บทที่ 36 คาบวิชาดาราศาสตร์ของดาร์ก เดม่อนได้เริ่มขึ้นแล้ว

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี [反派少爷只想过佛系生活]

บทที่ 36 คาบวิชาดาราศาสตร์ของดาร์ก เดม่อนได้เริ่มขึ้นแล้ว

โดยพื้นฐานแล้วดาราศาสตร์เป็นวิชาที่น่าสนใจ และเวลาเรียนขึ้นก็อยู่กับการจัดตารางของศาสตราจารย์ดีดี้

แม้ว่าตารางเวลาจะบอกว่าทุ่มครึ่งถึงสามทุ่ม แต่ศาสตราจารย์ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระอยู่ดี

ตัวอย่างเช่น คาบเรียนดาราศาสตร์ของวันนี้เริ่มเวลาหกโมงเย็น

เนื่องจากไม่มีเรียนในบ่ายวันพุธ นักเรียนส่วนใหญ่จึงไม่รีบร้อน หลังจากได้รับแจ้งเตือน พวกเขาก็พูดคุยกันเงียบ ๆ สักพักโดยเดาว่าศาสตราจารย์ดีดี้จะสอนอะไรในวิชาดาราศาสตร์

แต่ความสัมพันธ์ระหว่างดาราศาสตร์กับชีวิตประจำวันนั้นมีน้อยเกินไป มันเป็นภาพลวงตายิ่งกว่าเวทมนตร์ที่สามารถสัมผัสได้โดยตรง นักเรียนทำได้เพียงใช้จินตนาการในการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่จะสอน

เวอร์เธอร์และโรเบิร์ตไม่ได้ผ่อนคลายขนาดนั้น

ทั้งสองเริ่มกังวล

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ได้คิดที่จะดูหนังสือเรียนล่วงหน้า เพียงแต่ว่าวิชาดาราศาสตร์นั้นไม่มีหนังสือเรียนด้วยซ้ำ!

ยิ่งไปกว่านั้น หลังตอนบ่าย หนี้ของพวกเขาจะเพิ่มเป็นสองเท่า นั่นคือสามร้อยยี่สิบคะแนน!

แต่พวกเขามีคะแนนเพียงหนึ่งร้อยยี่สิบคะแนนในขณะนี้ และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รับสองร้อยคะแนนจากสามคาบถัดไป

ดังนั้นพวกเขาจึงละทิ้งความคิดที่จะหาคะแนนจากห้องเรียนโดยสิ้นเชิง

โรเบิร์ตแค่อยากจะนอนลง และรอความตายมาเยือน

ขณะที่ เวอร์เธอร์ฝากความหวังไว้กับวิชาการประลองในวันศุกร์!

รางวัลแชมป์สำหรับการแข่งขันในคาบเรียนคือหนึ่งพันคะแนน ถ้าเขาได้รับรางวัลนี้ก่อนบ่ายวันศุกร์ เขาก็จะสามารถชำระหนี้ได้!

แผนดั้งเดิมของเวอร์เธอร์คือ การใช้ [สัตว์อสูรมายา] ฝึกฝนการต่อสู้ตั้งแต่คืนนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ

แต่ตอนนี้ ไม่เพียงแต่จะมีเวลาช่วงกลางคืนเท่านั้น เวลาสำหรับการนอนหลับเสริมก็น้อยลงด้วย!

“เดี๋ยวนะ พูดถึง [สัตว์อสูรมายา]…”

เวอร์เธอร์อดไม่ได้ที่จะมองโรเบิร์ตและพึมพำ “โรเบิร์ต พรุ่งนี้เช้าคือวิชาเวทมนตร์พื้นฐานนะ แล้ว [สัตว์อสูรมายา] ของนายอยู่ที่ไหน?”

สีหน้าของโรเบิร์ตค่อย ๆ เปลี่ยนจากความกังวลเป็นความกลัว

ดาร์ก เดม่อนอยู่ในห้องสมุด

ในบรรดานักเรียนชั้นปีที่หนึ่ง มีสี่คนที่ใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ในห้องสมุด

สี่คนที่ว่ามานั้น คือดาร์ก เอ็มม่า ​​ซาร่า และนักเรียนที่ไม่รู้ชื่อจากบ้านคนเขลา

นับเป็นหนึ่งคนจากแต่ละบ้าน!

โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาเป็นนักเรียนตัวอย่างในบ้านของตน

หลังจากที่ดาร์กได้รับแจ้งคาบเรียนดาราศาสตร์ เขาจึงต้องการหาหนังสือเกี่ยวกับดาราศาสตร์มาอ่าน

เนื่องจากดาราศาสตร์เป็นวิชาอิสระ จึงไม่มีการสอบปลายภาค ดังนั้นเขาจึงมองหาหนังสืออย่างสบาย ๆ

หนังสือสองเล่มที่ชื่อว่า ‘สัญลักษณ์ทางดาราศาสตร์’ และ ‘ถอดรหัสดาราศาสตร์’ ทำให้ดาร์กรู้สึกสนใจ

ดังนั้น เขาจึงดึงหนังสือทั้งสองเล่มออกมาแล้วถือไปที่โต๊ะในห้องอ่านหนังสือ

เหตุผลที่ดาร์กสนใจ ‘สัญลักษณ์ทางดาราศาสตร์ เพราะเขาเห็นวงกลมสัญลักษณ์บนหน้าปกของหนังสือเล่มนี้ และหนึ่งในนั้นคือ ‘⊙’ ที่ปรากฏบนตรา [อัตตา]

“โอ้ นี่เป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์นี่เอง”

ดาร์กวาดวงกลมบนกระดาษแล้วเติมจุดอย่างระมัดระวัง

“สัญลักษณ์แห่งความเย่อหยิ่งคือดวงอาทิตย์ ซึ่งดูเหมือนจะไม่ได้ไม่เป็นที่ยอมรับ”

“ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ”

“ดาวเคราะห์ทั้งแปด ดาวเคราะห์น้อย อุกกาบาต ดาวหาง วัตถุท้องฟ้า ชั้นนอกดาวเนปจูน และฝุ่นในอวกาศของระบบสุริยะล้วนโคจรรอบดวงอาทิตย์”

“ลำดับแห่งอัตตาคือ เลขหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ตรงกับสัญลักษณ์ตรงกลาง”

“ถ้าฉันจำไม่ผิด รูปแบบวิวัฒนาการรูปแบบหนึ่งของอีบุยก็มีพลังของดวงอาทิตย์อยู่”

“นี่คือจุดอ้างอิงสินะ”

“วิธีเชื่อมโยงดวงอาทิตย์กับอัตตา… บางทีมันอาจจะช่วยฉันวิเคราะห์มหาบาปอย่าง [อัตตา] ได้”

ก่อนที่ดาร์กจะรู้ตัวก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว

ดาร์กกินของหวานในห้องขนม และดื่ม ‘ชาดำไร้กลิ่น’ สักแก้ว จากนั้นก็เก็บสัมภาระก่อนจะออกจากห้องสมุดไป

วันนี้เขาดึงค่า [อัตตา] ออกมาเก็บไว้เช่นกัน โดยเป้าหมายคือ สะสมคะแนนให้ได้มากที่สุดก่อนบ่ายวันศุกร์ จากนั้น ดาร์กจะไปหาภาชนะที่สามารถทำให้สสารแห่งความคิดสดใหม่ได้นานขึ้น และคืน [ขวดแห่งความคิด] ให้กับศาสตราจารย์เคเซอร์

ขณะเดินผ่านเอ็มม่า สายตาก็เหลือบไปเห็นเธอกำลังศึกษาเรื่อง ‘มูลค่าของเงิน’

นั่นทำให้ดาร์กสับสนเล็กน้อย เขาสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้กำลังทำอะไรอยู่

เมื่อนึกถึงการทะเลาะวิวาทระหว่างเธอกับเวอร์เธอร์และโรเบิร์ต ดาร์กก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

ห้องเรียนดาราศาสตร์อยู่ที่หอนาฬิกาทรงเกลียวใจกลางปราสาทเซนต์แมเรียน

หลังจากเดินวนตามบันไดเวียนภายนอกและขึ้นไปบนชั้นที่สิบสอง นักเรียนก็จะไปถึงห้องเรียนดาราศาสตร์ของศาสตราจารย์ดีดี้ได้

และถ้าไม่มาให้เร็วก็จะเข้าเรียนสายแน่นอน

ดาร์กรู้สึกโชคดีเล็กน้อยที่ตัวเองมีนิสัยที่ดีในการมาห้องเรียนตั้งแต่เนิ่น ๆ

คาบเรียนนี้ยังคงมีนักเรียนจากทั้งสี่บ้านเข้าร่วม เห็นได้ชัดว่านักเรียนของบ้านนักปราชญ์สนใจเรื่องดาราศาสตร์มากกว่า หลายคนต่างกระซิบอย่างตื่นเต้นอยู่ในห้องเรียนก่อนที่ดาร์กจะมาถึง

ศาสตราจารย์ดีดี้เป็นภูตตัวน้อยที่ใจดีมาก ในฐานะที่เป็นหัวหน้าอาจารย์ประจำบ้านคนเขลา เธอจึงไม่เคยโกรธเลยแม้แต่ตอนหักคะแนนจากนักเรียนก็ตาม

และเมื่อใดที่คาบเรียนจบลง เธอก็จะกลายเป็นคนสบาย ๆ

อย่างตอนนี้ที่นักเรียนกำลังคุยกันในห้องเรียน เธอก็ยังคงไม่ว่าอะไร

ใช่แล้ว ตอนนี้ศาสตราจารย์ดีดี้นั่งรออยู่บนโพเดียมแล้ว

ยามเย็น เวลาหกโมงตรง

กริ่งสำหรับเริ่มต้นคาบเรียนไม่ได้ดังขึ้น

แต่กลับเป็นเสียงระฆังที่แสดงถึงการสลับกันของกลางวันและกลางคืนแทน!

เหง่งหง่าง!

ระฆังดังขึ้นทั่วทั้งสถาบัน

อาทิตย์อัสดงและพระจันทร์ก็แทนที่

บนบันไดเวียนที่แสงค่อย ๆ เลือนหายไป เวอร์เธอร์และโรเบิร์ตกำลังจ้ำอ้าวขึ้นมาอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนกระต่าย

ทั้งสองตั้งนาฬิกาปลุกและวางแผนที่จะตื่นให้ตรงเวลา ทว่าหลังจากลุกขึ้นก็ขอนอนต่ออีกสิบนาที ก่อนจะรีบออกจากหอพัก

แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้กินอะไรเลย ทั้งยังนอนไม่หลับด้วย

หมากรุกเวทมนตร์หนึ่งรอบก่อนเข้านอนทำให้พวกเขาเสียเวลาพักผ่อนอันมีค่าไป

การวิ่งในขณะท้องว่างก็ทำให้พวกเขาเหนื่อยมากขึ้นเช่นกัน

“มันจบแล้ว!”

ระฆังแห่งความสิ้นหวังกระแทกวิญญาณที่ท้อแท้ของพวกเขา

ปัง!

ทั้งสองผลักประตูเสียงดังและรีบเข้ามาในห้องเรียน!

“หักคะแนนกาวด์และบร็อกไฮม์คนละห้าคะแนน”

ศาสตราจารย์ดีดี้ไม่แม้แต่จะหันไปมองพวกเขา เธอวาดดวงจันทร์บนกระดานดำ

เห็นได้ชัดว่าเธอตั้งใจจะสอนเรื่องความรู้ทางดาราศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับดวงจันทร์ในคาบเรียนนี้

เวอร์เธอร์และโรเบิร์ตเดินเข้าไปในห้องเรียนอย่างหดหู่และหย่อนก้นนั่งลงอีกมุมหนึ่งของแถวสุดท้าย

สำหรับคะแนนที่โดนหักไป ทั้งสองคนไม่ได้ใส่ใจมากขนาดนั้นอีกต่อไปแล้ว

เพราะไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถรวบรวมคะแนนได้เพียงพออยู่ดี

เนื่องจากเป็นคาบเรียนดาราศาสตร์ครั้งแรกในปีแรก ศาสตราจารย์ดีดี้จึงไม่ได้สอนอะไรที่ลึกซึ้งเกินไป

ในครึ่งหลังของคาบเรียน จู่ ๆ เธอก็โบกมือ และเพดานของห้องเรียนก็โปร่งใสในทันที

มันเปรียบเสมือนกระจกเงาน้ำ ทำให้ระยะห่างจากท้องฟ้ายามราตรีสั้นลง

นักเรียนไม่เคยสังเกตดวงจันทร์ใกล้ขนาดนี้

ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดเป็นระลอกคลื่น ดวงจันทร์ทรงกลมที่ครอบครองทัศนวิสัยลอยเด่นอยู่บนเพดานราวกับแผ่นหยก!

“ว้าว!”

บรรยากาศที่น่าเบื่อแต่เดิมหายไป

ห้องเรียนพลันมีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันที

ศาสตราจารย์ดีดี้มองเด็ก ๆ ร้องอุทานด้วยความประหลาดใจ ขณะมองพระจันทร์เต็มดวงด้วยสายตาอ่อนโยน และเธอก็ไม่ได้หยุดพวกเขา

น่าแปลกที่มีคนสองคนที่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงบางสิ่งที่พลุ่งพล่านในใจเมื่อพวกเขามองดูพระจันทร์เต็มดวงในระยะใกล้

คนหนึ่งคือ ดาร์ก

และอีกคนคือ เวอร์เธอร์