ตอนที่1260 ดวงตาอีกาดำ!

 

“กา กา กา…”

ประหนึ่งว่าวาจาคำกล่าวของเย่หยวนจะไม่เข้าหูพวกมันอย่างมาก

อิ้งหมัวหู่โหมพิโรธเดือดขึ้นอย่างอดมิอยู่ พลางตบฝ่ามือซัดกระหน่ำออกไปทันที!

เย่หยวนมิได้คิดหยุดยั้งอิ้งหมัวหู่ใดๆ เพราะเขาเองก็ต้องการจะเห็นเช่นกันว่า พฤกษาวิญญาณมรณะนี้น่าสะพรึงกลัวเพียงใด

อย่างไรก็ตาม ภาพฉากต่อจากนั้นพลันทำเอาทั้งสามตื่นตกใจยิ่งยวด!

พลังปราณฟ้าดินที่อิ้งหมัวหู่ระดมสั่งสมพร้อมปลดปล่อยออกไปเต็มสูบ ยามนี้ยังไม่ทันปราดถึงเกินสามสิบฉื่อ การโจมตีนี่กลับสลายหายไปทันที!

ราวกับว่าสถานที่แห่งนี้สามารถควบคุมพวกเขาทั้งสามได้อยู่หมัด!

 

“นี่…”

อิ้งหมัวหู่อดหันจับจ้องเย่หยวนพร้อมใบหน้าเปี่ยมตะลึงมิได้

พฤกษาวิญญาณมรณะนี้สมชื่อยิ่งแล้วจริงๆ!

ทว่าเวลานี้เอง ทั้งสามกลับไม่นึกไม่ฝัน พฤกษาวิญญาณมรณะนี้ทรงพลังกว่าตำนานเล่าลือเสียอีก

เย่หยวนประจักชัดแจ้งดีถึงความแกร่งกล้าของอิ้งหมัวหู่

กายวิญญาณพยัคฆ์ขาวสมบูรณ์และวรยุทธศักดิ์สิทธิ์แสงทมิฬพยัคฆ์ขาว ทั้งสองสิ่งนี้ล้วนเป็นสุดยอดกายวิญญาณและสุดยอดวรยุทธบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์

ความแกร่งกล้าของอิ้งหมัวหู่เหนือชั้นไปกว่าบรรดาสิบจอมราชันย์ไปหลายขุมแล้ว กระทั้งจอมราชันย์แห่งความมืด,ซือกงซานเองก็มิอาจใช่คู่มือ

ทว่าฝ่ามือเมื่อครู่กลับไม่สามารถคงสภาพได้ถึงสามสิบฉื่อตรงหน้าด้วยซ้ำ!

 

เย่หยวนไม่เคยพานพบสิ่งใดแปลกประหลาดขนาดนี้มาก่อนเลยชีวิต!

ถึงแม้ตอนนี้เขาจะตรวจจับอะไรบางอย่างได้บ้าง แต่ด้วยขอบเขตความเข้าใจในปัจจุบันกลับไม่อาจทราบได้เลยว่านั้นคือสิ่งใด

 

“นี่น่ะรึ…พฤกษาวิญญาณมรณะ? เป็นไปตามคาด มันแกร่งกร้าวของมันแม้แต่เซียนอาณาจักรพระเจ้ายังมิอาจหยั่งถึงได้ ดูท่าสิ่งนี้จะอยู่ในอาณาจักรพลังที่พวกเราไม่มีทางเข้าใจเลย และอาณาจักรพลังนั้น…เหนือกว่าอาณาจักรพระเจ้าไปแล้ว!”

เย่หยวนพรูไอเย็นแช่มออกพร้อมกล่าวขึ้น

 

ทันทีทันใด สุ้มเสียงโหยหวนดุขบ่อน้ำบรรพกาลพลันกรีดร้องระงมขึ้น อีกาทั้งสามร้องแจ๋วราวกับกำลังพูดอยู่

หากพินิจมองให้ละเอียด ปรากฏว่าเป็นอีกาตัวกลางที่ร้องดังขึ้นว่า

“ในที่สุด… ช่างเป็นวิญญาณที่สดใหม่กระไรเช่นนี้ มันถึงกับประเคนให้ข้าถึงหน้าบ้าน! อืมมม…ดูท่าวิญญาณของเจ้าคงอร่อยยิ่ง!”

 

สีหน้าการแสดงออกของเย่หยวนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เพียงปราดสายตาจับจ้อง เขาก็รู้สึกราวกับว่าวิญญาณของตนกำลังถูกดูดออกไป

อีกาคนนั้นช้อนสายตาจับจ้องตอบ และนี่ยิ่งทำให้จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนเหือดแห้งแทบแตกสลายออก!

เบื้องลึกภายในทะเลแห่งจิตใจ ถูกคลื่นความผันผวนเดข้าก่อกวนโดยตรงเช่นนี้ ในที่สุดไข่มุกสยบวิญญาณพลันมีปฏิกิริยาตอบสนอง มันสั่นสะท้อนคลื่นพลังประหลาดออกไปเล็กน้อย สภาวะเสียสมดุลของเย่หยวนก็ได้กลับเป็นปกติอีกครั้ง

 

“ท่านอาวุโสทั้งสาม พวกเรามิได้มีเจตนารบกวน เราหลงเข้ามาในสถานที่ของพวกท่านโดยบังเอิญ โปรดเมตตาปล่อยพวกเราไปสักครา นี่นับเป็นบุญคุณใหญ่หลวง”

เย่หยวนพยายามระงับความปั่นปวนภายในใจและเอ่ยกล่าวขึ้น

 

“หื้ม? เจ้าสามารถทนต่อแรงกดดันจากจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของข้าได้? น่าสนใจ น่าสนใจยิ่งนัก!”

เพียงว่าเสียงนี้ทำเอาทุกคนใจสั่นจับขั้วกระดูกเยือกแข็ง

 

“มองเข้าไปในตาข้า!”

ในขณะที่อีกาตัวนั้นกำลังกล่าวประหนึ่งว่ามันได้ท่องเวทย์อาคมบางอย่างผสานลงไปในน้ำเสียง

 

 

เป็นอีกครั้ง เย่หยวนรู้สึกราวกับจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของตนกำลังจะสลายลง วาจาแผดเสียงเพียงหนึ่งคำทำเอาความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดแทบล้มสลาย!

ห้ามมอง! ห้ามมองเด็ดขาด!

 

เย่หยวนหาได้ตระหนักชัดแจ้งดีเกี่ยวกับขีดจำกัดของไข่มุกสยบวิญญาณว่าทรงพลังถึงขอบเขตใด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าพึ่งพาเจ้าสิ่งนี้จนเกินไป

สุดท้ายนี้ สิ่งหนึ่งที่เย่หยวนสามารถการันตีได้ก็คือ พฤกษาวิญญาณมรณะนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือชั้นกว่าอาณาจักรพระเจ้าไปแล้วแน่นอน!

 

ในยุคสมัยที่ศาสตร์แห่งสวรรค์สูญสิ้น สิ่งมีชีวิตระดับชั้นนี้ย่อมอยู่เหนือจินตนาการและขอบเขตความเข้าใจทั้งหมดไปโดยสิ้นเชิง!

 

ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไรเขาจะไม่มองดวงตาอีกาตรงหน้าเด็ดขาด

เว้นเสียแต่ ร่างกายของเขาดูเหมือนจะไม่เชื่อฟังเลยสักนิด ศีรษะของเย่หยวนค่อยๆเงยขึ้นหันทองอีกาตัวกลางอย่างแช่มช้า

เหงื่อเย็นหลั่งไหลทั่วร่างเย่หยวนจนชโลมชุ่มประหนึ่งเพิ่งขึ้นจากน้ำ

ในชั่วพริบตาทั่วร่างกายของเขาก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

 

ทั้งชาติก่อนหน้าและชาตินี้ ถึงแม้จะเผชิญหน้ากับจี้ฉางหลาน แต่เย่หยวนยังไม่เคยรู้สึกอ่อนแอไร้พลังขนาดนี้มาก่อนเลย

นี่เป็นการเผชิญหน้าที่ระดับชั้นห่างกันเกินไป!

ต่อให้ประจักษ์หน้ากับเทพอสูรเทวะข่านนั่ว อย่างน้อยเย่หยวนยังพอมีทึนรอนไว้ต่อกร

 

แต่ ณ ตอนนี้ เย่หยวนกลับไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้สักนิด!

อย่าว่าแต่โจมตีใส่ แค่ควบคุมร่างกายตัวเองให้ทำตามใจนึกยังไม่มีปัญญา!

สิ่งเดียวที่ตอนนี้ขยับได้คือ ดวงตา แต่ดวงตานั้นกลับเป็นอวัยวะเพียงส่วนเดียวที่เขาไม่ต้องการให้ขยับ!

 

เย่หยวนไม่สามารถเข้าใจได้สักนิดเลยว่า ในยุคที่ศาสตร์แห่งสวรรค์สูญสิ้นไปแล้ว ไฉนยังมีสิ่งมีชีวิตระดับชั้นนี้ดำรงอยู่?

หรือเป็นไปได้ไหมที่ ศาสตร์แห่งสวรรค์ในกายบางสิ่งยังคงเหลืออยู่อยู่จวบจนปัจจุบัน?

อย่างไรก็ตามแต่ ขณะนี้ไม่เหลือเวลาครุ่นคิดใดๆอีก

เย่หยวนรีดเร้นพลังทั้งหมดส่งออกไปยังดวงตาหวังเพื่อเบี่ยงทิศทางเข้าหาอิ้งหมัวหู่ แต่ทันใดนั้นเขาพลันต้องตื่นตระหนกอย่างหนัก

ทันทีที่เห็นมอง เย่หยวนพบว่าจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของอิ้งหมัวหู่ได้หลุดลอยออกจากร่างแล้วโดยตรง วิญญาณของเขาบินเข้าไปหาอีกาด้านซ้าย!

ส่วนซือโปเทียนกลับไม่เป็นอะไรเลย นี่ถือเป็นจุดเด่นพิเศษของเผ่ายักษ์หิน เพราะมันไม่มีจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นอีกาเหล่านี้จึงไม่สามารถทำอะไรได้เลย

 

ทว่าเสี้ยวอึดใจต่อมา เย่หยวนพลันเห็นอีกภาพฉากหนึ่ง ซึ่งนี่ทำให้เขาเดือดดาลอาฆาตในทันใด

จิตวิญญาณศักดิ์ของลู่เอ๋อถูกดึงออกจากเจดีย์เลื่องสวรรค์ และบินเข้าไปหาอีกาด้านขวา!

 

เบื้องลึกในแววตาของเย่หยวน ยามนี้กลับเปี่ยมแน่นไปด้วยเพลิงพิโรธเดือดปะทุแทบระเบิด!

ไร้ซึ่งพลังอำนาจ!

ไร้ซึ่งหนทางช่วย!

 

ณ ปัจจุบันเย่หยวนทราบแล้วว่า อีกาตัวที่สามนี้มิได้ถูกเตรียมไว้สำหรับซือโปเทียน แต่นั้นสำหรับลู่เอ๋อโดยเฉพาะ!

สำหรับลี่เอ๋อแล้วนั้น เนื่องจากกายวิญญาณทั้งสองชนิดของนางผสานรวมเป็นหนึ่งเดียว จึงทำให้ไม่สามารถแยกออกจากร่างได้แล้ว พฤกษาวิญญาณมรณะจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปและมิได้ตละเตรียมอีกาไว้ให้นาง

 

อย่างไรก็ตาม ที่เห็นว่าซือโปเทียนมิได้เคลื่อนไหวใดๆ นี่เป็นที่ชัดเจนว่า มันเองก็ถูกสะกดไว้เช่นกัน

ความแกร่งกล้าของซือโปเทียนเหนือชั้นกว่าเย่หยวน มันเคยเป็นถึงเซียนอาณาจักรพระเจ้า!

แต่กระทั้งมันก็มิใช่คู่มือของพฤกษาวิญญาณมรณะเลย!

 

“เฮ้ออ… วิญญาณน้ำดีเหล่านี้น่าจะอร่อยมากแน่นอน! นับตั้งแต่ที่ตาเฒ่านั้นตายไป ดินแดนพฤกษานิรันดร์แห่งนี้ก็กลายเป็นสถานที่เปลี่ยวร้างทันควัน การจะหาวิญญาณอร่อยๆกินกลับไม่ง่ายดั่งวันวาน!”

อีกาตัวกลางกล่าวขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์นัก

อย่างไรก็แล้วแต่ ขณะนี้เย่หยวนกำลังโกรธจัด เขายังจะมาสนใจคำบ่นของอีกาได้อย่างไร?

 

เขาเค้นพลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ออกมาหวังเพื่อฝืนตัวเองมิให้มองไปยังอีกกา

หากแม้แต่เขายังพลาดท่าเช่นนี้ แล้วใครจะเป็นคนช่วยอิ้งหมัวหู่กับลู่เอ๋อ!

จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองดวงกำลังล่องลอยออกไปอย่างช้าๆ เสมือนว่าถูกอาคมบางอย่างทำให้ทั้งสองมิอาจขัดขืนคล้ายเป็นอัมพาต

อีกาสองตัวนั้นอ้างปากกว้างเตรียมรอรับมื้ออาหารอันโอชา จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของอิ้งหมัวหู่กับลู่เอ๋อค่อยๆหดเล็กลงเรื่อยๆ

ในที่สุดอีกาทั้งสองก็กระเดือกจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของทั้งสองลงไปทันทีภายในคำเดียว

 

ยิ่งเห็นภาพฉากนี้ต่อหน้าต่อตา ดวงตาของเย่หยวนแปรเปลี่ยนเป็นสีเลือดแดงฉานในทันใด พร้อมความโกรธจัดสุดขีดทานทน!

แต่เขาเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยเช่นกัน!

 

สิ่งเดียวที่ทำได้ในขณะนี้คือ การขยับดวงตาออกจากอีกาตัวตรงกลาง!

 

อีกาตัวกลางระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและกล่าวกับเย่หยวนว่า

“ผ่อนคลาย ไฉนเจ้าไม่ตามมาสมทบกับสหายที่เหลือ? อย่าพยายามฝืนให้เหนื่อยเปล่า สหายน้อยคนหนึ่งที่ไม่สามารถทะลวงขึ้นสู่อาณาจักรพระเจ้าได้ยังนับเป็นอันใด? มองมาที่ดวงตาของข้า!”

คลื่นพลังไร้สภาวะหอบใหญ่พุ่งเข้าใส่จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนทันที!

 

คราวนี้เย่หยวนไม่สามารถหยุดยั้งใดๆได้อีกต่อไป ท้ายที่สุดดวงตาคู่นั้นก็เข้าประจันหน้ากับดวงตาคู่นั้นของอีกาจนได้!

 

ในไม่ช้า เย่หยวนรู้สึกประหนึ่งว่า จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของตนถูกแช่แข็งเอาไว้ โดยไม่ทราบตั้งแต่เมื่อใด จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนพลันหลุดลอยออกไปโดยไม่รู้ตัว

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่เลว! ไม่เลวเลย! จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์นี้…ดูท่าจะเป็นสายเลือดมังกรบริสุทธิ์! ยิ่งไปกว่านั้น…กลิ่นอายชนิดนี้ช่างคล้ายคลึงกับบรรพชนต้นกำเนิดของเผ่ามังกรยิ่ง! หื้ม…? ฤทัยแห่งฟ่านจู้หลงในตำนาน? ฮ่าฮ่าฮ่า หยิบถูกสุดยอดมหาสมบัติเข้าเต็มเปา!”

อีกาตัวกลางกล่าวขึ้นพร้อมระเบิดเสียงหัวเราะอย่างไร้กังวล