ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 138

ฮาร์วีย์เดินผ่านเซซิเลีย สายตาของเขาไม่ได้ทำให้เธอละความสนใจแม้แต่น้อย

“ฮาร์วีย์…ฮาร์วีย์ ยอร์คเหรอ?”

ในขณะนั้นเองฮาร์วีย์ก็สบตาเธอ ร่างบอบบางของเธอสั่นเล็กน้อย เธอค่อนข้างประหลาดใจที่เห็นเขาและรู้สึกอึดอัด เห็นได้ชัดว่าเธอไม่คาดคิดมาก่อนที่จะได้พบกับฮาร์วีย์ในโอกาสแบบนี้

“คุณนี่สุดยอดจริง ๆ ฮาร์วีย์” เซซิเลียรีบพูดโจมตีฮาร์วีย์ด้วยสายตาที่แสดงความเกลียดชัง “เป็นเรื่องดีที่ที่คุณไม่ได้กลับบ้านในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา แต่ต้องบอกว่าการเข้าไปในสถานที่แบบนี้ได้นั่นหมายถึงนายเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงคนหนึ่งเลี้ยงดูซึ่งใครบางคนนั้นคงจะประทับใจจริง ๆ การเรียกคุณว่าราชาแห่งแมงดายังน้อยไปด้วยซ้ำ!”

ฮาร์วีย์ตอบกลับเบา ๆ ว่า “คุณเคยพบกับอีวอนน์มาก่อน เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉัน แมนดี้ก็รู้”

“เพื่อนร่วมชั้นเรียนเหรอ?” เซซิเลียเอ๋ยเสียงเย็นเยือกออกมา “ถ้าคุณเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นจริง ๆ ทำไมคุณถึงนั่งเบาะผู้โดยสาร บอกฉันทีว่าคุณเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร ไม่มีทางที่เพื่อนร่วมชั้นจะส่งคำเชิญให้คุณหรอกใช่ไหม? คุณคิดบ้างไหมว่าสถานที่แห่งนี้เป็นแบบไหน ฮาร์วีย์? ไอ้ขยะไร้ค่า! คุณคิดว่าคุณสามารถมาที่นี่ได้แม้ว่าคุณจะมีเงินสำหรับ…”

อารมณ์ของฮาร์วีย์ปะทุขึ้นมาอีกคร้ัง เขาพูดว่า “นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับแมนดี้ ช่วยปิดปากหน่อยได้ไหม?!”

เมื่อเขาพูดจบเขาก็หันไปสนใจแมนดี้ซิมเมอร์

แมนดี้เดินมาหาเขาด้วยความรู้สึกค่อนข้างน่าละอายใจ

“ฮาร์วีย์อย่าเข้าใจผิด มิสเตอร์เซอร์เรย์เป็นเพื่อนร่วมงานของเซซิเลีย เขารู้จักผู้บริหารระดับสูงใน ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ฉันแค่ต้องการได้รับการแนะนำจากเขา … ”

เมื่อได้ยินแบบนั้น ฮาร์วีย์ก็พยักหน้าและพูดว่า “ผมเข้าใจแล้ว”

ฮาร์วีย์ไม่ใช่คนโง่ ไม่ว่าเขาไม่รู้ถึงเจตนาของเซซิเลียกับมิสเตอร์เซอร์เรย์ ความสัมพันธ์ของเขากับผู้บริหารระดับสูงนั้นก็ไม่มีอะไรนอกจากข้อแก้ตัว เขาเข้าใจเจตนาที่แท้จริงของเซซิเลียดี

“แมนดี้ คนนี้คือ…”

ด้วยความกังวล เจค เชอร์เรย์ ไม่สามารถกลั้นตัวเองได้อีกต่อไป แมนดี้เป็นผู้หญิงที่เขาเฝ้าเพ้อฝัน คนที่ดูเหมือนชาวไร่ชาวนาจะกล้าพูดกับเธอได้อย่างไร? นี่ไม่ใช่สิ่งที่เทพธิดานางฟ้าของเขาควรกระทำไม่ใช่หรือ?

แมนดี้ไม่แน่ใจว่าควรจะตอบอย่างไร ใบหน้าของเธอดูอึดอัด

ฮาร์วีย์ตอบกลับเจคแบบสบาย ๆ “ผมขอแนะนำตัวเอง ผมชื่อฮาร์วีย์ สามีของแมนดี้ คุณควรจะให้เกียรติบ้างไหม? ไม่ใช่ทุกคนที่จะเอ่ยชื่อภรรยาของผมย่างเฉยเมยได้”

เจคค่อนข้างตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเขาได้ยินคำแนะนำของฮาร์วีย์ เขาก็นิ่งแข็งเพียงเสี้ยววินาทีแล้วตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะ “โอ้พระเจ้า นี่เป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชนี้คคนนั้หรือนี่! ผมได้ยินมาว่าคุณไม่เพียงแต่อาศัยอยู่กับครอบครัวของภรรยา คุณยังกลายเป็นผู้ชายที่มีผู้หญิงคอยเลี้ยงดูรนเปรออีกด้วย?”

“แมนดี้บอกฉันเกี่ยวกับสถานการณ์ของคุณ แต่งงานกันมาสามปีเต็มแต่ไม่เคยได้ช่วยเหลืออะไรเลยในชีวิตแต่งงาน เงินร้อยดอลลาร์ในกระเป๋าไว้ใช้จ่ายทุกวัน ฮ่าฮ่าฮ่า นายล้อผมเล่นงั้นเหรอ!”

“ผมอยากรู้จริง ๆ ในฐานะผู้ชายคุณทำได้อย่างไรที่อยู่ในบ้านซิมเมอร์นานได้ขนาดนี้? ผมยังได้ยินมาว่าเพียงเพราะแมนดี้ดุด่าคุณแค่เล็กน้อยคุณเก็บกระเป๋าและออกไป? แม้แต่แม่ยายของคุณก็กดดันให้คุณหย่ากับแมนดี้ ผมพูดผิดหรือเปล่า?”

“บอกผมซิ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้คุณยังมีหน้ามาเรียกตัวเองว่าเป็นสามีของแมนดี้ได้อย่างไร คุณคิดว่าคุณสมควรได้รับมันจริง ๆ หรือ? ถ้าคุณถามผม ผมอยากจะบอกให้คุณไปส่องกระจกและดูสภาพที่น่าสมเพชของคุณ ถ้าผมเป็นคุณฉันผมคงฆ่าตัวตายไปแล้ว!”

เจคหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในขณะที่เขาจากไป การแสดงออกของเขาช่างแปลกไป ลูกเขยที่อาศัยอยู่ของตระกูลซิมเมอร์ช่างเป็นตัวตลกที่สุด เขาเป็นตัวตลกที่น่าขันที่สุดในนิอัมมี่! แต่งงานมาสามปีแล้ว แต่ยังไม่เคยได้สัมผัสภรรยาเลยสักครั้ง ขยะไร้ค่านี้เกินความคาดหมายจริง ๆ

ใบหน้าของแมนดี้หมองลง เธอกัดริมฝีปากพูดเบา ๆ ว่า “มิสเตอร์เซอร์เรย์ได้โปรดหยุดเถอะค่ะ…”

เมื่อฟังแมนดี้ เจคจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาเป็นมิตรและพูดว่า “เพื่อของแมนดี้ฉันจะไม่เอะอะเสียงดังเรื่องนี้ ตอนนี้รีบไปซะเถอะ! ที่นี้ไม่เหมาะกับคุณ”

เจคเรียกพนักงานเสิร์ฟและพูดว่า “บริกรมีข้อตกลงอะไรกับชายคนนี้หรือเปล่า? ผมคิดว่าการประมูลนี้อนุญาตให้เฉพาะผู้ได้รับเชิญเข้ามาเท่านั้น? เป็นไปได้อย่างไรที่คนนอกก็สามารถเข้ามาได้?”

“นี่…” พนักงานเสิร์ฟลังเล แต่ก็ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว “มิสเตอร์เซอร์เรย์ ผมจะไปตรวจสอบยืนยันเดี๋ยวนี้ ถ้าเขาแอบเข้ามาที่นี่จริง ๆ ผมจะให้เจ้าหน้าที่พาเขาออกไป”

“ผมต้องขอโทษด้วย” เจคหันไปหาฮาร์วีย์ซ่อนรอยยิ้มชั่วร้ายของเขา “ผมคิดว่าจะเชิญคุณเข้าร่วมการประมูล แต่อนิจจาผมไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะทำแบบนั้นได้ แม้ว่าผมจะทำได้ นั่นไม่ใช่ประเด็น? คุณไม่สามารถจ่ายอะไรทีนี่อยู่ดี ฮ่าฮ่าฮ่า…!”

ในระหว่างการสนทนา ชายคนหนึ่งในชุดสูทสีม่วงเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่และดูไม่สบายใจ ตาของเขาเบิกกว้างขึ้นทันทีที่เห็นแมนดี้และเขาทักทายเธอ “แมนดี้ช่างบังเอิญจริง ๆ ”