“เสด็จอาสะใภ้ ท่านช่างเป็นคนดียิ่งนัก” องค์หญิงตังตังยิ้มอย่างไร้เดียงสา และรินน้ำชาให้นางด้วยตนเอง

“เสด็จอาสะใภ้ ตังตังขอดื่มชาแทนเหล้าเพื่อเป็นการขอโทษ”

แววตาอันเยือกเย็นของเยี่ยจิ่งหาน มีไอสังหารปรากฏขึ้นมาแวบหนึ่ง

คนที่คุ้นเคยกับเขาต่างรู้ดีว่าหากใส่อะไรลงไปในชาถ้วยนี้ วันนี้จะเป็นวันตายของตังตัง เพราะเขาเป็นคนที่โหดเหี้ยม

ไม่รู้ว่าเจี้ยงเสวี่ยมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาไปข้าง ๆ เยี่นจิ่งหานและกระซิบ “นายท่าน ในชาขององค์หญิงตังตังไม่มีพิษพ่ะย่ะค่ะ”

ไม่มีพิษ?

เช่นนั้นนางรินน้ำชาให้กู้ชูหน่วนทำไมกัน?

“พระชายาของข้ารับรู้เจตนาอันดีขององค์หญิงตังตังแล้ว วันนี้เป็นคืนแรกของการเข้าห้องหอ ข้าไม่อยู่เป็นเพื่อนแล้ว”

กู้ชูหน่วนใจกว้างและแก้ไขให้ถูกต้อง “ท่านอ๋อง องค์หญิงตังตังทรงจริงใจ เราจะปฏิเสธนางได้อย่างไร จะเป็นการทำร้ายจิตใจนางนะเพคะ?”

เยี่ยจิ่งหานขมวดคิ้ว

พระชายาของเขาจะเล่นสนุกอะไรอีก?

“องค์หญิงตังตังทรงเรียกเสด็จอาสะใภ้ทุกคำ ข้าได้ยินแล้วก็อารมณ์ดี ต่อไปก็ขอให้เป็นเช่นนี้” ในขณะที่พูดกู้ชูหน่วนก็รับน้ำชาที่นางยื่นให้ด้วยแววตาที่ใคร่ครวญ

องค์หญิงตังตังกัดฟันด้วยความเกลียดชัง

กู้ชูหน่วนฉวยโอกาสนี้ข่มนาง

แม้ว่าจะไม่สบอารมณ์ แต่นางก็ยังยิ้มอย่างพอใจ “ย่อมต้องเป็นเช่นนั้นเพคะ”

หลังจากดื่มชาแล้ว กู้ชูหน่วนก็ไม่มีท่าทีใด ๆ และกล่าวว่า “ชาดี อร่อยมาก องค์หญิงรินให้ข้าอีกสักถ้วยสิ”

หลายคนตรงนั้นต่างอึดอัดใจ

องค์หญิงตังตังกับพระชายาหานเป็นศัตรูอาฆาตกันไม่ใช่หรือ?

ทำไมนางถึงไม่ใส่ยาพิษในน้ำชา?

การใส่ยาพิษลงในน้ำชานับว่าเป็นเป็นโอกาสที่ดี

ในขณะที่ทุกคนกำลังสงสัย องค์หญิงตังตังรับถ้วยน้ำชาจากกู้ชูหน่วน และรีบเอามืออีกข้างไปดึงผ้าคลุมหน้าของกู้ชูหน่วนออกอย่างรวดเร็ว

แต่ในขณะที่องค์หญิงตังตังยื่นมื่อออกไป ร่างกายของเยี่ยจิ่งหานก็ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง เขายกมือขึ้นและต้องการจะลงมือกับเจ้าหญิงองค์หญิงตังตัง กู้ชูหน่วนจ้องมองไปที่เขาอย่างดุร้าย เพื่อบอกใบ้เขาว่าอย่าบุ่มบ่าม

ในน้ำชาไม่มีพิษ ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำให้นางขายหน้าต่อหน้าสาธารณชน และเผยให้เห็นใบหน้าที่น่าเกลียดและเต็มไปด้วยหนองของนาง

กู้ชูหน่วนไม่ได้ขัดขวาง และปล่อยให้นางดึงผ้าคลุมหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าอันงดงามที่ไม่มีใครเทียบได้ และมองดูสีหน้าขององค์หญิงตังตังอย่างเมินเฉย

องค์หญิงตังตังเต็มไปด้วยความรู้สึกสะใจ

นางคิดว่าเพียงแค่ดึงผ้าคลุมของกู้ชูหน่วนออก ก็จะสามารถทำลายชื่อเสียงของนางได้ และทำให้นางไม่กล้าที่จะกำแหงอีกต่อไป

ผู้คนตรงนั้นต่างตกตะลึง และมองไปที่กู้ชูหน่วนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แม้แต่เยี่ยจิ่งหานก็ตกตะลึงเช่นกัน นัยน์ตาอันเยือกเย็นจ้องมองไปที่กู้ชูหน่วน

องค์หญิงตังตังมองดูท่าทีพวกเขาด้วยความพึงพอใจ และคิดว่าพวกเขาตกใจกลัวกู้ชูหน่วน

เมื่อนางหันไปมองใบหน้าอันอัปลักษณ์ของกู้ชูหน่วน นางก็ตกตะลึงในทันที

นี่ นี่ นี่……

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ใบหน้าของกู้ชูหน่วนเต็มไปด้วยหนองและรอยแผลเป็นไม่ใช่หรือ?หญิงที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้เป็นใคร?

หญิงผู้นี้หน้าตางดงามมากเสียจนหาที่ติไม่ได้

รูปร่างของนางผอมบาง ผิวพรรณขาวผ่องราวหิมะ ริมฝีปากแดงธรรมชาติ นัยน์ตาทั้งคู่ฉลาดปราดเปรื่อง ฉายแววเป็นประกายระยิบระยับ สุภาพอ่อนโยน ทำให้ผู้อื่นน้อยเนื้อต่ำใจ และไม่กล้าดูหมิ่น เพียงแค่มองแวบแรกก็ยากที่จะลืมเลือน

นี่คือความงามอันน่าทึ่ง รอยยิ้มและท่าทางของนาง เหมือนเทพธิดาในภาพวาด งดงามเสียจนทำให้คนใจเต้นระรัว ไม่มีที่ใดที่หญิงอัปลักษณ์ผู้นั้นจะเทียบได้เลย