ตอนที่ 325 โชคดีที่ได้เจอยักษ์ใหญ่ แฟลชไดรฟ์ของพ่อบ้านตระกูลฉิน!

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

หลายคนต่างมาแสดงความยินดีล่วงหน้า

น้ำเสียงของนายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินถ่อมตัวและสุขุม “อวิ๋นกวงกรุ๊ปยังไม่ได้ลงข้อสรุป ทุกอย่างเร็วเกินไป”

ไม่ไกลนัก ฉินหร่านกำลังหยิบเอาหูฟังออกมาจากกระเป๋าอย่างเชื่องช้า ไม่รู้ว่าได้ยินอะไรไป เธอหันไปมองทางด้านนั้น

ไขว่ห้าง ยิ้มอย่างใจเย็น

“มีอะไรเหรอ” เฉิงเวินหรูใส่ใจท่าทีของเธอเป็นอย่างมาก

ฉินหร่านสวมหูฟังเข้าที่หู เปิดเพลง พิงพนักเก้าอี้ “แค่ได้ยินเรื่องตลก”

เก้าโมงครึ่ง

ผู้จัดการที่รับผิดชอบงานประมูลของอวิ๋นกวงกรุ๊ปถือสัญญาออกมา

เขายืนอยู่ด้านหน้าสุด เยื้องด้านข้างเล็กน้อย เอื้อมมือไป ภาพฉายสี่มิติปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง เขาหันตัวมา โค้งลงเล็กน้อย น้ำเสียงมั่นใจและมีพลัง “ฉันคือหัวหน้าบรรณาธิการแผนกไอที ชื่อหยาง …”

ตอนที่พูด สายตาของเขากวาดมองผู้จัดการองค์กรหลายสิบคนกำลังเสนอราคาโดยไม่รู้ตัว ตอนที่สายตากวาดมองตำแหน่งที่ห้าของแถวแรก เสียงของเขาก็กระตุกทันที

“…?!”

ใบหน้านั้น…

เขาต้องพูดยังไง…?

ตอนที่นั่งลง ฉินหร่านวางหมวกลงบนเก้าอี้ด้านข้าง และตอนนี้สวมหมวกอีกครั้งใบหน้านิ่ง

นิ้ววางนาบลงบนพนักแขนด้านข้าง เคาะเบาๆ ข้อต่อนิ้วมือเห็นชัด ขาวประกาย

เฉิงเวินหรูเหลือบมองฉินหร่าน เธอเคยได้ยินเฉิงมู่พูดว่า ฉินหร่านนิสัยไม่ค่อยดี เกลียดเสียงดังเป็นที่สุด แม้ว่าจะสองเดือนกว่า เฉิงเวินหรูก็ไม่เห็นว่าฉินหร่านจะนิสัยไม่ดีตรงไหน

เห็นฉินหร่านแบบนี้ เธอพูดเสียงเบา อย่างเอาใจ “รออีกสักหน่อยพวกเราไปกัน เธอดูการฉายภาพบริษัทของพวกเขา สมจริงมาก หาดูที่อื่นไม่ได้”

เธอรู้สึกว่าฉินหร่านอาจจะอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว แทบจะอดกลั้นอารมณ์ไม่อยู่

วันนี้เฉิงเวินหรูพาฉินหร่านมา ยังหมายถึงการพาฉินหร่านมาดูการฉายภาพสี่มิติ

ครั้งแรกที่เฉิงเวินหรูเห็นสิ่งนี้รู้สึกน่าทึ่งมาก

ฉินหร่านตอบกลับเสียงเบา “ขอบคุณ”

เธอเงยหน้ามองเล็กน้อย หยางเซ่าฉีกำลังเลื่อนบทความ ราวกับรู้สึกได้ถึงสายตา นิ้วแข็งทื่อ ตอนที่เลื่อนหน้าจอฉายภาพ มือสั่นเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด

“หยาง หยางเซ่าฉี” ในที่สุดหยางเซ่าฉีก็แนะนำตัวเองเสร็จ ไม่กล้ามองที่แถวแรกอีก

เขาเลื่อนมือไปที่ช่องว่าง เลื่อนบทความทีละหน้า จากนั้นจึงหยุดลงที่หน้าจอผลิตภัณฑ์

ใบหน้าหันตรง แนะนำอย่างเป็นทางการ ละเอียด และพิถีพิถัน

ราวกับทำการรายงานให้ผู้นำ

หลังจากแนะนำไป หยางเซ่าฉีจึงเปิดข้อมูล โล่งใจเล็กน้อย “จากตัดสินใจของสำนักงานหลัก ผู้ได้รับเลือกการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้คือ…”

ตรงที่นั่ง นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินจัดแจงเสื้อผ้าอย่างใจเย็น พยายามลดมุมปากลง แต่ดวงตากลับมีรอยยิ้มชัดเจน

เฉิงเวินหรูถือกระเป๋าสะพายไหล่ที่ข้างมือเรียบร้อย เตรียมจะออกไป

“ประธานเฉิง เฉิงเวินหรู” หยางเซ่าฉีประกาศจบ มองไปยังทิศทางของเฉิงเวินหรู ถอนหายใจโล่งอก

รอยยิ้มของนายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินนิ่งเล็กน้อย

“ขอแสดงความยินดีกับคุณหนูใหญ่ด้วย” นักลงทุนคนอื่นในสนามก็ตอบรับเช่นกัน แม้ว่านายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินจะเก่งเหนือกว่าคนอื่นในสนาม แต่ไม่ยากจะเข้าใจที่อวิ๋นกวงกรุ๊ปเลือกเฉิงเวินหรู

ถึงอย่างไรเฉิงเวินหรูก็เป็นคนตระกูลเฉิง

เฉิงเวินหรูชะงักไปเพียงสามวินาที จึงจัดการท่าทีอย่างรวดเร็ว รับไว้ด้วยท่าทีของคุณหนูใหญ่ เต็มไปด้วยออร่า

ยกมือขึ้น ขอบคุณผู้คนอย่างเป็นทางการ

หยางเซ่าฉีทักทายนักลงทุนคนอื่นเสร็จ จึงเดินมาทางนี้อย่างสุภาพ ระมัดระวัง “คุณเฉิง กรุณามาทางนี้ พวกเราต้องเซ็นสัญญาใหม่”

เฉิงเวินหรูจับมือกับหยางเซ่าฉี จากนั้นมองฉินหร่าน “หร่านหร่าน เธอกลับขึ้นรถไปรถก่อน อีกสิบนาทีฉันจะออกมา”

อวิ๋นกวงกรุ๊ปควบคุมคนเข้ามาอย่างเข้มงวด เฉิงเวินหรูเข้าใจดี

หยางเซ่าฉียิ้มเล็กน้อย เขาตอบอย่างอ่อนโยน “คุณเฉิง วันนี้อวิ๋นกวงกรุ๊ปเปิดรับทุกคน คุณหญิงท่านนี้เข้าไปด้วยกันกับคุณได้”

งั้นเหรอ

เฉิงเวินหรูชะงักเล็กน้อย ตอนมาครั้งก่อน ต้องลงชื่อจึงจะเข้าไปได้ ทำไมวันนี้กฎเปลี่ยนไปแล้วล่ะ

แต่ตอนนี้เฉิงเวินหรูคิดมากไม่ได้ เธอเดินตรงไปทางลิฟต์กับหยางเซ่าฉี

หยางเซ่าฉีรูดบัตร เข้าไปยังชั้น 28

เฉิงเวินหรูมองชั้นอาคาร หรี่ตาเล็กน้อย ส่วนมากเข้ามาครั้งที่แล้วเหมือนจะเป็นชั้นสอง…

ชั้น 28 เงียบมาก หยางเซ่าฉีถือสัญญาตรงมา ไม่มีการยืดเยื้อแม้แต่น้อย

เฉิงเวินหรูกวาดตามองหนึ่งรอบ ไม่แตกต่างจากวรรคของข้อมูลก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝ่ายลงนามกันอย่างเป็นระเบียบ

กระบวนการทุกอย่างไม่ถึงสิบนาที

“ใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว” หยางเซ่าฉีลุกขึ้น จับมือทำสัญญากับเฉิงเวินหรูอย่างมีความสุข ท่าทางเป็นสุภาพบุรุษ “คุณเฉิงรับเป็นเกียรติทานข้าวไหม”

โอกาสเช่นนี้หายาก ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เฉิงเวินหรูไม่ปฏิเสธ

“ขอประทานโทษ ผู้อำนวยการหยาง ฉันต้องพาเด็กไปชมวิวของเมืองหลวง ตอนเช้าพูดไว้แล้ว” เฉิงเวินหรูยื่นมือกลับ แสดงความเสียใจ “ครั้งหน้ามีโอกาส ฉันเลี้ยงผู้อำนวยการหยาง”

ผู้อำนวยการหยางพูดขึ้นทันที “ไม่เป็นไร เรื่องของคุณสำคัญ”

เขาพูด และส่งเฉิงเวินหรูที่รถด้านล่าง

เฉิงเวินหรูกล่าวลาหยางเซ่าฉีอย่างใจเย็น รู้สึกแปลกใจ

หยางเซ่าฉีในวันนี้…

เหมือนจะกระตือรือร้นเกินเหตุมากไป

ประตูทางเข้าอวิ๋นกวงกรุ๊ปไม่ไกลนัก รถที่รอเฉิงเวินหรูขับออกไปแล้ว หยางเซ่าฉีจึงปาดเหงื่อทั่วหน้า

“ผู้อำนวยการ” ผู้ช่วยข้างเขาถาม “คุณไม่เป็นไรนะ?”

“ไม่เป็นไร” หยางเซ่าฉีส่ายหน้า เขาถอนหายใจโล่งอก

คนที่กล้าเรียกคุณฉินว่า ‘เด็ก’…หยางเซ่าฉีรู้สึกว่าล้วนแต่ต้องเป็นยักษ์ใหญ่

อีกด้านหนึ่ง บนรถ

เฉิงเวินหรูพลิกสัญญา ดวงตาเรียวยกสูงเลิกขึ้นเล็กน้อย “ผู้อำนวยการหยางไม่ได้เลือกตระกูลฉิน…”

เลขาหลี่ที่ขับรถก็รู้สึกแปลกใจ “คุณเฉิง พวกเราโชคดีจริงๆ”

“นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินเป็นพันธมิตรกับตระกูลโอวหยาง ฉันคิดว่าไม่ว่าจะทางไหน พวกเขาล้วนแต่ได้เปรียบ”

เฉิงเวินหรูปิดสัญญา

ฉินหร่านไขว่ห้าง เปิดโทรศัพท์เล่นเกม เพียงเอียงหัวเล็กน้อย เลิกคิ้ว

เฉิงเวินหรูนึกขึ้นได้ว่าฉินหร่านเรียนฟิสิกส์ น่าจะไม่ชอบฟังเรื่องแบบนี้ คาดว่าไม่น่าจะเข้าใจจริงๆ เธอจึงหยุดบทสนทนาทันที เปลี่ยนหัวข้อ

ถามถึงน้องชายว่าชอบเครื่องเล่นเกมหรือเปล่า

ฉินหร่านมือแตะที่หน้าผาก “ชอบมาก เพียงแต่เกมง่ายไปหน่อย”

สิบนาทีก็ผ่านด่านแล้ว

“งั้นเหรอ” เฉิงเวินหรูเดาว่าฉินหลิงเหมือนฉินหร่าน ชอบเกมเหมือนกัน ครั้งหน้าต้องไปหาเครื่องเล่นเกมระดับยากขึ้นแน่นอน

**

สำนักงานหลักตระกูลฉิน

นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินกลับมา

สีหน้าของเขาชัดเจนว่าไม่ได้ดีมากนัก คิ้วขมวดเล็กน้อย

เลขาอิ่นก้าวรองเท้าส้นสูงตามไปอย่างรวดเร็ว “คุณฉิน พ่อบ้านตระกูลฉินและคนอื่นๆ ยังรอคุณอยู่ที่ห้องประชุม”

นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินหยุดฝีเท้า เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมา คาบไว้ “ยังไม่กลับเหรอ”

ความอดทนสูงมาก

“ตั้งแต่แปดโมงถึงตอนนี้ รอมาสามชั่วโมงแล้ว” เลขาอิ่นทยอยรายงาน

“ได้ ให้คนของแผนกเทคนิคเตรียมตัวสักหน่อย พวกเราไปพบพ่อบ้านตระกูลฉิน ครั้งนี้เขาต้องการส่วนแบ่งเท่าไหร่” นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินหมุนตัว ถือบุหรี่เดินตรงไปทางห้องประชุม

ในห้องประชุม

พ่อบ้านตระกูลฉินนั่งข้างฝั่งซ้ายของตำแหน่งผู้นำ ดวงตาปิดเล็กน้อย ไม่สะทกสะท้านสิ่งใด ผ่านไปพักหนึ่งก็ไม่ได้สื่อถึงความหงุดหงิด

อาเหวินที่ยืนอยู่ข้างเขา

พลั่ก

ประตูห้องประชุมถูกคนข้างนอกผลักออก นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินและคนอื่นๆ ทยอยเข้ามา

เขานั่งลงที่นั่งตำแหน่งตรงกลาง มองไปทางพ่อบ้านตระกูลฉิน “พ่อบ้านตระกูลฉิน ขอประทานโทษ ให้คุณรอนานแล้ว”

พูดถึงขนาดนี้ ในน้ำเสียงของเขากลับไม่ได้สื่อถึงความรู้สึกเสียใจสักนิด

คนของแผนกเทคนิคก็ทยอยนำแฟลชไดรฟ์กับข้อมูลเข้ามา

“เริ่มกันเลย” นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินมองทางพ่อบ้านตระกูลฉิน “พ่อบ้านตระกูลฉิน ในนี้คุณอาวุโสที่สุด คุณต้องการเริ่มก่อนไหม”

อาเหวินที่ยืนอยู่ด้านหลังพ่อบ้านตระกูลฉินเม้มปาก งอนิ้วอย่างเกลียดชัง นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินผูกขาดห้องทำงานของตระกูลฉิน ลูกมือคนเก่าแก่ที่มีความสามารถของพ่อบ้านตระกูลฉินล้วนถูกเขาเอาไป ได้ นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินยังจะมาแกล้งถามอีกเหรอ!

สีหน้าพ่อบ้านตระกูลฉินกลับไม่แสดงความโกรธเคืองแม้แต่น้อย เขายังคงยิ้มอย่างสงบ “นายท่านที่สี ท่านเริ่มก่อน”

ผลลัพธ์นี้เป็นไปตามที่นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าอยู่แล้ว

พ่อบ้านตระกูลฉินนำเนื้อหามาได้หรือไม่ ไม่มีใครเข้าใจดีไปกว่านายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉิน เขาแสร้งทำเป็นยิ้มมองไปยังท่าทีสงบนิ่งของพ่อบ้านตระกูลฉิน จากนั้นจึงให้หัวหน้าแผนกเทคนิครายงานสถานการณ์

หัวหน้าแผนกเทคนิคถือแฟลชไดรฟ์กับข้อมูล นำเครื่องจำลองขึ้นบนเวที

นี่คือปัญญาประดิษฐ์ส่วนหนึ่งที่เปิดเผยสู่สาธารณะซึ่งยักษ์ใหญ่วงในอวิ๋นกวงกรุ๊ปเผยแพร่ผ่านอินเทอร์เน็ตเมื่อก่อนหน้านี้ ต่อหน้าทุกองค์กรไอทีไม่ได้พูดถึง แต่ล้วนแอบศึกษาส่วนนี้อย่างลับๆ

ไม่เว้นแม้แต่ตระกูลฉิน

เพียงแต่โค้ดด้านในคลุมเครือมากไป น้อยองค์กรที่จะศึกษาได้ในระยะเวลาอันสั้น

นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินมีความคืบหน้าเพียง 80% แต่เหล่านี้ก็มากกว่าระบบที่อยู่ในกระบวนการระหว่างการผลิตของพ่อบ้านตระกูลฉิน

พนักงานแผนกเทคนิคพูดจบ นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินเคาะมือที่โต๊ะ เงยมองพ่อบ้านตระกูลฉิน “พ่อบ้านตระกูลฉิน ถึงตาของคุณแล้ว”

พ่อบ้านตระกูลฉินเงียบไปครู่หนึ่ง เขายึดเอาแฟลชไดรฟ์ในมือ เหลือบมองไปที่พนักงานโปรแกรมเมอร์เก่าแก่สามคนที่นั่งอยู่แถวเดียวกับเขา

คนอื่นไม่พูดอะไร คนตรงกลางที่ยังมีกลิ่นไวน์อยู่เล็กน้อยรับไป “ฉันเอง พ่อบ้านตระกูลฉิน”

เขาหยิบแฟลชไดรฟ์ที่พ่อบ้านตระกูลฉินยื่นให้ เดินไปหน้าเครื่องฉายสไลด์ เสียบเข้าโดยตรงที่คอมพิวเตอร์

นายท่านคนที่สี่ของตระกูลฉินไม่ได้มองเขา เพียงก้มหน้าดื่มชา แอบยิ้มที่มุมปาก…

มองคนดิ้นรนก่อนตาย