เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1021 ยังไม่กลับมาอีกหรือ

แปลโดย iPAT

 

ดวงวิญญาณของฟางหยวนบินเข้าหลอมรวมกับวิญญาณอมตะระดับเก้าที่ลึกลับ

 

วิญญาณอมตะดวงนี้ถูกตั้งชื่อว่าทารกอมตะโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ฟางหยวนรู้สึกถึงแรงดึงดูดมหาศาลราวกับเขาจมลงสู่วังน้ำวนของน้ำตกสวรรค์

 

หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนรู้สึกราวกับเขาอยู่ท่ามกลางความมืดมิด

 

ความมืดนี้ไม่หนาวเย็นแต่อบอุ่น

 

มันราวกับเขาเป็นทารกที่อยู่ในครรภ์ของมารดา

 

หลังจากฟางหยวนหลอมรวมกับทารกอมตะ ท้องฟ้าก็ส่งเสียงคำรามราวกับมันกำลังโกรธแต่ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร

 

วิญญาณทารกอมตะเริ่มส่องแสงสีขาวออกมาก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน ชมพูเข้ม และสีแดงตามลำดับ

 

ต่อมามันยังเปลี่ยนเป็นสีส้ม สีเหลือง กระทั่งครบเจ็ดสีและเปลี่ยนเป็นสีดำในที่สุด

 

ภายในดวงแสงสีดำ ทารกอมตะขนาดเท่าปลายนิ้วโป้งกระตุกขึ้นเป็นจังหวะ

 

พลังชีวิตของมันค่อยๆเติบโตขึ้น

 

อุุณหภูมิในอากาศเริ่มลดลงขณะที่ดวงแสงถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็ง

 

สายฟ้าแลบลั่นรอบๆชั้นน้ำแข็งก่อนที่เปลวไฟจะลุกไหม้ขึ้น

 

น้ำแข็งกลายเป็นชั้นพลังปราณและเปลี่ยนรูปร่างเป็นภูตผี

 

หลังจากนั้นยังมีเถาวัลย์เติบโตขึ้นทำให้มันดูมีชีวิตชีวา

 

ผลไม้งอกออกมาและค่อยๆเน่าเสีย

 

การเปลี่ยนแปลงที่เหนือจินตนาการมากมายเกินขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่พวกมันต่างเป็นรากฐานของสวรรค์พิภพ

 

ขณะที่การเปลี่ยนแปลงยังดำเนินต่อไป ทารกอมตะก็ค่อยๆเติบโตขึ้น

 

ทารกอมตะเริ่มมีแขนขาและแสดงรูปลักษณ์ที่ชัดเจน

 

ในที่สุดเปลือกนอกของมันก็แตกออก ทารกอมตะร่วงหล่นลงมา!

 

ทารกแสดงออกด้วยความมีชีวิตชีวาและดวงตาที่ส่องประกาย เขาเป็นเด็กอ้วนกลม ผิวขาว ใบหน้าเป็นสีชมพูกุหราบที่ดูน่ารักบอบบาง สิ่งสำคัญก็คือกลิ่นอายอมตะที่ปะทุออกมาจากร่างของเด็กน้อย

 

พลังงานลึกลับปกป้องเขาจากสิ่งรอบข้างขณะที่เขาค่อยๆลอยลงสู่พื้นอย่างแผ่วเบา

 

ระหว่างกระบวนการนี้เขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

หนึ่งขวบ สองขวบ สามขวบ…

 

เมื่อเท้าของเขาเหยียบลงบนพื้น เขาก็กลายป็นเด็กหนุ่มอายุสิบหกปีเรียบร้อยแล้ว

 

ผิวของเขาเป็นสีขาวอมชมพูราวกับหญิงสาว เส้นผมสีดำยาวจรดเอว

 

ร่างกายของเขาซูบผอมเล็กน้อยและไม่มีไขมันส่วนเกิน

 

ดั้งจมูกของเขาเชิดสูง ดวงตาของเขาส่องประกายแต่มันมืดมิดราวกับเหวลึก

 

ริมฝีปากของเขาอวบอิ่มและมีเลือดฝาดดูสุขภาพดี

 

เด็กหนุ่มผู้นี้แน่นอนว่าคือฟางหยวน

 

เขามองร่างใหม่ของตนและรู้สึกตกใจ ‘ร่างใหม่ทั้งหมด?’

 

สิ่งที่เทพปีศาจจิตวิญญาณและนิกายเงาสร้างขึ้นย่อมไม่ใช่ของทั่วไป

 

ฟางหยวนพยายามตรวจสอบเพิ่มเติม แต่สิ่งแรกที่เขารู้สึกก็คือร่างนี้เหมาะสมกับดวงวิญญาณของเขาเป็นอย่างมาก

 

หากเปรียบเทียบ ร่างผีดิบอมตะให้ความรู้สึกเหมือนสวมชุดที่ทำด้วยกิ่งไม้ แต่ร่างใหม่เหมือนชุดผ้าไหมที่อ่อนนุ่ม

 

ฟางหยวนรู้สึกราวกับตนเองเดินออกมาจากความมืดและมองเห็นท้องฟ้าที่กว้างใหญ่

 

‘นี่คือวิญญาณทารกอมตะที่เทพปีศาจจิตวิญญาณพยายามสร้างขึ้นงั้นหรือ?’

 

กลิ่นอายอมตะไม่ใช่ของปลอม

 

เขารู้สึกว่าตนเองได้รับโชคใหญ่จากการพนันในครั้งนี้

 

แม้เขาจะไม่รู้ว่าวิญญาณดวงนี้คือสิ่งใด แต่เมื่อเห็นเทพปีศาจจิตวิญญาณพยายามผสานตัวเข้ากับมัน ฟางหยวนจึงตัดสินใจทำเช่นเดียวกัน

 

ขณะที่ฟางหยวนกำลังคิดถึงเรื่องนี้ เขาเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณยังถูกขังอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน นี่เป็นไปตามความคาดหมายของฟางหยวน หลังจากทั้งหมดเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ในสภาพที่เลวร้ายมาก

 

สำหรับร่างกายของอิงอู๋เซี่ย กายาแห่งความฝันไม่ได้อยู่ในการควบคุมของฟางหยวนอีกต่อไป มันปิดเปลือกตาและลอยอยู่กลางอากาศ

 

ฟางหยวนกล่าวเบาๆ “กลับมา”

 

วิญญาณจำนวนมากบินออกมาจากร่างของอิงอู๋เซี่ย

 

ฟางหยวนผสานดวงวิญญาณของตนกับทารกอมตะแต่วิญญาณอมตะทั้งหมดของเขายังอยู่ในร่างของอิงอู๋เซี่ย

 

ตอนนี้เมื่อฟางหยวนเรียกพวกมัน วิญญาณเหล่านั้นจึงบินกลับมาหาเขาไม่ว่าจะเป็นวิญญาณทัศนคติ วิญญาณคลี่คลายปริศนา วิญญาณเปลี่ยนวิญญาณ และอื่นๆ

 

“ยังมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันจำนวนหนึ่งอยู่ในร่างของอิงอู๋เซี่ย ข้าจะดึงพวกมันออกมาได้อย่างไร?” ฟางหยวนขมวดคิ้ว

 

เขาเคยใช้วิญญาณทัศนคติหลอกวิญญาณเหล่านั้นเพื่อปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝัน แม้เขาจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ แต่เจตจำนงที่อยู่ในวิญญาณเหล่านั้นก็ตอบสนองเขาแล้ว อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับไม่สามารถดึงพวกมันออกมา

 

“ไม่เพียงวิญญาณอมตะ ร่างกายของอิงอู๋เซี่ยเองก็มีประโยชน์มากเช่นกัน! หือ?”

 

ฟางหยวนหันหลังกลับและมองเห็นผีดิบอมตะผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น

 

ริมฝีปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้ม “ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่”

 

มันคือตัวเขาเอง

 

หรือกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้น มันก็คืออิงอู๋เซี่ยที่อยู่ในร่างผีดิบอมตะของฟางหยวน

 

เขาพึ่งได้รับร่างใหม่ วิญญาณในการครอบครองของเขายังไม่สามารถเปรียบเทียบกับก่อนหน้า

 

แต่ฟางหยวนไม่กังวล เขารอให้อิงอู๋เซี่ยมาถึง

 

“เจ้าคือ?” อิงอู๋เซี่ยค่อยๆเคลื่อนที่เข้าไปหาฟางหยวนด้วยความลังเล

 

ฟางหยวนยืนมือไพล่หลังและแสร้งกล่าวราวกับคนใกล้ชิด “อิงอู๋เซี่ย ข้าทำสำเร็จแล้ว ดวงวิญญาณของฟางหยวนถูกทำลายไปแล้ว”

 

“ไม่! เจ้าไม่ใช่ร่างหลักของข้า! หากเจ้าเป็นร่างหลัก ในฐานะร่างแยก ข้าจะไม่รู้สึกถึงความเชื่อมโยงได้อย่างไร?” ดวงตาของอิงอู๋เซี่ยส่องประกายขึ้น เขาตระหนักถึงตัวตนที่แท้จริงของฟางหยวนในที่สุด

 

‘โอ้ ท่าไม้ตายผนึกภูตผีมีข้อบกพร่องเช่นนี้ หากข้าใช้ท่าไม้ตายใบหน้าที่คุ้นเคย ข้าน่าจะสามารถหลอกเขา’ ฟางหยวนคิดและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

 

เขาแสดงออกด้วยความผ่อนคลายและมั่นใจราวกับตนเองสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด

 

“เจ้าคือฟางหยวน!” อิงอู๋เซี่ยกัดฟันกล่าวด้วยความโกรธ

 

แต่ความโกรธของเขาเป็นเรื่องที่เข้าใจได้

 

พวกเขาทำงานอย่างหนักมาหลายหมื่นปีก่อนจะประสบความสำเร็จ แต่ฟางหยวนกลับฉกชิงผลงานของพวกเขาไปในวินาทีสุดท้าย

 

อิงอู๋เซี่ยคำรามเสียงดังและพุ่งเข้าหาฟางหยวน

 

แต่ฟางหยวนกลับเผยรอยยิ้มราวกับแผนการของเขาประสบความสำเร็จแล้ว “อิงอู๋เซี่ย เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกงั้นหรือ? วิญญาณท่องแดนอมตะเป็นวิญญาณของข้า แล้วเจ้าสามารถกระตุ้นการทำงานของมันได้อย่างไร?”

 

การเคลื่อนไหวของอิงอู๋เซี่ยหยุดลงทันที

 

เวลานั้นเขาเต็มไปด้วยความกังวลและกระตุ้นใช้งานมันโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้

 

เมื่อได้รับการแจ้งเตือนจากฟางหยวน อิงอู๋เซียจึงรู้สึกถึงความผิดปกติ

 

“เจ้าสามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเพราะข้าให้เจ้ายืม ข้าต้องการให้เจ้ากลับมาที่นี่อย่างรวดเร็วที่สุดเพราะสมบัติส่วนใหญ่ของข้าถูกเก็บไว้ในร่างนี้” ฟางหยวนกล่าว

 

ตั้งแต่ฟางหยวนรู้ว่าเขากำลังจะเปลี่ยนวิญญาณกับอิงอู๋เซี่ย เขาก็วางแผนเอาไว้แล้ว

 

ประการแรก ฟางหยวนทิ้งเจตจำนงปลอมจำนวนหนึ่งไว้ในร่างผีดิบอมตะของเขา

 

นี่เหมือนช่วงเวลาในแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือที่เจตจำนงปลอมของโม่เหยาแฝงตัวอยู่ในเงามืดและส่งอิทธิพลต่อความคิดของฟางหยวนอย่างลับๆ

 

ประการที่สอง ฟางหยวนทิ้งเจตจำนงพิเศษไว้ในวิญญาณของเขา

 

เจตจำนงพิเศษคือสิ่งใด?

 

ในวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง เทพอมตะตะวันเดือดทิ้งเจตจำนงพิเศษเอาไว้เบื้องหลัง เขาตั้งค่าให้มันทำงานในสถานการณ์ที่กำหนด เมื่อเกิดสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง มันจะทำงานทันที

 

เช่นเดียวกับครั้งนี้

 

ฟางหยวนมองอิงอู๋เซี่ยและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ยังไม่กลับมาอีกหรือ?”

 

“ฟิ้ว…”

 

วิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนบินเข้าสู่อ้อมกอดของฟางหยวน

 

อิงอู๋เซี่ยจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง

 

ตอนนี้มีเพียงวิญญาณกาลเวลาเท่านั้นที่เขาไม่สามารถดึงออกมา

 

นี่คือการตั้งค่าของฟางหยวน

 

ตราบเท่าที่อิงอู๋เซี่ยนำร่างผีดิบอมตะของเขากลับมาที่ภูเขาอี้เทียนและวิญญาณเหล่านั้นได้ยินคำว่า ‘ยังไม่กลับมาอีกหรือ?’ วิญญาณเหล่านั้นจะบินไปหาผู้กล่าวประโยคนี้

 

เดิมทีวิญญาณเหล่านี้ก็เป็นของฟางหยวนอยู่แล้ว เมื่อพวกมันกลับไปหาเขา เขาจึงสามารถใช้งานพวกมันได้ทันที

 

ก่อนหน้าฟางหยวนไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับทารกอมตะ เขาไม่สามารถคาดเดาว่าเขาจะตื่นขึ้นมาในร่างใหม่

 

ฟางหยวนกังวลเพียงว่าเขาอาจไม่สามารถใช้วิญญาณของอิงอู๋เซี่ย เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเองในช่วงเวลาสำคัญ เขาต้องใช้วิญญาณชุดเดิม

 

แน่นอนว่าเจตจำนงพิเศษที่ฟางหยวนใช้ไม่ใช่เรื่องง่าย

 

หากเกินช่วงเวลาที่กำหนด วิญญาณเหล่านี้จะระเบิดตัวเอง

 

ศัตรูมักเป็นครูที่ดีที่สุด ฟางหยวนพบกับความยากลำบากจากเจตจำนงปลอมของโม่เหยาและเจตจำนงพิเศษของเทพอมตะตะวันเดือด แล้วเขาจะไม่เรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาได้อย่างไร?

 

ฟางหยวนโบกมือและส่งอิงอู๋เซี่ยลอยกลับไปอย่างง่ายดาย

 

“ทุกอย่างจบแล้ว” ฟางหยวนมองอิงอู๋เซี่ยในร่างผีดิบอมตะของเขาและถอนหายใจ

 

อิงอู๋เซี่ยรู้สึกราวกับจมอยู่ในธารน้ำแข็งที่ทำให้เขาหนาวเหน็บไปถึงแกนกระดูก!

 

———-

จบเล่มที่ 4