ตอนที่ 655 ใครกล้ารังแกเธอ เธอก็จะ...... / ตอนที่ 656 ผู้พิทักษ์มาแล้ว!

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 655 ใครกล้ารังแกเธอ เธอก็จะ……

 

 

แววตามีแววเย็นชาปรากฏขึ้น อย่าว่าแต่เฉิงซิ่วลู่เลย แม้แต่คนที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอสองสามคน ก็ต่างรับรู้ได้ถึงความเย็นเยือกนั่น พากันถอยห่างจากเธออย่างไม่รู้ตัว

 

 

เมื่อเห็นว่าอวี๋เยว่หานเตรียมจะเดินเข้าไป ต่างก็พากันปาดเหงื่อแทนเฉิงซิ่วลู่

 

 

วินาทีต่อมาก กลับเห็นแขนเรียวข้างหนึ่งจับแขนของชายหนุ่มเอาไว้

 

 

อวี๋เยว่หานหันกลับไปมอง เหนียนเสี่ยวมู่ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ส่ายหน้าให้เขาน้อยๆ

 

 

ที่นี่เป็นญาติของเขาทั้งหมด ถ้าเกิดชายหนุ่มโมโหใส่ญาติของตัวเองเพื่อเธอจริงๆ ก็จะยิ่งทำให้ทุกคนเกลียดเธอเพิ่มขึ้นไปอีก

 

 

เธอไม่ใช่คนที่พอโดนต่อว่าเข้าหน่อยก็จะหลบไปร้องไห้อยู่หลังผู้ชาย

 

 

กล้ารังแกเธอ เธอก็จะ……รังแกกลับไปด้วยตัวเอง!

 

 

ใบหน้างดงามของเหนียนเสี่ยวมู่ มองไม่เห็นร่องรอยความเสียใจเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เดินผ่านหน้าอวี๋เยว่หาน ตรงเข้าไป

 

 

ยืนหยุดต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ของตระกูลอวี๋ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น

 

 

ท่าทีที่มั่นใจ สง่างามและยังมีรัศมีของราชินีที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ทำให้เธอดูไม่เหมาะกับอวี๋เยว่หานแม้แต่น้อย แต่ยิ่งทำให้เหมาะสมกันมากที่สุด

 

 

หญิงสาวยืนอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ของตระกูลอวี๋ที่ช่ำชองในวงการธุรกิจ โดยไม่ได้มีท่าหวาดกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

แววตาแฝงประกายความทระนง ที่ทำให้คนไม่อาจมองข้ามได้

 

 

“พวกคุณลุงทุกท่านล้วนเป็นญาติผู้ใหญ่ หนูเหนียนเสี่ยวมู่ถ้าเทียบกับพวกท่านแล้ว ก็ไม่มีความสามารถอะไรจริงๆ ก็แค่ช่วยหาคู่สัญญารายใหญ่บริษัทตระกูลอวี๋ได้แค่สองสามราย แล้วก็เป็นผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์ตัวเล็กๆ เอง”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เอ่ยขึ้นอย่างไม่ยินดียินร้าย

 

 

คำพูดง่ายๆ คำหนึ่ง เหมือนจะยอมถอยให้แต่อีกนัยหนึ่งก็เป็นการเตือนคนทั้งหมดที่นี่

 

 

ทุกแผนกในบริษัทตระกูลอวี๋ต่างก็มีความสำคัญทั้งนั้น หากผู้จัดการแผนกไม่มีความสามารถ ก็ไม่มีทางควบคุมพวกลูกน้องได้หรอก

 

 

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง การที่เจรจาจนได้คู่ค้าของบริษัทเพิ่มมากขึ้นหลายรายแบบนี้

 

 

ระยะเวลาที่หญิงสาวเข้ามาในบริษัท แม้จะไม่นานเท่าไหร่ แต่ว่าภายในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ก็ทำกำไรให้บริษัทได้มากกว่าเหวินหย่าไต้ทำมาทั้งปีด้วยซ้ำ

 

 

เธอ เหนียนเสี่ยวมู่ ไม่เคยเป็นแค่ดอกไม้ประดับ!

 

 

“นี่มัน……” พวกลุงทั้งหลายมองหน้ากันเอง รับรู้ได้ถึงน้ำเสียงประชดของหญิงสาว แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้

 

 

ในบรรดาพวกเขามีสองสามคนที่ถือหุ้นมากกว่าคนอื่นๆ ในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่แล้ว พวกเขายังชื่นชมผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์คนใหม่ว่าเป็นคนมีความสามารถ ให้อวี๋เยว่หานตบรางวัลให้อย่างงาม

 

 

ถ้าเกิดตอนนี้ลุกขึ้นพูดคัดค้านเธอ ก็ไม่เท่ากับเป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง

 

 

ไม่มีใครเอ่ยตอบอะไร มีแค่เหนียนเสี่ยวมู่ที่ยังคงพูดต่อไป

 

 

“ข่าวลือในอินเตอร์เน็ต ในเมื่อบอกว่ามันเป็นข่าวลือก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามันไม่น่าเชื่อถือ เรื่องที่สิงลี่พูด ตอนนี้พวกนักข่าวก็ยังพิสูจน์ไม่ได้เลยว่าเป็นเรื่องจริง พวกคุณลุงทั้งหลายไปได้ยิน ‘ความจริง’ นี้มาจากที่ไหนกันคะ ถึงได้รีบร้อนมาจัดการกับหนูแบบนี้”

 

 

“……”

 

 

“ต่อไป ถ้าเกิดตระกูลอวี๋เอาแต่คิดว่าข่าวลือพวกนั้นเป็นเรื่องจริงหมดแบบนี้ ไม่ต้องพึ่งตัวซวยอย่างฉันหรอกค่ะ ตระกูลอวี๋ก็คงจบสิ้นในไม่ช้าแน่ๆ!”

 

 

“เธอ เธอ เธอ……เธออย่างเธอ กล้าดียังไงมาแช่งตระกูลอวี๋ของเรา!” ผู้มีศักดิ์เป็นลุงที่ยืนขึ้นมาคัดค้านเหนียนเสี่ยวมู่เป็นคนแรก ผุดลุกขึ้นอย่างระงับความโกรธเอาไว้ไม่อยู่

 

 

กำลังจะเดินเข้าไปต่อยเหนียนเสี่ยวมู่ สายตาคมกริบราวกับมีดของอวี๋เยว่หานก็ส่งไปให้เขาเสียก่อน

 

 

เป็นการเตือนอย่างเหลืออด

 

 

ถ้าใครกล้ากล้าแตะต้องเหนียนเสี่ยวมู่แม้แต่ปลายเส้นผม ก็อย่าหวังว่าจะได้เดินออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลอวี๋!

 

 

การกระทำของผู้มีศักดิ์เป็นลุงคนนั้นชะงักไป ได้แต่ระงับความโกรธ พูดเถียงเหนียนเสี่ยวมู่ต่อ

 

 

“เธอพูดมันดูง่ายนะ ตอนนี้หุ้นบริษัทเราตกเพราะเรื่องของเธอ มันยังจะเป็นแค่ข่าวลือธรรมดาอีกไหม ผู้หญิงเก่งเกินไป ก็มีแต่ปัญหา! ผู้หญิงที่กล้าหลอกใช้เสี่ยวลิ่วลิ่วเพื่อให้ได้ตำแหน่งอย่างเธอ จะแกล้งเป็นแม่พระไปทำไม”

 

 

 

 

 

 ตอนที่ 656 ผู้พิทักษ์มาแล้ว!

 

 

“ไม่กล้าเป็นแม่พระหรอกค่ะ แต่ว่าเผอิญเป็นแม่บังเกิดเกล้าของเสี่ยวลิ่วลิ่วก็เท่านั้น” เหนียนเสี่ยวมู่ตอบโต้คำพูดนั้นอย่างสบายๆ

 

 

ประโยคที่โพล่งออกไปนั้น ทำเอาบรรยากาศภายในห้องรับแขกเงียบกริบไปในทันที

 

 

ราวกับไม่เชื่อหูของตัวเอง

 

 

พวกลุงที่เมื่อครู่บอกว่าเหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้ตระกูลอวี๋เลย สู้แม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่วที่อย่างน้อยก็มีลูกให้ตระกูลอวี๋ก็ไม่ได้ ตอนนี้ต่างเป็นใบ้กันไปในทันที

 

 

เบิกตาโพลงทั้งสองข้างจ้องไปที่เหนียนเสี่ยวมู่

 

 

เธอพูดผิด หรือพวกเขาฟังผิดไปกันแน่นะ

 

 

แม่ แม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว?

 

 

ไม่ช้า ก็มีคนได้สติ

 

 

หัวเราะเย้ยหยันออกมา

 

 

“เธอคงบ้าไปแล้วสินะ คำโกหกแบบนี้ก็พูดออกมาได้ ดูท่าแล้ว เธอคงทำได้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้แต่งเข้ามาในตระกูลอวี๋ของเราสินะ กล้าสวมรอยเป็นแม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่วอีกต่างหาก เธอคิดว่าพวกเราจะแก่จนเลอะเลือนจนยอมเชื่อคำพูดเธอหรือไง”

 

 

พอเขาพูดออกไป คนอื่นๆ ก็เหมือนจะเข้าใจขึ้นมาแล้วเอ่ยสำทับ

 

 

“ฉันก็ว่าจะเป็นเป็นได้ยังไง ที่แท้ก็อยากใช้เสี่ยวลิ่วลิ่วเป็นข้ออ้างหลอกเยว่หาน แล้วก็หลอกพวกเราอีก!”

 

 

“ผู้หญิงเจ้าแผนการแบบนี้ ห้ามมาอยู่ในตระกูลอวี๋ของเราเด็ดขาด……”

 

 

คนมีศักดิ์เป็นลุงที่เถียงกับเหนียนเสี่ยวมู่เมื่อครู่ ตอนนี้โกระจนจมูกบิดเบี้ยวไปหมด เดินตรงเข้าไปหาอวี๋เยว่หาน

 

 

“เยว่หาน หลานฟังเอาเองแล้วกัน ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือเปล่า มาถึงขั้นนี้แล้วหลานยังจะปกป้องเธออยู่อีกมั้ย ถ้าเธอกลายเป็นแม่เลี้ยงของเสี่ยวลิ่วลิ่วจริงๆ ต่อไปเสี่ยวลิ่วลิ่วจะใช้ชีวิตอย่างสบายได้ยังไงกัน”

 

 

อวี๋เยว่หานเหล่มองดูเขาแวบหนึ่ง มุมปากยกขึ้นอย่างเย็นชา “เธอไม่มีทางกลายเป็นแม่เลี้ยงของเสี่ยวลิ่วลิ่ว”

 

 

ฮือ

 

 

คนในห้องรับแขกต่างก็คิดว่าอวี๋เยว่หานยอมฟังแล้ว กำลังจะถอนหายใจออกมา ก็ได้ยินชายหนุ่มเอ่ยขึ้นช้าๆ

 

 

“เธอคือแม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่ว”

 

 

ทุกคน “……”!!

 

 

แม่ แม่แท้ๆ?

 

 

หลานชายเย็นชาของพวกเขาพูดล้อเล่นเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

 

 

สายตาทุกคนมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาไร้ความรู้สึกนั่น

 

 

เห็นได้ชัดว่าบนใบหน้าของชายหนุ่มไม่ได้มีแววล้อเล่นเลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น อย่างนั้นเหนียนเสี่ยวมู่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีประโยชน์น่ะสิ อีกทั้งตอนนี้เสี่ยวลิ่วลิ่วยังเด็ก หากแม่แท้ๆ ของเธอถูกพวกเขาไล่ออกไป พอเธอโตขึ้น ก็ต้องเกลียดพวกเขาทุกคนเข้าไส้เป็นแน่……

 

 

ใครไม่รู้บ้างว่า เสี่ยวลิ่วลิ่วเป็นแก้วตาดวงใจของอวี๋เยว่หาน

 

 

ชายหนุ่มทะนุถนอมมาตั้งแต่เล็กยันโต

 

 

ถ้าหากต่อไปถูกเลี้ยงให้กลายเป็นผู้สืบทอด ตอนนี้พวกเขาทำให้เหนียนเสี่ยวมู่ลำบาก คงต้องถูกเธอจดบัญชีเอาไว้แน่ๆ

 

 

พริบตาเดียว พวกลุงที่ดูดุที่สุดสองสามคน ต่างก็เงียบเป็นเป่าสาก

 

 

กำลังลังเลว่าจะคัดค้านต่อไปหรือไม่

 

 

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์กำลังจะเปลี่ยนไป เฉิงซิ่วลู่ก็ระงับความโกรธเอาไว้ไม่ได้

 

 

“เยว่หาน ต่อให้เธออยากจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหน ก็ไม่ควรจะช่วยเธอแต่งเรื่องโกหกแบบนี้ เหนียนเสี่ยวมู่จะเป็นแม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่วได้ยังไง!”

 

 

สิ้นเสียงของเฉิงซิ่วลู่ คนที่เพิ่งเงียบสงบไปเมื่อครู่ก็อึ้งงันไป

 

 

มองไปทางอวี๋เยว่หานอย่างสงสัย

 

 

เฉิงซิ่วลู่เห็นแบบนั้นก็รีบเอ่ยต่อ

 

 

“ทุกคนอย่าโดนเหนียนเสี่ยวมู่หลอกนะคะ ผู้หญิงคนนี้เจ้าแผนการเกินไป ต้องหลอกให้อวี๋เยว่หานช่วยเธอโกหกแน่ๆ หลอกใช้เสี่ยวลิ่วลิ่วเพื่อที่จะได้แต่งงานเข้ามาตระกูลเรา ถ้าเธอเป็นแม่แท้ๆ ของเสี่ยวลิ่วลิ่วจริงๆ ฉันจะตัดหัวของฉันเอามาเป็นเบาะให้ทุกคนนั่งเลย!”

 

 

สิ้นคำพูดนั้น ขณะที่ทุกคนกำลังตัดสินใจไม่ถูก ต่างก็เห็นร่างของคุณนายใหญ่อวี๋ปรากฎตัวอยู่ที่หน้าประตู

 

 

ถือไม้เท้าเดินเข้ามาโดยมีผู้ดูแลคอยประคองอยู่

 

 

ได้ยินคำพูดของเฉิงซิ่วลู่ น้ำเสียงหนักแน่นก็เอ่ยขึ้น

 

 

“พ่อบ้าน ไปเอามีดที่ห้องครัวมาให้เธอ กล้ารังแกเสี่ยวมู่มู่ของฉัน ถ้าวันนี้เธอไม่ตัดหัวของตัวเองออก ฉันจะทำเอง!”