ตอนที่ 323 ยักษ์ใหญ่ทั้งสองช่วยเหลือกัน

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

ฉินหลิงไม่เงยหน้า “เกม”

“อ่อ” ฉินฮั่นชิวจึงไม่แปลกใจ เขาพยักหน้า “พวกเธอรีบเล่น รออีกสองนาทีก็ได้กินข้าวแล้ว”

กระบวนการครึ่งหนึ่งในคอมพิวเตอร์สำหรับฉินหร่านแล้วไม่ได้เสียแรงสมองเป็นพิเศษ คล้ายกันกับรหัสครึ่งหนึ่งของอวิ๋นกวงกรุ๊ปที่ปล่อยออกมา อีกสักพักฉินหร่านก็ใกล้เสร็จแล้ว

เธอเหลือบมองฉินหลิง จู่ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้ “คัดลอกไว้ไหม”

ฉินหลิงไม่พูดสักคำ ตรงไปหยิบแฟลชไดรฟ์ที่ห้องออกมา

เฉิงเจวี้ยนหยิบชามสี่ใบ ตะเกียบสี่คู่ออกมา เรียงทีละชุดอย่างเรียบร้อย

ตอนที่อาหารทุกอย่างจัดเรียงเรียบร้อย โปรแกรมในมือฉินหร่านก็บังเอิญทำเสร็จพอดี จากนั้นจึงปิดคอมพิวเตอร์และดึงแฟลชไดรฟ์ออก ให้ฉินหลิงนำกลับไปไว้ที่ห้องทำงานของฉินฮั่นชิว

วันนี้ฉินฮั่นชิวทำอาหารทั้งโต๊ะ ตั้งแต่อยู่เมืองหลวง เป็นครั้งแรกที่เขามีความสุขขนาดนี้ รสชาติอาหารเองก็ดีมาก

เขาและเฉิงเจวี้ยนรินไวน์ขาวลงแก้วใบเล็ก คุยไปดื่มไป

ฉินหร่านกับฉินหลิงไม่ดื่มไวน์ กินเสร็จฉินหลิงจึงพาฉินหร่านเข้าไปดูเกมคอมพิวเตอร์ของเขา

“นี่คือที่พี่สาวของพี่ใหญ่เฉิงให้เธอ” ฉินหร่านนำเครื่องเล่นเกมที่เฉิงเวินหรูเตรียมให้เฉิงเจวี้ยนมาไว้ที่ห้อง มอบให้ฉินหลิง

ฉินหลิงเปิดของขวัญ ช่างเป็นเกมที่เหมาะกับเขาซึ่งอายุมากขนาดนี้จริงๆ

ในตอนแรกฉินหลิงเล่นมันอย่างสนใจสิบนาที จากนั้นจึง…เคลียร์ด่านแล้ว

สนุกก็จริง แต่ง่ายเกินไป หลังจากฉินหลิงเคลียร์ทุกด่านก็ไม่อยากเล่นรอบสองแล้ว

ตอนนี้ฉินหร่านเปิดคอมพิวเตอร์ของฉินหลิง

“เคลียร์ได้กี่ด่านแล้ว” เธอชี้ไปที่ไอคอนด้านในหลายสิบ

ฉินหลิงก้มหน้าอย่างเหนียมอายเล็กน้อย น้ำเสียงเบามาก “ชุดแรก”

หนึ่งชุดมีเจ็ดส่วน ล้วนแต่เป็นเกมเพื่อการศึกษาเวอร์ชั่นปรับปรุงที่ลู่จือสิงให้เขาก่อนหน้านี้ บ่ายตอนนั้นฉินหร่านและลู่จือสิงสร้างขึ้น

ครึ่งเดือนก่อนฉินหร่านให้เขา ใช้เวลาไม่ถึงสองวันเคลียร์เกมหนึ่งได้ ฉินหลิงเพิ่งเก้าขวบ ความเร็วระดับนี้ใกล้เคียงที่ฉินหร่านคาดการณ์ไว้

**

ฉินหร่านสอนความรู้ทางการศึกษาชุดหนึ่งให้ฉินหลิงในห้องนอนของเขา ด้านนอก เฉิงเจวี้ยนกับฉินฮั่นชิวยังดื่มกันต่ออีกหนึ่งชั่วโมง สองคนค่อยเก็บถ้วยตะเกียบ

วันนี้ฉินหร่านอยู่ ฉินฮั่นชิวก็เวียนหัว จึงไม่กล้าดื่มมากไป มีเพียงสีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง

ทั้งสองคนรีบเร่งเก็บชาม และใส่ลงในเครื่องล้างจาน จึงออกมา

ตอนที่ฉินฮั่นชิวออกมา เห็นเฉิงเจวี้ยนกำลังถือข้อมูลที่ลุงฉินให้เขา

“เสี่ยวเฉิง พวกนี้คุณอ่านเข้าใจไหม” ฉินฮั่นชิววางผ้ากันเปื้อนในมือ มองเฉิงเจวี้ยนอย่างปวดหัว แต่ก็นึกขึ้นได้ว่า เฉิงเจวี้ยนเป็นหมอ

เขาได้รับการศึกษาแบบท่องจำ อ่านพวกนี้แล้วจึงปวดหัว

เฉิงเจวี้ยนกวาดมองข้อมูล ยิ้มอย่างสบายใจ “พอเข้าใจได้”

“ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยฉันดูหน่อย” ฉินฮั่นชิวตาเป็นประกาย รีบนำกองกระดาษที่ลุงฉินให้เขาไปวางบนโต๊ะ

ลุงฉินต้องการให้ฉินฮั่นชิวสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเองเร็วขึ้น ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะมีความสามารถมากมาย อย่างน้อยก็สามารถชักนำคนใต้บังคับบัญชาได้ กระหายในความสำเร็จ

จนถึงตอนนี้ฉินฮั่นชิว ยังรู้เรื่องราวน้อยมาก

เฉิงเจวี้ยนให้เขานำปากกามาอีกครั้ง และนำกระดาษมาสองสามแผ่น นำข้อมูลแผนธุรกิจของตระกูลฉินวางไว้ด้านข้าง ค่อยๆ จำแนกข้อมูลให้ฉินฮั่นชิว

อาจารย์ที่ลุงฉินเชิญมาให้ฉินฮั่นชิวล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง เฉียบคมมากในตอนแจกแจงปัญหา แต่ฉินฮั่นชิวมักจะฟังเข้าใจอย่างผิวเผิน

แต่ในที่นี้กับเฉิงเจวี้ยน ฉินฮั่นชิวรู้จักว่าปัญหาเหล่านี้เหมือนจะเข้าใจได้ง่ายขึ้นมาก

ทั้งสองคนพูดคุย ตั้งแต่บ่ายโมงครึ่ง พูดคุยกันจนถึงบ่ายสี่โมงครึ่ง

เมฆหมอกในสมองของฉินฮั่นชิวราวกับถูกยกออกไปส่วนหนึ่ง เขามองเฉิงเจวี้ยนอย่างชื่นชม “เสี่ยวเฉิง คุณเก่งกว่าผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ระดับสูงพวกนั้นเยอะเลย คุณไม่ใช่หมอหรอกเหรอ”

“วิชาเอกที่สองของมหาวิทยาลัยคือเศรษฐศาสตร์ครับ” เฉิงเจวี้ยนพับแขนเสื้อ พูดสีหน้านิ่ง

“ไม่แปลกใจ” ฉินฮั่นชิวพยักหน้า มองเฉิงเจวี้ยน ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าหนุ่มคนนี้ใช้ได้

สี่โมงครึ่ง ฉินฮั่นชิวไปวุ่นวายในครัวอีกครั้ง เฉิงเจวี้ยนจึงให้เขาทำอาหารน้อยลงนิดหน่อย

ฉินฮั่นชิวครุ่นคิด ลดอาหารลงอย่างกลั้นใจ

วันนี้เขามีความสุขมาก ตอนค่ำจึงลากเฉิงเจวี้ยนดื่มเหล้าอีกสองสามแก้ว

**

ในขณะเดียวกัน

ตระกูลเฉิง

เทศกาลไหว้พระจันทร์ คนในครอบครัวตระกูลเฉิงรวมตัวกันไม่ถึงครึ่ง

นายท่านเฉิงนั่งที่นั่งหลัก พวกคนในบัญชาถือแก้วไวน์ทยอยมายกแก้วดื่มกันกับนายท่านเฉิง วันนี้นายท่านสวมเสื้อคอจีนสีม่วง น่าเกรงขาม

เฉิงเหราฮั่นคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะอันเปล่งประกายในห้องนั่งเล่น สีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย “พ่อ วันนี้วันไหว้พระจันทร์ น้องชายที่สามก็ไม่กลับมาเหรอ”

“น้องชายที่สามมีธุระอื่น ทำไมพี่ชายใหญ่ถึงใจร้อนนัก” เฉิงเวินหรูยกแก้วไวน์ พูดอย่างไม่เร่งรีบ

ตระกูลเฉิงเป็นครอบครัวทางธุรกิจใหญ่ขนาดนี้ ในชีวิตของนายท่านมีลูกชายสามคน แต่ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลมีเพียงผู้เดียว นอกจากเฉิงเจวี้ยนจะ ‘ทำตัวว่าง’ คนอื่นๆ ก็ต่อสู้กันอย่างร้อนแรงมาเนิ่นนาน

ได้ยินเฉิงเวินหรูพูด เฉิงเหราฮั่นยิ้มเล็กน้อย เขามองเฉิงเวินหรู น้ำเสียงเรียบ “ได้ยินว่าบริษัทของน้องสาวคนที่สองกำลังแข่งขันเพื่อการประมูลครั้งที่สองของอวิ๋นกวงกรุ๊ป จึงได้โอนเงินทุนหมุนเวียนทั้งหมดของบริษัทออกไป ดูแล้ว น้องสาวคนที่สองต้องได้รับการประมูลครั้งนี้”

อวิ๋นกวงกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้ายักษ์ใหญ่ของเอเชีย นี่ไม่ใช่สิ่งที่บริษัทใดในเมืองหลวงจะวัดผลได้อย่างแน่นอน

อาศัยอยู่ในเมืองหลวง อย่างแรกก็ทำการเคลื่อนไหวใหญ่สักสามอย่าง ใครต่างก็อยากร่วมมือกับอวิ๋นกวงกรุ๊ป แค่จับทางนี้ได้ ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น อย่างน้อยก็ไม่มีองค์กรใดกล้าย้ายคุณไปเบื้องหลังอีก

ท้ายที่สุด…ก็จะต่อสู้ทางการเงินกับยักษ์ใหญ่ทั้งห้าของเอเชีย ไล่ทันเกม

“พี่ใหญ่พูดเป็นเล่นไป” เฉิงเวินหรูปัดป่ายมือ ไม่แสดงอาการใด

กินข้าวเสร็จ

เฉิงเหราฮั่นกลับห้องของตัวเอง กลุ่มคนใต้บังคับบัญชารออยู่ก่อนหน้าแล้ว เห็นเขาเข้ามา จึงทยอยลุกขึ้น

“นายใหญ่ พวกเราส่งคนไปดูที่ฐานทัพนั้นแล้ว ตอนนี้มีสองคนต้องการเรียกตัวมาที่ตระกูลเฉิง ใช้การได้” อีกคนถือรายชื่อ โค้งตัวเล็กน้อย

เฉิงเหราฮั่นนั่งลง หยิบชาหนึ่งถ้วย ขยับคิ้วเล็กน้อย “สองคนไหน”

“เฉิงชิงอวี่ คนนั้นที่นายท่านคุ้นเคย ไม่มีสังกัด ยังมีอีกคน ซือลี่หมิง พื้นหลังสะอาด คุณหญิงที่สองยังไม่เคยส่งใครไปติดต่อ” ผู้ใต้บังคับบัญชาตอบอย่างสุภาพ

เฉิงเหราฮั่นพยักหน้าเล็กน้อย “ช่วงนี้คุณหญิงที่สองมีการเคลื่อนไหวอะไรไหม”

“นอกจากไปที่อวิ๋นกวงกรุ๊ป ก็ไปที่นั่นหานายน้อยที่สาม และใช้จ่ายเงินราคาสูงเพื่อเอาคอมพิวเตอร์ภายในให้คุณฉิน…” คนใต้บังคับบัญชาค่อนข้างสงสัย “คุณหนูใหญ่จะชนะการประมูลได้จริงเหรอ คุณฉินผู้นั้น ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ต้อง…”

เฉิงเหราฮั่นขมวดคิ้ว เขาครุ่นคิดสักพัก จึงพูดขึ้น “ไม่ต้อง ใช้เวลาอยู่กับพวกเฉิงชิงอวี่ให้มากหน่อย”

**

เทศกาลไหว้พระจันทร์ผ่านไปหนึ่งวัน

คนทำงานเริ่มงานแล้ว

เขตอวิ๋นจิ่น

ด้วยความช่วยเหลือของเฉิงเจวี้ยน สมองของฉินฮั่นชิวกระจ่างกว่าก่อนหน้านี้มาก แผนการตัดสินใจทั้งสองที่ลุงฉินให้เขา เขาเกือบเข้าใจทั้งหมดแล้ว

ตรงไหนที่ไม่เข้าใจ ก็โทรศัพท์หาเฉิงเจวี้ยน เฉิงเจวี้ยนจะสอนเขาอย่างใจเย็น

ก่อนหน้านี้ใช้เวลาสองวันค่อยอ่านเนื้อหาจบ วันเดียวฉินฮั่นชิวก็เข้าใจได้ชัดเจน

ช่วงเวลาว่าง เขาก็เริ่มจัดเรียงแฟลชไดรฟ์ที่ลุงฉินให้เขา

ข้อมูลในแฟลชไดรฟ์เหล่านี้ ก่อนหน้านี้ลุงฉินก็เคยให้มา ฉินฮั่นชิวคิดว่าเป็นมินิโปรแกรมการสอนตอนก่อนหน้านี้

คิดไม่ถึงว่า เปิดมาดูจะเป็นตัวเลขและสัญลักษณ์กระจัดกระจายอยู่ เขามองอย่างสับสน ดูอย่างงงๆ ทั้งเช้าก็ไม่เข้าใจ

ตอนเที่ยง ลุงฉินมาถึงตรงเวลากับชายคนหนึ่ง

ฉินฮั่นชิวไปเปิดประตู

“คุณดูข้อมูลเสร็จแล้วเหรอ” เห็นคอมพิวเตอร์และแฟลชไดรฟ์ที่จัดวางไว้บนโต๊ะ ลุงฉินชะงัก

ฉินฮั่นชิวพยักหน้า เขาค่อนข้างระมัดระวัง “ใช่แล้ว ลุงฉิน”

ตอนนี้ลุงฉินรู้สึกแปลกใจ เขารับเอาแผนการทั้งสองที่ฉินฮั่นชิวยื่นมา ก้มหน้าดู ดวงตาขุ่นมัวอย่างไม่ใส่ใจในตอนแรกเป็นประกายขึ้นเล็กน้อย ท่าทีสีหน้าก็ดูจริงจังตั้งใจ

อ่านถึงตอนท้าย ลุงฉินวางกับดักฉินฮั่นชิวหลายครั้งอย่างแปลกใจ ทั้งถามคำถามฉินฮั่นชิวอีกสองสามคำถาม ฉินฮั่นชิวค่อยๆ ทยอยตอบทั้งหมด

“ไม่เจอหลายวันเปลี่ยนไปเยอะเลย” ครั้งแรกที่ลุงฉิน มีสีหน้าแสดงออกถึงความประหลาดใจ “นายน้อยที่สอง คุณก้าวหน้าไปมาก”

ราวกับจู่ๆ ก็เข้าใจขึ้นมา

ฉินฮั่นชิวโบกมือทันที ใบหน้าค่อนข้างเขินอาย “ทั้งหมดเหล่านี้เสี่ยวเฉิงสอนฉัน”

“เสี่ยวเฉิง” ลุงฉินได้ยินชื่อใหม่อีกชื่อ

“เป็นหมอ เขาเคยศึกษาเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย” ฉินฮั่นชิวหัวเราะ

ลุงฉินพยักหน้า ค่อนข้างสนใจใน ‘เสี่ยวเฉิง’ คนนั้น มองออกว่า สิ่งที่เสี่ยวเฉิงคนนั้นยกมาล้วนตรงจุด น่าเสียดายที่เป็นหมอ “ถ้าเจอครั้งหน้า ให้คุณถามเขาว่าสนใจมาที่ตระกูลฉินไหม”

“ไว้ฉันจะถาม” ฉินฮั่นชิวพยักหน้า เตรียมรอลุงฉินกลับไปจึงส่งวีแชทถามเฉิงเจวี้ยน

ลุงฉินออกมาดื่มน้ำ ได้ยินประโยคนี้ เหลือบมองฉินฮั่นชิว

“แต่เหล่านี้ที่คุณให้ไม่เสร็จสมบูรณ์” ฉินฮั่นชิวไม่สนใจสายตาของลุงฉิน เขานึกถึงแฟลชไดรฟ์กับคอมพิวเตอร์ ค่อนข้างอับอาย “ฉันอ่านไม่เข้าใจ”

“ไม่เป็นไร” ลุงฉินหยิบแฟลชไดรฟ์บนโต๊ะมา พูดเรียบนิ่ง “ก่อนหน้านี้ให้แฟลชไดรฟ์ไปผิด นี่คือโครงการใหญ่ในบริษัท และกระบวนการระหว่างการผลิต คนในแผนกพัฒนาของพวกเรายังหาวิธีแก้ปัญหาไม่ได้ เดี๋ยวจะนำไปที่สำนักงานใหญ่ตระกูลฉิน”

พูดถึงตรงนี้ สีหน้าของลุงฉินลดลงเล็กน้อย

โปรแกรมเมอร์ภายใต้การควบคุมของนายท่านอยู่ที่นายน้อยคนที่สี่ของตระกูลโอวหยางหมดแล้ว เหลือคนอยู่ในมือไม่มาก โปรแกรมยุ่งยากซับซ้อนเหล่านี้ตัวของนายน้อยคนที่สี่ก็ไม่มีข้อมูล จงใจทำให้ลุงฉินลำบาก

ดังนั้นตอนแรกที่ทิ้งไว้ที่นี่กับฉินฮั่นชิวพวกเขาจึงไม่รีบร้อน ถึงอย่างไรลุงฉินนำกลับไปก็หาทางไม่ได้ ได้เพียงแค่จัดสรรออกไป ไม่นาน จะมีการต่อสู้ฟาดฟัน