ในหุบเขาลึกของเขาทิ้งวิญญาณมีพระราชวังอันยิ่งใหญ่และหรูหราตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า

กู้ชูหน่วนถือหญ้านรกในมือไว้อย่างตะลึง เกือบจะกัดลิ้นตัวเองแล้ว

ได้……ได้หญ้านรกมาง่ายขนาดนี้เลยเหรอ?

นางไม่ได้ฝันอยู่ใช่ไหม?

นางกอดอกอย่างตกตะลึง หันหน้าไปถามจอมมารที่พิงประตูอยู่ข้างๆ “พระราชวังของจอมมาร ทหารเฝ้ายามหละหลวมขนาดนี้เชียวเหรอ?”

“ถ้าพี่สาวไม่ชอบ งั้นข้าเรียกทหารมาก็ได้นะ?”

จะบ้าตาย……

นางช่วยผู้ชายแบบนี้มาเนี่ย?

วงจรสมองพิลึกคนจริงๆ

นางบอกให้ตะโกนเรียกทหารมาหรือไง?

เห็นเขากำลังจะอ้าปากตะโกน กู้ชูหน่วนก็รีบกระโจนเข้าไปปิดปากเขา “ไปๆๆ พวกเราเดินย้อนทางลับออกไปก่อน”

นางไม่อยากพาเขาเข้ามาอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังดื้อรั้นที่จะเข้ามาด้วย

แล้วพานางเดินวนเข้ามาจากทางลัด เข้ามาในพระราชวังของจอมมารได้อย่างราบรื่น ทำอย่างกับเดินเที่ยวสวนดอกไม้บ้านของตัวเอง

ยิ่งอยู่กับเขามากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งสงสัยในตัวตนของเขามากเท่านั้น

แต่คิดไปคิดมา ก็คิดไม่ออกว่าเขาเป็นใครกันแน่

เห็นเขาไม่ได้มีเจตนาร้าย ก็เลยพาเขาไปไหนมาไหนด้วย

กู้ชูหน่วนเอาหญ้านรกในมือไว้ในแหวนมิติ แล้วถอนหายใจออกมายาวๆอย่างโล่งอก

มีหญ้านรกแล้ว อีกไม่นานใบหน้าของนางจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว

ในตอนที่ดวงตาสีฟ้าอ่อนของจอมมารมองแหวนมิติอย่างเกียจคร้านนั้น นัยน์ตาของเขาก็ประกายขึ้น

“แหวนมิติของสำนักสำนักอสุรา”

“เจ้ารู้จักสำนักสำนักอสุราเหรอ?”

แหวนมิตินี้อี้เฉินเฟยให้นางมา

หรือว่าอี้เฉินเฟยจะเป็นคนของสำนักสำนักอสุรา?

หรือว่า……

อี้เฉินเฟยก็คือประมุขชิงจริงๆ?

นึกถึงหุ่นและกังฟูของพวกเขาสองคน กู้ชูหน่วนก็ยิ่งแน่ใจมากขึ้น

“รู้จักเล็กน้อย”

“หื้ม……งั้นเจ้าบอกข้าหน่อยสิ เจ้าสำนักชูราเป็นคนยังไง?”

“นางเหรอ……เป็นคนที่มีความยึดติดมากคนหนึ่ง เพื่อหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเอง แม้จะต้องบุกน้ำลุยไฟนางก็ไม่เคยกะพริบตาเลย”

“หน้าที่? หน้าที่แบบไหนกัน?”

“น่าจะช่วยคนในเผ่าของตัวเองนะ แต่ว่า……นางล้มเหลว และหายตัวไปแล้วด้วย”

นางไม่ค่อยอยากสนใจเรื่องชาวบ้านสักเท่าไหร่ แต่ไม่รู้ว่าทำไม นางรู้สึกจุกในอกมาก และไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลของฝูกวงหรือเปล่า

“ล้มเหลว หายตัวไป? หมายความว่ายังไง?”

“ก็ตายไงล่ะ”

“หือ……คนอื่นเล่าลือกันว่า นางแค่หายตัวไปนะ ไม่มีใครกล้าตัดสินว่านางตายไปแล้ว เจ้ารู้ได้ยังไงว่านางตายไปแล้ว?”

“เพราะ……นางถูกจอมมารฆ่าตายไงล่ะ”

รอยยิ้มของกู้ชูหน่วนชะงักไปทันที

นางถามเสียงแข็งว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”

“เดาน่ะ”

จอมมารเงยหน้าขึ้น ใบหน้างดงามจนบรรยายเป็นคนพูดไม่ได้ ฉีกยิ้มที่มีเสน่ห์จนน่าหลงใหล ก้าวเท้ายาวๆเดินออกไปด้านนอก

กู้ชูหน่วนลูบอกตัวเอง รู้สึกจุกและเจ็บแปลบที่หัวใจ

ขนาดหัวของนางยังเจ็บปวดขึ้นมาเหมือนจะแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ

ทำไมกันนะ……

ทำไมนางถึงรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้……

เจ้าสำนักสำนักอสุรามีความเกี่ยวข้องกับนางยังไง?

นี่เป็นพระราชวังของจอมมาร นอกประตูว่างเปล่า ไม่มีใครเฝ้าอยู่สักคน

จอมมารเดินออกไปอย่างไม่เกรงกลัว พานางเดินอ้อมทางลัด มาถึงตรงหน้าภูเขาจำลอง

“ทางลับเส้นนี้สามารถออกไปนอกเมืองได้”

“ข้าไม่อยากถามเจ้าว่าทำไมถึงคุ้นเคยกับที่นี่มากนัก และไม่อยากถามด้วยว่าเจ้าเป็นใคร แต่พระคุณในครั้งนี้ ข้าจะจดจำเอาไว้”

จนถึงตอนนี้แล้ว ถ้านางยังคิดว่าเขาเป็นแค่ทาสบำเรออีก งั้นสิบกว่าปีที่นางใช้ชีวิตมานี้ก็คงสูญเปล่าแล้วล่ะ

“พี่สาวแค่จำคำที่เคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ได้ก็พอแล้ว”

ก่อนหน้านี้นางเคยพูดอะไรไปเหรอ?

เหมือนจะไม่เคยพูดอะไรนะ?

“ไป พวกเราออกจากที่นี่กัน”

“ได้เลย” จอมมารยิ้มหน้าบาน พานางเดินออกไปจากทางลับ

กำลังเดินเข้าไปนั้น ก็มีทหารเฝ้ายามสองคนเดินมาข้างๆ และกำลังพูดเรื่องอะไรสักอย่าง

“ได้ยินว่าทาสบำเรอเย่เฟิงที่หัวหน้ากองธงกล้วยไม้โปรดปรานมากที่สุด ถูกผู้พิทักษ์ของเราจับตัวไปแล้ว”