บทที่ 145 โลงศพเปื้อนเลือดปรากฏในพิภพ หริภุบลปฐมกาลเปื้อนเลือด!
รถศึกโบราณที่เปี่ยมไปด้วยร่องรอยของอาวุธต่างๆ ซึ่งถูกทิ้งไว้ตั้งแต่สงคราม ยุคดึกดําบรรพ์ มีกระแสพลังเซียนไหลเวียนอยู่ในนั้น
“หลังจากผ่านไปหลายร้อยหลายพันปี ในที่สุดข้าก็กลับมาอีกครั้ง”
สิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับเทพปีศาจนี้เปล่งเสียงออกมา มีความรู้สึกนึกถึงวันวานในน้ําเสียงที่ไม่แยแสของเขา
“คนของข้าถูกเจ้าสังหารทั้งหมดเลยงั้นรึ? เจ้าสมควรตายลงต่อหน้าจักรพรรดิผู้นี้”
เทพปีศาจบนรถศึกเอ่ยปาก พลังยุทธ์ระดับสุดยอดแผ่ซ่านออกมา สั่น สะเทือนไปทั่วทั้งสิบทิศ
เขาดูไม่ต่างจากจอมยุทธ์ระดับสุดยอด ราวกับการฟื้นคืนของจอมจักรพรรดิ โบราณ น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงขีดสุด
ทวนวงเดือนทมิฬที่ถูกถือมันไว้ในมือของเขา เต็มไปด้วยกระแสพลังอัน โกลาหล และมีลายสลักมังกรดําปรากฏออกมา
มันคือยุทธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์สุดยอดที่สร้างจากทองดําลายมังกร
“ทวนวงเดือนนี้… เหมือนว่าข้าเคยเห็นในหนังสือโบราณ”
ในภาคกลาง จักรพรรดิสูงสุดโบราณเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนอ้าปากขึ้น น้ําเสียง
ของเขาแสดงถึงความประหลาดใจเล็กน้อย
“เมื่อสี่แสนปีก่อน ยุคสมัยของจอมจักรพรรดิหยวน
ในตอนนั้นมีวิญญาณบริสุทธิ์ระดับสุดยอดที่เกิดจากทองดําลายมังกร พร้อมด้วยทวนวงเดือน ปรากฏตัวและต้องการจะพิสูจน์ตนเป็นจอมยุทธ์ระดับสุดยอด
แต่จอมจักรพรรดิหยวนได้พิสูจน์ตนเป็นจอมยุทธ์ระดับสุดยอดก่อนหน้าวิญญาณบริสุทธิ์ระดับสุดยอด และตัดเส้นทางระดับสุดยอดของสิ่งมีชีวิตระดับสุดยอดนั้น
ต่อมา เมื่อจอมจักรพรรดิหยวนได้ปกครองพิภพ วิญญาณบริสุทธิ์ระดับสุดยอด ก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย”
วิญญาณบริสุทธิ์แห่งวิถีระดับสุดยอดได้ถือกําเนิดขึ้นจากวัตถุดิบเซียนระดับสุดยอด
มันได้รับพรจากสรวงสวรรค์และเป็นที่รักของทวยเทพ หลังจากผ่านมาเนิ่น นาน วันหนึ่งมันก็ได้ถือกําเนิดเกิดจากรกพสุธา กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แท้จริง และ ปรากฏสู่พิภพเพื่อจะบรรลุพลังยุทธ์ระดับสุดยอด
น่าเสียดายที่วิญญาณบริสุทธิ์ในอดีตได้กําเนิดขึ้นในเวลาอันไม่เหมาะสม จอมจักรพรรดิหมื่นเซียนในอดีตได้พิสูจน์เต๋าก่อนเขาและทําลายเส้นทางสู่ระดับสุดยอด
เป็นไปได้ไหมที่ว่าสิ่งมีชีวิตโบราณตรงหน้า คือวิญญาณบริสุทธิ์ระดับสุดยอดเมื่อสี่แสนปีก่อน?
มันรู้ดีว่าหนทางนั้นสิ้นหวัง ดังนั้นจึงยังอยู่ในรกพสุธาต่อไป จนตอนนี้ถึง กําเนิดขึ้นเพื่อบรรลุยุทธ์ระดับสุดยอดในโลกนี้!
มันน่าจะเป็นเช่นนั้น!
“วิญญาณบริสุทธิ์ออกจากรกพสุธา กําเนิดมาจากทองคําาเซียน แม้จะยังไม่ได้พิสูจน์เต๋าแต่ก็ใกล้เคียง
ร่างของสิ่งมีชีวิตนั้นเป็นทองคําเซียนที่แข็งที่สุดในพิภพ ซึ่งไม่ต่างจากร่าง
ของจอมจักรพรรดิ
สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเช่นนี้ นอกจากจอมจักรพรรดิที่แท้จริงแล้วก็ไม่มีใครหยุดเขาได้!”
เหมือนว่าเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนนั้นยังพอจะมีโชคอยู่บ้าง
โชคดีที่วิญญาณศักดิ์สิทธิ์นี้มีตั้งเป้าไปที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ ถ้าไม่เช่นนั้น เกรงว่าพวกเขาก็คงจะปวดหัวเช่นเดียวกัน
ตัวตนเช่นนี้ แม้แต่ผู้สืบทอดราชวงศ์ก็ยากจะต้านทาน และถ้าหากเขาได้ก้าว ต่อไปจนสุดทางและได้รับพลังยุทธ์ระดับสุดยอด ก็จะครองตําแหน่งสูงสุดและปกครองทั่วสวรรค์!
จักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด แม้ว่าข้าจะไม่รู้ที่มาของวิญญาณบริสุทธิ์ผู้มี พลังยุทธ์ระดับสุดยอดนี้ แต่ก็สัมผัสได้ถึงพลังที่แท้จริงของอีกฝ่าย
“เจ้าสามารถเชิญจอมจักรพรรดิอู่จื่อมาได้รึไม่?”
จักรพรรดินีชี่หยางถามจักรพรรดิดํา
“จอมจักรพรรดิอู๋จื่อมิได้อยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์อู๋จื่อ ข้าเองก็กําลังหาร่องรอย
ของจอมจักรพรรดิเช่นกัน”
จักรพรรดิดําพูดด้วยสีหน้ามืดมน
“แล้วที่เจ้าบอกว่าเจ้ามาด้วยเจตจํานงของจอมจักรพรรดิอู๋จื่อ….”
จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ต้าเซี่ยสงสัย
“โฮ่ง! จอมจักรพรรดิยังมีชีวิตอยู่ กําราบและกวาดล้างทั่วจักรวาล สิ่งมีชีวิต ใดๆที่กล้านําความหายนะมาสู่พิภพจะต้องถูกสยบ
สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนเหล่านี้ต้องการล้างพิภพด้วยเลือด ข้าก็มาที่นี่และสังหารพวกเขาด้วยโองการของจอมจักรพรรดิ ไม่ได้งั้นรึ?”
จักรพรรดิด่ากล่าว
“มัน… มันจะได้อย่างไร”
เหล่าจักรพรรดิวิตกกังวล
สถานการณ์ตรงหน้านี้ เกรงว่าหากจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญไม่แสดงตน ก็ ไม่มีใครหยุดวิญญาณบริสุทธิ์นี้ได้!
แม้แต่จักรพรรดิดําก็ยังเป็นกังวล
สิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้านั้นช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก เขาดูเหมือนจอมยุทธ์ระดับสุดยอดตัวจริงที่ไม่มีใครต้านทานได้
แต่ทว่า ในขณะที่เหล่าจักรพรรดิทําอะไรไม่ถูกในสถานการณ์วิกฤตินี้ ก็ได้มี พลังอันยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานลุกโชนขึ้นจากที่ไหนสักแห่งในดินแดนภาคกลาง!
มันคือกระแสพลังของจอมยุทธ์ระดับสุดยอดที่แท้จริง
ตูม!
เสียงอันน่าสะพรึงกลัวดังก้องไปทั่วดินแดนภาคแกลง เพลิงสีแดงก็พวยพุ่ง ขึ้นไปบนฟากฟ้า แผดเผาสรวงสวรรค์ให้เป็นสีแดง!
นอกจากนี้ยังมีเสียงกรีดร้องของต้วนหยุนเชิงดังมาพร้อมกับเสียงอันดังสนั่นนั้น
“เชี่ยเทพยดาฟ้าดิน! นักพรตผู้นี้เจ็บจะตายอยู่แล้ว!”
ในตอนนี้ เสื้อคลุมที่ต้วนหยุนเชิงสวมอยู่ถูกเผาจนเป็นรูขนาดใหญ่หลายรู ทั้ง ตัวเขาเป็นสีดําสนิท แต่ในดวงตาของเขาไม่อาจซ่อนความตื่นเต้นและความกังวลใจไว้ได้เลย
“ขุดพบแล้ว! ซากอารยะธรรมที่มีพลังยุทธ์ระดับสุดยอดอยู่ แต่ข้าก็ไม่รู้ว่า อะไรถูกฝังไว้ที่นี่!”
แผ่นดินสั่นสะเทือน ควันและฝุ่นละอองลอยขึ้นไปในอากาศ หินหนืดไหลออก มาจากพื้นดินอย่างต่อเนื่อง เปลวเพลิงอันโชติช่วงที่ทําให้มิติบิดเบี้ยว
ที่น่าอัศจรรย์กว่านั้นก็คือ ในหินหนืดนั้นมีรุ้งพาดขึ้นสู่ท้องฟ้า เจิดจรัสและส่อง ไสวไปทั่วสวรรค์
ต้นกําเนิดของรุ้งศักดิ์สิทธิ์นี้มาจากโลงศพโบราณ!
หินหนืดเดือดปะทุ และโลงศพโบราณก็ลอยอยู่ตรงนั้น
โลงศพโบราณนั้น ไม่รู้ว่าสร้างมาจากวัตถุดิบอะไร มันวางอยู่อย่างนิ่งเงียบในหินหนืดอันไร้ที่สุดท่ามกลางหมอกควันอันโกลาหล
สิ่งที่น่าตื่นใจยิ่งกว่านั้นคือ โลงศพโบราณเต็มไปด้วยคราบเลือดซึ่งน่าตกตะลึงยิ่งนัก
ทั้งโลงศพโบราณเกือบถูกย้อมเป็นสีแดงสด แปลกประหลาดและน่าสะพรึงกลัว
เลือดที่จารึกไว้บนโลงศพโบราณเหล่านั้น ทั้งหมดมีกระแสพลังระดับสุดยอด
ไหลเวียนอยู่ และกระแสพลังที่ปล่อยออกมาแต่ละส่วนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้น เชิง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้จากคนคนเดียวกัน
แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ เลือดทั้งหมดมาจากสิ่งมีชีวิตระดับสุดยอดที่แท้จริง
แม้จะถูกแบ่งแยกด้วยกาลเวลา แต่เลือดเหล่านี้ยังคงส่องประกาย และยังมี
กระแสพลังที่กดดันท้องฟ้าไหลเวียนอยู่!
“ชั่วร้ายยิ่งนัก มันคือโลงเลือดศพเปื้อนเลือด!”
ตัวนหยุนเชิงประหลาดใจ
โลงศพนี้ช่างประหลาดและพิเศษยิ่งนัก เต็มไปด้วยเลือดของตัวตนที่เกินกว่าจะจิตนาการได้
โลงศพคืออะไรกันแน่? มันสามารถกําราบเซียนที่เพิ่งบังเกิดได้จริงรึ?
หรือ มันจะนํามาซึ่งปัญหาที่ใหญ่ยิ่งกว่า?
“ข้าไม่อาจทนได้อีกต่อไปแล้ว!”
ตัวนหยุนเชิงกัดฟัน วินาทีต่อมาเขาก็พร้อมที่จะพุ่งเข้าหาโลงศพโบราณ
หมายที่จะเคลื่อนโลงศพเปื้อนเลือดไปยังทิศทางที่เรือรบโบราณมา
แต่ในเวลาต่อมา โลงศพเปื้อนเลือดนี้ดูเหมือนจะมีจิตวิญญาณ มันเริ่มสั่น และกระโจนขึ้นจากหินหนืดแล้วจากไป!
และก่อนที่โลงศพจะบินจากไป ต้วนหยุนเชิงดูเหมือนจะมองเห็นบางอย่าง
บนส่วนหัวของโลงศพโบราณนี้ถูกแกะสลักเป็นหริภุบลปฐมกาล* อที่เปื้อน
เลือดย่างสมจริง!
(ât, Creation Qinglian, Chaos Qinglian, หริภุบลปฐมกาล, บัว เขียวโกลาหล ตํานานโบราณไม่ทราบที่มากล่าวว่า ในยุคที่ยังไม่มีสรรพสิ่ง ทุก อย่างตกอยู่ในความโกลาหล ฟ้าดินอยู่ร่วมกัน ได้มีดอกบัวสีเขียวก่อตัวขึ้น มี 22 ใบ 24 กลีบดอก 5 เมล็ด เป็นหนึ่งในอาวุธของผางกู่)