บทที่ 246
“ช่างอัศจรรย์เหลือเกิน !”

เฉินโม่ในสายตาของเวินฉิงก็เหมือนกับเด็กขี้คุยโวโอ้อวดคนหนึ่ง เขาหัวเราะฮา ๆ พลางพูดออกมาว่า “จะมีอะไรเล่า ความสามารถของผมยังมีอยู่อีกมากนะ หลังจากนี้ถ้ามีโอกาสผมจะค่อย ๆ โชว์ให้พี่สาวดูแล้วกันนะ”

เวินฉิงกลับไม่คิดว่าเฉินโม่กำลังคุยโม้ เธอพยักหน้าตอบด้วยความมั่นใจ “ได้เลย !”

“พวกเรากลับกันเถอะ ที่นี่ดูแล้วไม่ใช่ที่ที่เราจะคุยเรื่องจริงจังกันได้เลย !”

เวินฉิงพยักหน้า “อื้อ”

เฉินโม่ยิ้มอย่างอารมณ์ดี ไม่นึกเลยว่าผู้ที่ควบคุมเหม่ยหวากรุ๊ปขนาดใหญ่เอาไว้อย่างเวินฉิง เมื่ออยู่ต่อหน้าของเขาก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กผู้หญิงน่ารักคนหนึ่ง

ดูแล้วไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะอยากเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะโดยส่วนมากข้างกายของเธอไม่มีผู้ชายที่พอจะพึ่งพาได้อยู่ด้วยต่างหาก

เฉินโม่ดึงเวินฉิงเดินออกไป ฉือรุ่ยปิงและคุณชายหลิวสีหน้าเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม แต่เมื่อว่านเหวินโยวไม่ได้พูดอะไร พวกเขาก็ไม่กล้าขัดขวางไว้ ทำได้เพียงแค่มองเฉินโม่พวกเขาทั้งสองเดินออกไปเท่านั้น

“คุณชายว่านจะปล่อยมันไปอย่างนี้เลยหรือ ?” คุณชายหลิวมองไปยังว่านเหวินโยวอย่างระมัดระวัง

ว่านเหวินโยวสีหน้าเคร่งขรึมลง “เขาชนะอาฮุยแล้ว ย่อมที่จะออกไปจากที่นี่ได้ นี่ก็คือกฎ !”

“ช้าก่อน !”

ขณะที่เฉินโม่กำลังจูงมือเวินฉิงออกไปนั้น ชายหนุ่มสวมชุดสูทสีดำคนหนึ่งได้เดินออกมาท่ามกลางฝูงชน ด้านหลังตามมาด้วยชายหนุ่มตัดผมสกินเฮดที่ดูแล้วน่าจะเป็นบอดี้การ์ดของเขา

เมื่อมองไปยังชายหนุ่มคนนี้ เหล่าลูกเศรษฐีต่างก็ตกตะลึง !

“นี่มัน …คุณชายรองแห่งตระกูลจิน ?”

“คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคุณชายรองแห่งตระกูลจิน ! เขาคือคนที่พอจะเทียบเคียงกับคุณชายว่านได้เลย !”

“ตระกูลจินงั้นหรือ ? ตระกูลจินไหน ? ทำไมฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยล่ะ ?”

“นอกจากตระกูลจินฮ่านหยาง จะมีใครกล้าใช้นามตระกูลจินอีก ?”

“นายกำลังจะบอกว่าจอมพลในยุคเริ่มแรกของประเทศ คุณท่านจินจินโจงรุ่นแห่งตระกูลจินงั้นหรือ ?”

“ถูกต้อง !”

ไม่นาน ทุกคนก็รู้ได้ถึงตัวตนของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้านี้ ลูกคนที่สองของลูกชายคนโตของคุณท่านจิน ผู้คนต่างเรียกกันว่า คุณชายรองจิน

“ได้ยินมาว่าคุณชายรองจินท่านนี้ตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่น ก็ได้เป็นถึงเลขานายกเทศมนตรีแล้ว เกรงว่าอายุยังไม่ทันถึงสามสิบก็น่าจะได้คุมเมืองแล้วน่ะสิ ! อนาคตหลังจากนี้มีความเป็นไปได้อย่างดีแน่ๆ เขาเป็นหนุ่มผู้มากไปด้วยพรสวรรค์ในตระกูลจิน !”

“ที่น่าตกใจที่สุดก็คือคุณชายรองจิน ใช้เพียงแค่ความสามารถของตนเองเท่านั้นในการไต่เต้ามาจนถึงจุด ๆ นี้ ไม่มีการขอความช่วยเหลือใด ๆ จากตระกูลจินเลย นี่คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด”

“ไม่คิดมาก่อนเลยว่าการประชุมสูงสุดในปีนี้ คุณชายรองจินจะมาด้วย รอฉันได้กลับเมืองหลงฮั่วแล้ว จะไปคุยโวให้หนำใจเลย !”

ทายาทเศรษฐีต่างก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น มองไปยังจินเอี๋ยนหยู่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอ้อนวอน อยากจะเข้าไปคุยกับเขา แต่ก็เกรงว่าจะมีคุณสมบัติไม่พอ

ว่านเหวินโยวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ รีบเดินเข้าไปหาเขา ประสานมือกล่าวต้อนรับอย่างใจกว้าง “ยินดีต้อนรับ ไม่คิดเลยว่าคุณชายรองจินจะมาถึงที่นี่ได้ นับว่าเป็นเกียรติของสโมสรเราอย่างยิ่ง !”

ตระกูลจินแม้จะไม่ได้รวยเท่าตระกูลว่าน แต่พลังอำนาจในแวดวงทหารและการเมืองนั่นแข็งแกร่งกว่าตระกูลว่าน ทำให้พลังอำนาจโดยรวมยังเหนือกว่าตระกูลว่านอยู่เล็กน้อย ว่านเหวินโยวไม่มีทางที่จะพลาดโอกาสในการทักทายกับคนมีชื่อเสียงอย่างคุณชายรองจินเป็นแน่

จินเอี๋ยนหยู่คือเลขาของนายกเทศมนตรีเมืองฮ่านหยาง ด้านหลักในการครองตนของเขาถูกฝึกจนสมบูรณ์แบบมานานแล้ว เมื่อเห็นว่านเหวินโยวเข้ามาทักมากมาย ก็รีบคำนับกลับไปทันที “คุณชายว่านเกรงใจท่านแล้ว ผมได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของการประชุมสูงสุดมานาน แต่น่าเสียดายที่ไม่มีเวลาได้มา วันนี้มีโอกาสได้มาก็เห็นคนหนุ่มที่มีความสามารถมากมาย ถือว่าเป็นประโยชน์กับผมไม่น้อย นี่ต้องเป็นเพราะสายตาอันเฉียบแหลมของคุณชายว่านแท้ ๆ เลย !”

ว่านเหวินโยวหัวเราะฮา ๆ ยิ่งรู้สึกชื่นชมคุณชายรองจินมากขึ้นไปอีก “คุณชายรองจิน อย่าพูดขนาดนั้นเลย ในเมื่อคุณมาที่นี่แล้ว ผมกลับไม่ได้ต้อนรับคุณอย่างดีล่ะก็ ถ้าท่านพ่อผมรู้เข้าคงจะไม่ปล่อยผมไปแน่ ๆ !”

จินเอี๋ยนหยู่ประสานมือและพูดว่า “สหายว่านรอสักครู่ ผมรู้สึกสนใจหนุ่มน้อยนักธนูคนนี้มาก ให้ผมได้คุยกับเขาสักหน่อยเถอะ”

เฉินโม่เหลือบมองไปยังจินเอี๋ยนหยู่ เขาได้ยินเรื่องที่ผู้คนพูดคุยกัน ก็รู้ถึงตัวตนของคุณชายรองจินคนนี้แล้ว

เมื่อเห็นจินเอี๋ยนหยู่เดินเข้ามาใกล้ เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบไปว่า “หาฉันมีเรื่องอะไรงั้นหรือ ?”