ตอนที่ 621 ยิ่งเจอก็ยิ่งชอบ / ตอนที่ 622 ระหว่างฟังจือหันกับเจี๋ยนเหยี่ยใครดีกว่ากัน?

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 621 ยิ่งเจอก็ยิ่งชอบ

 

 

หาเจี๋ยนเหยี่ยเจอจากการค้นหาคนใกล้ๆ ถือเป็นการกระทำที่สุดโต่งไหม

 

 

รู้ว่าวันนี้เขาจะมาทานข้าวเที่ยงที่นี่ จงใจนัดเพื่อนให้มาที่นี่เพียงเพื่อแค่อยากเจอเขาถือว่าสุดโต่งไปไหม

 

 

อวี๋กานานครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยขึ้น “เมื่อก่อนมีผู้หญิงคนหนึ่งตามตื๊อลู่เสวี่ยเฉิน หล่อนไม่เพียงลู่เสวี่ยเฉินไปยังโอกาสต่างๆ เท่านั้น เธอยังขโมยกางเกงในของลู่เสวี่ยเฉินด้วย”

 

 

ซ่งฉาไป๋เบิกตาโตด้วยความตะลึงจนเกือบจะสำลักน้ำซุปที่กำลังตักเข้าปาก

 

 

เธอหยิบทิชชู่มาเช็ดปากแล้วเอ่ยอย่างตกใจ “นี่มันโรคจิตเกินไปแล้ว ไหนยังจะขโมยกางเกงในอีก งั้นลู่เสวี่ยเฉินรู้เข้าคงตกใจกลัวแย่ นี่มันโรคจิตวิปริตชัดๆ แล้วตอนนี้ล่ะ ผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้าง”

 

 

อวี๋กานกานตอบอย่างไม่แน่ใจ “น่าจะไม่มีแล้วมั้ง เพราะลู่เสวี่ยเฉินแต่งงานกับหลินจยาอวี่แล้ว สำหรับว่าหล่อนยอมแพ้โดยเด็ดขาด ไม่ว่าหล่อนจะเข้าไปยุ่งกับลู่เสวี่ยเฉินเป็นการส่วนตัวหรือทำอะไรบ้าๆ กับลู่เสวี่ยเฉินอันนี้ฉันก็ไม่รู้แล้วล่ะ”

 

 

เธอถอนหายใจและพูดเสียงเข้ม “ฉันไม่อยากให้ฉันกลายเป็นแบบนั้น”

 

 

ซ่งฉาไป๋หัวเราะ “เธอสบายใจได้ ฉันไม่ได้โรคจิต ฉันแค่ชอบแบบบริสุทธิ์ใจ วันนี้มาก็แค่อยากมองเขาไกลๆ เท่านั้นก็เหมือนติ่งที่ตามศิลปินที่ได้แต่มองไอดอลอยู่ไกลๆ ผู้ชายก็เหมือนกันฉันไม่ได้ต้องการพัฒนาความสัมพันธ์อะไรกับเขา ฉันก็อยากพยายามให้ระยะห่างระหว่างสองคนขยับเข้ามาใกล้อีกหน่อย ด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ในอนาคต อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียใจ”

 

 

อวี๋กานกานยกมือขึ้นเท้าคาง “แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าเขาจะมากินข้างที่นี่”

 

 

ซ่งฉาไป๋กระแอมไอเบาๆ

 

 

ซ่งฉาไป๋บอกเรื่องวันนั้นมานอนบ้านอวี๋กานกาน ด้วนความที่เบื่อๆ ก็เลยหาวีแชทเจี๋ยนเหยี่ยเจอจากฟังก์ชันค้นหาคนใกล้ๆ เมื่อได้ยินดังนั้นอวี๋กานกานก็ตกตะลึง “แบบนี้ก็ได้เหรอ”

 

 

ซ่งฉาไป๋ถามอย่างระแวดระวัง “ฉันนี่ไม่นับว่าเป็นโรคจิตหรอกมั้ง”

 

 

อวี๋กานกานส่ายหน้า “ไม่นับ”

 

 

ซ่งฉาไป๋ถอนหายใจ “พอแอดวีแชทแล้วเขาก็ไม่ได้ลบฉันนะ ช่วงนี้ว่างๆ ก็เลยส่งข้อความหาเขา…เขาว่าวก็ตอบฉันนะ”

 

 

“แล้วเขาถามว่าเธอคือใครแล้วรึยัง”

 

 

“ไม่เคยถามสักคำว่าฉันเป็นใคร ถึงยังไงก็คุยกันเรื่อยเปื่อย ข้อความที่ฉันส่งไปมีแต่คุณสบายดีไหม คุณกินข้าวหรือยังคะ ทหารวันๆ ทำอะไรบ้าง อยู่ในกองทัพสนุกไหมประมาณนี้…เขายุ่งมากเลยน่ะ บางครั้งก็ตอบฉันทันที บางครั้งก็หายไปนานกว่าจะตอบฉัน แต่ก็ตอบหมด ดังนั้นพวกเราก็ค่อยๆ เปลี่ยนจากคุยเก้อๆ เขินๆ จนกลายเป็นเพื่อนไปแล้วน่ะ”

 

 

อวี๋กานกานต้องชื่นชมและยกนิ้วให้ซ่งฉาไป๋ “เธอเลิศมาก ฉันมีเพื่อนตั้งหลายคน ฉันไม่คารวะใคร ฉันขอคารวะเธอคนเดียวเลย”

 

 

ซ่งฉาไป๋ยิ้มเก้อแล้วพูดต่ออย่างเขินอาย “วันนี้เช้าฉันคุยกับเขาคำสองคำ วันนี้เขาตอบเร็วมาก หลังจากนั้นฉันก็เลยรู้ว่าวันนี้เขาได้พัก แล้วตอนเที่ยงนัดเพื่อนมากินข้าวที่อวี้โหลว ฉันเคยหาข้อมูลอวี้โหลวเลยพบว่าที่ปักกิ่งมีแค่อวี้โหลวที่นี่ที่เดียวก็เลยเรียกเธอมานี่ไง ฉันไม่ได้มีความหมายอื่นแฝง อยากมาเห็นเขาแค่นี้จริงๆ ตอนแรกฉันคิดว่าบางทีมาเจอครั้งที่สองอาจจะไม่ชอบเขาแล้วก็ได้ แต่ดัน…”

 

 

“ชอบเขามากกว่าเดิม” อวี๋กานกานพูดเสริมประโยคให้

 

 

“อืมๆๆ” ซ่งฉาไป๋พยักหน้าหงึกหงัก

 

 

“งั้นเธอชอบเขามากจริงๆ เลยอยากไขว่คว้าหาความสุขของตัวเองใช่ไหม หรือเหมือนติ่งตอนเห็นไอดอลที่ตัวเองชอบ” อวี๋กานกานถามอย่างเคร่งเครียดและจริงจัง

 

 

ซ่งฉาไป๋คนนี้มีความเข้มแข็งและแน่วแน่ในความรู้สึกมาโดยตลอด

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 622 ระหว่างฟังจือหันกับเจี๋ยนเหยี่ยใครดีกว่ากัน?

 

 

ซ่งฉาไป๋คนนี้มีความเข้มแข็งและแน่วแน่ในความรู้สึกมาโดยตลอด

 

 

แต่จะทำอย่างไรให้สถานการณ์ผ่านไป ถ้าสมมติมีแฟนแล้วจะทำยังไง หรือจะบอกว่าเธอแค่ล้อเล่นล่ะ

 

 

ซ่งฉาไป๋พยักหน้าอีกครั้งอย่างแรง “นั่นเป็นเรื่องธรรมดา ฉันระมัดระวังมาก”

 

 

อวี๋กานกานยิ้มขำ “งั้นฉันจะบอกข่าวดีกับเธอ ที่จริงฉันรู้จักเจี่ยนเหยี่ย ลองไปทักทายดูก็ไม่เสียหาย”

 

 

ซ่งฉาไป๋มองอวี๋กานกานอย่างอึ่งๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยอยากเชื่ออวี๋กานกานเพียงแค่อยากแกล้งเธอเล่นเท่านั้น

 

 

อวี๋กานกานได้แต่อธิบายให้ชัดเจน “ก่อนหน้านี้เธอก็รู้ว่าน้องสาวของเจี๋ยนเหยี่ยรถชน หลังจากรถชนดวงตาของเธอพร่ามัวมองไม่ชัด แล้วฉันเป็นคนไปรักษาเธอที่บ้านเจี๋ยนเหยี่ย”

 

 

ซ่งฉาไป๋อึ้งอ้าปากค้างเขย่าตัวบนเก้าอี้ด้วยความดีใจ “อวี๋กานกาน ทำไมไม่บอกฉันตั้งแต่แรก ฉันจะได้ไปด้วยในฐานะผู้ช่วยของเธอไง ไม่แน่ฉันอาจจะคบกับเขาตั้งนานแล้วก็ได้”

 

 

“ตอนนั้นเธอกลับไป๋หยางไปแล้ว” อีกทั้งตอนนั้นเธอคิดว่าซ่งฉาไป๋ล้อเล่นจริงๆ จะไปรู้ทีไหนว่าเธอจะจีบเจี๋ยนเหยี่ยจริงๆ เล่า

 

 

“งั้นเธอพาฉันเข้าไปทักทายเข้าเดี๋ยวนี้เลยป่ะ” ซ่งฉาไป๋จับแขนอวี๋กานกานแน่น ดวงตาเป็นประกาย

 

 

อวี๋กานกานถามอย่างสงสัย “แต่เธอชอบเขาที่ตรงไหน เธอไม่ได้รู้จักมักจี่กับเขา ไม่รู้นิสัยของเขาแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาเป็นผู้ชายที่รับผิดชอบหรือเปล่า เธอดูจากรูปลักษณ์ภายนอกเหรอ แต่ฉันคิดว่าเขาหล่อไม่เท่าฟางจือจือหันแล้วก็ไม่ได้เท่เท่าฟังจือหันด้วย เธอชอบเขาไปได้ยังไง”

 

 

ซ่งฉาไป๋กลับไม่เห็นด้วย “เจี่ยนเหยี่ยแย่กว่าฟังจือหันตรงไหน เห็นชัดๆ ว่าหล่อกว่าฟังจือหันเท่กว่าฟังจือหัน แม้ฉันจะไม่รู้จักเขาแต่ฉันเชื่อสายตาตัวเอง เขาไม่ใช่ผู้ชายเลวๆ เด็ดขาด แล้วเธอล่ะ เธอมองฟังจือหันด้วยความรักบังตา ที่จริงต่างกับเจี๋ยนเหยี่ยของฉันราวฟ้ากับเหว”

 

 

อวี๋กานกานมีสีหน้าเรียบนิ่งและเย็นเยียบ “เธอสิที่ความรักบังตา เจี๋ยนเหยี่ยธรรมดามากๆ เทียบฟังจือหันไม่ได้เลยสักนิดอีกอย่างเธอยังสายตาเสียด้วย”

 

 

ซ่งฉาไป๋ไม่ยอมแล้วยืนหยัดตอกกลับไป “ไม่ใช่ เจี๋ยนเหยี่ยดีกว่าฟังจือหัน”

 

 

อวี๋กานกานรุนแรงกว่าเธอหลายเท่า “ฟังจือหันดีที่สุดไม่มีข้อแม้!”

 

 

เมื่อเห็นริมฝีปากซ่งฉาไป๋กำลังขยับจะพูดบางอย่าง เธอจึงยกมือห้ามแล้วข่มขู่ “ซ่งฉาไป๋ เธอยังอยากให้ฉันพาเข้าไปทักทายเขาอยู่ไหม อย่านะ หึหึ”

 

 

ซ่งฉาไป๋กลืนคำพูดที่กำลังจะออกปากทั้งหมดลงไป

 

 

เธอหัวเราะแหะๆ แล้วห่อไหล่อ่อนลงจากนั้นจึงพูดเสียงเรียบ “เสี่ยวอวี๋กานกาน เธอทำแบบนี้กับฉันได้ไง ฉันนับว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของฉันนะ”

 

 

จากนั้นออดอ้อนแกว่งแขนอวี๋กานกาน แล้วเอ่ยอย่างออดอ้อน “กานกาน”

 

 

สองคำนี้ทำเอาอวี๋กานกานรู้สึกขนลุก เธอทนไม่ไหวเลยเอ่ยขึ้น “พอแล้วๆ เดี๋ยวถ้าเจี๋ยนเหยี่ยออกมาฉันจะพาเธอไปเจอเขาเอง โอเคไหม”

 

 

“ฉันรู้ว่ากานกานดีกับฉันที่สุด” ซ่งฉาไป๋ตื่นเต้นจนเกือบวิ่งเข้าไปกอดอวี๋กานกานแล้วร้องไห้

 

 

อวี๋กานกานยิ้มเหนื่อยหน่ายใจแล้วเอานิ้วจิ้มหน้าผากไปทีหนึ่ง “ระหว่างฟังจือหันกับเจี๋ยนเหยี่ยใครดีกว่ากัน”

 

 

ซ่งฉาไป๋รีบตอบแทบไม่คิด “แน่นอนว่าต้องเป็นฟังจือหันของเธอที่ดีที่สุด ส่วนเจี๋ยนเหยี่ยก็ดีในสายตาคนรักของฉัน”

 

 

อวี๋กานกานพยักหน้าพอใจ “นี่ค่อยยังชั่วหน่อย”