เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1023 อิงอู๋เซี่ยกำเนิดใหม่

แปลโดย iPAT

 

เสียงลมดังเข้าหูของฟางหวนขณะที่เขาบินอยู่กลางอากาศ

 

ทันใดนั้นเขาราวกับสะดุ้งตื่นและอุทานออกมา “ข้าเกิดใหม่แล้ว!”

 

“วิญญาณกาลเวลาช่างอัศจรรย์นัก! มันคู่ควรที่จะเป็นวิญญาณหลักของเทพปีศาจบัวแดง!”

 

“ตอนนี้เวลาใด?”

 

อิงอู๋เซี่ยในร่างผีดิบอมตะของฟางหยวนหยุดเคลื่อนไหว เขามอบไปรอบๆและพบว่าตนเองกำลังเดินทางไปยังภูเขาอี้เทียน

 

ขณะนี้เขาอยู่ห่างจากภูเขาอี้เทียนประมาณหนึ่งหมื่นลี้

 

“ฟางหยวนตั้งใจให้ข้ายืมวิญญาณท่องแดนอมตะเพื่อให้ข้านำวิญญาณของเขาไปคืน”

 

“แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าตนเองจะเป็นเครื่องมือของเจตจำนงสวรรค์ตั้งแต่แรก วิญญาณกาลเวลาถูกควบคุมโดยเจตจำนงสวรรค์มานานแล้ว”

 

“ตอนนี้ข้าได้ถือกำเนิดอีกครั้ง ข้ารู้ภูมิประเทศใหม่ของภูเขาอี้เทียนอย่างชัดเจน ข้าสามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเดินทางไปที่นั้นได้โดยตรง ข้าสามารถจัดการฟางหยวนและแก้แค้น!”

 

อย่างไรก็ตามอิงอู๋เซี่ยกลับปัดความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

 

“บัดซบ! เจตจำนงปลอมของฟางหยวนส่งผลกระทบต่อความคิดของข้าอีกครั้ง!”

 

อิงอู๋เซี่ยกัดฟันแน่น “เจตจำนงสวรรค์มีเจตนาร้าย แม้ข้าจะรีบไป แต่ฟางหยวนก็ยึดครองทารกอมตะไปแล้ว ตอนนี้ข้าอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุด มันเป็นเพียงการทำลายตนเองเท่านั้น”

 

“น่าเสียดาย หากข้ากำเนิดใหม่ในช่วงเวลาที่ข้าใช้ท่าไม้ตายนำวิญญาณสู่ความฝัน ข้าจะสามารถพลิกสถานการณ์ แต่เจตจำนงสวรรค์ไม่ยอมให้ข้าทำเช่นนั้น ฮืม มันไม่ต้องการให้ร่างหลักของข้ายึดครองทารกอมตะเช่นกัน”

 

“เนื่องจากผลลัพธ์ถูกตัดสินไปแล้ว ข้าควรทำตามคำแนะนำของร่างหลักและล่าถอย”

 

“เจตจำนงสวรรค์ต้องการให้พวกเราต่อสู้กัน แล้วข้าจะปล่อยให้แผนการของมันประสบความสำเร็จได้อย่างไร?”

 

“ผู้คนที่บรรลุถึงจุดที่ยิ่งใหญ่ต้องสามารถอดทนต่อสิ่งที่ไม่สามารถอดทนมากที่สุด!”

 

“ข้าไม่จำเป็นต้องจัดการฟางหยวน เพียงปล่อยให้เขาดึงดูดความโกรธของเจตจำนงสวรรค์ต่อไปในอนาคต หากเขายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะใช้เขาเป็นวัสดุในการหลอมรวมลวิญญาณทารกอมตะอีกครั้ง นี่จะช่วยประหยัดเวลาได้มาก”

 

“ข้าต้องสร้างนิกายเงาขึ้นมาใหม่ นี่มันไม่ใช่จุดจบ! ข้าสามารถใช้ประโยชน์จากไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลัน แต่ข้าไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาพบกับฟางหยวน”

 

ตั้งแต่อิงอู๋เซี่ยตระหนักถึงการคงอยู่ของเจตจำนงปลอม เขาระวังตัวมากขึ้นและพยายามหลบหนีจากแผนการของฟางหยวน

 

เขามองไปที่ภูเขาอี้เทียนเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความโกรธ ความเกลียดชัง และความคาดหวังในดวงตา

 

จากระยะไกล เขาเห็นภูเขาอี้เทียนกลายเป็นซากปรักหักพัง ขณะที่ฟางหยวนหัวขโมยที่น่ารังเกียจยังอยู่ที่นั่น

 

แต่อิงอู๋เซี่ยไม่สามารถกลับไปในเวลานี้

 

สิ่งสำคัญที่สุดคือภาพรวม

 

คิดได้เช่นนี้ อิงอู๋เซี่ยจึงกัดฟันแน่นก่อนจะหมุนตัวจากไป

 

“เหตุใดอิงอู๋เซี่ยยังไม่มา?” หลังจากรอคอยเป็นเวลานาน หัวใจของฟางหยวนเริ่มจมดิ่งลง

 

“นี่หมายความว่าเขาค้นพบแผนการของข้าและสามารถหลบหนีจากการควบคุมงั้นหรือ?” ฟางหยวนขมวดคิ้วลึก

 

เขาไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เขาไม่รู้ความจริงที่ว่าวิญญาณกาลเวลาลบความทรงจำในชีวิตก่อนหน้าของเขาออกไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฟางหยวนรู้ เขารู้สึกจุก!

 

“หากอิงอู๋เซี่ยไม่มาที่นี่ เจตจำนงพิเศษของข้าจะไม่ทำงาน เมื่อถึงเวลาที่กำหนด พวกมันจะระเบิดตัวเอง! ข้าต้องตามหาอิงอู๋เซี่ยอย่างรวดเร็วที่สุดและโน้มน้าวให้ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันจับกุมเขา”

 

ฟางหยวนยังมีวิญญาณทัศนคติ สิ่งนี้เป็นหลักฐานที่ดีที่สุดในการโน้มน้าวไห่ลั่วหลัน

 

สำหรับไท่เป่ยหยุนเฉิง มันยิ่งง่ายดายมากกว่า พวกเขาใช้เวลาร่วมกันมานาน เพียงเขาเปิดเผยรายละเอียดเล็กๆน้อยๆบางอย่าง เขาก็จะสามารถโน้มน้าวชายชรา

 

ฟางหยวนตรวจสอบวิญญาณทั้งหมดที่เขามีอยู่

 

เขาสามารถควบคุมวิญญาณที่ติดตัวมากับเขาหลังจากใช้ท่าไม้ตายเปลี่ยนวิญญาณ

 

วิญญาณระดับสูงสุดคือวิญญาณทัศนคติในตำนาน นอกจากนั้นเขายังมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา วิญญาณคลี่คลายปริศนา และวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ วิญญาณเปลี่ยนวิญญาณ

 

สำหรับวิญญาณดวงอื่น พวกมันเป็นวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันและจิตวิญญาณที่ไม่มีคุณค่าให้กล่าวถึง

 

ฟางหยวนขมวดคิ้วลึก

 

ท่ามกลางพวกมัน ไม่มีวิญญาณสายเคลื่อนไหว!

 

‘ข้าต้องไล่ล่าอิงอู๋เซี่ยที่มีวิญญาณท่องแดนอมตะด้วยเท้าเปล่างั้นหรือ? บางทีข้าอาจต้องกำหราบวิญญาณที่อยู่ในร่างของอิงอู๋เซี่ยเป็นอันดับแรก? วิญญาณเหล่านั้นมีวิญญาณสายเคลื่อนไหวรวมอยู่ด้วย’

 

แต่วิญญาณเหล่านั้นไม่มีเจตจำนงของฟางหยวนอยู่ภายใน มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะปรับแต่งพวกมันในระยะเวลาสั้นๆ

 

เพื่อกระตุ้นใช้งานวิญญาณเหล่านั้น เขาต้องหลอกพวกมันด้วยวิญญาณทัศนคติ

 

อย่างไรก็ตามเขาเคยหลอกพวกมันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฟางหยวนไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถหลอกพวกมันเป็นครั้งที่สอง

 

‘แต่ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทดลองเท่านั้น’ เมื่อคิดได้เช่นนี้ ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะเงยหน้ามองร่างกายของอิงอู๋เซี่ยที่ลอยอยู่กลางอากาศโดยไม่รู้ตัว

 

สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้เห็นร่างของอิงอู๋เซี่ย

 

ทันใดนั้นร่างกายของอิงอู๋เซี่ยพลันระเบิดตัวเองโดยไม่คาดคิด!

 

โดยปราศจากเสียง

 

มันเป็นการระเบิดที่เงียบเชียบ

 

ผลของการระเบิดไม่ใช่เลือดแต่เป็นละอองแสงที่งดงาม

 

มันกลายเป็นละอองแสงสีรุ้งกระจายไปในอากาศ

 

รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลงและเร่งล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

 

เพราะเขาจำได้ว่ามันก็คืออาณาจักรแห่งความฝัน!

 

อาณาจักรแห่งความฝันก่อตัวขึ้นต่อหน้าฟางหยวนอย่างน่าอัศจรรย์

 

‘สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะข้าใช้ท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันเช่นนั้นหรือ? ไม่ ไม่อย่างแน่นอน ร่างกายของอิงอู๋เซี่ยระเบิดตัวเองอย่างกะทันหันและกลายเป็นอาณาจักรแห่งความฝัน?’

 

ฟางหยวนลอบถอนหายใจ

 

เขาไม่รู้ว่าหลังจากอิงอู๋เซี่ยอายุครบสิบแปดชั่วโมง ร่างกายของเขาจะระเบิดและกลายเป็นอาณาจักรแห่งความฝัน

 

อิงอู๋เซี่ยเกิดจากอาณาจักรแห่งความฝัน เขาถูกสร้างขึ้นโดยใช้วิญญาณเปลี่ยนเป็นความจริง มันไม่แปลกหากเขาจะกลับเป็นอาณาจักรแห่งความฝันในท้ายที่สุด

 

อาณาจักรแห่งความฝันที่เกิดจากการระเบิดตัวเองของอิงอู๋เซี่ยแผ่กระจายออกไปเรื่อยๆด้วยความเร็วสูง

 

ฟางหยวนวิ่งหนีด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะสามารถทำได้ หลังจากพ้นระยะเจ็ดร้อยลี้ เขาจึงหลุดออกจากรัศมีของอาณาจักรแห่งความฝัน

 

หากเขาถูกดึงเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน เขาจะตกที่นั่งลำบาก

 

แม้ฟางหยวนจะมีวิญญาณคลี่คลายปริศนา แต่เขามีวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันไม่เพียงพอที่จะปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน

 

ขอบเขตของอาณาจักรแห่งความฝันยังขยายตัวขึ้นแต่ความเร็วเริ่มลดลง

 

ฟางหยวนทำได้เพียงล่าถอยออกไป เมื่อเขาอยู่ห่างจากภูเขาอี้เทียนประมาณหนึ่งพันลี้ อาณาจักรแห่งความฝันจึงหยุดขยายตัว

 

หัวใจของฟางหยวนแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก “โชคดีที่ข้าไม่เชื่อเทพอมตะกลุ่มดาวในตอนสุดท้ายโดยการทำลายทารกอมตะ มิฉะนั้นดวงวิญญาณของข้าที่อยู่ในร่างของอิงอู๋เซี่ยจะติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันขนาดใหญ่ยักษ์นี้จนกว่าข้าจะตาย!”

 

“ตอนนี้ข้าควรทำสิ่งใด?”

 

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้แผนการก่อนหน้าของฟางหยวนสะดุดและไม่สามารถเดินหน้า

 

ร่างกายของอิงอู๋เซี่ยมีค่ามาก เขามีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันที่สามารถปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝัน

 

แต่สิ่งที่ฟางหยวนต้องการมากที่สุดก็คือดวงวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณ หากฟางหยวนสามารถจับกุมดวงวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาจะสามารถค้นวิญญาณและได้รับผลประโยชน์มหาศาล

 

นอกจากนั้นมิติช่องว่างของผู้อมตะบางส่วนยังถูกทิ้งไว้รอบๆ

 

แต่ตอนนี้ทุกสิ่งถูกกลืนกินไปแล้วโดยอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ไม่ว่าฟางหยวนจะต้องการใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน แต่เขายังต้องใช้เวลาหลายปีหากต้องการกำจัดอาณาจักรแห่งความฝันขนาดใหญ่นี้

 

ฟางหยวนกำหมัดแน่น เขามองไปยังอาณาจักรแห่งความฝันก่อนจะถอนหายใจอย่างไม่สามารถช่วยได้

 

“ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่น ข้าไม่สามารถอยู่ที่นี่ หลังจากนี้ผู้อมตะภาคใต้ทั้งหมดจะต้องรีบร้อนเดินทางมาตรวจสอบสถานที่แห่งนี้”

 

ฟางหยวนตัดสินใจและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วตามความทรงจำของเขา

 

เขาเลือกทิศทางที่ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันนำร่างของเขาจากไป

 

“หวังว่าข้าจะโชคดีและพบพวกเขา”

 

แต่ฟางหยวนจะไม่ประสบความสำเร็จ

 

เขาไม่รู้ว่าหลังจากเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้อมตะภาคใต้ ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันเปลี่ยนเส้นทางการหลบหนีไปแล้ว

 

นอกจากนี้เขายังไม่รู้ว่าอิงอู๋เซี่ยใช้ประโยชน์จากการกำเนิดใหม่เข้าร่วมกับไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไป่ลั่วหลันเรียบร้อยแล้ว

 

“ฟางหยวน หากเจ้าไม่มีคำอธิบายที่ดีกว่านี้ พวกเราจะเป็นศัตรูกัน!” ไห่ลั่วหลันแสดงออกด้วยความก้าวร้าวต่อหน้าอิงอู๋เซี่ยในคราบฟางหยวน

 

ไท่เป่ยหยุนเฉิงเร่งโบกมือ “ใจเย็นๆ ข้าเชื่อว่าฟางหยวนย่อมมีเหตุผล”

 

อิงอู๋เซี่ยมองไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันด้วยการแสดงออกที่จริงใจ “ข้ากังวลเกินไป ข้าถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายอมตะของศัตรู โชคดีที่ข้าไม่จบลงในอาณาจักรแห่งความฝัน แต่วิญญาณส่วนใหญ่ของข้าไม่สามารถใช้งาน มีเพียงการสังหารเขา พวกมันจึงจะใช้งานได้”

 

“แต่ข้าเห็นเจ้าใช้วิญญาณท่องแดนอมตะ! หากไม่ใช่ความจริงที่ว่าพวกเราสามารถตรวจสอบตำแหน่งกันและกัน ข้าจะคิดว่าเจ้าทิ้งพวกเราไปแล้ว!” ไห่ลั่วหลันตะโกนเสียงดัง

 

“นั่นเป็นการเคลื่อนไหวที่สิ้นหวัง ข้าถูกบังคับให้ใช้มัน เจ้ายังเห็นข้าล้มเหลวและได้รับบาดเจ็บเมื่อข้าใช้วิญญาณท่องแดนอมตะครั้งแรก นอกจากนี้เหตุใดข้าต้องทิ้งพวกเจ้าในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอันตรายเช่นนี้? เราต้องอยู่รวมกันจึงจะสามารถอยู่รอด” อิงอู๋เซี่ยกล่าวอย่างมั่นใจ

 

ไห่ลั่วหลันก่นเสียงเย็น นางยังต้องการโต้เถียงต่อไป

 

แต่อิงอู๋เซี่ยหยุดนางไว้ “พอแล้ว เราจะใช้วิญญาณท่องแดนอมตะจากไป ตอนนี้ตัวตนของข้าถูกเปิดเผยแล้ว เมื่อวังสวรรค์รู้ แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เราต้องโอนถ่ายทรัพยากรที่อยู่ภายในอย่างเร่งด่วน”

 

ฟางหยวนวิ่งอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากสิบห้านาทีเขายังไม่รู้สึกเหนื่อยล้า

 

เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ เขาเริ่มรู้สึกสนุกสนาน ร่างกายของเขาผอมแห้งแต่มันกลับมีการป้องกันที่น่าทึ่ง ระหว่างทางเขาถูกกิ่งไม้ทิ่มแทง ถูกเศษหินที่แหลมคมกรีดเฉือน แต่พวกมันกลับไม่ใช่อุปสรรคของเขา

 

นอกจากนี้มันยังเต็มไปด้วยพละกำลัง

 

เพียงกระโดดเบาๆ เขาก็พุ่งไปไกลถึงสิบเมตร

 

แต่สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนผิดหวังก็คือเขาไม่พบร่องรอยของอิงอู๋เซี่ย ไท่เป่ยหยุนเฉิง และไห่ลั่วหลันในทุกที่ที่เขาไป