บทที่ 1245 – สมบัติ, หินหยางสวรรค์, ยาเม็ดสวรรค์หยาง, ตำรายาสวรรค์เก้าหยาง, อสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณ

 

ชิงสุ่ยเดินลงไปตามทางอย่างช้าๆ บันไดนั้นมีความยาวเพียงไม่กี่เมตร ชิงสุ่ยเรียกผึ้งหยกจักรพรรดิออกมาเพื่อให้ช่วยหาทางเดิน มันเป็นคงจะดีหากปลอดภัยไว้ก่อน อย่างน้อยถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้น เขาจะได้เตรียมตัวทัน

 

ขั้นบันไดหินมีระยะทางไม่ยาวมาก ในไม่นานก็ลงมาถึงจุดหมาย ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นมากเนื่องจากสมบัตินี้เป็นสิ่งที่สถาบันสวรรค์เร้นลับมอบให้กับเขา เข้าไม่รู้แน่ชัดว่าสิ่งนั้นมันคืออะไรแต่มันคงไม่ใช่อะไรที่เลวร้ายแน่นอน

 

ในขณะที่ชิงสุ่ยกำลังใช้ความคิด เขาก็ได้เดินมาถึงห้องลับขนาดใหญ่ห้องหนึ่งข้างใน ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณอันตรายใดๆส่งมาจากผึ้งหยกจักรพรรดิ ในขณะที่ชิงสุ่ยกำลังเดินต่อไป เขาก็กำลังคิดถึงสิ่งที่เขารอคอยมากที่สุด

 

เมื่อเขาใช้ความคิดมาได้ซักพัก เขาก็หยุดชะงักลง เหตุผลก็คือตัวเขาเองมีดินแดนหยกยุพราชอมตะอยู่แล้ว สิ่งของมากมายของเขาล้วนมาจากดินแดนหยกยุพราชอมตะทั้งสิ้น และในขณะนี้เขาตระหนักได้ว่าสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่สิ่งของจากโลกภายนอกอีกต่อไป ชิงสุ่ยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว ถ้ามีสิ่งที่เขาต้องการจริงๆก็คงจะเป็นอะไรซักอย่างที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับภายในของตนได้

 

ประตูภายในห้องลับนั้นไม่ได้ถูกปิดเอาไว้ ดังนั้นชิงสุ่ยสามารถมองเห็นสิ่งของทั้งหมดได้จากจุดที่เขายืนอยู่ สิ่งของข้างในส่วนใหญ่จะเป็นพวกหีบสมบัติ และเกือบทั้งหมดเป็นของที่ใช้การไม่ได้แล้ว แม้ว่าห้องลับจะมีขนาดใหญ่มาก แต่ข้างในกลับมีสิ่งของเพียงน้อยนิด

 

ทั้งหมดนี่ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกดีใจ นั่นเป็นเพราะด้วยประสบการณ์ของชิงสุ่ยที่มีมาอย่างยาวนาน ถ้าหากพบกับสิ่งของที่มากมาย ส่วนใหญ่ล้วนเป็นสิ่งของที่ไรประโยชน์ทั้งสิ้น มีส่วนน้อยเท่านั้นที่จะนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงๆ

 

ชิงสุ่ยวางมือลงบนหีบสมบัติที่อยู่ใกล้กับเขาที่สุด หีบสมบัติถูกสร้างอย่างดีด้วยหยก เมื่อหีบภายนอกสร้างมาดีเช่นนี้แล้วข้างในย่อมบรรจุไปด้วยสิ่งมีค่า ถ้าเป็นของธรรมดาทั่วไปจะเป็นของจำพวกหินหยกและสมุนไพรต่างๆ

 

ชิงสุ่ยค่อยๆเปิดมันออกอย่างช้าๆ ปรากฏว่าเป็นหีบชั้นเดียว ข้างบนสุดเป็นหลุมกลมขนาดเท่ากับไข่นกพิราบ ข้างในนั้นมีแสงระยิบระยับและยาเม็ดเทพโอสถที่โปร่งแสง ซึ่งมันมีจิตแห่งปราณที่น่าเกรงขามถูกปล่อยออกมา

 

ชิงสุ่ยหยิบหนึ่งในนั้นออกมาและปิดหีบสมบัติลง ยาเม็ดเทพโอสถค่อยๆขยายตัวขึ้นมาเท่าหัวแม่โป้ง สีของมันเป็นสีทองมีแสงส่องสว่างออกมารอบๆให้ความรู้สึราวกับว่ามันเป็นยาวิเศษ

 

เคล็ดวิชาเบิกเนตรสวรรค์!

 

ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่ง!

 

ความสามารถ : ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่ง! หนึ่งเม็ดสามารถเพิ่มพลังให้กับผู้ใช้ได้จำนวนหนึ่งสุริยา(ไม่ได้เสริมสร้างพลังขึ้นมาใหม่แต่เป็นส่วนหนึ่่งกับตัวผู้ใช้เลย) ทุกคนสามารถใช้มันได้สิบครั้งตลอดชีวิตของพวกเขา และใช้ได้หนึ่งครั้งต่อระยะเวลาหนึ่งปีเท่านั้น

 

เมื่อใช้ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งก็ยังสามารถใช้ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สองและสามได้ ฤทธิ์ของพวกมันจะไม่ต่อต้านกัน กล่าวคือในขณะที่กินยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งเข้าไปยังสามารถกินยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สองและสามไปพร้อมกันได้เลย

 

“อ๊ะ ยังมียาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สองและสามอยู่อีกด้วย…” ชิ่งสุ่ยรู้สึกตกใจ ในตอนแรกเขาคิดว่า ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่ง สามารถช่วยเขาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่ว่าหากกินทั้งหมดไปพร้อมกันก็คงช่วยได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ชิงสุ่ยเองไม่รู้ว่ายังมียาอีกสองชนิดอยู่ในห้องนี้อีกหรือไม่

 

เงื่อนไขการใช้งาน : ผู้ใช้ต้องมีระดับพลังผู้พิทักษ์เทวธรรมขั้นหนึ่งหรือมากกว่าเท่านั้น

 

ชิงสุ่ยกำลังคิดว่าเหตุใดพวกชาวยุทธิ์ในตระกูลแพทย์จึงมีพลังมาก ตระกูลของพวกเขาคงมีมรดกตกทอดมาอย่างดี ถึงแม้พวกเขาไม่อยากจะเก่งยังไงแต่เมื่อกินยาเม็ดเทพโอสถที่มีประสิทธิภาพเข้าไปสักหน่อยพลังก็เพิ่มอย่างมาหาศาลแล้ว ตัวอย่างเช่น ถ้าเริ่มที่ระดับผู้พิทักษ์เทวธรรมขั้นแรกกินยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งเข้าไปเพียงเม็ดเดียว ระดับของเขาก็จะถูกเพิ่มขึ้นไปถึงผู้พิทักษ์เทวธรรมขั้นสามแล้ว

 

และแน่นอนว่าพวกผู้คนที่ครอบครองยาเม็ดเทพโอสถพวกนี้ต้องเป็นกลุ่มกองกำลังที่แข็งแกร่งแน่นอน นอกเหนือจากนี้ถ้ามองในแง่ดีคงมีเพียงพวกอัจฉริยะในตระกูลเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์กินมัน

 

พวกตระกูลอื่นๆอาจจะไม่ได้มีเพียงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่ง แต่พวกเขาอาจจะมียาเม็ดเทพโอสถชนิดอื่นๆที่ประสิทธิภาพไม่ด้อยไปกว่า หรือพวกเขาอาจจะครอบครองยาที่มีประสิทธิภาพเทียบเคียงกับยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สองและสามก็เป็นได้

 

ถ้าหากพูดถึงเรื่องยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งชิงสุ่ยรู้สึกว่ามันจะช่วยเขาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เหตุผลก็เพราะมันไม่ได้เพิ่มพลังใหม่ต่อตัวเขา แต่ในความเป็นจริงถ้ามันส่งผลเสริมสร้างพลังขึ้นมาใหม่ ชิงสุ่ยคงไม่กล้าที่จะกินมัน เพราะว่ามันอาจจะทำให้ร่างกายระเบิดออกได้

 

ในหีบสมบัติมียานี้กว่าหกสิบเม็ด แค่ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งเม็ดเดียวก็มีมูลค่ามากมายมหาศาล มูลค่ารวมทั้งหมดของหกสิบเม็ดคงเป็นสิ่งที่ประเมิณค่าไม่ได้

 

ชิงสุ่ยวางยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งที่หยิบออกมากลับลงไปในหีบสมบัติและโยนทั้งหมดเข้าไปยังดินแดนหยกยุพราชอมตะ

 

หลังจากที่ชิงสุ่ยหยุดมองอยู่ชั่วครู่ เขาโยนหีบสมบัติทั้งหมดเข้าไปยังดินแดนหยกยุพราชอมตะและกลับออกมา เขารีบกระโจนออกมาอย่างรวดเร็วไปตามทางที่เดินเข้ามา และเมื่อออกมายังภายนอกได้แล้ว เขาหลีกเลี่ยงที่จะไปยังทางที่ชายชราพวกนั้นปรากฏตัว

 

ชิงสุ่ยกลับมาถึงบ้านในเวลาตอนเย็นแล้ว เขาประหลาดใจอย่างมากนี่เหล่าหญิงสาวยังอยู่กันที่นี่ เป็นจังหวะที่พอเหมาะสำหรับมื้ออาหาร แต่ในครั้งนี้ชิงสุ่ยให้พวกนางเป็นฝ่ายเตรียมอาหารแทน

 

ชิงสุ่ยมอบเครื่องปรุงและส่วนผสมต่างๆให้กับพวกนางไป จากนั้นก็เข้าไปยังดินแดนหยกยุพราชอมตะ

 

สำหรับพวกหญิงสาว พวกนางทำได้แค่พยายามปรุงอาหารเท่านั้น แต่ละคนต่างยืนตะลึงกันอยู่ โชคดีที่เหยียนจินยวี้เคยเห็นชิงสุ่ยทำมาก่อน อาหารที่นางเตรียมเป็นเพียงอาหารธรรมดาทั่วไป ส่วนชิงซาเป็นคนที่เห็นชิงสุ่ยปรุงอาหารมามากที่สุด นางจึงพยายามอย่างสุดความสามารถในการทำ

 

ในขณะเดียวกัน ชิงสุ่ยก็กำลังทยอยเปิดหีบสมบัติด้านในดินแดนหยกยุพราชอมตะ ซึ่งมีอยู่ราวๆสิบหีบด้วยกัน ชิงสุ่ยเปิดหนึ่งในสองที่เป็นหีบหยกและพบกับ ยาเม็ดเทพโอสถที่ดูเหมือนกับยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งไม่มีผิด มันมีขนาดและสีเดียวกันเลย มีเพียงกลิ่นอายที่ถูกปล่อยออกมาเท่านั้นที่แตกต่างกันและดูเหมือนว่าจะมีพลังมากกว่าเล็กน้อย

 

ชิงสุ่ยแทบจะหัวใจวายเมื่อตรวจสอบมันด้วยเคล็ดวิชาเบิกเนตรสวรรค์.

 

ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สอง!

 

ความสามารถ : ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สอง! หนึ่งเม็ดสามารถเพิ่มพลังให้กับผู้ใช้ได้จำนวนสองสุริยา (ไม่ได้เสริมสร้างพลังขึ้นมาใหม่แต่เป็นส่วนหนึ่่งกับตัวผู้ใช้เลย) ทุกคนสามารถใช้มันได้สิบครั้งตลอดชีวิตของพวกเขา และใช้ได้หนึ่งครั้งต่อระยะเวลาหนึ่งปีเท่านั้น

 

สามารถกินยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สอง  พร้อมกับยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สามและยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งได้

 

เงื่อนไขการใช้งาน : ผู้ใช้ต้องมีระดับพลังผู้พิทักษ์เทวธรรมขั้นหนึ่งหรือมากกว่าเท่านั้น

 

มันคือยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สองจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งนี้ยังเหมือนกับที่เค้าคิดไว้ไม่มีผิด ยาทั้งหมดมีอยู่ราวๆหกสิบเม็ด แต่ละแถวประกอบไปด้วยยาสิบเม็ดซึ่งมีทั้งหมดหกแถว

 

เขาเปิดหีบหยกที่เหลือต่อไป หีบอันนี้มีขนาดใหญ่กว่าอันก่อนหน้า ชิงสุ่ยมองเข้าไปก็พบว่ามีส่วนผสมของยาอยู่ข้างในนั้น นอกเหนือจากนี้มันยังดูล้ำค่ากว่าพวกของก่อนหน้าเสียอีก ถึงแม้ว่ามันจะมีเพียงอยู่ไม่กี่ชิ้นก็ตาม แต่มันต้องมีค่ามากๆแน่นอน

 

เมื่อชิงสุ่ยสังเกตุดีๆก็พบว่ามันมีอายุราวๆหนึ่งหมื่นปีด้วยกัน

 

หลังจากนั้นชิงสุ่ยมองไปยังหีบที่เหลือ

 

หินหยางสวรรค์!

 

ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นจริงๆ หินหยางสวรรค์ชิ้นนี้มีขนาดใหญ่เท่ากับศีรษะของชายหนุ่มสองคนรวมด้วยกันเลยทีเดียว จากสีของมันบ่งบอกได้ว่ามันมีคุณภาพดีมากๆ ชิงสุ่ยปิดหีบสมบัติลง ชายชราได้มอบสิ่งมีค่ามากมายมหาศาลให้แก่ชิงสุ่ยจริงๆ

 

เขายังคงเปิดหีบอื่นๆต่อไปแต่ก็พบกับพวกเมล็ดต่างๆเท่านั้น

 

มีเมล็ดพันธุ์มากมายข้างในนั้น ชิงสุ่ยตรวจสอบพวกมันด้วยเคล็ดวิชาเบิกเนตรสวรรค์ก็พบว่ามันคือเมล็ดพันธุ์ของหญ้าสวรรค์หยางและบุปผาเปลวเพลิงหยาง

 

ชิงสุ่ยหัวใจแทบจะตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม

 

หรือมันจะเป็นเมล็ดพันธุ์ที่เอาไว้สกัดยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งและสอง?

 

……

 

ชิงสุ่ยปิดหีบทุกอันที่เขาเปิดออก ทุกสิ่งที่อย่างล้วนมีสิ่งที่เชื่อมอยู่กับ“หยาง”ทั้งสิ้น เช่น , หินหยางสวรรค์, ยาเม็ดสวรรค์หยาง, บุปผาเปลวเพลิงหยางรวมถึงหญ้าสวรรค์หยาง

 

ยังคงมีหีบเล็กๆเหลืออีกสองหีบ มันมีขนาดเพียงหนึ่งฟุตเท่านั้น อย่างไรก็ตามมันดูมีมูลค่าสูงสุดเมื่อเทียบกับที่เขาได้มาทั้งหมด สิ่งนี้ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นมาก เขาค่อยๆเปิดมันออกอย่างช้าๆ สิ่งที่ปรากฏออกมาต่อหน้าเขาเป็นหนังสือโบราณ บนปกของมันเขียนข้อความสั้นๆเอาไว้ว่า “ตำรายาสวรรค์เก้าหยาง”.

 

ชิงสุ่ยเปิดอ่านมันตั้งแต่หน้าแรก ทั้งหมดเป็นตำราแพทย์ที่ถูกเขียนไว้อย่างดี อย่างไรก็ตามสูตรยาทั้งหมดที่ถูกเขียนไว้ล้วนมีหญ้าสวรรค์หยางเป็นสิ่งประกอบ เมื่อเปิดอ่านจนถึงหน้าสุดท้ายก็พบว่าทั้งหมดล้วนเป็นสูตรยาของ ยาเม็ดสวรรค์หยาระดับที่หนึ่งไปจนถึงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่เก้า

 

ด้วยเมล็ดพวกนั้นและสูตรยาเล่มนี้ ชิงสุ่ยรู้สึกว่าสมบัติพวกนี้ถูกทิ้งไว้โดยนักเล่นแร่แปรธาตุที่ทรงพลังมาก อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดทั้งหลายหรือสถานการณ์ต่างๆ เขาสามารถปรุงได้ถึงเพียงยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่สองเท่านั้น

 

หลังจากใช้เวลาอยู่นาน ชิงสุ่ยจดสูตรยาพวกนั้นไว้บนมือ เป็นเพราะเขารู้สึกว่าต้องใช้เวลาอีกหลายปีถึงจะสามารถปรุงยาได้สำเร็จ เขาหมายถึงว่าอายุของสมุนไพรพวกนั้นไม่ใช่เป็นสิ่งที่เขาจะสามารถมีได้ทันที พวก ยาเม็ดเทพโอสถที่เขาปรุงได้ล้วนมีโอสถแห่งจิตวิญญาณเป็นส่วนประกอบทั้งสิ้น ซึ่งอายุขั้นต่ำของมันอยู่ที่ราวๆสามพันปี พวกยาสมุนไพรที่มีอายุสามพันปีสามารถสร้างได้เพียงโอสถแห่งจิตวิญญาณระดับต่ำเท่านั้น และสำหรับยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่หนึ่งจะต้องใช้สมุนไพรที่อายุมากกว่านั้น แม้แต่ข้างในดินแดนหยกยุพราชอมตะยังต้องใช้เวลาปรุงกว่าสิบปีของโลกภายนอก

 

ดังนั้นชิงสุ่ยรู้สึกกลุ้มใจเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นชิงสุ่ยก็ยังคงดีใจ อย่างไรก็ตามอายุไขของเขายืดยาวมาก ถ้าเขาหมดหนทางจริงๆ เขาก็ยังรอถึงสิบปีได้เพื่อปรุงมันให้สำเร็จ

 

ชิงสุ่ยเปิดหีบสุดท้ายด้วยความรู้สึกสับสนเพราะมันเป็นเพียงหนังสือที่ปกเขียนว่า “อสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณ”

 

ชิงสุ่ยรู้สึกสับสน เขาหยิบหนังสือออกมาและเริ่มพลิกดูมัน เมื่อเขาเริ่มอ่านมันสีหน้าประหลาดใจของเขาก็เริ่มปรากฏให้เห็น ดูเหมือนว่อสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณจะระบุว่าต้องใช้สมุนไพรเยียวยาเท่านั้น มีสัตว์อสูรที่จะเปลี่ยนสมุนไพรเยียวยาเป็นโอสถแห่งจิตวิญญาณอยู่ด้วย

 

อสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณจะเปลี่ยนแปลงดินในสวนสมุนไพรให้เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ บางส่วนก็จะผสมเกสรขณะที่บางส่วนจะแทรกซึมผ่านสมุนไพรเยียวยาได้ ส่วนสำคัญก็คือพวกสัตว์อสูรที่คอยเปลี่ยนแปลงดินให้เป็นจิตวิญญาณและนั่นจะส่งผลให้สมุนไพรเยียวยาเปลี่ยนเป็นหญ้าแห่งจิตวิญญาณได้ สำหรับพวกที่ถูกผสมเกสรส่วนใหญ่จะให้ผลไม้แห่งจิตวิญญาณออกมา

 

ชิงสุ่ยยังคงอ่านต่อไปเรื่อยๆและพบกับเรื่องน่าสะพึงกลัวเกี่ยวกับอสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณ อสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณระดับหนึ่งสามารถลดเวลาเพาะปลูกได้หนึ่งในสิบส่วน ระดับสองและระดับสามจะช่วยลดเวลาได้ สองและสามในสิบส่วนตามลำดับ

 

ลักษณะการทำงานของมันไม่ใช่การร่นระยะเวลา แต่เป็นการเพิ่มพลังจิตวิญญาณเข้าไปในสมุนไพรเยียวยา ซึ่งนั่นเป็นตัวช่วยให้เวลาในการเพาะปลูกลดลง เหตุเพราะการที่สมุนไพรเยียวยาจะเปลี่ยนเป็นโอสถแห่งจิตวิญญาณได้ต้องได้รับจิตวิญญาณที่มากพอ

 

ยังมีดอกไม้แห่งชีวิตและดอกบัวขนาดใหญ่อยู่ในบ่อน้ำของดินแดนหยกยุพราชอมตะ แต่เรืองที่สำคัญคือจะทำอย่างไรหากต้องการเลี้ยงดูอสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณ

 

ตำราอสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณกล่าวถึงวิธีการเลี้ยงดูอสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณ ส่วนใหญ่พวกมันไม่มีพลังในด้านการต่อสู้ นอกเหนือจากนั้นร่างกายของพวกมันยังมีขนาดเล็ก เพราะหน้าที่ของพวกมันคือการผสมเกสรให้กับสมุนไพรเยียวยา

 

ชิงสุ่ยมีจุดมุ่งหมายให้พวกมันช่วยผสมเกสร ตอนนี้เขามีผึ้งหยกจักรพรรดิรวมถึงผีเสื้อทองเงินอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องการหลักๆในตอนนี้คือการเปลี่ยนแปลงคุณภาพของผืนดินเสียมากกว่า

 

ผืนดินในดินแดนหยกยุพราชอมตะมีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมาก ไม่เช่นนั้นก็คงจะไม่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูก หลังจากใช้เวลากว่าครึ่งวันในการตัดสินใจ เขาก็พบหมูป่านักล่าสมบัตินอนหลับอยู่ในมุมๆหนึ่ง

 

ร่างกายของมันยังคงมีสีทองสดใสและกลมเหมือนเช่นเคย มันเป็นสัตว์อสูรที่เต็มไปด้วยความน่ารักจริงๆ คงจะเป็นการดีที่สุดที่จะเปลี่ยนหมูป่านักล่าสมบัติตัวนี้ให้เป็นอสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณ ไม่เพียงในเรื่องของการล่าสมบัติเท่านั้นขนาดของมันยังเหมาะสมอย่างยิ่ง แม้ว่ามันจะไม่มีพลังต่อสู้ใดๆ แต่ก็มีความทนทานเป็นอย่างมาก เพราะมันต้องใช้ความสามารถในการขุดดิน ข้ามแม่น้ำ ฝ่าเปลวเพลิง ทะลุทะลวงสิ่งที่แกร่งกว่าตัวเอง นั่นก็เพราะมันจะต้องหาสมบัติให้ได้

 

หากหมูป่านักล่าสมบัติกลายมาเป็นอสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณก็จะเป็นผลดีต่อตัวมันเองเช่นกัน เมื่อถึงมื้ออาหารของมันแล้วชิงสุ่ยต้องให้ยาเสริมอสูรแห่งจิตวิญญาณกับมัน และต้องใส่เมล็ดพันธุ์แห่งอสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณเข้าไปในร่างกายของมันด้วย ถ้ามันรวมเข้ากันได้กับสัตว์อสูร มันจะกลายมาเป็นอสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณระดับหนึ่งทันที แต่ถ้าไม่สามารถเข้ากันได้ก็จะไม่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

 

มีสูตรยาเสริมอสูรแห่งจิตวิญญาณเขียนไว้ในตำราอสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณ นอกเหนือจากนี้ยังมีเมล็ดพันธุ์และสมุนไพรเยียวยาอยู่อีกด้วย อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขามีกล่องเก็บสมุนไพรเยียวยาอยู่ เขาจึงรีบเปิดมันออก

 

“อย่างที่ข้าได้คิดเอาไว้เลย มีสมุนไพรเยียวยาและสูตรยาสำหรับปรุงยาเสริมอสูรแห่งจิตวิญญาณอยู่ในนี้” ชิงสุ่ยไม่สามารถอธิบายความรู้สึกประหลาดใจที่เกิดขึ้นกับเขาในขณะนี้ออกมาได้ ถ้าเขาต้องการที่จะเลี้ยงดู อสูรโอสถแห่งจิตวิญญาณและเลี้ยงดูมันในดินแดนหยกยุพราชอมตะนี้ ด้วยความสามารถในการปรุงยาของเขา มันไม่ใช่ปัญหาเลยที่เขาจะปรุงยาเม็ดเทพโอสถในตำรายาสวรรค์เก้าหยางนี้ออกมาได้