เหมียว! ฮือๆๆ โพ่เทียนแสร้งทำเป็นชอบ…
“อาเป่าไม่ร้องไห้นะ…” เสียงของโพ่เทียนดูวิตกกังวลมาก เวลาต่อมา ข้าก็ตกอยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่นและคุ้นเคย
เหมียว…อ้อมกอดของโพ่เทียนยังอบอุ่นอยู่
“โพ่เทียนไม่ได้เกลียดอาเป่าใช่ไหม?” ข้ามองโพ่เทียนและถามอย่างขี้ขลาด ข้ากลัวมาก กลัวโพ่เทียนจะบอกว่าเขาไม่ชอบข้า กลัวโพ่เทียนบอกว่าไม่ต้องการข้าแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าควรทำอย่างไร?
“อืม ข้าชอบอาเป่าที่สุดนะ อาเป่าอย่าร้องไห้ ร้องไห้แล้วไม่น่ารักนะ” ในที่สุดโพ่เทียนก็เอื้อมมือของเขาออกมาลูบหัวข้าเบาๆ
“เหมียว…โพ่เทียน เจ้าไม่โกรธข้าหรือ? จะไม่เบื่อข้าใช่หรือไม่?” ข้าถามอย่างระมัดระวัง โพ่เทียนยังคงลูบหัวเบาๆ เหมือนเมื่อก่อน
“ทำไมข้าถึงจะไม่ต้องการอาเป่าล่ะ? อาเป่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับข้านะ และจะไม่มีใครแทนที่ได้ด้วย” โพ่เทียนยิ้มและยื่นมือออกมาเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของข้าพร้อมพูดเบาๆ
“เหมียว จริงหรือ?” ข้าเงยหน้ามองตาของโพ่เทียน แววตาของโพ่เทียนเป็นประกาย แม่ของข้าบอกว่านี่คือท่าทีในตอนที่ซื่อสัตย์ที่สุด
“อาเป่าอย่าคิดมากนะ อาเป่าสำคัญที่สุดสำหรับข้า” โพ่เทียนปาดน้ำตาของข้าและพูดเบาๆ
“นั่น…” ข้าครุ่นคิดแล้วพูดต่อ “สิ่งที่เจ้าพูดครั้งล่าสุดนับหรือไม่?”
“อะไร?” โพ่เทียนรู้สึกสับสน
“เจ้าให้ข้าอยู่กับเจ้าตลอดไป” ข้าอยากจะร้องไห้อีกครั้งแล้ว หรือว่าโพ่เทียนไม่อยากแต่งงานกับข้า?
“แน่นอนว่าข้าจำได้ ข้ายังจำได้เลยว่าอาเป่าสัญญาว่าจะอยู่กับข้าตลอดไป” โพ่เทียนยิ้ม
“เหมียว หมายความว่าเจ้าจะยังอาบน้ำให้ข้า ให้อาหารอร่อยๆ เยอะๆ แล้วก็กอดข้าให้หลับใช่หรือไม่?” ข้ามีความสุขมาก โพ่เทียนไม่ได้เกลียดฉันและยังต้องการข้าอยู่
“ฮะ? อันนี้ อื้ม ได้” โพ่เทียนรับปาก
“โพ่เทียนจะแต่งงานกับข้าใช่หรือไม่?” ข้ามองโพ่เทียนอย่างมีความหวัง หัวใจของข้าก็กลับมามีความสุขอีกครั้ง
“อื้ม ข้าจะแต่งงานกับอาเป่าแน่นอน” โพ่เทียนยิ้มและพยักหน้ายืนยัน ตอนโพ่เทียนพูดเช่นนี้ ดวงตาของเขาเป็นประกายมาก โพ่เทียนไม่ได้โกหก โพ่เทียนจริงจัง ฮ่าๆ!
“เหมียว…ข้าชอบโพ่เทียนที่สุด” ข้าดีใจสุดๆ และกระโจนเข้าไปหา
ทำไมถึงทำโพ่เทียนล้มลงไปเลยล่ะ?
ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อนเลย!
ตอนนี้พวกเราล้มลงบนพื้นแล้ว เหมียว…
เหมียว…หน้าโพ่เทียนยิ่งแดงขึ้นไปอีก? ทำไมโพ่เทียนยังหายใจหอบอยู่ล่ะ?
“อาเป่า…เจ้า เจ้าลงมาก่อน” เสียงของโพ่เทียนสั่นเล็กน้อย ทำไม?
หรือว่าโพ่เทียนล้มลงเมื่อกี้แล้วบาดเจ็บ? โพ่เทียน ข้าขอโทษ ข้าทำให้เจ้าเจ็บ ข้าจะลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลย ข้าเร่งรีบทันที แต่ผ้าห่มพันกัน ดังนั้นข้าจึงล้มใส่โพ่เทียนอีก
เมื่อมองใบหน้าที่แดงก่ำของโพ่เทียน ข้าก็รู้ว่าคราวนี้โพ่เทียนต้องเจ็บแน่ๆ แย่จัง ข้าต้องลุกขึ้น เหมียว ผ้าห่มนี่รำคาญจริงๆ…
“โพ่เทียน ตื่นเร็ว มีเรื่องเกิดขึ้นแล้ว!” จู่ๆ เสียงของอัลทิสก็ดังขึ้นข้างนอกนั้น จากนั้นประตูก็ถูกเปิดออกทันที
เมื่ออัลทิสเข้ามา เขาก็ตกตะลึงกับฉากที่อยู่ตรงหน้าเขา
ผู้หญิงคนหนึ่งนอนทับโพ่เทียนอยู่บนพื้น และผู้หญิงคนนั้นมีผมสีเงินสวยงามแต่ยุ่งเหยิงและต้นขาขาวๆ ข้างหนึ่งยื่นออกมาจากผ้าห่ม แขนขาวๆ พาดอยู่บนคอของโพ่เทียน คนสองคนใกล้ชิดมาก โพ่เทียนหน้าแดงราวกับมะเขือเทศ และลมหายใจก็ติดขัดด้วย
เห็นฉากนี้คนจะคิดถึงอะไร? ทุกคนรู้ดี โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้ชาย
“พะ โพ่เทียน…” อัลทิสเอ่ยขึ้น
“อัลทิส?”
“เหมียว?”
เมื่อโพ่เทียนเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นอัลทิสยืนอยู่ที่ประตูด้วยท่าทางประหลาดใจและมองไปที่ต้นขาขาวที่น่าดึงดูดใจของอาเป่าที่วางอยู่บนตัวเขา โพ่เทียนรีบดึงผ้าห่มปิดทันทีด้วยความโกรธและห่อตัวอาเป่าจนแน่น จากนั้นจึงรวบอาเป่าไว้ในอ้อมแขนของเขาและยืนขึ้น
“นางเป็นใคร? สาวสุดเซ็กซี่คนนี้คือใคร? ว้าว เจ้าไปได้สาวสวยขนาดนี้มาเมื่อไหร่กัน? ทำไมข้าไม่รู้ล่ะ? สาวสุดเซ็กซี่คนนี้เป็นลูกสาวบ้านไหน? ทำไมข้าถึงไม่เคยเจอเลย!” อัลทิสพูดต่อไปและก็พูดอย่างไร้ยางอาย “ถ้าข้ารู้ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าได้ไปหรอก สวยงามเหลือเกิน! จะปล่อยให้เจ้าได้ไปได้อย่างไร ข้าอิจฉาจัง…”
“นางคืออาเป่า” ประโยคที่สั่นเครือนั้นทำให้อัลทิสเป็นใบ้ทันที
อัลทิสอ้าปากค้าง จิตใจของเขาว่างเปล่า เขามองโพ่เทียนที่กำลังพาสาวงามที่ไม่มีใครเทียบได้ในอ้อมแขนของเขากลับไปที่เตียงอย่างอึ้งๆ
“อาเป่า อยู่ดีๆ นะ นอนอยู่ตรงนี้ก่อน อย่าให้คนอื่นเห็นร่างกายของเจ้าเด็ดขาด ข้าจะไปขอให้ลีน่ามาแต่งตัวให้เจ้า และเจ้าต้องเชื่อฟัง ไม่อย่างนั้นต่อไปข้าจะไม่กอดเจ้าแล้ว” โพ่เทียนลูบหัวของอาเป่าเบาๆ และพูดเกลี้ยกล่อม
“เหมียว ข้ารู้แล้ว ข้าจะเชื่อฟัง” อาเป่าพยักหน้าอย่างเชื่อฟังและค่อยๆ ย่อตัวลงบนเตียง
โพ่เทียนหันกลับมามองอัลทิสที่ยังอึ้งอยู่และตะโกนอย่างไม่พอใจ ”ออกไป มีเรื่องอะไรมาคุยข้างนอก”
จากนั้นอัลทิสก็ได้สติและมองไปบนเตียง เขาอยากเห็นอาเป่าอีกครั้ง แต่โพ่เทียนบดบังสายตาของเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและมองอัลทิสด้วยสายตาอาฆาต
อัลทิสลูบจมูกด้วยความอิจฉาและหันหลังเดินออกไปอย่างจนใจ โพ่เทียนเดินออกไปแล้วปิดประตูและบอกให้สาวใช้ที่ผ่านมาไปเรียกลีน่ามาพบเขาทันที
เมื่อสาวใช้จากไป อัลทิสก็ส่งเสียงพึมพำราวกับแมลงวัน
“โพ่เทียน นั่นอาเป่าหรือ?”
“ไม่จริงน่า เห็นได้ชัดว่าอาเป่าเป็นเด็ก ทำไมนางถึงกลายเป็นร่างมนุษย์ได้เร็วขนาดนี้ล่ะ”
“อีกอย่าง ต่อให้แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ นางก็น่าจะเป็นเด็กสิ ทำไมถึงกลายเป็นสาวงามผู้น่ารักได้ขนาดนี้”
“พระเจ้า เจ้าสัตว์ร้าย เมื่อคืนเจ้ากินนางไปแล้วหรือไม่ เจ้าสัตว์ร้าย จิตใจนางยังเด็กนะ เป็นเด็กน้อยอยู่…”
โพ่เทียนเงียบรอให้อัลทิสพูดเรื่องไร้สาระให้จบ
“เจ้าเข้ามาโดยไม่เคาะประตู เจ้าเห็นแล้วใช่หรือไม่? ข้าจะควักลูกตาเจ้า” โพ่เทียนมองอัลทิสและพูดออกมาอย่างเย็นชา
“หา? ไม่นะ ข้าไม่เห็น สาบานเลย ข้าไม่เห็นส่วนสำคัญจริงๆ” ดวงตาของอัลทิสวาววับราวกับว่าเขากำลังนึกถึงบางสิ่งอยู่ แต่มีร่องรอยของความหงุดหงิดเล็กน้อยในแววตาของเขา ไม่เห็นส่วนสำคัญจริงๆ เห็นแค่ต้นขาและแขนสีขาวนวลเท่านั้นเอง
“อยากตายหรือ!” โพ่เทียนเห็นท่าทางอัลทิสก็แทบจะระเบิดเลย
“ข้าสาบานจริงๆ ว่าข้าไม่เห็นส่วนสำคัญ ข้าเห็นแต่ต้นขาเท่านั้น…” อัลทิสหลบและพูดประโยคนั้นออกมาโดยไม่รู้ตัว หลังจากที่พูดออกไปก็กรีดร้องอยู่ในใจ
ใบหน้าของโพ่เทียนเย็นชา และการโจมตีของเขาก็รุนแรงขึ้นและไร้ความปรานีมากขึ้นด้วย อัลทิสกรีดร้องและหลบไปรอบๆ เสา
“อ๊าก...” เสียงของอัลทิสดังก้องอยู่บนท้องฟ้าเหนือคฤหาสน์เจ้าเมืองเป็นเวลานาน
หลายคนเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ และบางคนก็ตกใจจนของหล่นจากมือ
“โพ่เทียน เจ้าสารเลว…” อัลทิสกรีดร้องและจับก้นของเขาแล้วกระโดดหนีจากที่เดิมทันที
โพ่เทียนยิ้มและมองมือของเขา จากนั้นมองความเจ็บปวดของอัลทิสแล้วกลืนน้ำลาย ”ข้าไม่ได้ตั้งใจ”
“เจ้ากล้าพูดว่าเจ้าไม่ได้ตั้งใจอีกหรือ” อัลทิสไม่สนใจสิ่งใดและส่งเสียงร้องออกมาพร้อมกับกำก้นไว้แน่น เมื่อครู่โพ่เทียนเพิ่งทุบเข้าไปในจุดที่อ่อนแอที่สุดของเขา ทันใดนั้นเขาก็ร้องไห้ออกมา
“ข้าไม่ได้ตั้งใจจะให้โดนตรงนั้น” โพ่เทียนพูดอย่างไม่มีความผิด
“ข้า XXX ข้า XXX แล้วเดิมทีเจ้าต้องการให้โดนตรงไหน” อัลทิสดุและพูดคำสบถออกมา
โพ่เทียนไม่พูด เขากะพริบตาและเปลี่ยนหัวข้อ ”เอาเถอะ เจ้ามาหาข้ามีอะไร?”
“ทำไมอาเป่าถึงกลายเป็นร่างมนุษย์?” อัลทิสจับก้นของเขาราวกับว่าเขาลืมความเจ็บปวดไปแล้ว ตอนนี้เขายิ่งสงสัยมากกว่าว่าทำไมจู่ๆ อาเป่าจึงกลายเป็นร่างมนุษย์ได้
“ข้าก็อยากถามเจ้าว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอาเป่ากลายเป็นมนุษย์เร็วขนาดนี้ อีกอย่าง…” สีหน้าของโพ่เทียนดูไม่เป็นธรรมชาติและพูดคำต่อไปไม่ออก อย่างที่อัลทิสพูดนากลายเป็นสาวงามที่เย้ายวนไปได้อย่างไร เขาแทบจะควบคุมไม่ได้เลย ต้องยอมรับว่าคำพูดและการกระทำเล็กๆ น้อยๆ นั้น ทำให้เขาแทบควบคุมสติไม่อยู่
“เจ้าสัตว์ร้าย! เมื่อคืนเจ้ากินนางไปแล้วใช่หรือไม่?” เมื่ออัลทิสเห็นท่าทางของโพ่เทียน เขาก็เด้งตัวตัวขึ้นบ่นโพ่เทียนทันที
“ไม่ใช่ ข้าเพิ่งรู้ว่านางกลายเป็นมนุษย์เมื่อเช้านี้ ข้า…” โพ่เทียนส่ายหัวปฏิเสธ แต่หลบสายตาเล็กน้อย เป็นความจริงที่ว่าเขาแทบจะอดใจไม่ได้
“นายท่าน มีเรื่องเร่งด่วนอะไรหรือคะ?” ลีน่าวิ่งมาอย่างหอบๆ
“อาเป่ากลายเป็นมนุษย์แล้ว ไปหาเสื้อผ้าให้นางใส่หน่อย” โพ่เทียนสั่งอย่างรวดเร็ว
“หือ?” ลีน่าผงะอย่างสงสัย “ได้อย่างไรกัน? นางเป็นแค่เด็ก ไม่มีพลังเลย นางจะกลายเป็นร่างมนุษย์ได้อย่างไร”
“นี่เรื่องจริง นางเป็นสาวงามผู้เซ็กซี่ด้วยนะ” ดวงตาของอัลทิสเต็มไปด้วยความโหยหา
ลีน่าเห็นท่าทางของอัลทิสก็รู้ถึงความคิดของเขาและเบ้ปากอย่างดูถูกทันที ตอนนี้นางเชื่ออย่างสมบูรณ์ว่าอาเป่ากลายเป็นมนุษย์ไปแล้ว นางหันกลับไปหาเสื้อผ้าทันที