 

“ใช่ ดังนั้นในฐานะที่ฉันเป็นจิตแพทย์ เจอคนที่ป่วยเรื่องตรรกะความคิดบิดเบี้ยวแบบนี้ฉันถึงได้เหนื่อยใจ” เสี่ยวเชี่ยนส่ายหน้าอย่างระอา “มีผู้ป่วยคนหนึ่งโผล่มาพอดี เขาหลงรักอาเหม็ดหัวปักหัวปำถึงขนาดที่ว่าอยากฆ่าฉันที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ให้ตาย พวกคุณว่าคนอย่างซ่งชิงอู๋ถ้าไม่จับมารักษา ปล่อยออกไปอยู่ในสังคมจะกลายเป็นภัยแค่ไหน” 

 

 

“เป็นภัยสังคม” 

 

 

“เมียจ๋า อย่าล้างสมองพวกเขาสิ คุณก็พูดมาเลยว่าแผนเป็นยังไง” อวี๋หมิงหลางกลัวว่าถ้าคุยแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผู้ร่วมงานของเขาได้ถูกเมียเขาล้างสมองจนเกลี้ยงแน่ 

 

 

“ก็ได้ ฉันไม่พูดเล่นแล้ว มาพูดถึงฉายาที่ฉันตั้งให้เคสพิเศษนี้แล้วกัน เคสนี้ฉันจะขอเรียกมันว่า ส่งดอกไม้” 

 

 

นี่เธอก็เรียนมาจากอวี๋หมิงหลาง ได้คดีใหญ่ๆมาก็ตั้งชื่อประหลาดๆ 

 

 

“ส่งดอกไม้ แปลกจัง” 

 

 

ทุกคนไม่เข้าใจว่าหมายความว่ายังไง เสี่ยวเชี่ยนยิ้มอย่างมีเลศนัย 

 

 

นี่ถ้าสาวช่างฝันอย่างสืออวี้อยู่ด้วยล่ะก็คงเข้าใจทันที 

 

 

ส่งดอกเบญจมาศให้คุณ ปกป้องแผ่นดินให้สงบฮ่าๆ 

 

 

“ความยากของภารกิจส่งดอกไม้นี้มีอยู่สองอย่าง หนึ่งคือทำยังไงให้ผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างอาเหม็ดยอม สองคือคนไอคิวสูงอย่างซ่งชิงอู๋สะกดจิตล้างสมองยาก เขาเคยรักษาอาการเบี่ยงเบนทางเพศที่เมืองนอกมาหลายครั้ง ก็แสดงให้เห็นว่าเขาผูกพันกับรักครั้งนี้แค่ไหน ไม่มีอะไรเอาชนะความรักที่ยิ่งใหญ่ของเขาได้” 

 

 

“รักร่วมเพศไม่ถือว่าเป็นโรคไม่ใช่เหรอ” อวี๋หมิงหลางจำได้เสี่ยวเชี่ยนเคยบอก จิตแพทย์เก่งๆในเมืองนอก ตำราการสอนต่างๆตัดรักร่วมเพศออกจากการเป็นโรคชนิดหนึ่งไปแล้ว นั่นก็หมายความว่ารักร่วมเพศไม่ใช่โรค งั้นทำไมซ่งชิงอู๋ต้องพยายามรักษาด้วย 

 

 

“ไม่ใช่โรคจริงๆ แต่ในบางประเทศที่มีความเชื่อทางศาสนาที่ค่อนข้างพิเศษคิดว่าขัดต่อคำสอน ดังนั้นบางองค์กรในต่างประเทศจึงมีการรักษาอาการเบี่ยงเบนทางเพศ ในมุมมองของฉัน รสนิยมทางเพศไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรกับมัน เพราะการรักษาก็ยากที่จะทำให้ได้ตามผลลัพธ์ที่ต้องการ จะชอบผู้ชายหรือชอบผู้หญิงก็ไม่เป็นไร ขอแค่ไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตคนอื่นก็พอแล้ว—ไปไกลละ กลับมาเข้าเรื่อง” 

 

 

“อืม” 

 

 

“พวกเราต่างรู้ว่าซ่งชิงอู๋มีไอคิว151 ไอคิวของสามีฉัน152—” 

 

 

“ว้าว หัวหน้าใหญ่เจ๋งขนาดนั้นเลย” 

 

 

“เข้าประเด็นสิคุณจะพูดเรื่องผมทำไม” อวี๋หมิงหลางที่ถูกมองเหมือนตัวประหลาดรู้สึกเขิน 

 

 

“จากประสบการณ์รักษาคนไข้หลายปีของฉันได้พบว่าคนที่ไอคิวยิ่งสูงก็ยิ่งบกพร่องในบางเรื่องอย่างง่ายๆ ซึ่งก็ถือเป็นความยุติธรรมของสรรพสิ่งที่เกิดมา สวรรค์ประทานสมองอันชาญฉลาดให้กับคนๆหนึ่งก็ย่อมเอาบางสิ่งบางอย่างไป สามีฉันเหมือนกัน ซ่งชิงอู๋ก็เหมือนกัน” 

 

 

“ยังไงเหรอ” พอได้ยินเรื่องส่วนตัวของหัวหน้าใหญ่ทั้งสองคนก็หูผึ่ง 

 

 

อวี๋หมิงหลางเซ็ง เขาไม่ควรพาเมียเข้ามาที่หน่วยเลยจริงๆ ดูซิ แทบจะปกครองที่นี่แล้ว 

 

 

“สามีฉันเป็นแบบฉบับของผู้ชายที่ใจสะอาดรักเดียวใจเดียว คนแบบนี้มีจุดเด่นอยู่อย่าง ถ้าเขาชอบใครเข้าแล้วก็จะหยุดอยู่กับแค่คนๆนั้น เหมือนที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า หัวดื้อ ให้เปลี่ยนคนก็ไม่เปลี่ยน พวกคุณจะเข้าใจว่านี่เป็นข้อบกพร่องที่สวรรค์ให้มาก็ได้ เท่าที่ฉันวิเคราะห์ซ่งชิงอู๋ในทุกด้าน ฉันสงสัยว่าซ่งชิงอู๋ก็เป็นแบบนี้” 

 

 

สามารถมองข้ามเรื่องสถานะยอมทิ้งศักดิ์ศรี ไม่ว่าเมื่อชาติก่อนอาเหม็ดด่าเขาทำร้ายเขาแค่ไหน ไม่ให้อำนาจอีกแล้วก็ตาม เขาก็ยังคงอยู่กับคนแย่ๆอย่างอาเหม็ดไม่ไปไหน แบบนี้ไม่เรียกว่าหัวดื้อแล้วเรียกว่าอะไร 

 

 

ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายที่ยโสแค่ไหน ไอคิวสูงขนาดไหน ความสามารถเยอะแค่ไหน หากมีความรักก็พร้อมจะสละทุกสิ่ง คิดแค่อยากอยู่เคียงข้างอาเหม็ด แอบรักเขาเงียบๆ ถ้าซ่งชิงอู๋ไม่ใช่คนที่ทำเรื่องชั่วจนชิน ไม่แน่เสี่ยวเชี่ยนอาจจะประทับใจ 

 

 

แต่น่าเสียดายที่อาเหม็ดกับซ่งชิงอู๋เป็นคนที่ทำเลวได้สารพัด เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกเหมือนแม่สามีจอมโหดเจอกับลูกสะใภ้ที่ไร้เหตุผล ไม่มีอะไรให้ต้องผูกพัน สู้กันให้เต็มที่