ตอนที่ 115 ไม่จำเป็นต้องทน

Perfect Superstar

ตอนที่ 115 ไม่จำเป็นต้องทน!

ถ้าวันนี้มีการประกวดว่าใครเป็นราชาแห่งความย่อยยับในเว็บบล็อกหลางเฉา ลู่เฉินยอมรับเป็นอันดับสอง ส่วนอันดับหนึ่งคือแมวจรจัด

ตอนนี้ในบล็อกงของลู่เฉินมีคนมาวิจารณ์มากถึงหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นข้อความ ในนั้น 90% ต่อว่าเขา ส่วนคำวิจารณ์ในบล็อกของแมวจรจัดมากกว่าเขาสามเท่า คือสูงถึงสามแสนเจ็ดหมื่นข้อความ ส่วนเนื้อหาในแต่ละคอมเมนต์นั้นไม่ต้องพูดถึง

พลังของแฟนคลับผู้ภักดีน่ากลัวที่สุด โดยเฉพาะพวกแฟนคลับที่ไร้สมอง เปรียบเสมือนกับการเป็นเทพฆ่าเทพ พระฆ่าพระ

แมวน้อยตัวหนึ่ง ถูกทำลายลง!

ผู้เชี่ยวชาญในการเผยแพร่ข่าวลับชื่อดังแห่งเว็บบล็อกเทียนคง การแสดงออกในบล็อกของแมวจรจัดไม่ได้ดั่งใจเลย ถูกคนรุมประนามแล้วยังเป็นเต่าหดหัว ต่อให้ด่ารุนแรงเพียงใดก็ไม่ยอมเผยตัว ดูเหมือนกลับกลัวความผิด

เมื่อทุกคนคิดว่าสงครามในบล็อกจะจบลงเท่านี้ ฝ่ายรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองและหลิงเสี่ยวซูเป็นผู้ชนะ เวลา 20.37น. แมวจรจัดก็อัพเดทบล็อกอีกครั้ง

เขาเผยแพร่บล็อกใหม่ เนื้อหาในบล็อกมีเพียงสองคำ…เหอะๆ

ด้านหลังคำว่าเหอะๆ แนบลิงก์คลิปวิดีโอมาด้วย

ตั้งแต่การเผยแพร่บล็อกในครั้งแรกจนถึงตอนนี้ แมวจรจัดมีผู้ติดตามมากขึ้นถึงสองแสน คนพวกนี้ไม่ใช่แฟนคลับตัวจริงแน่นอน แต่เป็นแฟนคลับสีดำและแฟนคลับที่ผ่านไปมา การเพิ่มจำนวนของแฟนคลับเป็นเพราะอยากจะได้รับข่าวสารอย่างทันท่วงที

ดังนั้นเมื่อบล็อกมีการอัพเดทเนื้อหาใหม่ จำนวนของการกดเข้าชมและการแชร์ต่อนั้นมากจนน่าตกใจ

คนจำนวนมากแห่กันเข้าชมคลิปวิดีโอ

ความยาวของวิดีโอเพียง 4 นาที 27 วินาที ในนั้นเป็นฉากที่ทุกคนคุ้นเคย คือฉากการประกวดรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองรอบออดิชั่นนั่นเอง!

ในคลิปวิดีโอ เป็นชายหนุ่มรูปหล่อถือกีตาร์เดินขึ้นเวที

เผชิญหน้ากับกรรมการทั้งสี่คน ชายหนุ่มรูปหล่อพูดอย่างสงบนิ่งว่า “สวัสดีคณะกรรมการทุกท่านครับ ผมคือผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 0580 ลู่เฉินครับ มาจากเจ๋อตง”

แนะนำตัวเองจบ เขาก้มโค้งคำนับกรรมการครั้งหนึ่ง แล้วยืดตัวขึ้นพูดต่อว่า “วันนี้เพลงที่ผมนำมาฝากทุกคน คือเพลงเธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน ขอคำชี้แนะจากอาจารย์ทั้งสี่ท่านด้วยครับ”

นี่คือลู่เฉินที่ถูกรุมประณามเหรอ นี่เป็นคลิปวิดีโอตอนที่เขาประกวดร้องเพลงรอบออดิชั่นของรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรอง?

ทุกคนที่ได้ดูอยู่ต่างตะลึง

นี่ไม่ค่อยเหมือนที่ได้ข่าวมาเลย!

เฉินเจินหนีบอกว่าลู่เฉินไม่เคารพผู้อาวุโสไม่ใช่เหรอ ดูไม่ออกนี่นา เขาดูมีมารยาทมากทีเดียว!

มีหลายคนที่คิดขึ้นมาได้ว่า…คลิปวิดีโอนี้เกรงว่าจะมีนัยสำคัญมาก!

ในเมื่อเป็นคลิปที่แมวจรจัดเผยแพร่ จะบอกว่าไม่ใช่การตอบโต้ของเขา ถึงจะเป็นเรื่องแปลก!

แต่ปัญหาเกิดขึ้นแล้ว คนคนนี้มีคลิปอัดรายการของรายการนักร้องนักแต่งสุดสตรองแห่งสถานีโทรทัศน์เซียงหนานได้อย่างไร ถ้าหากคลิปนี้ส่งผลเสียต่อสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน ก็ควรจะถูกตัดทิ้งไปตั้งแต่ถ่ายทำรายการจบไปถึงจะปกติ

ผู้ที่ติดตามบล็อก นอกจากเป็นชาวเน็ตทั่วไปแล้ว ยังมีคนในวงการบันเทิงอีกไม่น้อย

พวกเขาเพียงต้องการจะติดตามสงครามบล็อกครั้งนี้ดูเป็นเรื่องสนุกเท่านั้น ไม่ได้คิดว่าจะมีการหักมุมซ้ำแล้วซ้ำเล่า แมวจรจัดเหมือนกุมไม้ตายที่จะพลิกเกมได้อยู่

มีเรื่องสนุกให้ดูจริงๆ!

หลายคนตื่นเต้นนั่งหน้าคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือจ้องหน้าจอกลัวจะพลาดรายละเอียดที่เข้มข้นไป

ในคลิป กรรมการสาวคนหนึ่งอมยิ้มพูดว่า “เริ่มได้เลย คุณมีเวลา 2 นาที ร้องให้ดี”

กรรมการคนนี้คือหลูหย่า นักร้องสาวชื่อดังที่ทุกคนรู้จักดี

เหมือนกับว่าสงครามบล็อกครั้งนี้ หลู่หย่าไม่ได้ออกเสียง

ลู่เฉินพยักหน้า กอดกีตาร์เอาไว้เริ่มร้องเพลง

“พรุ่งนี้เธอจะนึกออกไหม ไดอารี่ที่เธอเขียนไว้เมื่อวาน…”

ตี๊ด!

เสียงแหลมแสบหูของออดที่ดังขึ้นไม่เพียงแต่ทำให้ลู่เฉินสะดุ้ง แม้แต่คนที่ดูคลิปอยู่ก็ตกใจเหมือนกัน

นี่ไม่ได้กดผิดใช่ไหม เพิ่งร้องได้สองประโยคก็ถูกกดไฟแดงใส่แล้วหรือ

ทุกคนไม่โง่ ถ้าบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรน่าสงสัย ก็คงจะแปลกน่าดู!

กรรมการที่กดไฟแดงคนแรกคือจางเสี่ยวอัน

จางเสี่ยวอันไม่ได้วิจารณ์ลู่เฉินว่าแสดงไม่ดี หรือการเล่นดนตรีไม่ดี หรือผลงานเพลงเพิ่งแสดงได้เพียงครึ่งเดียวไม่ใช่เหรอ

เขาเพิ่งได้ฟังแค่สองประโยคก็ลงความเห็นแบบนี้ จะเก่งเกินไปแล้ว!

หลายคนที่เคยเข้าไปด่าลู่เฉินในเว็บบล็อกต่างรู้สึกอยากอุทานเป็นว่า

“แย่แล้ว” เหมือนกับตัวเองโง่เอง!

แต่ลู่เฉินไม่ได้ถูกไฟดวงแรกรบกวนเท่าไหร่ เขายังร้องเพลงต่อ

“…พรุ่งนี้เธอจะจำได้ไหม คนที่ชอบร้องไห้ที่สุด”

ตี๊ด!

ไฟแดงดวงที่สองสว่างขึ้น

ฉันจะบ้าตาย!

ถ้าแค่ไฟแดงดวงแรกคนอื่นยังพอกลั้นใจให้ผ่านไปได้ แต่นี่ไฟแดงดวงที่สอง ทนไม่ไหวแล้วนะ

การแสดงของลู่เฉินไม่ได้แย่อย่างที่คิด ยิ่งกว่านั้นยังเป็นการแสดงที่ดีมาก อีกอย่างถ้าบอกว่ามีปัญหาก็ควรให้เขาร้องต่อมากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ ทำไมอยู่ๆ ถึงลงไม้ทุบแล้วทุบอีกซ้ำๆ

ผู้ที่คอยเฝ้าดูสงครามเว็บบล็อกอดนึกถึงคำวิจารณ์ที่กดขี่ต่อแมวจรจัดไม่ได้

ลู่เฉินไปล่วงเกินใครมาเหรอ?

ไม่เช่นนั้นจะมีกรรมการถึงสองคนที่เพ่งเล็งเขาได้ยังไง จนมาถึงจุดแตกหักนี้!

ผู้ที่กดไฟแดงดวงที่สองเธอคือคนที่บอกว่าลู่เฉินไม่เคารพผู้อาวุโส เฉินเจินหนี

ผู้อาวุโสแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเคารพ

สิ่งที่ทำให้คนอื่นตกใจคือ เมื่อถูกกดไล่ด้วยไฟแดงสองดวงลู่เฉินยังรักษาอาการสงบเอาไว้ ร้องเพลงต่อไป ร้องต่อจนจบ

“ขอบคุณครับ!”

เขากอดกีตาร์เอาไว้โค้งตัวให้คณะกรรมการแสดงความขอบคุณ

เมื่อเห็นเช่นนี้ คนที่เคยต่อต้านลู่เฉินต่างเงียบงัน

ถามตัวเองว่า ถ้าตัวเองเป็นลู่เฉิน เผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้ จะยังรักษามารยาทต่อไปได้อีกหรือไม่

บอกว่าเขาไม่เคารพผู้อาวุโสเหลวไหลทั้งเพ!

ต่อไปเป็นช่วงของการวิจารณ์

จางเสี่ยวอันพูดว่า “แนวเพลงล้าสมัย ทำนองก็ธรรมดา ต้องพยายามให้มากกว่านี้”

เฉินเจินหนีวิจารณ์ “คุณดีดกีตาร์ได้ไม่เลว แต่พวกเราเลือกคนที่ร้องเพลงที่ดีที่สุดดังนั้น Sorry ด้วย หวังว่าคุณจะพยายามต่อไป”

หลูหย่ายิ้มน้อยๆ เอ่ยว่า “ลู่เฉิน ฉันคิดว่าคุณแสดงได้ดีมาก…”

ตี๊ด!

เธอยังพูดไม่จบ กรรมการคนที่นั่งอยู่ริมซ้ายสุดกดปุ่มไฟแดง

จวงเฮ่าเป็นคนกด ให้ลู่เฉินออกจากการแข่งขัน!

เขาเอ่ยอย่างไร้เยื่อใยว่า “ผมเห็นด้วยกับความเห็นของจางเสี่ยวอัน เพลงของคุณล้าสมัยเกินไป ดนตรีแนวนี้มีอยู่มากมาย ขาดความคิดสร้างสรรค์ เป็นแค่มือสมัครเล่น เพราะฉะนั้นไม่ผ่าน”

คำพูดเต็มไปด้วยการดูถูกและเยาะเย้ย

ลู่เฉินยังคงรักษามารยาทเหมือนเดิม โค้งตัวตอบว่า “ขอบคุณคำแนะนำจากอาจารย์ทั้งสี่ท่านครับ…”

ดูถึงตอนนี้หลายคนทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว

พวกเขารู้สึกอับอายและลำบากแทนลู่เฉิน การร้องเพลงของเขาดีมาก กลับถูกคนพวกนี้กดขี่จนไม่หลงเหลือคุณค่า

กรรมการพวกนี้เป็นกันได้ยังไง?

ลู่เฉินยังอดกลั้นผ่านมาได้ และยังคงรักษามารยาทและความเคารพต่อกรรมการ

และมารยาทอันดีของเขานี่เองที่ทำให้ผู้คนโกรธแค้น!

ตอนนี้เองที่ลู่เฉินยืดอกขึ้นมา จ้องไปที่กรรมการจวงเฮ่าพูดด้วยเสียงเรียบว่า

“แต่ผมไม่เห็นด้วยกับคำติชมของอาจารย์จวงเฮ่านะครับ เพลงของผมได้จดลิขสิทธิ์ในเว็บไซต์ห้องสมุดดนตรีจีนแล้ว ตรวจสอบไม่พบว่ามีการคัดลอกหรือเลียนแบบแต่อย่างใด ยังมีคนยอมจ่ายเงินหนึ่งแสนเพื่อซื้อเพลงนี้ด้วย…”

เขามั่นใจในตัวเอง “แต่ผมไม่ขาย”

สะใจ!

ควรจะเป็นแบบนี้สิ!

ลู่เฉินตอบอย่างมีมารยาทกลับ ไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกว่าท่าทีของเขามีปัญหา กลับรู้สึกว่าสมควรแล้ว

หรือนี่คือสิ่งที่เฉินเจินหนีบอกว่าเขาไม่มีคุณสมบัติจะเป็นนักร้องหน้าใหม่ และไม่เคารพผู้อาวุโส?

ปีที่แล้วฉันซื้อนาฬิกา!

พอดีกับที่กล้องหมุนกลับมาจับที่จวงเฮ่าถ่ายท่าทางของเขาเอาไว้

กรรมการผู้เป็นบรรณาธิการนิตยสารทันสมัย ‘ซิ่วเหม่ย’ ใบหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากสั่นระริก

“ฮ่าๆๆ!”

หลายคนถึงกับหัวเราะออกมา…สมน้ำหน้า!

ลู่เฉินไม่ให้โอกาสโต้กลับแก่จวงเฮ่า เขาพยักหน้าให้หลูหย่าแล้วหันหลังเดินลงจากเวทีไป

เหตุการณ์ที่ถูกกล้องถ่ายทำไว้เป็นเรื่องจริง

คลิปวิดีโอยังไม่จบลงเท่านี้

ต่อจากนั้น จวงเฮ่าถือปากกาทุบลงบนโต๊ะอย่างแรง ด่ากราดอย่างโกรธเกรี้ยว

“คนหนุ่มสมัยนี้ยิ่งไม่มีมารยาท ไม่สำนึกเลยสักนิด มิน่าวงการเพลงสมัยใหม่นี้ถึงตกต่ำลงเรื่อยๆ นี่มันบ้าอะไรกัน!”

จางเสี่ยวอันสีหน้าเงียบขรึมตอบว่า “ไม่ผิดหรอก ฉะนั้นพวกเราควรจะต้องเคร่งครัดให้มากขึ้น คนนิสัยไม่ดีต้องคัดออกให้หมด ไม่อย่างนั้นจะทำให้สถานีโทรทัศน์เซียงหนานต้องอับอายขายหน้าประชาชน”

เฉินเจินหนีหยิบโน้ตบุ๊กขึ้นมาออกแรงพัดแทนใบพัด ยิ้มเยาะว่า “นิสัยแบบนี้ มิน่าถึงมีคนอยากสั่งสอนเขา ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ เดี๋ยวจะได้เสียใจภายหลัง!”

เป็นแบบนี้นี่เอง !เป็นแบบนี้นี่เอง!

ทุกคนเข้าใจขึ้นมาทันที ถ้ายังบอกว่าไม่เข้าใจอีก ก็ควรกินยารักษาได้แล้ว

ลู่เฉินถูกใส่ความ ข้อมูลที่แมวจรจัดเปิดเผยออกมานั้นเป็นเรื่องจริง สถานีโทรทัศน์เซียงหนานจะต้องเสียหายไม่ช้าก็เร็ว!

สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือเหล่ากรรมการ นอกจากหลูหย่าที่ไม่ได้ออกความเห็น กรรมการที่เหลือทั้งสามต่างกำลังโกหกหน้าตาย พวกเขาร่วมมือกันกดขี่ลู่เฉิน แล้วยังทำเรื่องผิดให้ถูกในบล็อกด้วย

มีบางคนต้องการให้เขาได้รับการสั่งสอน

คนจำนวนนับไม่ถ้วนรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอกลวง!

จางเสี่ยวอัน เฉินเจินหนี และจวงเฮ่า น่าจะคิดว่าคลิปวิดีโอในช่วงนี้ถูกตัดทิ้งไป ดังนั้นถึงกล้าออกมาเปิดเผยโดยไม่เกรงกลัว พวกเขาคิดไม่ถึงว่าการกระทำของตัวเองทุกอย่างจะถูกเปิดเผยออกมา

ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขายังมีคำพูดอะไรจะพูดอีกไหม!

บล็อกแมวจรจัดที่เพิ่งเผยแพร่ไม่นานยอดผู้ชมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งยังถูกแชรต่อในเว็บบล็อก ในลิงก์…

ผู้คนจำนวนมากเข้าไปถล่มบล็อกของจางเสี่ยวอัน เฉินเจินหนีและจวงเฮ่าแห่งสถานีโทรทัศน์เซียงหนาน

พวกเขาต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมจากการถูกดูหมิ่นหลอกลวง ขณะเดียวกันก็เรียกร้องความยุติธรรมให้ลู่เฉิน!

เวลา 20.49 น. ลู่เฉินที่เฝ้าอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์มองเห็นเว็บบล็อกอันใหม่ของแมวจรจัด

เขาเข้าใจว่านี่คือไม้ตายที่เฉินเจี้ยนหาวซ่อนเอาไว้ ฝ่ายหลังตั้งใจรอให้เรื่องราวบานปลาย จนให้ผู้คนลุกฮือกระโดดออกมาเรียกร้องถึงจะปล่อยหมัดหนักๆ กลับไป เป็นหมัดน็อกเอาท์!

ต่อยที่หน้าอย่างแรงเสียจนฟันหลุดกระเด็น

โหดร้ายจริงๆ!

แต่เราชอบนี่นา

มุมปากของลู่เฉินหยักเป็นรอยยิ้ม เขาส่งลิงก์ให้หลี่มู่ไป๋

“นี่คืออาวุธโจมตีกลับชั้นยอด!”

ลู่เฉินไม่ห่วงว่าคลิปวิดีโอได้มายังไง เขารู้ว่าถึงเวลาที่ตัวเองจะต้องออกตัวแล้ว!

หลี่มู่ไป๋ตอบกลับอย่างรวดเร็ว “เข้าใจแล้ว ผมจะให้พวกเขาได้รู้ ขุนศึกตระกูลลู่ไม่ใช่มนุษย์ดินปั้นนะ”

“หากเสือไม่คำราม ก็แสดงว่าคงป่วยใกล้ตายแล้ว!”

……………………………………