ตอนที่ 28 ถ้าจูบอีก ฉันจะร้องให้คนช่วย!

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

อันซย่าซย่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก 

 

 

เธอเพียงแค่ยั่วเย้าเซิ่งอี่เจ๋อเพียงจะเบี่ยงเบนความสนใจเขา เธอจะได้ลบข้อความที่ส่งไป แต่หลังจากนึกถึงสิ่งที่เธอได้พูดไปเมื่อกี้แล้ว หญิงสาวก็รู้สึกอยากจะตบปากตัวเองนัก! 

 

 

เธอกลัวหงอและตอบอย่างระมัดระวังตัว “มะ ไม่จำเป็นหรอก… เอ่อ ได้โปรดปล่อยฉันเถอะนะ ฉันต้องกลับไปนอนแล้วล่ะ” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อไม่ตอบ แต่เธอมองเห็นความโกรธเกรี้ยวในแววตาคู่นั้น 

 

 

เขาเป็นผู้ชายประเภทที่ดูสงบเงียบทั้งที่จริงแล้วภายในกลับคุกรุ่น ริมฝีปากบางๆ ของเขาขยับเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันก่อนที่จะทาบทับลงบนริมฝีปากเธอเพื่อจูบเธออีกครั้ง! 

 

 

และอันซย่าซย่าก็ตื่นตะลึงไปอีกครั้ง… 

 

 

เธอ เธอ เธอโดนจูบอีกแล้ว! 

 

 

ในที่สุดเมื่อเธอรวบรวมสติคืนมาได้ เซิ่งอี่เจ๋อก็กดจูบหนักขึ้นอีก เสียงเดียวที่สะท้อนอยู่ภายในห้องคือเสียงดิ้นรนอึกอักและเสียงร้องอ้อนวอนของเธอ 

 

 

“หยุดนะ… เซิ่งอี่เจ๋อ ฉันขอโทษ ฉันไม่ทันคิดในตอนที่พูดอย่างนั้นออกไป! ถ้าจูบฉันอีก ฉันจะร้องให้คนช่วย นายไม่กลัวอับอายขายหน้าเหรอ” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อหยุดเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขาเชยคางอรชรของเธอขึ้นก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ร้องเลยสิ ฉันก็อยากเห็นเหมือนกันว่าระหว่างเราใครกันที่จะต้องอับอาย” 

 

 

เขาก้มหน้าลงมา มองสำรวจหญิงสาวใต้ร่าง 

 

 

เด็กสาวหน้าแดง ริมฝีปากนุ่มนวลเป็นสีชมพูเรื่อแต่นัยน์ตานั้นมีน้ำตาเอ่อคลอ ชุดนอนยับยู่ไม่เรียบร้อยซึ่งเป็นผลจากการดิ้นขลุกขลัก เผยให้เห็นฐานลำคอขาวอมชมพูแลดูบอบบาง เมื่อโน้มตัวอยู่เหนือเธอแบบนี้ เสื้อผ้าของเขายังคงเรียบร้อยดีและลมหายใจของเขาก็สม่ำเสมอ เขาดูราวกับกษัตริย์ผู้ทรงอำนาจ 

 

 

อันซย่าซย่ากัดริมฝีปาก น้ำตาทำท่าจะไหลออกมาเสียให้ได้ เธอยังคงว้าวุ่นใจเรื่องที่ถูกขโมยจูบเมื่อเช้านี้อยู่ แต่ไม่เคยนึกฝันเลยว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันเดียวกัน… 

 

 

ทำไมคนคนหนึ่งถึงได้น่าชิงชังได้ขนาดนี้นะ! 

 

 

ไม่เพียงแค่เข้ามารบกวนวิถีชีวิตอันสงบสุขของเธอเท่านั้น ซ้ำยังมาทำแบบนี้กับเธออีก เขาคิดว่าเธอเป็นคนแบบไหนกัน 

 

 

พอสังเกตเห็นหยดน้ำตาแวววาวที่ปลายหางตาของเธอ หัวใจเขาก็กระตุกวูบ ชายหนุ่มค่อยๆ ปล่อยมือของเธอ 

 

 

“เธอไปได้แล้ว” แม้ในใจจะงุนงงแต่เขาก็บอกอย่างเฉยเมย 

 

 

เขาไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาสูญเสียการควบคุมตัวเองอย่างจริงจังอีกครั้งเพราะเธอคนนี้ 

 

 

อันซย่าซย่ารู้สึกเหมือนได้รับการนิรโทษกรรม รีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนก่อนวิ่งหนีไป 

 

 

แล้วคืนนั้นทั้งคู่ต่างก็ไม่มีใครนอนหลับได้เลย 

 

 

วันจันทร์ 

 

 

อันซย่าซย่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเครื่องแบบนักเรียน ก่อนกินมื้อเช้านิดหน่อยที่โต๊ะอาหาร 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อกับสมาชิกอีกสองคนก็กำลังนั่งกินเมื้อเช้าอย่างเงียบเชียบ ทั้งหมดดูท่าทางเพลียๆ พวกเขาเดินทางไปเมืองอื่นเพื่อออกรายการเมื่อวานนี้ และตอนนี้งานก็ส่งผลต่อสภาพของพวกเขา 

 

 

ทั้งสามมีพนักงานขับรถไปส่งที่โรงเรียน ส่วนอันซย่าซย่าไม่อยากจะเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาจึงตัดสินใจจะขึ้นรถเมล์กับคังเจี้ยน 

 

 

ทันทีที่ก้าวขึ้นรถเมล์ เธอก็ได้ยินเสียงใสๆ ไพเราะแต่ก็เอาเรื่องของผู้หญิ่งคนหนึ่งตะโกนขึ้น “เฮ้ย! ไอ้หัวขโมย! เอาของที่ขโมยไปคืนมาเลยนะ!” 

 

 

หลังจากเสียงนั้น เธอก็เห็นนักเรียนหญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง มีผมหน้าม้าและด้านหลังยาวประบ่าพองๆ ในชุดเครื่องแบบโรงเรียนฉีซย่า ถึงแม้จะดูท่าทางบอบบาง แต่เธอก็กำลังคว้าคอเสื้อของผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเอาไว้ 

 

 

“ตาข้างไหนของเธอที่เห็นฉันขโมยของ ปล่อยฉันนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกตำรวจ!” ผู้ชายคนนั้นขู่ด้วยน้ำเสียงคุกคาม และผู้คนที่รายล้อมก็เริ่มถอยห่าง กลัวว่าจะเข้าไปพัวพัน 

 

 

อันซย่าซย่าหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและรีบถ่ายรูปผู้ชายคนนั้นไว้ก่อนจะกดเบอร์ฉุกเฉิน 

 

 

ผู้ชายคนนั้นสังเกตเห็นการกระทำของเธอ ก็ตะโกนเสียงดัง “เฮ้ ทำอะไรน่ะ!” 

 

 

เขาผลักเด็กผู้หญิงคนนั้นเต็มแรง แต่เธอแค่ขยับไปนิดเดียว เด็กสาวใช้แรงดึงทึ้งเหวี่ยงเขาลงกับพื้นด้วยท่วงท่าเดียวเท่านั้น! 

 

 

ชายคนนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ลุกขึ้นยืนอย่างงุ่มง่ามก่อนจะรีบวิ่งไปที่ประตูด้านหลังรถ เด็กผู้หญิงคนนั้นตะโกน “คังเจี้ยน ไปจับเขาไว้!” 

 

 

คังเจี้ยนโยนกระเป๋าเป้ของเขามาให้อันซย่าซย่าโดยไม่หันมามอง แล้วเขาก็รีบวิ่งไล่ตามชายคนนั้นไปเร็วปานสายลม! ในจังหวะนั้นเอง ตำรวจสายตรวจก็มาถึงและช่วยคังเจี้ยนจับตัวขโมยเอาไว้ได้ 

 

 

อันซย่าซย่าแตะมือกับเด็กผู้หญิงคนนั้น แล้วทั้งคู่ต่างก็มองกันพร้อมรอยยิ้ม 

 

 

“ซูเสี่ยวมั่ว เธอกลับมาแล้ว!”​​​​​​​