บทที่ 153 เขตต้องห้ามของยอดยุทธ์สูงสุดโบราณการเปลี่ยนแปลงของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยม

จอมบงการเทพยุทธ์

บทที่ 153 เขตต้องห้ามของยอดยุทธ์สูงสุดโบราณการเปลี่ยนแปลงของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยม

“โอ้ สวรรค์… จ้าวแห่งสุขาวดี…”

“นี่คือความแข็งแกร่งของจ้าวแห่งสุขาวดีสินะด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวแต่สร้างความเสียหายให้กับยอดยุทธ์สูงสุดโบราณอย่างหนักไม่น่าแปลกใจเลยที่จะเหนือกว่าจนยอดยุทธ์สูงสุดนั้นถือได้ว่าไม่มีค่าอะไรเลย!”

“ฟ้าดินกําลังเปลี่ยนไป! ตลอดทุกยุคทุกสมัยวิถีแห่งจอมจักรพรรดิได้หายไปยอดยุทธ์สูงสุดโบราณเป็นผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแต่ตอนนี้การปรากฏตัวของจ้าวแห่งสุขาวดีได้ล้มล้างประวัติศาสตร์นี้ลงแล้ว!”

“พลังการต่อสู้เช่นนี้ มันน่ากลัวกว่าจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์เสียอีกตัว

ตนในสมัยโบราณเมื่อหลายล้านปีก่อนทรงพลังมากขนาดนั้นเชียวรึ?

ในขณะนี้ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างก็สั่นสะท้านกับพลังยุทธ์อันเป็นนิรันดร์ของจ้าวแห่งสุขาวดี

แล้วผู้ใดจะสามารถเป็นศัตรูได้?

แม้แต่ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณยังไม่สามารถทําได!

ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งมีชีวิตและวิญญาณทั้งหมดเท่านั้น แม้แต่ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณที่อยู่ในเขต

ต้องห้ามหลายตนในตอนนี้ก็ตกอยู่ในความเงียบกับการเสียชีวิตของยอดยุทธ์สูงสุดหนึ่งราย

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก

จากการโจมตีของฉินมู่ ร่างของยอดยุทธ์สูงสุดโบราณที่เปื้อนไปด้วยเลือดถึงกับพุ่งข้ามพรมแดนของจักรวาล

และยอดยุทธ์สูงสุดโบราณนั้นถูกโจมตีจนพุ่งออกไปโดยไม่มีเวลาแม้จะปลดผนึกพลังยุทธ์

ระดับสูงสุดด้วยซ้ำ

จ้าวแห่งสุขาวดีผู้นี้แข็งแกร่งกว่าจักรพรรดินีแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์จริงหรือ?

ภายในเขตต้องห้ามเหล่ายอดยุทธ์สูงสุดโบราณต่างก็ตกตะลึง

ตัวตนที่มีพลังยุทธ์ดังกล่าวตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ!แม้ว่าจ้าวแห่งสุขาวดีเพิ่งจะเคลื่อนไหวแต่ก็เพียงพอที่จะเห็นถึงความแข็งแกร่งของศัตรู!

“เจ้าได้รับแต้มตกใจ+1999999 จากเหลอหวยจื้อจู่!”

“เจ้าได้รับแต้มตกใจ +1999991 จากฉือฮวง!”

เจ้าได้รับแต้มตกใจ +1999991 จากเซี่ยลี่ ลู่วจี่ เชิ่งหลิง!”

“เจ่าไดรับ…”

เกาะสุขาวดี

ฉินมู่ยืนหันหลัง และมองดูโลกอันกว้างใหญ่

เมื่อมองไปที่ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณที่นองเลือดอย่างน่าสังเวชไกลออกไปในจักรวาลสีหน้า

ของเขาก็ดูเฉยเมย

ความจริงแล้ว นี่เป็นผลจากการสะกดข่มของเขา

ถ้าไม่ใช่เพราะความลับที่ว่ายอดยุทธ์สูงสุดโบราณเหล่านี้ยังมีประโยชน์ในขั้นตอนต่อไปใน

อนาคตและโจมตีด้วยพละกําลังทั้งหมดของเขาในตอนนี้ด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวของเทพยุทธ์มันก็เพียงพอแล้วที่จะทําให้ฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดกลายเป็นเถ้าถ่านด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!

และตอนนี้ ผลลัพธ์ก็ออกมาดี

บรรลุเป้าหมายในการสะกดข่มเขตต้องห้าม และได้รับแต้มตกใจจํานวนมากอีกด้วย

เดิมที หลังจากใช้แต้มตกใจและขึ้นสู่เขตแดนเซียนส่องโลกาฉินมู่มีแต้มตกใจเหลืออยู่ไม่มากนัก

อย่างแรกที่เขาทําคือการทําลายพันธนาการของเผ่าพันธุ์มนุษย์ จากนั้นก็ถือกําเนิดเป็นจ้าวแห่งสุขาวดีและขับไล่ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวทําให้เขตต้องห้ามต่างตกใจ จนในตอนนี้ฉินมู่ได้รับแต้มตกใจเกือบสามร้อยล้านแต้ม!

เขตต้องห้ามทั้งหมดต่างตกตะลึง จากนั้นก็เงียบไป

ฉินมู่หันความสนใจไปที่เขตต้องห้ามโบราณอีกครั้ง

ในตอนนี้ เขตต้องห้ามโบราณที่เงียบสงัด รายล้อมไปด้วยหมอกหนาทึบ

แต่ฉันมู่มองเห็นมันได้อย่างรวดเร็ว และเห็นฉากที่เกิดขึ้นภายในเขตต้องห้ามโบราณ

เขาเห็นรอยแยกอันน่าสะพรึงกลัวซึ่งถูกจู่โจมด้วยฝ่ามือของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญเขายัง

เห็นตําหนักเซียนสําริดอยู่ในรอยแยกนั้น และแม้กระทั่งจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญที่อยู่ในตําหนักเซ๊ยนสําริด

แต่ทว่า สถานะปัจจุบันของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญนั้นค่อนข้างแปลก

แสงนิรันดร์ชั้นแล้วชั้นเล่าพันรอบตัวของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญราวกับหนังสัตว์ที่ห่อหุ้ม

ร่างกาย และดูเหมือนว่านางกําลังจะได้รับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่น่าอัศจรรย์ “นั่นคือจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญจริงๆ….”
ฉินมู่กระซิบกับตัวเอง

เขาแค่สงสัยว่าทําไมจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญไม่เคลื่อนไหวเมื่อเกาะสุขาวดีปรากฏขึ้น

อย่างไรก็ตาม นางมาจากเกาะสุขาวดีและถ้าเกาะสุขาวดีปรากฏขึ้น นางจะต้องเป็นคนแรกที่รู้อย่างแน่นอน

แต่จนกระทั่งฉินมู่จัดการยอดยุทธ์สูงสุดโบราณจนล่าถอยออกไป เขตต้องห้ามโบราณนั้นก็ยัง

คงสงบเป็นอย่างมาก และจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญก็ไม่ปรากฏตัว

ตอนนี้หลังจากที่ฉินมู่ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญกําลังเข้าสู่สภาวะการเปลี่ยนแปลงอันน่าอัศจรรย์

นางกําลังก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวฟื้นฟูพลังยุทธ์ด้วยความแข็งแกร่งในเขตแดนเดิมของนางหากนางยังดําเนินต่อไปแม้ว่าฉินมู่จะไม่มีจิตแห่งเต๋าให้กับนางแต่ก็มีแนวโน้มมากที่นางจะก้าวขึ้นสู่เขตแดนเซียนส่องโลกาและกลายเป็นจักรพรรดินีที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง!

“แน่นอนว่าสิ่งมีชีวิตที่แท้จริงนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาจะไม่แน่นอนแต่จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลาตามวิถีของพวกเขาอย่างแท้จริง…”

ฉินมู่กล่าวอย่างครุ่นคิด

เมื่อสิ่งมีชีวิตที่แท้จริงเติบโตขึ้นพวกเขามีจิตวิญญาณของตัวเอง วิถีชีวิตที่เปลี่ยแปรไปนั้น

เป็นปกติที่ทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามความประสงค์ของฉินมู่

อย่างไรก็ตาม ความสามารถของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญนั้นช่างน่าอัศจรรย์อย่างแท้จริงเมื่อนางปรากฏตัวขึ้นโดยฉินมู่นางมีสายเลือดและวิญญาณเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

แต่ตอนนี้ นางกําลังก้าวไปข้างหน้าด้วยตัวเอง

ฉินมู่ประมาณการณ์ไว้ว่าแม้ว่านางจะไม่มีจิตแห่งเต๋าของจักรพรรดินีอีกต่อไปแต่ถ้าหากจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญยังคงฝึกฝนเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆสักวันหนึ่งนางจะสําเร็จในวิถีและจิตแห่งเต๋า

ของนางจะสมบูรณ์!

“ดูเหมือนว่าตอนนี้แผนที่จะทําให้จักรพรรดินีบรรลุจิตแห่งเต๋ามาถึงก่อนกําหนด”

ฉินมู่แตะที่คางและพูด

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถควบคุมทุกการเคลื่อนไหวจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญได้แต่เขาก็

สามารถมีอิทธิพลทางอ้อมต่อนางโดยผ่านความทรงจําของนางที่เขาสร้างขึ้นได้

อย่างน้อยที่สุดก็รับประกันได้ว่าทั้งสองจะไม่มีวันกลายเป็นศัตรูกัน

และการบรรลุจิตแห่งเต๋าของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญนี้ก็เป็นส่วนสําคัญของแผนนี้

ตอนนี้ดูเหมือนว่า ถึงเวลาที่จะใส่ไว้ในกําหนดการล่วงหน้าแล้ว

หลังจากทุกอย่างจบลงฉินมู่ก็ได้ย้ายเกาะสุขาวดีไปยังพื้นที่ดินแดนลับ

ทุกคนต่างเห็นว่าเกาะสุขาวดีเหนือสวรรค์ทั้งเก้าได้กลับคืนสู่ความว่างเปล่าอีกทั้งจ้าวแห่ง

สุขาวดีก็หายตัวไปเช่นเดียวกัน

ด้วยเหตุนี้จึงทําให้ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณภายในเขตต้องห้ามต่างก็รู้สึกโล่งใจ

แต่ทว่าก็ยังคงมีร่องรอยของความหวาดกลัวอยู่ในสายตาของยอดยุทธ์สูงสุดโบราณที่กําลัง

มองขึ้นไปในสวรรค์ทั้งเก้า

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันได้ทําลายความรู้ความเข้าใจและจินตนาการของพวกเขาจริงๆ

เมื่อสรรพชีวิตทั้งหมดในดินแดนทั้งห้าได้มองไปยังสถานที่ซึ่งไร้ผู้ต่อกรด้วยอารมณ์อันลึกล้ำเกาะสุขาวดีอย่างงั้นรึ?

เกรงว่ามันควรจะเรียกว่าเขตต้องห้ามสุขาวดีเสียมากกว่า

อย่างไรก็ตามเขตต้องห้ามอื่นๆก็เป็นเขตต้องห้ามสําหรับทุกสรรพชีวิตในโลกแต่เขตต้องห้ามสุขาวดีนี้เป็นเขตต้องห้ามสําหรับยอดยุทธ์สูงสุดโบราณ!