เย่เมิ่งเหยียนพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม: “แม่ ถ้าแม่ยังใส่ร้ายหยางเฟิงและยั่วยุความสัมพันธ์พวกของเราขนาดนี้ งั้นก็ออกจากที่นี่ไปเดี๋ยวนี้ไม่ต้องอยู่ที่นี่”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลันซินก็หุบปาก
กว่าจะได้มาอยู่คฤหาสน์หรูหลันซินจะทำใจออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร
“ฮึ!”
หลันซินฮึออกมาและพึมพำกับตัวเองว่า “ถ้าไม่เชื่อคำของฉัน ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วยังไงแกต้องร้องไห้แน่นอน”
…
กลางคืน.
นี่เป็นครั้งแรกที่หยางเฟิงและเย่เมิ่งเหยียนใช้เวลาคืนแรกในบ้านหลังใหม่
ทั้งสองนอนอยู่บนเตียงและนอนไม่หลับ
เย่เมิ่งเหยียนหันหัวมาและถามว่า “หยางเฟิง คุณหลับรึยัง?”
หยางเฟิงส่ายหัวและพูดว่า “ยัง ทำไมคุณยังไม่นอน?”
“ฉันนอนไม่หลับ!”
“คุณมีเรื่องกังวลรึเปล่า?”
หยางเฟิงลุกขึ้นและถามด้วยความเป็นห่วง
เย่เมิ่งเหยียนส่ายหัวและพูดว่า “เปล่า ฉันแค่รู้สึกว่าตอนนี้ ฉันกำลังฝันอยู่”
หยางเฟิงยิ้มและพูดว่า “เด็กโง่ จะเป็นความฝันได้อย่างไร ทั้งหมดนี้มันคือเรื่องจริง!”
เงียบอยู่ครู่หนึ่ง
เย่เมิ่งเหยียนถาม “ที่รักคุณมีเงินเท่าไหร่?”
หยางเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งหยิบเครื่องคิดเลขออกมาและคำนวณอยู่หนึ่งชั่วโมง
“ประมาณหนึ่งล้านล้าน!”
ตุ้บ!
เย่เมิ่งเหยียนล้มลงบนพื้น
เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้น
เชฟระดับห้าดาวทำอาหารเช้ามากมายไว้เต็มโต๊ะ
มีคนรับใช้อยู่รอบๆ
ชีวิตที่หรูหราเช่นนี้ทำให้เย่เมิ่งเหยียนและคนอื่น ๆยังรู้สึกเหมือนกำลังฝัน
หลังอาหารเช้า
จู่ๆหยางเฟิงก็พูดขึ้นว่า “พ่อแม่ ที่รัก วันนี้ผมจะพาทุกคนไปสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อเซอร์ไพรส์ทุกคน”
เย่เมิ่งเหยียนถามด้วยความสงสัย “เซอร์ไพรส์อะไร?
หยางเฟิงยิ้มและพูดว่า: “ที่รัก คุณรู้สึกว่าการอยู่บ้านคนเดียวมันน่าเบื่อเกินไปไม่ใช่หรือ ผมจึงหาอะไรให้คุณทำ”
หลินซินเบ้ปากและพูดว่า “นี่จะเป็นการเซอร์ไพรส์ได้ยังไง?เมิ่งเหยียนของเราเป็นคุณหนูตั้งแต่เกิด ยังต้องออกไปหาอะไรทำเหรอ?แค่อยู่บ้านมีคนทำให้ทุกอย่าง ใช้ชีวิตอย่างหม้ายทรงเครื่องก็พอแล้ว”
เย่เมิ่งเหยียนไม่อยากสนใจที่เรื่องหลันซินพูดและถามอย่างตื่นเต้น: “โอเค ฉันอยู่บ้านคนเดี๋ยวมานานจนรากจะงอกแล้ว ฉันอยากออกไปหาอะไรทำตั้งนานแล้ว”
“หยางเฟิงหาอะไรให้เมิ่งเหยียนทำ แล้วจะพาพวกเราไปทำไม” เย่ไห่ถามอย่างสงสัย
หยางเฟิงเหลือบมองเย่ไห่และพูดด้วยรอยยิ้ม: “พ่อ ความเป็นจริงผมรู้มาตลอดว่าพ่อมีความสามารถแต่ไม่มีโอกาสแสดงฝีมือฝีมือ พ่อไม่ได้ด้อยไปกว่าเย่กวง เพียงแค่ถูกตระกูลเย่ฝังกลบเท่านั้น ฉะนั้นผมจึงหาบางอย่างให้พ่อทำเหมือนกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลันซินก็ลุกขึ้นยืนด้วยใบ้หน้าที่โกรธเคือง
“หยางเฟิงคนดี แกคิดว่าซื้อคฤหาสน์หรูหนึ่งหลังก็สามารถสั่งครอบครัวของเราให้ทำงานงั้นเหรอ?ฉันคิดว่าแกจะให้เรามีชีวิตที่สุขสบาย คิดไม่ถึงว่าแกจะปฏิบัติต่อครอบครัวของเราเหมือนทาส แกจะหางานให้ฉันทำด้วยใช่ไหม?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้สีหน้าของหลันซินดูแย่มาก
หยางเฟิงหัวเราะคิกคัก: “แม่ ผมจะหาอะไรให้แม่ทำได้อย่างไร แม่ก็แค่เสพสุขอยู่บ้านอย่างสบายใจก็พอแล้ว และแม้ว่าผมจะหาอะไรให้ทำ แม่ก็ไม่ทำอยู่ดี!”
“งั้นก็ดี!”
หลันซินพูดเบาๆ
แต่ทว่าหลันซินก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
หยางเฟิงบอกว่าเธอไม่ต้องทำอะไรก็ได้ นั่นกำลังหาว่าเธอทำอะไรไม่เป็นไม่ใช่หรือ?
สวะ!
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้สีหน้าของหลันซินก็ดูแย่อีกครั้ง
“เอาล่ะแม่ พวกเราไปดูกันเถอะ เดี๋ยวลองดูว่าหยางเฟิงพาเราไปที่ไหนแล้วค่อยว่ากัน!”