ถ้าเขาไม่แอบตามมาที่เมือง C งั้นซูฉิงก็คง…
ฮ่อหยุนเฉิงไม่กล้าคิดต่อ
ฮ่อหยุนเฉิงมองไปไม่ไกล ก็เห็นม้านอนเลือดไหลอยู่ที่พื้น ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัย
“พาฉันไปดูที่นั่นหน่อย” ซูฉิงกระซิบข้างหูของเขา “ในเมื่อผู้กำกับอู่บอกว่ามันเป็นม้าแก่ มันก็คงจะใช่ แต่ม้าแก่ปกติจะไม่ค่อยมีพลังนัก เว้นแต่ว่า… จะโดนใช้ยากระตุ้น”
“เธอสงสัยว่ามันถูกวางยา?” ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้ว เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
มันไม่น่าบังเอิญขนาดนั้น ทุกครั้งมักจะเกิดปัญหากับซูฉิง
“ใช่” ซูฉิงพยักหน้า
เธอและฮ่อหยุนเฉิงเดินเข้าไปที่ม้าด้วยกัน ซูฉิงยกเปลือกตาของม้าขึ้นและมองดูมัน จากนั้นก็มองไปที่ลิ้นของมัน เธอรู้ได้ทันที
“อย่างที่คาดไว้เลยมันถูกคนวางยา” ซูฉิงบอกฮ่อหยุนเฉิงอย่างเย็นชา “ฉันเดาไม่ผิดจริงๆ”
“ดังนั้น คนที่วางยาคือ…” ฮ่อหยุนเฉิงครุ่นคิด
ซูฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย “น่าจะเป็นคนที่พยายามทำร้ายฉันมาหลายครั้ง!”
ในขณะนี้เฉินจุนเหยียนก็พาเจ้าของม้ามา
เจ้าของม้ารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงรีบอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “เรื่องนี้จะโทษผมไม่ได้นะ ผมกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้น ผมจึงให้พวกมันอดอาหารมาสองสามวันแล้ว แต่ผมไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ”
สีหน้าเขากลัวมาก กลัวว่าจะต้องรับผิดชอบ
เพราะวันนี้คนที่เกือบได้รับบาดเจ็บคือ ซูฉิง CEO ของสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เขารับผิดชอบไม่ไหวแน่ๆ
เฉินจุนเหยียนมองที่ซูฉิงอย่างแน่วแน่ และเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “ซูฉิงเธอว่ายังไง?”
“ช่างมันเถอะ เพราะยังไงฉันก็ไม่เป็นไรแล้ว บางทีมันอาจจะเป็นอุบัติเหตุก็ได้”
ซูฉิงนวดขมับตัวเอง และกล่าวว่า “จัดการม้าตัวนี้หน่อยนะ แล้วก็หาม้าตัวอื่นมาถ่ายต่อ…”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ จู่ๆ ก็มีแรงมหาศาลมาจับที่เอวของเธอพร้อมกับอุณหภูมิที่ร้อนแผดเผา
วินาทีถัดมา ก่อนที่ซูฉิงจะตอบสนองได้ เธอก็ถูกฮ่อหยุนเฉิงอุ้มขึ้นมา
“ฮ่อหยุนเฉิงนายจะทำอะไร?” ซูฉิงดิ้น
“ไม่ต้องถ่ายแล้ว!” ฮ่อหยุนเฉิงมองไปที่ผู้หญิงในอ้อมแขนของเขา และพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั่ง
ฮ่อหยุนเฉิงอุ้มซูฉิงออกไปภายใต้สายตาที่ประหลาดใจของทุกคน
ใบหน้าที่หล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิงนั้นตึงเครียดมาก และเขาอุ้มซูฉิงไปที่จุดพักผ่อนโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เขาวางซูฉิงลงบนเก้าอี้อย่างระมัดระวัง แล้วยื่นน้ำร้อนให้เธอ
“ไม่คิดเลยว่านายจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ลูกธนูนั่นไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน แต่นายกลับใช้มันยิงม้าตายได้” ซูฉิงถือถ้วยน้ำในมือของเธอและมองขึ้นไปที่ฮ่อหยุนเฉิง
เมื่อเธอนึกถึงฉากเมื่อกี้ที่เธอเกือบจะตกจากหลังม้า ซูฉิงก็ยังคงกลัวอยู่
ฮ่อหยุนเฉิงแค่นหัวเราะ และยกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย “เธอไม่ต้องถ่ายฉากนี้แล้ว”
ซูฉิงไม่ตอบเขา แต่มองไปรอบๆ ซึ่งมีแต่พนักงาน
เธอจึงถามว่า “นายขับรถมาใช่ไหม?”
“ใช่” สีหน้าของฮ่อหยุนเฉิงเย็นชา ริมฝีปากบางของเขาเม้มแน่น แสดงความไม่พอใจ
“งั้นก็ไปที่รถแล้วค่อยคุยกัน” หลังจากพูดจบ ซูฉิงก็ลุกขึ้น
ฮ่อหยุนเฉิงเดินก้าวขายาวนำซูฉิงไปทีี่รถของเขา
“ทำไมจู่นายถึงมาที่นี่ล่ะ?” ซูฉิงนั่งที่นั่งข้างคนขับ เอนหลังพิงเบาะนุ่มๆ ข้างหลังเธอ ใบหน้าของเธอแดงก่ำมาก
ดวงตาที่ลึกล้ำของฮ่อหยุนเฉิงจับจ้องไปที่เธออย่างแน่วแน่ และเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึก “ฉันเป็นห่วงเธอ”
ดูเหมือนว่าเขาจะเดาได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ
ซูฉิงถอนหายใจ “ที่จริงแล้วนายไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันก็พอเดาได้ว่าคราวนี้จะเกิดเรื่อง”
คราวที่แล้วเธอไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส คนที่อยู่เบื้องหลังจะต้องออกมาเล่นงานเธออีกแน่นอน
คราวนี้ฉากขี่ม้าในลานล่าสัตว์จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุด
“ฉันจึงจงใจแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลย เพื่อล่องูออกจากรู” ซูฉิงอธิบายด้วยรอยยิ้ม
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลังจากที่ฮ่อหยุนเฉิงได้ยินคำพูดของเธอ ใบหน้าของเขาก็เย็นชาขึ้น
เขายืดตัวขึ้นมาแล้วกดเธอไว้ใต้ตัวเขา ความโกรธสว่างวาบในดวงตาสีดำของเขา “งั้นเธอก็จงใจเอาตัวเข้าไปเสี่ยงใช่ไหม?”
“ฉัน…” เมื่อเห็นความบูดบึ้งในดวงตาของเขา ซูฉิงก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
“รู้ไหมว่าพอฉันมาถึงฉันก็เห็นฉากที่เธอกำลังจะตกลงจากหลังม้า! ตอนนั้นฉันกังวลแค่ไหน ฉันกังวลจริงๆ ว่าเธอจะเป็นอะไรไป!”
ฮ่อหยุนเฉิงกดเสียงของเขาให้ต่ำและเคร่งขรึม ไม่มีใครสามารถเข้าใจจิตใจของเขาว่าตอนนั้นเขารู้สึกกลัวแค่ไหน
เขากลัว กลัวว่าซูฉิงจะเป็นอะไรไป กลัวว่าเขาจะไม่ได้เจอเธออีก
เมื่อไม่เคยเห็นฮ่อหยุนเฉิงเป็นเช่นนี้มาก่อน ซูฉิงเม้มปาก “ฉันสัญญา จะไม่มีครั้งต่อไป…”
“ยังจะมีครั้งต่อไปอีกเหรอ? งั้นรายการนี้เธอก็ไม่ต้องถ่ายแล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องถ่ายแล้ว” ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้ว คำพูดของเขาเต็มไปด้วยการออกคำสั่งและเข้มงวด
“ไม่ได้!” ซูฉิงปฏิเสธ “ถ้าฉันเลิกถ่าย ฉันก็ไม่สามารถหาคนที่ต้องการทำร้ายฉันได้น่ะสิ เรื่องที่ฉันตัดสินใจไปแล้วฉันจะไม่เปลี่ยนแปลงหรอกนะ”
ซูฉิงเกลียดความรู้สึกการถูกควบคุม ฮ่อหยุนเฉิงไม่สามารถควบคุมเธอได้
“แต่ถ้าเธอยังถ่ายต่อ เธอจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บได้นะ ครั้งนี้เธออาจจะเดาได้ แต่ครั้งต่อไปล่ะ?” ฮ่อหยุนเฉิงยื่นมือออกไป จับแขนของเธอด้วยมือใหญ่ของเขา ดวงตาของเขาคมกริบและเย็นชา
“นั่นมันก็เรื่องของฉัน! นายไม่ต้องมายุ่ง!” ซูฉิงพูดอย่างโมโหเพราะความเจ็บปวดที่แขนของเธอ
จากเดิมที่ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงก็บูดบึ้งอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเธอใบหน้าเขาก็ยิ่งบูดบึ้งขึ้นไปอีก
ผู้หญิงคนนี้หมายความว่าอย่างไร?
ต้องการจะเลิกกับเขา? !
“เธอพูดว่าอะไรนะ?” เขามองเธอและกัดฟันแน่น “เธอพูดอีกครั้งซิ?”
ขณะที่ซูฉิงกำลังจะพูด เธอก็เห็นฮ่อหยุนเฉิงก้มศีรษะลงมาหาเธอ ริมฝีเรียวปากบางเซ็กซี่ของเขาก็เข้ามมาปิดปากของเธอทันที
“อื้อ~” เสียงของซูฉิงถูกปิดกั้นในลำคอของเธอทันที และเธอจึงไม่สามารถพูดอะไรได้
เธอรู้สึกเพียงว่าฮ่อหยุนเฉิงกำลังกดเธอไว้แน่นจนเธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย
จูบที่รุนแรงของฮ่อหยุนเฉิงมันบ้าคลั่งราวกับพายุเฮอริเคน เป็นการจูบที่ทำให้ซูฉิงแทบจะหายใจไม่ออก
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ฮ่อหยุนเฉิงเห็นว่าซูฉิงหายใจติดขัดเขาจึงปล่อยเธอ
“นายทำอะไรเนี่ย!” ซูฉิงมองฮ่อหยุนเฉิงอย่างว่างเปล่า และยกมือขึ้นไปเช็ดปากของเธอ
สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงเคร่งขรึมขึ้นมาอีก เขากลับไปที่ที่นั่งคนขับ เหยียบคันเร่ง และขับรถออกจากสถานที่ถ่ายทำไป
“นายปล่อยฉันลงไปนะ!” ซูฉิงต้องการเปิดประตู แต่เขาล็อคประตูแล้ว
ฮ่อหยุนเฉิงขับรถกลับไปที่เมืองใหม่สุ่ยเยว่
ทันทีที่รถหยุด ซูฉิงก็เปิดประตูลงจากรถทันที เธอเดินเข้าบ้านโดยไม่หันกลับมามอง และล็อคตัวเองอยู่ในห้อง
ซูฉิงหันหลังพิงประตู และได้ยินเสียงฝีเท้าของฮ่อหยุนเฉิงหยุดอยู่ที่หน้าประตู แต่เขากลับไม่ได้เคาะประตู
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที ซูฉิงก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินไกลออกไป และจากนั้นก็ได้ยินเสียงปิดประตู
หลังจากวุ่นวายกับฮ่อหยุนเฉิงมาทั้งวัน ซูฉิงรู้สึกเหนื่อยมาก จึงล้มตัวลงบนเตียง
ขณะที่เธอกำลังจะพักผ่อน โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
ซูฉิงหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาดู มันคือสายจากแอนโธนี่
“ฮัลโหล แอนโธนี่?” ซูฉิงรับสาย
เสียงของแอนโธนีดังมาจากปลายอีกด้านของโทรศัพท์ “พี่เอด้า เรื่องที่พี่ให้ผมสืบ ผมสืบมาได้แล้วนะ”