บทที่ 104 ช่องโหว่ทั้ง 7!

Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์

ชายหนุ่มคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกล่าวว่า “การพนันด้วยเงินนั้นน่าเบื่อเกินไปพวกเราไม่สู้เดิมพันด้วยคะแนนกันดีกว่า เมื่อพวกเรากลายเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกลขั้นต้นแล้วพวกเราจะได้รับคะแนน 100 คะแนนจากสมาคมค่ายกลคะแนนนี้ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินมีเพียงการรับภารกิจของสมาคมค่ายกลเท่านั้นจึงจะได้รับมันดังนั้นคะแนนจึงมีค่าอย่างมากข้ามั่นใจว่าข้าสามารถกลายเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกลได้อย่างแน่นอนแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าจะกลายเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกลได้หรือไม่แต่เรามาใช้การเดิมพันเช่นนี้ดีหรือไม่?”

“ตกลง!”

เย่เทียนเห็นด้วย

เขาไม่ได้ขาดเงิน แต่คะแนนเป็นสิ่งที่เขายังขาดอยู่ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าแผนผังค่ายกลรวบรวมลมปราณจะต้องใช้แต้มเท่าไร แต่การได้รับคะแนนเพิ่มก็เป็นเรื่องดี

ชายหนุ่มคนนี้ยินดีที่จะส่งมอบคะแนนให้เขา ทําไมเขาจะต้องปฏิเสธด้วย?

[มนุษย์: เหอตง

พรสวรรค์ในการบ่มเพาะ: ระดับสูง

พรสวรรค์ด้านค่ายกล: ระดับเริ่มต้น]

เย่เทียนมองพรสวรรค์ของเหอตงหนุ่มพลางแอบยิ้มเยาะ

“พรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับเริ่มต้นต่อให้เจ้าศึกษารูปแบบค่ายกลมาอย่างยาวนานแล้วอย่างไรความแตกต่างระหว่างพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงกับพรสวรรค์ค่ายกลระดับเริ่มต้นก็มิอาจแก้ไขได้ด้วยการฝึกฝน”

การทดสอบที่สองเริ่มขึ้น

แผ่นจานค่ายกลแต่ละแผ่นถูกเจ้าหน้าที่หยิบขึ้นมาแจกจ่าย

แผ่นจารขายคนเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นจากวัสดุพิเศษสามารถรองรับการจารึกค่ายกลได้ในขณะที่แผ่นกระดาษปราณสามารถบรรจรูปแบบค่ายกลได้เพียงเท่านั้นไม่สามารถทนต่อพลังของค่ายกลได้

ดังนั้นหากต้องการสร้างค่ายกล ต้องใช้แผ่นจานค่ายกล

“เริ่ม!”

เมื่อเสียงของผู้คุมสอบเฉินเหยาดังขึ้น ผู้เข้าสอบแต่ละคนก็เริ่มสลักค่ายกลทันที

เย่เทียนหยิบปากกาจารึกจุ่มลงในเลือดของสัตว์อสูรและเริ่มจารึก เมื่อพรสวรรค์ของค่ายกลระดับสูงของเขาถูกเปิดขึ้น เขาก็เริ่มสลักรูปแบบค่ายกลแรกไว้จากนั้นเขาสลักลวดลายอีกรูปแบบหนึ่งไว้บนลวดลายพื้นฐานของรูปแบบนี้ด้วยความช่วยเหลือของพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงลวดลายที่อยู่ตรงหน้ากําลังก่อตัวสร้างพื้นที่ค่ายกลฉนวนกันเสียงในพื้นที่สามมิติ
“ตรงนี้ และตรงนี้”

เย่เทียนมีพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูง เขาสามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าจะจารึกค่ายกลอย่างไรรายละเอียดการก่อร่างรูปแบบค่ายกลทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่ผู้มีพรสวรรค์ค่ายกลระดับเริ่มต้นจะเทียบได้

เย่เทียนสลักค่ายกลอย่างต่อเนื่องในที่สุด 20 อักขระค่ายกลก็ถูกจารึกจนเกิดเป็นมิติ

“ยังเหลือขั้นตอนสุดท้าย!”

เย่เทียนคิดกับตัวเอง

หลังจากนั้นเขาก็ส่งพลังปราณเข้าไปในค่ายกล 3 มิติ

ฟูม!!!

แสงบนแผ่นจานค่ายกลเปล่งประกายออกมา ปรากฏเป็นค่ายกลที่เรียบง่าย!

ค่ายกลฉนวนกันเสียงถูกจัดวางเรียบร้อยแล้ว!

เฉินเหยามองเย่เทียนด้วยความประหลาดใจ และแสดงออกถึงความชื่นชม เขาพยักหน้าเป็นสัญญาณให้เย่เทียนไปยืนอยู่ข้างๆ เพื่อรอให้การทดสอบของคนอื่นเส ร็จสิ้น

เย่เทียนมองไปที่เฉินตง และเห็นเฉินตงรู้สึกประหม่ามาก เพราะเขาพบว่าเย่เทียนได้จารึกสําเร็จแล้วในขณะที่เขาจารึกค่ายกลไปได้เพียง 12 รูปแบบเท่านั้น

“ข้าแพ้แล้ว จบสิ้นแล้ว 100 คะแนน ของข้า!”

เฉินตงพูดอย่างสิ้นหวัง

จิตใจของเขาไม่มั่นคง มือของเขาสั่นและจารึกรูปแบบหนึ่งล้มเหลว
เครั้ง!!

แผ่นจานค่ายกลถูกทําลายแสดงให้เห็นถึงการจารึกค่ายกลล้มเหลวการล้มเหลวครั้งแรกมันไม่สําคัญ แต่หากล้มเหลวอีกครั้งจะสูญเสียสิทธิ์ในการทดสอบ

พนักงานคนหนึ่งนําแผ่นจานค่ายกลที่ 2 ออกมาเฉินตงรู้ว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเขาถ้าเขาล้มเหลวอีกเขาจะไม่ผ่านการทดสอบ และค่าลงทะเบียนในการเข้ารับการทดสอบก็ไม่ใช่จานวนน้อยๆ!

นอกจากนี้เขาไม่อาจจะล้มเหลวได้ มิฉะนั้นเมื่อเขากลับไปคงมีหลายคนที่หัวเราะเยาะเขา

“แพ้ก็แพ้ เรื่องต่อจากนี้ค่อยว่ากันทีหลัง!”

เฉินตงเริ่มวางค่ายกลฉนวนกันเสียงอย่างจริงจัง

คราวนี้เฉินตงเริ่มจากค่ายกลอย่างมั่นคง และไม่นานเขาก็ได้จารึกค่ายกลฉนวนกันเสียงเสร็จสิ้น

แม้ว่าเขาจะล้มเหลว 1 ครั้ง แต่เขาก็ไม่ใช่คนสุดท้ายที่จารึกค่ายกลสําเร็จคนสุดท้ายที่จารึกค่ายคนเสร็จคือชายชราหลี่จง

พรสวรรค์ด้านค่ายกลของหลีจงนั้นย่าแย่มาก ดังนั้นความเร็วในการจารึกค่ายกลของเขานั้นจึงเป็นอย่างมากเขาจึงไม่กล้าผิดพลาดแม้แต่น้อยเพราะพรสวรรค์ด่านค่ายกลที่อ่อนแอแทบจะไม่มีทางผ่านการทดสอบเลยหากเขาทําผิดพลาดเพียงเล็กน้อยสุดท้ายเขาจะไม่ผ่านการทดสอบนี้

“ดีมาก ทุกคนผ่านด่านที่สองแล้ว ไม่มีคนที่ล้มเหลวเกินจํานวนที่กําหนดเช่นนั้นเริ่มทดสอบด่านที่สามกันเลย!”

เฉินเหยาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

ด่านที่สามเป็นด่านที่สําคัญที่สุด มันคือการหาช่องโหว่ของค่ายกล เฉินเย่าหยิบแผ่นจานค่ายกลออกมาแผ่นหนึ่งเป็นแผ่นจานค่ายกลที่ได้รับการจารึกเรียบร้อยแล้ว

จากนั้นเฉินเหยาก็เปิดจานค่ายกลและล้อมรอบห้องโถงทั้งหมด ณ จุดนี้เองทุกคนก็ถูกปกคลุมด้วยค่ายกล

“ค่ายกลระดับเริ่มต้น!”

เย่เที่ยนรู้สึกถึงระดับของค่ายกล มันไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก หากว่ามันเป็นกับดักเขาสามารถทําลายค่ายกลนี้ได้อย่างง่ายดาย

แต่การทดสอบในวันนี้ไม่ได้เพื่อทําลายค่ายกล แต่เป็นการหาช่องโหว่ของค่ายกล

“ค่ายกลชุดนี้เป็นค่ายกลที่กักขังระดับต่า แต่เนื่องจากความผิดพลาดในการจารึกแม้จะสามารถสร้างค่ายกลได้สําเร็จ แต่มันก็ยังมีช่องโหว่อยู่อีกหลายจุดใครก็ตามที่สามารถหาช่องโหว่ของค่ายกลชุดนี้ได้ คนผู้นั้นจะกลายเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกลขั้นต้นและได้รับรางวัล 100 คะแนนในทางกลับกันหากหาผิดหนึ่งจุดก็จะถูกหัก คะแนน 100 คะแนนทุกคนอย่าประมาทไม่งั้นถ้าหากพบเจ้าตรวจสอบผิดพลาดจนคะแนนเหลือ 0 ก็จะถือว่าไม่ผ่านการทดสอบในครั้งนี้เวลาทดสอบครึ่งชั่วโมง!”เฉินเหยาแนะนํา

เย่เทียนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้น

การหาช่องโหว่เพิ่มเติมจะได้รับ 100 คะแนน ซึ่งเขาต้องการคะแนนอยู่พอดี

เมื่อเฉินเหยาประกาศเริ่มทดสอบ เย่เทียนก็เปิดพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับสูงทันที
ฮ่ม!!!

ค่ายกลทั้งหมดกลายเป็นภาพ 3 มิติในสายตาของเย่เทียน มีรูปแบบค่ายกลประมาณ 50 รูปแบบที่ถูกสร้างขึ้นในภาพ3 มิตินี้

เขาเหลือบมองไปยังรูปแบบของค่ายกลและตรวจหาช่องโหว่

“ข่ายอาคมนี้ไม่ลงรอยกันกับข่ายอาคมนี้ มันผิดพลาดในขณะจารึก!

“อันนี้ก็ผิด ต้องบันทึกไว้!”

“เอ๋? ที่นี่ควรจะเป็นค่ายกลอีกแผ่นนึงถึงจะถูกต้อง เขาคงจะสลักผิดแม้ว่าค่ายกลทั้งสองนี้จะคล้ายคลึงกันมากและมีระยะห่างกันเพียงนิดเดียวแต่การจารึกผิดพลาดเช่นนี้พลังค่ายกลทั้งหมดจะลดลงอย่างน้อย 10% เราต้องบันทึกไว้”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป และการทดสอบก็สิ้นสุดลง

เย่เทียนยิ้มเพราะเขาพบช่องโหว่ถึงเจ็ดจุด และมั่นใจว่าเขาไม่ได้ทําผิดพลาด

อีกด้านหนึ่ง

ชายชราหลีจงหน้าซีดเผือด เขาหาไม่เจอแม้แต่จุดเดียว

เย่เทียนสังเกตเห็นสีหน้าของหลี่จง เขารู้ว่าชายชราคนนี้ล้มเหลว แต่ในใจของเขาเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

พูดง่ายๆก็คือปัญหาเรื่องพรสวรรค์ พรสวรรค์ที่อ่อนแอไม่สามารถสังเกตพื้นที่ค่ายกลที่สมบูรณ์ได้แม้แต่รูปแบบค่ายกลก็ยังมองไม่เห็น แล้วจะหาช่องโหว่มันได้อย่างไร?

ดังนั้นด่านที่สามจึงเป็นการคัดกรองพรสวรรค์ แต่ชายชราไม่เข้าใจเหตุผลนี้และไม่มีใครมาเตือนเขา

อย่าว่าแต่การทดสอบร้อยครั้งเลย ต่อให้เป็นการทดสอบนับหมื่นครั้ง ตาเฒ่าหลี่จงก็อย่าได้คิดว่าจะสอบผ่าน

นี้คือยุคของพรสวรรค์ พรสวรรค์เป็นตัวกําหนดทุกอย่าง ตาเฒ่าหลีจงไม่ได้มีพรสวรรค์ในการเป็นปรมาจารย์ด้านค่ายกล ต่อให้พยายามมากแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์นอกเสียจากว่าเขาจะสามารถหาสมบัติที่ยกระดับพรสวรรค์ด้านค่ายกลได้

“เขียนช่องโหว่ลงบนกระดาษ แล้วส่งมาให้ข้าที่ละคน!”

เฉินเหยาเก็บแผ่นจานค่ายกลแล้วพูด

เย่เทียนและคนอื่น ๆ เขียนช่องโหว่ที่ละคน และชายชราหลีจงก็เขียนช่องโหว่ไว้แต่เขาแค่เดาสุ่มเพราะนี่เป็นวิธีหนึ่งถ้าเกิดเขาเดาถูกขึ้นมาล่ะ?
แต่ความเป็นไปได้นี้ก็ต่ําเกินไป!

หลังจากเขียนเสร็จ ทุกคนก็ยื่นกระดาษให้เฉินเหยา
หลังจากนั้น

ปรมาจารย์ด้านค่ายกลขั้นกลางเฉินเหยาก็เริ่มประกาศ