บทที่ 192 ชื่อเสียงดังก้องทั่วใต้หล้า (2)

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

บทที่ 192 ชื่อเสียงดังก้องทั่วใต้หล้า (2)

 

เผชิญหน้ากับการชักชวนของหนานหรงชินหวาง หลัวซิวไม่ได้ปฏิเสธและไม่ได้ตอบตกลง

“แก๊งไม่มีการคุ้มครองสมาชิกอัจฉริยะ ปัจจุบันเจ้ามีชื่อเสียงโด่งดัง ได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของผู้คน สามารถใช้โอกาสนี้เข้าร่วมกับกองกำลัง มันเท่ากับว่าเจ้ามีที่พึ่งพิงอยู่เบื้องหลัง” หัวหน้าแก๊งเสิ่นหยวนหนานพูด

สำหรับเรื่องนี้ เป็นเรื่องจริงที่หลัวซิวก็รู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย เหตุผลที่เขาไม่อยากเข้าร่วมกับกองกำลัง ด้านหนึ่งครอบครัวความลับของตนเองโดนเปิดเผย ด้านหนึ่งเพราะไม่อยากถูกกฎเกณฑ์ของกองกำลังควบคุม

แต่ศัตรูของเขาก็มีไม่น้อย บางคนอยู่ในที่สว่าง บางคนอยู่ในที่มืด ไม่มีที่พึ่งพิงอยู่เบื้องหลัง ก็ถือว่าค่อนข้างอันตราย

และเมื่อไหร่ที่มีคนต้องการลงมือกับเขา จะต้องส่งยอดฝีมือที่แข็งแกร่งมาสังหารเขาแน่นอน เพราะรู้ว่าเขาสามารถผ่านด่านชั้นที่เจ็ดของหอคอยมังกรบิน ไม่มีทางส่งผู้ฝึกจิตธรรมดามาเล่นงานเขา หรือแม้กระทั่งอาจจะมีราชายุทธ์ลงมือด้วยตัวเอง

พลังแปรเสวียนเทียนยี่สิบสี่เท่า ผนึกวงล้อชีวิตแห่งเหล่าทวยเทพสามารถสังหารคู่ต่อสู้ข้ามระดับ แต่เมื่อไหร่ที่เผชิญหน้ากับระดับราชายุทธ์ ไม่ต่างกับแมลงเม่าเขย่าต้นไม้ ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

จนกระทั่งถึงตอนนี้ การแข่งขันรอบที่สองได้สิ้นสุดลงแล้ว รายชื่อที่ติดยี่สิบอันดับแรกเข้าสู่รอบที่สาม ส่วนคนอื่นถูกตัดสิทธิ์

หลิวซิวโดนราชวงศ์ชักชวน กองกำลังอื่นไม่กล้าแย่ง แต่นอกเหนือจากเขา ก็มีอัจฉริยะส่วนหนึ่งที่โดดเด่นเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือแก๊งอัจฉริยะแบบเซี่ยหย่ง ไม่ได้เข้าร่วมกับกองกำลังใด แทบจะได้รับคำชักชวนจากทุกกองกำลังใหญ่

การแข่งของรอบที่สามคือประลองยุทธ์!

อัจฉริยะยี่สิบคนจะจับคู่ขึ้นต่อสู้บนเวทีประลองยุทธ์เป็นคู่ ผู้ชนะเลื่อนระดับ เข้าสู่การแข่งขันรอบต่อไป ผู้แพ้โดนคัดออก

เนื่องจากอัจฉริยะยี่สิบอันดับแรกส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นเวลาของการประลองยุทธ์จึงถูกกำหนดไว้ที่เจ็ดวันหลังจากนี้

ด้วยวิธีการของแต่ละกองกำลัง นอกจากอาการบาดเจ็บที่ไม่สามารถรักษา ไม่เช่นนั้นเวลาเจ็ดวันเพียงพอที่จะฟื้นฟูแล้ว

หลังจากนั่งเรือรบกลับเขตการปกครองชิงฮัว หลัวซิวเก็บตัวฝึกตนในห้องลับของแก๊งสาขานักล่าอสูร

กองกำลังอื่นไม่กล้าชักเชิญ แต่ก็มีกองกำลังส่วนหนึ่งที่อยากจะสร้างความสัมพันธ์ไมตรีกับอัจฉริยะผู้ปราดเปรื่องคนนี้ ทยอยกันส่งยาเม็ดรักษาอาการบาดเจ็บที่ล้ำค่ามาให้

หนึ่งในนั้น โดยเฉพาะหนานหรงชินหวางใจกว้างมาก เขาส่งยาหิมะแย้มซึ่งเป็นยารักษาอาการบาดเจ็บระดับหกมาด้วยตนเองหนึ่งเม็ด!

ราคาของยาหิมะแย้มหนึ่งเม็ด มีราชายุทธ์ไม่น้อยที่แม้ต้องขายบ้านขายสมบัติก็ไม่มีปัญญาซื้อ

เพราะเหตุนี้จึงสามารถเห็นถึงความจริงใจของหนานหรงชินหวาง อย่างไรก็ตามเขาในฐานะคนของราชวงศ์ หากสามารถชักชวนอัจฉริยะที่มีความสามารถส่งมาเข้าร่วม เขาก็จะได้รับการชื่นชมและรางวัลจากจักรพรรดิเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน ข่าวที่เกี่ยวกับหลัวซิวสามารถผ่านด่านชั้นที่เจ็ดของหอคอยมังกรบินได้แพร่กระจายไปทั่วหกเมืองของประเทศเทียนหวู และไปถึงหูของกองกำลังใหญ่ในเมืองหลวง

ข้อมูลโดยละเอียดรวมทั้งภูมิหลังและประวัติของหลัวซิว ถูกวางอยู่บนโต๊ะของสมาชิกระดับสูงของแต่ละกองกำลัง

หลังจากนั้นสามวัน อาการบาดเจ็บของหลัวซิวได้ฟื้นฟูหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นผู้เป็นอมตะถูกกระตุ้น ปราณแท้ควบแน่นมากขึ้น

ถ้าหากเป็นผู้ฝึกยุทธ์ปกติ หากอาการบาดเจ็บสาหัสเกินไป แม้จะฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนเดิมแต่ก็ยังจะส่งผลกระทบทำให้ผลการฝึกตนตกลง ส่วนหลัวซิวเนื่องจากสามารถปลุกผู้เป็นอมตะ ไม่เพียงจะไม่พบกับอาการแทรกซ้อนที่ตามมาทีหลัง ยังสามารถเปลี่ยนเคราะห์ให้ลาภเพิ่มพูนพลัง ถึงขั้นถูกเรียกว่าคนเหนือคน

ทว่าผู้เป็นอมตะย่อมไม่ใช่สิ่งที่สามารถกระตุ้นได้ตามใจชอบ ไม่เช่นนั้นหลัวซิวคงไม่จำเป็นต้องไปพยายาม แค่ฝืนใช้พลังแปรเสวียนเทียนทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บในยามว่างก็เพียงพอแล้ว

ถ้าหากหลัวซิวทำแบบนั้นจริง มีแต่จะทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยเปล่าประโยชน์ ผลการฝึกตนก็ไม่มีการพัฒนาแต่อย่างใด

เส้นทางการฝึกตน ไม่มีเทคนิคลับ มีเพียงระเบิดศักยภาพของตนเองออกมาภายใต้แรงกดดันความเป็นความตาย ฝ่าทะลวงขีดจำกัดของตนเองไปทีละขั้น ถึงจะสามารถไปได้ไกลขึ้น

สิ่งที่เรียกว่าผู้เป็นอมตะ อันที่จริงก็เป็นวิธีการแบบหนึ่งในการกระตุ้นศักยภาพและขัดเกลาเจตจำนงแห่งการฝึกยุทธ์์ ไม่ใช่เพื่อพัฒนาความแข็งแกร่งของผู้ฝึกยุทธ์

อย่างไรก็ตามหากไม่มีการต่อสู้ที่เอาเป็นเอาตาย ไม่สามารถกระตุ้นศักยภาพของผู้ฝึกยุทธ์ ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นจะมาจากไหน?

เกี่ยวกับเรื่องของหลัวซิว เสิ่นหยวนหนานรวบรวมรายงานฉบับหนึ่ง ส่งมอบให้สาขาใหญ่ที่อยู่ในเมืองหลวงของประเทศเทียนหวู

การประเมินอัจฉริยะระดับเหลืองขั้นสูงไม่เพียงพอต่อการวัดศักยภาพของหลัวซิวแล้ว เพื่อยกระดับการประเมินระดับของอัจฉริยะ จำเป็นต้องผ่านสาขาใหญ่

และหลังจากที่อาการบาดเจ็บของหลัวซิวฟื้นฟูกลับมา เขาเริ่มทำการฝึกฝนวิชาพลังมังกรแท้ในห้องลับ

ส่วนการชักชวนของหนานหรงชินหวางในนามราชวงศ์ คำตอบของหลัวซิวคือหลังออกจากดินแดนลึกลับแล้วค่อยว่ากัน

สำหรับหนานหรงชินหวางก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบอารมณ์แต่อย่างใด เขาพูดเพียงแค่ว่า หากหลัวซิวต้องการ ราชวงศ์ประเทศเทียนหวูยินดีต้อนรับเขาทุกเมื่อ ยิ่งไปกว่านั้นจะบ่มเพาะเขาอย่างเต็มที่

ชี่ไห่ในจุดตันเถียน ปราณเป็นตายแท้สองระดับควบแน่นอยู่ในวงล้อแห่งชีวิตเหล่าทวยเทพ และหลังจากที่ฝึกพลังมังกรแท้ ด้านข้างของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าทวยเทพ มีมังกรขาวดำตัวหนึ่งที่กำลังม้วนตัวปรากฏขึ้น

นี่คือมังกรขาวดำ เกิดจากการควบแน่นของการฝึกพลังมังกรแท้โดยใช้ปราณเป็นตายสองระดับ

ยิ่งไปกว่านั้นหลัวซิวยังพบว่า ในบันทึกของวิชาพลังมังกรแท้มีห้วงยุทธ์ที่ลึกซึ้งแบบหนึ่งแฝงอยู่ ชื่อห้วงยุทธ์มังกรแท้

ด้วยวิธีนี้ อาศัยพลังมังกรแท้หนุนเสริมการฝึกวงล้อชีวิตแห่งเหล่าทวยเทพ และใช้พลังก่อรวมวิญญาณควบแน่นการสำนึก หลัวซิวจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องของวิชายุทธ์

ส่วนวิชาวัชรยักษ์ครองร่างและพลังทมิฬซวนโหลว วิชายุทธ์ระดับเจ็ดทั้งสองสามารถละทิ้งได้แล้ว

เกี่ยวกับการประลองยุทธ์์ของหลัวซิวหลังจากนี้สี่วัน หลัวซิวไม่ได้รู้สึกกังวลแต่อย่างใด สำหรับการติดอันดับรายชื่อของแดนปริศนาไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา

สิ่งที่เขากำลังพิจารณาในตอนนี้คือ จะทำอย่างไรให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น เพราะตามเท่าที่เขารู้มา แดนปริศนาเป็นสถานที่ค่อนข้างอันตราย ไม่ใช่สิ่งที่ชั้นเจ็ดของหอคอยมังกรบินจะสามารถเทียบได้

แดนปริศนาจะเปิดหนึ่งครั้งทุกสามสิบปี อัจฉริยะรุ่นใหม่ระดับแนวหน้าแปดสิบคนประเทศเทียนหวูเข้าไปด้านใน อัตราการตายเกินครึ่ง!

บางคนตายเพราะความอันตรายของแดนปริศนา และมีบางคนตายเพราะเกิดความขัดแย้งกับอัจฉริยะคนอื่น

“ข้ามีไพ่ตายอยู่ในมือไม่น้อยแต่ความแข็งแกร่งค่อนข้างต่ำ จำเป็นเตรียมความพร้อมให้มาก เพื่อรับประกันไม่ให้เกิดการสูญเสีย”

หลัวซิวนั่งขัดสมาธพูดพืมพำอยู่ในห้องหลับ พูดอย่างกะทันหัน “เทพแห่งวัฏจักรชีวิต ปัจจุบันข้าบรรลุถึงแดนฝึกจิต เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเข้าไปในลูกแก้วความเป็นตาย?”

ตอนที่เพิ่งเข้าสู่แดนชี่ไห่ หลัวซิวได้รับของขวัญของผังกฎดั้งเดิม วิชาดาบเร็ว

ก็เพราะอาศัยเคล็ดวิชาระดับสูงของดาบเร็ว ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้ามระดับสังหารศัตรูที่แข็งแกร่งครั้งแล้วครั้งเล่า

จนกระทั่งผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนพรสวรรค์ เขาได้รับของขวัญจากผังกฎดั้งเดิมอีกครั้ง——พลังแปรเสวียนเทียน!

ถ้าหากไม่มีพลังแปรเสวียนเทียน หลัวซิวไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถอยู่มาจนถึงวันนี้หรือเปล่า

เป็นอย่างที่เทพแห่งวัฏจักรชีวิตพูด ของขวัญที่ผังกฎดั้งเดิมมอบให้จะมุ่งเน้นไปที่การเสริมความแข็งแกร่งของเขา

“ไม่รู้ว่าครั้งต่อไปที่ข้าได้รับของขวัญจากผังกฎดั้งเดิม จะเป็นผลประโยชน์แบบไหน?” ภายในใจของหลัวซิวรู้สึกคาดหวังมาก