ตอนที่ 784 ประธานเชี่ยนออกโรงเอาอยู่

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

“หืม” อวี๋หมิงหลางเหล่มองเลี่ยวฟู่กุ้ย เอาซี้ ไอ้หมอนี่ปกติเห็นดูอึนๆ นึกไม่ถึงว่าจะมีเล่ห์เหลี่ยม เห็นเขาแกล้งหลิวเหมยก็เลยอยากเอาคืนงั้นสิ 

 

 

           หลิวเหมยมองพี่ฟู่กุ้ยด้วยความซึ้งใจ ฟู่กุ้ยพยักหน้าให้เธออย่างมั่นใจ 

 

 

           ก็มีแค่เชี่ยนเอ๋อเท่านั้นแหละที่เอาไอ้วายร้ายตัวนี้อยู่หมัด 

 

 

           จับสลากสองครั้งเป็นอวี๋หมิงหลางหมด ใช้หัวเข่าคิดยังรู้เลยว่าอวี๋หมิงหลางต้องเล่นตุกติกแน่ ให้คนเจ้าเล่ห์เป็นคนทำสลากใครก็มองไม่ออก อีกอย่างอวี๋หมิงหลางก็ร้ายกาจมาก เขาถามใครก็ไม่มีใครเอาชนะได้ ฟู่กุ้ยเลยคิดได้แค่ต้องเอาคนที่ฉลาดพอๆกับอวี๋หมิงหลางไปสู้ 

 

 

           ต่อให้อวี๋หมิงหลางจะเก่งกว่านี้ ยังจะกล้าชนะเสี่ยวเชี่ยนเหรอ 

 

 

           เขากล้าจริงๆ ไม่ใช่แค่กล้า กำลังรอเวลานี้อยู่แล้วด้วย 

 

 

ช่วงสองวันมานี้ป้าใหญ่[1]มาเยี่ยมเมียเขา เขาต้องอดกลั้นจนแทบจะเป็นบ้า ภารกิจเรื่องอาเหม็ดเสร็จสิ้นแล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปเขาก็จะไม่มีเวลาว่างมาอยู่กับเสี่ยวเชี่ยนแบบนี้อีก ถึงตอนนั้นเสี่ยวเฉียงน้อยก็ต้องออกบวชชั่วคราว ถ้ากลางคืนทำเรื่องอย่างว่าไม่ได้ งั้นให้สวัสดิการเล็กๆน้อยๆก็ยังดี 

 

 

สายตาเจ้าเล่ห์ของเขานั้นหนีไม่พ้นสายตาอันเฉียบคมของเสี่ยวเชี่ยน 

 

 

“นายคิดแผนชั่วร้ายอะไรอีก” 

 

 

“ผมกำลังคิดว่า มือเมียผมนี่นุ่มจริงๆ ปากน้อยๆนั่นก็สวย ฮี่ๆ~” 

 

 

โวะ คนอื่นอาจไม่เข้าใจ แต่เสี่ยวเชี่ยนเข้าใจดี ไอ้คนหน้าด้าน 

 

 

“กติกาเดิม เล่นเกมไม่มีคำว่าสามีภรรยา คุณถามแล้วกัน ถ้าภายในสามคำถามทำให้ผมเปลี่ยนสีหน้าไม่ได้ก็ถือว่าแพ้ กลับไปบ้านผมสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ” 

 

 

ปีศาจตัวน้อยในใจของอวี๋หมิงหลางกำลังเท้าสะเอวหัวเราะร่า 

 

 

เวลาแห่งการเปลี่ยนสถานะในบ้านมาถึงแล้ว ในสมองของเขาคิดหาวิธีกลั่นแกล้งเสี่ยวเชี่ยนที่น่ารักได้หลายอย่างแล้ว ฮ่าๆๆ~ 

 

 

ประธานเชี่ยนมองออกทั้งหมด เธอแสยะยิ้มออกมา 

 

 

“ไม่ต้องถึงสามคำถามหรอก แค่สองนายก็แพ้แล้ว กลับไปบ้านฉันสั่งให้ทำอะไรนายก็ต้องทำ” 

 

 

“เยี่ยม เยี่ยมมาก” ฟู่กุ้ย หลิวเหมย สุ่ยเซียนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที พวกเขาชอบดูคู่นี้ฆ่ากันเองนี่แหละ คงมันน่าดู 

 

 

ยังจะมีอะไรสนุกไปกว่าคู่สามีภรรยาที่แสนฉลาดตีกันเอง 

 

 

เร็วเข้า ไม่ว่าจะนางพญาจอมปีศาจหรือจอมเผด็จการชนะ ก็ทำให้คนดูตื่นเต้นทั้งนั้น~ 

 

 

อวี๋หมิงหลางกวาดสายตามองผู้ชมที่รอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อแบบไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้นพลางคิดในใจว่า เดี๋ยวเขาจัดการลูกเชี่ยนก่อนแล้วค่อยทำลายล้างเจ้าพวกนี้ซะ จากนั้นเขาก็หันไปมองเสี่ยวเชี่ยนแล้วแสร้งพูด 

 

 

“เสียวเหม่ย ถึงพวกเราจะเป็นสามีภรรยากัน ผมคอยยอมให้คุณตลอด แต่คุณก็ต้องรู้ว่าผมก็เป็นผู้ชายที่จริงจังมาก ไม่มีทางยอมให้คุณตอนเล่นเกม” 

 

 

“ใครยอมใครยังไม่รู้เลยนะ อย่าพูดมาก กลัวนายฉันก็เป็นแค่ตะกร้า” เสี่ยวเชี่ยนพอได้กินเบียร์เข้าไปเลือดก็สูบฉีดมีพลังเพิ่มขึ้นมาก 

 

 

“จึ๊ๆ กล้าพูดคำหยาบด้วย” อวี๋หมิงหลางเห็นเธอแล้วก็หมั่นเขี้ยว 

 

 

“นั่นเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของคน ไม่ใช่คำหยาบ ถ้าพูดถึงอวัยวะแล้วเป็นคำหยาบงั้นคนเราก็ไม่ควรเกิดมา และพวกเราก็ยิ่งไม่ควรรังเกียจอวัยวะที่ทำให้พวกเราเกิดมาด้วยเหมือนกัน ไปหาว่ามันเป็นเรื่องหยาบคาย ถูกไหม” 

 

 

“ปรบมือ” 

 

 

ผู้ชมพากันปรบมืออย่างพร้อมเพรียง ชมไปพลางนั่งกินเนื้อย่างไป สมกับเป็นประธานเชี่ยน เรื่องทะลึ่งยังสามารถพูดให้มีหลักการได้ คนฉลาดความรู้สูงนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ 

 

 

“เลิกพูดเรื่องไร้สาระ รีบๆเริ่ม” สายตาของอวี๋หมิงหลางคล้ายกับบอกว่า เสี่ยวเชี่ยนแพ้ไปแล้ว 

 

 

ส่วนประธานเชี่ยนก็หนักแน่นดั่งเขาไท่ซาน แสดงความสามารถทั้งหมดออกมา 

 

 

เธอกระแอมออกมา จากนั้นก็ทำสีหน้าจริงจังมากเหมือนเช่นตอนเธอรักษาคนไข้ 

 

 

คำถามแรก 

 

 

“อวี๋หมิงหลางนายรักเฉินเสี่ยวเชี่ยนมากแบบไม่ไหวแล้วใช่ไหม” 

 

 

“ใช่” อวี๋หมิงหลางตะโกนเสียงดังฟังชัด สายตาของเขามองเสี่ยวเชี่ยนอย่างได้ใจ เธอคิดว่าเขาจะเป็นเหมือนฟู่กุ้ยที่หน้าบางยิ่งกว่ากระดาษหรือไง ที่ถามแค่คำถามแบบนี้แล้วจะหน้าแดง 

 

 

จะเป็นไปได้ยังไง เขารักเมียของเขา จะให้เอาโทรโข่งไปตะโกนบอกคนทั้งโลกเขาก็ไม่กลัว อิอิ 

 

 

คิดว่าลูกเชี่ยนจะแน่สักแค่ไหนกัน คำถามแรกง่ายๆแบบนี้เลย 

 

 

ผู้ชมที่นั่งกินเนื้อย่างพากันเซ็ง 

 

 

“เชี่ยนเอ๋อ แสดงฝีมือหน่อยสิ คำถามแบบนี้ล้มเขาไม่ได้อยู่แล้ว” สุ่ยเซียนพูด 

 

 

“นั่นสิ พี่ชายฉันหน้าหนายิ่งกว่ากำแพงเมืองจีน คำถามแบบนี้ไม่มีประโยชน์หรอก” หลิวเหมยเสริม 

 

 

“นี่มันคำถามแจกแต้มชัดๆ” ฟู่กุ้ยทนไม่ไหว 

 

 

นึกว่าจะได้เห็นคู่นี้ตีกันเอง แบบนี้ไม่เห็นสนุกเลย 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนกวาดตามองผู้ชมอย่างนิ่งๆ “ใจเย็น นี่เพิ่งคำถามแรก ยังมีอีกหนึ่ง” 

 

 

เสี่ยวเฉียงที่กำลังได้ใจเวลานี้ฮัมเพลงอย่างสบายใจ อยากให้เธอได้ยินเสียงหัวใจ รักเธอจนอยากให้เธอได้เห็น ไม่กลัวที่จะต้องยอมรับว่ารักเธอหัวปักหัวปำ~ 

 

 

คล้ายกับเห็นภาพคืนนี้เธอบริการสปาเขาอยู่รำไร อุ๊ย จะคิดลามกแบบนั้นไม่ได้ คนมีหน้ามีตาต้องระวังเรื่องความเหมาะสม ก่อนหน้านี้เธอเรียกมันว่าอะไรนะ 

 

 

อ้อใช่ การบำรุงคุณผู้ชาย ก่อนอื่นก็ดูแลตรงช่วงเอว จากนั้นก็ค่อยๆไปที่เสี่ยวเฉียงน้อย 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเหล่มองอวี๋หมิงหลางที่ทำตัวได้ใจใหญ่ คำถามเดียวก็ทำให้เขาเป็นถึงขนาดนี้ 

 

 

“พี่หลางของฉันมีฉายาว่าพี่สองโล พวกเธออยากฟังเรื่องราวของฉายานี้ไหมล่ะ” 

 

 

“อยาก” ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน อวี๋หมิงหลางเริ่มลนลาน ยัยตัวแสบ เรื่องนี้เก็บไว้คุยกันสองคนก็ได้ จะพูดออกมาทำไม 

 

 

เขาร้อนใจมาก แต่ก็สมกับเป็นสไนเปอร์มือวางอันดับหนึ่ง รู้ทันแผนชั่วร้ายของเสี่ยวเชี่ยน ถ้าเขาอ้าปากพูดแบบนั้นเขาก็แพ้สิ 

 

 

“เรื่องนี้ต้องเริ่มเล่าจากวันที่เราไปกินอาหารทะเลด้วยกัน มีครั้งหนึ่งพวกเราไปกินอาหารทะเล เขาอยากกินหอยกูอีดั๊ก พนักงานก็เอาไปชั่งน้ำหนัก สองโลเลยนะ แล้วพี่หลางก็พูดขึ้นมาว่า—” 

 

 

“ผิดกติกา” ในที่สุดอวี๋หมิงหลางก็ทนฟังต่อไปไม่ไหว ยัยตัวแสบนี่เอาเรื่องที่ควรรู้กันแค่สองคนพูดออกมา 

 

 

“นายแพ้แล้ว” เสี่ยวเชี่ยนชี้เขาอย่างได้ใจ 

 

 

“คุณเล่นโกงก่อน ผมให้คุณถามผม แต่ทำไมคุณกลับเล่าเรื่อง” 

 

 

ผู้ชมต่างเห็นอวี๋หมิงหลางหูแดง เบื้องหลังเรื่องนี้มันน่าอายถึงขนาดให้คนอื่นรู้ไม่ได้ขนาดไหนกันนะ 

 

 

“สรุปว่าทำไมพี่ฉันถึงเป็นสองโลล่ะคะ” หลิวเหมยถามด้วยความอยากรู้ คนอื่นๆก็พากันพยักหน้า 

 

 

คราวนี้อวี๋หมิงหลางหน้าแดงหูแดง เขาเห็นเสี่ยวเชี่ยนทำหน้าล้อเลียน “พี่สองโลคะ พี่จะยอมแพ้หรือจะให้ฉันเล่าต่อดีคะ” 

 

 

“ผม แพ้ แล้ว” อวี๋หมิงหลางกัดฟันพูด 

 

 

“แต่พวกเรายังอยากรู้นี่นา พี่สองโลกับหอยกูอีดั๊กเกี่ยวข้องกันยังไง” ผู้ชมต่างอยากรู้ แบบนี้มันค้างคานะ 

 

 

“กินเนื้อย่างไปเลยไป ของกินยังอุดปากพวกเธอไม่ได้อีกเหรอเนี่ย แต่ละคนพอกินอิ่มก็ว่างจัด” อวี๋หมิงหลางอายจนโมโห 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยิ้มไม่พูดอะไร ทิ้งปริศนาไว้ให้ทุกคนคิด 

 

 

หอยกูอีดั๊กหน้าตาเหมือนอวัยวะเพศมาก มีครั้งหนึ่งตอนที่ไปกินข้าวกันสองคน อวี๋หมิงหลางลองสั่งดูด้วยความอยากรู้ เปลือกหอยหนักมาก หอยสองโลได้เนื้ออยู่ไม่ถึงครึ่งโลด้วยซ้ำ พอเอามาขึ้นโต๊ะอวี๋หมิงหลางก็พูดขึ้นมาว่า ไอ้นี่มันใหญ่พอๆกับของเขาเลยนะ หนักเหมือนกันด้วย 

 

 

ตอนนั้นเสี่ยวเชี่ยนตอบเขากลับไปว่า แต่มันมีเปลือกหอยด้วยนะ เสี่ยวเฉียงไม่ยอมเถียงกลับว่า มันมีเปลือกพี่ก็มีไข่ 

 

 

ปรากฏว่าประโยคนี้ก็ได้เป็นที่มาของฉายาพี่หลางสองโลในเวลาต่อมา เสี่ยวเชี่ยนถึงได้พูดว่า บอลของพี่หลางหนักหนึ่งโล รวมไม้ตีด้วยก็เป็นสองโล 

 

 

 

 

 

[1] คำแสลง หมายถึงประจำเดือน