ตอนที่ 569 พี่สะใภ้ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!
หลังจากเซ็นสัญญาเสร็จแล้ว หลินเยียนก็ย้อนกลับไปที่คฤหาสน์เมฆ
หลินเยียนนอนลงบนโซฟา สไลด์ดูโทรศัพท์มือถือ
ตอนนี้ระดับการค้นหาของตัวเองยังอยู่อันดับหนึ่ง การด่าทอและการบอยคอยตัวเองที่มีอยู่ในอินเทอร์เน็ตไม่เคยหยุดยั้ง
เพียงแต่หลินเยียนกลับไม่แยแสการบอยคอยในอินเทอร์เน็ตแม้แต่น้อย เธอชินมาตั้งนานแล้ว ถ้าหากวันไหนไม่มีคำด่าตัวเอง หลินเยียนอาจรู้สึกอยู่ไม่เป็นสุขก็ได้
“พี่สะใภ้ อยู่หรือเปล่าครับ!”
ไม่นานนักก็มีเสียงเผยอวี่ถังแว่วมาจากนอกประตู
“อยู่ ประตูไม่ได้ล็อก” หลินเยียนตอบ
ประตูห้องเปิดออกอย่างรวดเร็ว เผยอวี่ถังเดินเข้ามาจากข้างนอก
“พี่สะใภ้ จบแล้ว คาวนี้จบเห่กันแล้ว!” สองตาเผยอวี่ถังจับจ้องหลินเยียน หน้าตาเหมือนจะร้องไห้
“มีอะไร?” เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเผยอวี่ถัง หลินเยียนก็มีสีหน้างุนงง
“พี่สะใภ้ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว คราวนี้ผมต้องตายแน่ๆ !” เผยอวี่ถังถอนหายใจ
“พูด” หลินเยียนเหลือบมองเผยอวี่ถังด้วยความรำคาญ เด็กบ้าคนนี้ไปเลียนแบบใครมานะ
“พี่สะใภ้ หรือพี่จะยังไม่รู้ ก็เรื่องระบบของทีมรถแข่งยังไงล่ะครับ!” เผยอวี่ถังรีบเอ่ย
“ระบบของทีมรถแข่ง?”
หลินเยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอไม่รู้เลยว่าเผยอวี่ถังกำลังพูดอะไรอยู่
“อืมๆๆ !” เผยอวี่ถังผงกศีรษะอย่างต่อเนื่อง “ก็คือ…ตอนนี้ทีมรถแข่งหลายหลายทีมในประเทศจีนจะต้องมีการจัดอันดับกันใหม่ เดิมทีทีมผมอยู่ทีมระดับกลาง กลายเป็นว่าครั้งนี้ต้องกำหนดอันดับด้วย ถ้าโชคร้ายเจอทีมระดับสุดยอดพวกนั้นคราวนี้จะทำยังไงล่ะครับ!”
“แค่นี้?” หลินเยียนมองเผยอวี่ถังด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
“ก็ใช่น่ะสิครับ!” เผยอวี่ถังผงกศีรษะอย่างต่อเนื่อง
หลินเยียน “…”
เห็นน้ำเสียงและสีหน้าท่าทางของเผยอวี่ถังเมื่อครู่ เธอนึกว่าเกิดเรื่องราวใหญ่โตอะไรขึ้นเสียอีก
หลินเยียนมองเผยอวี่ถัง พูดโดยแฝงความนัยออกไปว่า “ไม่เป็นไรหรอก”
“ไม่เป็นไร?” เผยอวี่ถังเกาศีรษะ “ทำไมถึงไม่เป็นไรครับ”
เมื่อได้ยินหลินเยียนก็เหล่มองเผยอวี่ถังแวบหนึ่ง “เพราะนั่นคือทีมของนาย ไม่ใช่ทีมของฉัน ดังนั้นจึงไม่เป็นไร”
เผยอวี่ถังมองหลินเยียนด้วยสีหน้างุนงง มุมปากกระตุกเล็กน้อย “พี่สะใภ้ คุณพ่อ…พี่อย่าเห็นคนตายแล้วไม่ช่วยสิครับ ทีมผมจะแพ้ต่อเนื่องแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้นะ!”
“ถึงยังไงทีมนายก็แพ้มาตลอดอยู่แล้ว จะแพ้เพิ่มอีกสักหน่อยก็ไม่เป็นไร นายกับทีมของนายชินแล้วไม่ใช่รึไง” หลินเยียนจ้องมองเผยอวี่ถัง พูดพร้อมยิ้มบาง
“เอ่อ พี่สะใภ้ พูดแบบนี้ก็ไม่ผิด…ไม่ใช่ๆ สิ วันนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว!” เผยอวี่ถังรีบส่ายหน้า “พี่สะใภ้ พี่ไม่รู้หรอก ผมน่ะใช้เงินจำนวนมหาศาลเชิญนักแข่งที่มีฝีมือสุดยอดมาคนหนึ่ง เดิมทีกะว่าจะเอาชนะสักหลายสนามเพื่อเพิ่มอันดับของทีมสักหน่อย ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ ก็มาเปลี่ยนระบบใหม่ต้องมีการจัดอันดับที่แน่นอน”
เผยอวี่ถังมองหลินเยียนด้วยใบหน้าอับจนปัญญา “คุณพ่อ การแข่งจัดอันดับนี้มีทีมระดับสุดยอดกับทีมระดับสูงตั้งเยอะแยะเลยนะครับ ถ้าผมแพ้อีก นั่นหมายความว่าทีมก็ใกล้จะถูกยุบนะครับ!”
หลินเยียนรู้เรื่องการแข่งจัดอันดับดีเช่นกัน เพียงแต่เรื่องแบบนี้ไม่น่าใช่เรื่องที่เผยอวี่ถังควรกังวล เขามีเงิน แล้วจะยุบทีมได้อย่างไร
“เธอไม่ต้องมีของสนับสนุน แล้วก็ไม่ต้องมีสปอนเซอร์” หลินเยียนกล่าวพลางจ้องมองเผยอวี่ถัง
เผยอวี่ถังส่ายหน้าอย่างต่อเนื่อง “พี่สะใภ้ ผมต้องการนะครับ! เดิมทีผมก็ไม่ได้มีเงินอะไรอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังใช้เงินจำนวนไม่น้อยเชิญนักแข่งมาอีก…เงินทุนเลยไม่ค่อยพอ…”
เมื่อได้ฟังหลินเยียนก็มองเผยอวี่ถังด้วยสีหน้าแปลกประหลาด “นายคงไม่คิดที่จะให้ฉันให้เงินลงทุนกับนายหรอกนะ?!”
เอาชีวิต ไม่ได้ เอาเงิน ยิ่งเป็นไปไม่ได้!
ตอนที่ 570 นี่คือการซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง
“มีอะไรก็ปรึกษากันได้ แต่เรื่องลงทุนไม่ได้เด็ดขาด” หลินเยียนรีบตอบโดยไม่เปิดโอกาสให้เผยอวี่ถังได้เอ่ยปาก
อยากได้เงินของเธอก็เท่ากับอยากได้ชีวิตของเธอ และที่สำคัญมากที่สุดก็คือ เธอไม่มีเงิน!
“ฮิๆ” เผยอวี่ถังจ้องมองหลินเยียน หัวเราะพร้อมเอ่ยว่า “คุณพ่อ ดูพูดเข้าสิ ผมไม่อยากได้เงินลงทุนจากพี่ แค่อยากให้พี่ไปขอร้องพี่ใหญ่ผมว่าอย่าควบคุมการเงินของผมเท่านั้นเอง พอเป็นแบบนี้ต่อให้แพ้ก็แพ้ไป ไม่เป็นไรแล้วล่ะ!”
“หา?”
เมื่อเอ่ยถึงเผยอวี้เฉิง หลินเยียนก็รีบส่ายหน้า “ถ้าเธออยากตายก็ทำเองสิ อย่าลากฉันเข้าไปเอี่ยวด้วย”
ท่าทีของเผยอวี้เฉิงชัดเจนมาก สาเหตุที่ควบคุมการเงินเผยอวี่ถังก็เพราะไม่อนุญาติให้เผยอวี่ถังมีทีมรถแข่ง
ถ้าตัวเองเข้าไปข้องเกี่ยวด้วย หากเผยอวี้เฉิงรู้ว่าเธอรวมหัวทำเรื่องเลวร้ายกับเผยอวี่ถัง…
“คุณพ่อ อย่าเห็นคนตายแล้วไม่ช่วยสิครับ!” เผยอวี่ถังรีบพูดขึ้นมา
“นี่ไม่ใช่เห็นคนตายแล้วไม่ช่วย นี่คือซื้อหนึ่งแถมหนึ่งต่างหาก” หลินเยียนรู้สึกอับจนปัญญาอยู่บ้าง
“ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง หมายความว่ายังไงครับ” เผยอวี่ถังไม่เข้าใจ
“นายอยากตายก็พาฉันไปตายด้วยอีกคน นี่ไม่ใช่ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งแล้วจะเป็นอะไรล่ะ” หลินเยียนตอบ
เผยอวี่ถัง “…”
เผยอวี่ถังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นจ้องมองหลินเยียนด้วยสีหน้ายินดีเล็กน้อย “คุณพ่อ ที่จริงยังมีวิธีดีๆ อีกวิธีหนึ่ง คุณพ่อมาอยู่ทีมผม ช่วยผมผ่านเคราะห์ครั้งนี้ไป!”
หลินเยียน : “…” ปล่อยเธอไปเถอะ
“ไม่มีเวลา” หลินเยียนส่ายหน้า
“คุณพ่อ ช่างเป็นคนโหดเหี้ยมเย็นชา แล้งน้ำใจจริงๆ!” เผยอวี่ถังมองหลินเยียนด้วยท่าทางน่าสงสาร
เผยอวี่ถังคิดแผนการมาหลายอย่าง อย่างไรก็ตามกลับคิดไม่ถึงว่าจะไม่รอดแม้แต่แผนเดียว หรือว่าทีมรถแข่งของเขาจะต้องถึงขั้นยุบทิ้งไปจริงๆ…
“ทีมของพวกนายจับได้เบอร์อะไร” ผ่านไปครู่หนึ่งหลินเยียนก็เอ่ยถามเผยอวี่ถัง
“เหมือนจะเป็นเบอร์สี่” เผยอวี่ถังตอบ
“งั้นนายจะกลัวอะไร” หลินเยียนเหลือบมองเผยอวี่ถัง “โอกาสที่ทีมนายจะเจอทีมระดับสูงมีน้อยมากเลย”
การจัดอันดับจะต้องแข่งหลายสนาม ทีมรถแข่งของเผยอวี่ถังจับสลากได้เบอร์แรกๆ เป็นไปได้มากที่สุดว่าอาจจะเจอกับทีมระดับต้นและระดับกลาง ส่วนทีมระดับสูงและระดับสุดยอดจะมีค่อนข้างน้อย ต่อให้เจอ เจอแค่ครั้งเดียวก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
“นี่มันก็ใช่!” เมื่อได้ฟังการวิเคราะห์จากหลินเยียน เผยอวี่ถังก็ผงกศีรษะอย่างต่อเนื่อง
หลินเยียน “…” แล้วเจ้าเด็กบ้าคนนี้กังวลเรื่องอะไรกันแน่
เมื่อเผยอวี่ถังเอ่ยถึงระบบการจัดอันดับทีมรถแข่ง หลินเยียนจึงลองคำนวณเวลา เธอมีบทในเรื่องเลเจนด์ไม่มากนัก แค่โผล่มาช่วงท้ายเท่านั้น ดังนั้นจึงใช้เวลาไม่มาก มีเวลาไปเข้าร่วมการแข่งจัดอันดับกับทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อได้แน่นอน
“คุณพ่อ ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อก็เข้าร่วมการแข่งจัดอันดับด้วยใช่รึเปล่า” ผ่านไปครู่หนึ่งเผยอวี่ถังก็มองหลินเยียนเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
หลินเยียนกลับรู้สึกว่าต้องมีอะไรแปลกๆ ในเรื่องนี้ ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ การเข้าร่วมการแข่งจัดอันดับไม่ใช่เรื่องน่าหวั่นวิตกอันใด
เมื่อรู้ว่าทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อจะเข้าร่วมด้วย เผยอวี่ถังก็ถูมือด้วยความมุ่งหวัง “ถ้าทีมผมได้ลงสนามกับทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อก็ดีน่ะสิ! แบบนี้ผมต้องชนะแน่นอนเลย!”
หลินเยียนมองเผยอวี่ถังพร้อมพูดแฝงความนัย “ขอให้นายโชคดี
……
ช่วงหลายวันนี้นอกจากหลินเยียนจะให้ความสนใจกับช่วงเวลาแห่งการเริ่มแข่งจัดอันดับแล้ว ยังตั้งหน้าตั้งตาดูความฮ็อตเรื่องคลิปการออดิชันของตัวเองอีกด้วย
เมื่อเทียบกับหลายวันก่อน ความฮ็อตของคลิปออดิชันเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย นอกจากชาวเน็ต สื่อจำนวนไม่น้อยก็เริ่มสร้างประเด็นเช่นกัน ประเด็นหลักนั้นชัดเจนมาก ไม่มีอะไรมากไปกว่าการใส่ร้ายป้ายสี เหยียบย่ำความตายของคนอื่นเพื่อเอากระแส