พรสวรรค์ด้านค่ายกล!
นี่เป็นพรสวรรค์ที่น่าอัศจรรย์ ค่ายกลหลายรูปแบบในฐานทะเลมารถูกสลักขึ้นโดยปรมาจารย์ค่ายกลบางทีความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาอาจไม่แข็งแกร่งแต่ปรมาจารย์ค่ายกลก็มีความสามารถที่หลากหลายมาก
ค่ายกลสังหาร ค่ายกลป้องกัน ค่ายกลลวงตา ค่ายกลฉนวนกันเสียง ค่ายกลแรงโน้มถ่วงค่ายกลรวมพลังและอื่นๆอีกมากมาย ล้วนถูกสร้างด้วยมือของพวกเขา
เย่เทียนต้องการคัดลอกพรสวรรค์ด้านค่ายกล จุดประสงค์ของเขาไม่ใช่กลายเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกลแต่เขาต้องการสร้างห้องฝึกฝนปราณเพื่อตัวเขาเองด้วยวิธีนี้เขาไม่จําเป็นต้องไปที่หอฝึกตนอีกต่อไป
การหาปรมาจารย์ด้านค่ายกลนั้นไม่ใช่เรื่องยาก คนเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลสําคัญในฐานทัพทะเลมารขุมกําลังใหญ่ๆ มากมายล้วนมีปรมาจารย์ด้านค่ายกลคอยคุ้มกันและที่สํานักงานใหญ่ของหอยุทธก็มีปรมาจารย์ด้านค่ายกลอยู่เช่นกันและยังเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงอีกด้วย
คราวที่แล้ว เย่เทียนได้ตรวจสอบพรสวรรค์ของปรมาจารย์ด้านค่ายกลคนนี้แต่เป้าหมายในการคัดลอกครั้งล่าสุดของเขาไม่ใช่พรสวรรค์ด้านค่ายกลดังนั้นเขาจึงไม่ได้คัดลอกมันวันนี้เย่เทียนจึงเดินทางมายังสํานักงานใหญ่ของหอยุทธอีกครั้ง
“ตรวจสอบ”
พรสวรรค์ในการคัดลอกของเย่เทียนได้ปกคลุมทั่วทั้งหอยุทธและในที่สุดก็พบปรมาจารย์ด้านค่ายกลอีกครั้ง
[มนุษย์: เนี่ย
พรสวรรค์ในการฝึกฝน: สูงสุด
พรสวรรค์ด้านค่ายกล: ระดับสูง ]
“คัดลอก!”
เย่เทียนคัดลอกพรสวรรค์ด้านค่ายกลของอีกฝ่ายอย่างเงียบเชียบ จากนั้นเขาก็ค้นพบผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านดาบระดับสูง
“พรสวรรค์ด้านดาบของเราอยู่ในระดับสูงแล้ว หากเราคัดลอกพรสวรรค์ด้านดาบระดับสูงอีกสองครั้งเราก็จะสามารถยกระดับพรสวรรค์ด้านดาบให้กลายเป็นระดับสูงสุดได้!”
เย่เทียนกล่าวด้วยความสุข
ดังนั้นเขาจึงคัดลอกพรสวรรค์ด้านดาบระดับสูงนี้มา เนื่องจากพรสวรรค์เช่นนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากและไม่ควรพลาด
หลังจากคัดลอกพรสวรรค์ทั้งสอง เป้าหมายของเขาก็สําเร็จแล้ว แต่เขายังไม่ได้จากไปเพราะเขาต้องการหาซื้อตราพื้นฐานด้านค่ายกลและวิธีการสลักค่ายกลรวบรวมลมปราณ
หากต้องการสร้างห้องฝึกฝนลมปราณ เขาต้องสร้างค่ายกลรวบรวมลมปราณเพื่อรวบรวมพลังปราณปฐมแห่งฟ้าดิน
เขาจึงจําเป็นต้องหาซื้อแผนผังค่ายกลรวบรวมลมปราณ และต้องเรียนรู้พื้นฐานการสลักค่ายกลด้วยพรสวรรค์ด้านค่ายกลเพียงอย่างเดียวเขาไม่มีทางสร้างค่ายกลขึ้นมาได้
“ข้าขอถามหน่อยว่าพวกเจ้ามีตราค่ายกลพื้นฐานและแผนผังของค่ายกลรวบรวมลมปราณหรือไม่?”
เย่เทียนเดินไปที่เคาน์เตอร์และถาม
พนักงานสาวคนหนึ่งยิ้มและกล่าวว่า “ท่านปรมาจารย์ที่เคารพ ทางเรามีตําราค่ายกลพื้นฐานอยู่แต่แผนผังค่ายกลรวบรวมลมปราณพวกเราไม่มีขายหากว่าท่านปรมาจารย์ต้องการท่านสามารถเดินทางไปยังสมาคมค่ายกลเพื่อสอบถามจากที่นั้นได้
“สมาคมค่ายกล!”
เย่เทียนเข้าใจแล้ว แผนผังค่ายกลรวบรวมลมปราณน่าจะเป็นแผนผังลับจึงไม่ได้มีขายแก่สาธารณะคงจะมีขายแต่ในสมาคมค่ายกลเท่านั้น
สมาคมค่ายกลก่อตั้งขึ้นโดยปรมาจารย์ค่ายกลของฐานทะเลมาร เป็นองค์กรของปรมาจารย์ด้านค่ายกล
“ดูเหมือนว่าเราต้องเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกลก่อน จากนั้นเข้าร่วมกับสมาคมค่ายกลจึงจะได้รับแผนผังค่ายกลรวบรวมลมปราณ!”
เย่เทียนคิดกับตัวเอง
การเข้าร่วมสมาคมค่ายกลก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะสมาคมค่ายกลนั้นเป็นองค์กรที่ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ นอกจากนี้ปรมาจารย์ด้านค่ายกลเหล่านั้นไม่ได้มีเพียงคนของขุมกําลังใหญ่ๆเท่านั้นแต่ยังมีปรมาจารย์ด้านค่ายกลอิสระอยู่ด้วย
ดังนั้นเขาจึงไม่รังเกียจที่จะเข้าร่วมองค์กรเช่นนี้
“งั้นเอาตําราค่ายกลพื้นฐานมาให้ข้า!”
เย่เทียนกล่าว
พนักงานสาวพยักหน้า
“เจ้าค่ะ ตราค่ายกลขั้นพื้นฐานราคา 50 ล้านหยวน!
เมื่อเย่เทียนจ่ายเงินและรับตําราค่ายกลขั้นพื้นฐานมา จากนั้นเขาก็เดินทางกลับบ้านและเริ่มหลอมรวมพรสวรรค์ทั้งสองกระบวนการหลอมรวมเสร็จสิ้นเขาก็เริ่มศึกษารูปแบบค่ายกลพื้นฐานทันที
เขาเปิดตราค่ายกลพื้นฐานออกมา ในนั้นมีรูปแบบค่ายกลอยู่มากมาย ข่ายอาคมเหล่านี้ราวกับตัวอักษรลึกลับหากคนอื่นมองไม่มีทางจะเข้าใจเว้นเสียแต่ว่าจะมีพรสวรรค์ด้านค่ายกลไม่อย่างนั้นจะไม่มีทางรู้เลยว่าข่ายอาคมเหล่านี้มีประโยชน์อะไร
ดังนั้นเย่เทียนจึงกระตุ้นพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูง
ตูม!!!!!
โลกเบื้องของเย่เทียนหน้าเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ลวดลายแต่ละรูปแบบกลายเป็นแสงและเงาบินออกมาจากตราค่ายกลซึ่งนี่ก็คือโลกของค่ายกล!
“พลัง!”
“จักรพรรดิ!”
“ลวงตา!”
เย่เทียนมองไปที่รูปแบบและเข้าใจความหมายของรูปแบบพื้นฐานเหล่านี้ทันทีและเขาก็รู้ว่ารูปแบบเหล่านี้มีประโยชน์อย่างไร
“ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมต้องเป็นผู้มีพรสวรรค์ด้านค่ายกลเท่านั้นถึงจะกลายเป็นปรมาจารย์ค่ายกลได้หากไม่มีพรสวรรค์ด้านค่ายกลไม่มีทางเลยที่จะทําความเข้าใจรูปแบบอักษรเหล่านี้ได้”
เย่เทียนเข้าใจในทันที
จากนั้นเขาก็เริ่มเรียนรู้การจารึกค่ายกล
การจารึกรูปแบบค่ายกลต้องใช้ปากกาจารึก เลือดของสัตว์อสูรและกระดาษหรือวัสดุที่มีพลังปราณ
เพื่อเตรียมของพวกนี้ เย่เทียนต้องใช้เงินอีกหลายสิบล้าน
สามารถจินตนาการได้ว่าปรมาจารย์ค่ายกลนั้นเป็นอาชีพที่เผาผลาญเงินอย่างแท้จริงหากไม่มีเงินมากพอไม่มีทางทําเช่นนี้ได้ นอกเสียจากว่าเลือกที่จะเข้าร่วมกับกองกําลังใหญ่ๆและใช้ ทรัพยากรของพวกเขา
แต่ในกรณีนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการจํากัดเสรีภาพอย่างมาก
ปรมาจารย์ด้านค่ายกลจําเป็นต้องฝึกฝนและทุ่มเทให้กับการเรียนรู้ หากสําเร็จแล้วการหาเงินก็เป็นเรื่องง่าย
เย่เทียนไม่สนใจเรื่องเงิน เขาซื้อวัตถุดิบจํานวนมากและฝึกฝนรูปแบบค่ายกลอย่างบ้าคลังนอกจากนี้เขายังมีพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงความเร็วในการก้าวหน้าของเขานั้นจึงเร็วกว่าปรมาจารย์ด้านค่ายกลทั่วไปหลายเท่า
ในวันแรก เขาสามารถทําความเข้าใจค่ายกล 10 รูปแบบ ในวันที่ 2 เขาสามารถทําความเข้าใจค่ายกล 8 รูปแบบและในวันที่ 3 เขาเข้าใจอีก 7 รูปแบบ…
ยิ่งช่วงท้ายๆ ของค่ายกลพื้นฐานนั้นจะยิ่งซับซ้อนมากขึ้น นั่นจึงทําให้เขาต้องใช้เวลาในการทําความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
แต่ครึ่งเดือนต่อมา เย่เทียนก็สามารถเข้าใจค่ายกล 50 รูปแบบ แต่ 20 รูปแบบก็นับว่าเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกลระดับเริ่มต้นแล้ว ตอนนี้เขาสามารถเข้าใจค่ายกลถึง 50 รูปแบบนับว่าเป็นปรมาจารย์ค่ายกลที่แท้จริงหากเขามีแผนผังค่ายกลเขาก็สามารถสลักค่ายกลได้แล้ว
“ได้เวลาที่ต้องไปสมาคมค่ายกลแล้ว!”
เย่เทียนเดินออกจากบ้านมุ่งหน้าไปยังสมาคมค่ายกล
หลังจากนั้นไม่นานอาคารที่งดงามก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
“สมาคมค่ายกล!”
ตัวอักษรโบราณห้าตัวสลักอยู่บนแผ่นป้ายของสมาคมค่ายกล
“เป็นอักษรที่งดงามยิ่ง!”
เย่เทียนอุทานออกมา
ที่จริงแล้วนี่ไม่ใช่อักษรธรรมดา แต่เป็นลวดลายอักขระค่ายกลที่หลอมรวมเข้ากับอักษรได้อย่างแยบยล
คนทั่วไปไม่มีพรสวรรค์ด้านค่ายกลดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถสังเกตได้ถึงความลึกลับของอักษรเหล่านี้เมื่อเดินเข้าไปในสมาคมค่ายกลหญิงสาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามา
“ปรมาจารย์ ท่านมีอะไรให้ช่วยหรือไม่?”
หญิงสาวก้มตัวลงทักทายและกล่าวถามอย่างสุภาพ
เห็นได้ชัดว่าเธอคือพนักงานของสมาคมค่ายกล
เย่เทียนมองไปที่พนักงานสาวและพบว่าเธอไม่ได้มีพรสวรรค์ด้านค่ายกล มิฉะนั้นเธอคงจะไม่ใช่พนักงานธรรมดาของที่นี่เช่นนี้
ทันใดนั้น
เย่เทียนใช้พรสวรรค์ในการคัดลอกเพื่อตรวจสอบทั่วบริเวณ ทั่วทั้งสมาคมค่ายกลมีปรมาจารย์ด้านค่ายกอยู่ไม่มากนักมีเพียงยี่สิบกว่าคนเท่านั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับเริ่มต้นและระดับปานกลาง
มันเหมือนกับที่เขาคาดไว้ ปรมาจารย์ค่ายกลที่แท้จริงไม่ได้อยู่ในสมาคมค่ายกลแต่พวกเขาต่างเป็นคนของขุมกําลังใหญ่ๆ
ด้วยเหตุนี้ เย่เทียนจึงไม่ได้มายังสมาคมค่ายกลตั้งแต่แรก แต่เลือกที่จะเดินทางไปยังหอยุทธเพื่อคัดลอกพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงแทน
“ข้าต้องการทดสอบเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกล!” เย่เทียนบอกจุดประสงค์ของเขา
“อา ท่านปรมาจารย์มีพรสวรรค์พิเศษด้านค่ายกลใช่หรือไม่?” หญิงสาวถามอย่างประหลาดใจ
“ใช่!”
เย่เทียนพยักหน้า
“ตกลง ข้าจะนําท่านไปจัดการเรื่องกรอกแบบประเมิน”
หญิงสาวพาเย่เทียนไปจัดการขั้นตอนการประเมินและชําระค่าธรรมเนียม หลังจากนั้นไม่นานเธอก็รีบมาแจ้งกําหนดการทดสอบของเยเทียน
“กําหนดการทดสอบของท่านจะถูกจัดขึ้นในอีก 3 วัน ขอให้ท่านปรมาจารย์เดินทางมาให้ตรงเวลาเพื่อเข้ารับการทดสอบ!”