บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 129

มาเดลีนมีสีหน้าสงบลง “คุณวิทแมน ได้โปรดกลับไปหลังจากที่คุณทานเสร็จ มันคงจะดีที่สุดถ้าคุณไม่กลับมาที่นี่อีกนับตั้งแต่นี้ไป ”

เจเรมี่ยิ้มขณะที่เขาพูดว่า“มาเดลีน ทำไมเธอต้องแกล้งทำเป็นว่าเธอต้องการให้ผมออกไปจากชีวิตเธอ? ในเมื่อคุณชอบมันมากตอนที่ผมจูบคุณในตอนกลางวัน!”

“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นอีก!” มาเดลีนกล่าวว่า เธอสูญเสียการควบคุมตัวเองไปชั่วขณะ “เจเรมี่ วิทแมน คุณทำให้ฉันผิดหวังในตัวคุณมากเกินไป”

“แล้วไง? มันไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนความจริงที่ว่าเธอรักผมได้”

มาเดลีนโกรธมากจนรู้สึกเหมือนจะระเบิด หัวใจของเธอเจ็บปวด ไปพร้อมกับท้องของเธอเช่นกัน

“ฉันเคยรักคุณมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนี้ แม้แต่การที่คุณมาสัมผัสฉันยังรู้สึกรังเกียจ!”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น อาหารในปากของเจเรมี่ถึงกับหยุดเคี้ยว เขาวางช้อนส้อม ลุกขึ้น และเดินไปหามาเดลีน

มาเดลีนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอจึงรีบเดินหนีไป อย่างไรก็ตาม เจเรมี่เร็วกว่าเธอมาก มือทั้งสองข้างของเขา เขาตรึงเธอเข้าไว้กับกำแพง

มาเดลีนไม่กล้ามองไปที่เจเรมี่ แต่เขาจงใจก้มศีรษะ เข้ามาใกล้เธอ ก่อนจะวางใบหน้าที่หล่อเหลาแสนชั่วร้ายไว้ตรงหน้าเธอ

เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจของเขาที่เข้ามาใกล้เธอ มาเดลีนรู้สึกกลัวมากเธอเริ่มเกร็งลำคอแบบขยับตัวไม่ได้ เธอเลยรีบมุดตัวลงทันทีและพยายามหลบอยู่ใต้อ้อมแขนของเขา แต่เจเรมี่คาดไว้แล้ว เขาเอามือจับคางของเธอขึ้น

“ปล่อยฉันไป!”

มาเดลีนกลัวมาก เธอพร้อมที่จะวิ่งได้ทุกเมื่อ

เจเรมี่ขมวดคิ้ว “ตอนนี้เธอไม่ต้องการให้ผมสัมผัสเธองั้นเหรอ? มีใครใหม่ในใจหรือเปล่า? อย่าลืมล่ะ มาเดลีน ผมเป็นสามีของเธอ!”

“เมื่อไหร่กันที่คุณเคยปฏิบัติกับฉันเหมือนภรรยาของคุณ? คุณไม่เคย!” มาเดลีนตะโกนใส่ผู้ชายตรงหน้า ด้วยดวงตาของเธอที่เต็มไปด้วยไฟที่ลุกโชน เธอกัดฟันแน่น ไม่ยอมให้น้ำตาร่วงล่นลง

“เจเรมี่ ฉันไม่รักคุณอีกแล้ว ฉันเลิกรักคุณแล้วจริงๆ! ได้โปรดหยุดแตะต้องตัวฉันได้แล้ว ไปสัมผัสเมเรดิธเถอะ คุณรักเธอมาก เก็บสัมผัสเหล่านั้นไว้เพื่อเธอเถอะ หยุดแตะต้องผู้หญิงที่มักมากและน่ารังเกียจอย่างฉันสักที คุณพูดเอง ฉันมันไม่คู่ควร!”

มาเดลีนไม่เหลืออะไรจะพูดอีกแล้ว เธอเห็นเจเรมี่ที่ดูซับซ้อนบนใบหน้าของเขาซึ่งเธอไม่เข้าใจมันเลย

“มาเดลีน” จู่ๆเขาพูดด้วยท่าทางสงบพร้อมกับเอื้อมมือพยายามจะจับมือเธอ กระนั้น มาเดลีน หลีกเลี่ยงมัน และไม่แม้แต่มองหน้าเขา

เมื่อมองไปที่ใบหน้าเธอที่ยังถูกปิดด้วยผ้าพัน และการแสดงออกของเขาค่อยๆอ่อนโยนกว่าเดิม เขากัดริมฝีปาก อยากจะพูดอะไรบางอย่างเมื่อจู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

เขาปล่อยมาเดลีนให้หลุดออกจากตัวเขาไป แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

เขามองไปที่โทรศัพท์ ด้วยท่าทีลังเลอยู่สองสามวินาทีก่อนจะกดรับสาย

มาเดลีนนอนขดตัวกับกำแพง และหวาดกลัวกับความเงียบ นอกจากนี้ยังเป็นความเงียบที่ทำให้เธอได้ยินสิ่งที่พูดทางโทรศัพท์ “เจเรมี่ รีบมาโรงพยาบาลเดี่ยวนี้ เมเรดิธ เธอกำลังจะตาย!”

เมเรดิธกำลังจะตาย?

มาเดลีนปฏิเสธที่จะเชื่อคำพูดเหล่านั้น มันเป็นมารยาเล่มนึงของเมเรดิธเท่านั้น แต่เธอเห็นว่าใบหน้าของเจเรมี่เปลี่ยนไปเป็นกังวลทันที

เขาวางสายและรีบออกไปในทันที

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขายืนอยู่ที่ประตู ดูเหมือนว่าเขาจะนึกอะไรบางอย่างได้และเขาดึงมาเดลีนให้ลุกขึ้นมา

“เจเรมี่ คุณจะทำอะไร? ปล่อยฉันไป!” มาเดลีนพยายามดิ้นรน

“จากนี้ไป คงดีที่สุดหากฉันไม่ปล่อยให้เธอคลาดสายตา” น้ำเสียงของเขาไม่เหลือที่ว่างสำหรับการโต้เถียงในขณะที่เขาผลักมาเดลีนเข้าไปในรถ

มาเดลีนรับรู้ทันที “คุณกลัวว่าฉันจะนำหลักฐานไปแจ้งตำรวจและฟ้องเรื่องของเมเรดิธใช่ไหม? เจเรมี่ วิทแมน คุณมันสารเลวจริ ๆ! คุณเต็มใจที่จะเพิกเฉยต่อศีลธรรมที่มีเพื่อผู้หญิงแบบนั้น และคุณก็เต็มใจที่จะปกป้องฆาตกร!”

เจเรมี่ฟังมาเดลีนตำหนิเมเรดิธ เขาตะคอกใส่เธอทันที ทันใดนั้นมือที่เย็นเฉียบของเขา บีบเข้ากับลำคอของมาเดลีน “เมเรดิธเป็นคนไร้เดียงสาและจิตใจดีมาโดยตลอด หล่อนไม่เคยแกล้งป่วยแบบนั้น! ผมไม่ยอมให้เธอมาใส่ร้ายเมเรดิธ!”