บทที่ 234 เบื้องหลัง

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 234 เบื้องหลัง
คนหมู่มากถอนใจกัน ในสายตาส่อความเร้าใจ

ศึกครั้งนี้สวยงามมาก!

ไม่เพียงได้โอกาสเค้นหนอนบ่อนไส้อย่างจี้เจิน หลี่ชุน แล้วยังได้กำจัดคู่ปรับตระกูลหลี่ และตระกูลเจี่ยสองพยัคฆ์ที่คอยขย้ำเหยื่อในคราวเดียวด้วย

นับจากนี้ไป หนานเจียงก็จะเหมือนถังเหล็กใบหนึ่ง อยู่ในกำมือของตระกูลอันอย่างสิ้นเชิง

เรียกได้ว่า ชนะราบคาบ!

“ส่วนพ่อบ้านจี้——” หูปินขมวดคิ้วเอ่ยว่า: “เขาเป็นคนเก่าแก่ที่ติดตามนายท่านมาหลายปี”

“เชิญนายท่านเป็นผู้จัดการลงโทษเถิด”

“ฆ่าเขาซะ!”

“คนเหี้ยมโหดอำมหิต!”

“สับเป็นชิ้น ๆ แล้วเอาเนื้อให้หมากิน!” คนหมู่มากตระกูลอันพากันโกรธแค้นร้องตะโกนอีกครั้ง

จี้เจินส่งเสียงร่ำไห้ คุกเข่าลงตรงหน้าอันกั๋ว น้ำตานองหน้า

“นายท่าน ไว้ชีวิตด้วย!”

“เห็นแก่ที่ผมติดตามท่านด้วยความภักดีมาหลายปี โปรดไว้ชีวิตผมด้วยเถิด!” พูดจบก็ร้องไห้ครวญคราง

เขาเคยติดตามอันกั๋ว ร่วมเป็นร่วมตาย เป็นสิงห์ร้ายในสนามรบ ขึ้นชื่อว่าเป็นมือสังหาร

เห็นความเป็นความตายมานักต่อนัก

เคยคิดว่า เขาเห็นความเป็นความตายจนชินชา จึงไม่มีอะไรต้องกลัว

แต่ว่า เมื่อความตายมาตรงหน้าในยามนี้ เขาถึงพบว่า ที่เขาเห็นจนชินชาเป็นแค่ความตายของคนอื่น

ไม่ใช่ของเขา

แม้บุตรชายคนเดียวต้องตายอย่างอนาถ เขามีชีวิตอยู่ต่อไปก็ไร้ความหมาย

แต่เขา ยังไม่อยากตาย

เขาอยากมีชีวิตอยู่

ในสายตาของอันกั๋ว ก็มีความอดไม่ได้

พูดด้วยเสียงขรึมว่า: “อำนาจเงินทอง เป็นของดี นายไขว่คว้าของเหล่านี้ ฉันก็ไม่ถือโทษหรอก”

“แม้นายจะหักหลังฉัน ฉันก็ไว้ชีวิตนายได้”

“เพียงแต่ว่า ไม่ว่ายังไงก็ตาม นายไม่ควรหลอกใช้หรูยู่”

“นายก็รู้ว่าฉันเห็นหรูยู่เหมือนหลานสาวแท้ ๆ นายบีบคั้นให้เธอแต่งกับลูกชายที่ไม่เอาถ่านของนาย แล้วนายได้คิดถึงความรู้สึกของเธอมั๊ย?”

“พอพูดถึงข้อนี้ ฉันก็ไม่สามารถอภัยให้เธอได้”

จี้เจินทรุดตัวลงกับพื้น

เขารู้ว่า นายท่านพูดออกมาแบบนี้เขาไม่มีทางรอดแน่

ทว่า เขาไม่ยอม!

อยู่ ๆ เขาก็เห็นยู่หลิงหลงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อานกั๋ว

ฉุกคิิดบางอย่างขึ้นมาได้ก็ลนลานพูดเสียงดังขึ้นมาว่า: “นายท่าน ผมทำคุณไถ่โทษได้!”

“ขอแค่คุณไว้ชีวิตผม ผมมีความลับที่ยิ่งใหญ่จะบอกคุณ!”

“จริง ๆ ความลับนี้ เกี่ยวข้องความเป็นความตายของตระกูลอัน!”

หูปินพูดด้วยอารมณ์ไม่ดี: “ตาแก่ ถึงขั้นนี้แล้วยังคิจะเล่นลูกไม้อีก!”

“ข้าจะเชือดเจ้าเอง!”

เขาสาวเท้าเข้ามา มือข้างหนึ่งคว้าจี้เจินเอาไว้ ส่วนมีดสั้นในมืออีกข้างกำลังเล็งไปที่หัวใจ

จี้เจินตะโกนว่า: “ฆ่าฉันตาย ตระกูลอันจบเห่แน่!”

“เดี๋ยวก่อน!” อันกั๋วตะโกนพูดขึ้นว่า: “หูปิน ให้เขาพูด”

“ฉันอยากรู้ว่า ความลับใหญ่อะไรที่จะเป็นภัยต่อความเป็นความตายของตระกูลอัน”

จี้เจินถอนใจ สายตาของเขา อยู่ ๆ ก็จ้องไปที่ยู่หลิงหลง

พูดด้วยเสียงดังว่า: “เธอเป็นไส้ศึก!”

“ราชาหยกเป็นไส้ศึก!”

อะไร?

คนหมู่มากต่างคิดไม่ถึง

ยู่หลิงหลงหัวเราะพูดว่า: “ทุกคนดูสิ ฉันเหมือนไส้ศึกเหรอ?”

“จี้เจิน นายอย่างคิดว่าเมื่อก่อนฉันอยู่ข้างนาย เห็นด้วยที่คุณหนูใหญ่แต่งกับลูกชายของนายแล้วฉันจะเป็นพวกเดียวกับนายนะ?”

“ให้ตาย นั่นฉันเคารพในคำสั่งเสียของนายท่านต่างหากโอเคมั๊ย”

“ตอนนั้น ฉันไม่รู้ว่าคำสั่งเสียก็มาจากการถ่ายทอดเท็จของนาย

คนหมู่มากก็รู้สึกว่า คำอธิบายนี้ก็สมเหตุผล

ยู่หลิงหลงอยู่ตระกูลอันมาหลายปี เป็นหนึ่งในสี่ราชา จะเป็นไส้ศึกได้ยังไง

“ตาแก่ ยังมีอะไรจะพูดอีกมั๊ย?” หูปินทำตาดุ

จี้เจินพูดเสียงดังว่า: “หล่อนเป็นคนรักของหลิวเช่อราชาเป่ยเจียง!”

ประโยคนี้ เหมือนลูกระเบิดลูกใหญ่หนักหลายปอนด์

แม้คนหมู่มากจะรู้สึกคาดไม่ถึง แต่ว่า ข่าวนี้ชวนให้ผู้คนต้องตกตะลึง

แม้แต่หูปิน ก็อดหันไปมองยู่หลิงหลงไม่ได้

จี้เจินถอนใจพูดเสียงดังว่า: “หล่อนรู้จักหลิวเช่อมานานแล้ว เท่าที่ผมรู้ ยังมีลูกสาวให้หลิวเช่อด้วย”

“ครั้งนี้ที่หลิวเช่อสะกดให้ผมหักหลัง มียู่หลิงหลงเป็นตัวบงการใหญ่!”

“นายท่าน ถ้าท่านไม่กำจัดเขา ตระกูลอันไม่รอดแน่!”

สีหน้าอันกั๋วคิดหนัก มองไปยังยู่หลิงหลงพูดด้วยเสียงขรึมว่า: “ฉันสงสัยมานานแล้วว่าคนสำคัญข้างกายฉันสมคบกับฝ่ายเหนือ”

“ตอนนี้เห็นทีคงเป็นเธอแล้วล่ะ”

ยู่หลิงหลงหัวเราะเอ่ยว่า: “นายท่าน แม้แต่ท่านก็ไม่เชื่อฉันเหรอ?”

“อย่างนั้นก็ได้ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฉัน ฉันมีของสิ่งหนึ่งจะให้ท่านดู”

พูดจบ อยู่ ๆ ก็ยื่นมือไป ล้วงปืนเล็กสีเงินสาวเท้าเดินเข้ามา เล็งไปที่หน้าผากของอานกั๋ว

“ถูกต้อง ฉันก็คือคนรักของหลิวเช่อ เป็นสามีภรรยากัน”

“พวกคุณรู้แล้วยังไง?ใครกล้าเข้ามาฉันจะยิงตาแก่นี่ทิ้ง!”

พูดจบ เพื่อสาธิตให้เห็น เธอก็ยิ่งปืนขึ้นฟ้า

ปืนจริง!

กระสุนจริง!

สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ทำให้ที่เกิดเหตุอลหม่าน หูปินคำรามด้วยความโกรธ เรียกลูกน้องให้ล้อมยู่หลิงหลงไว้

“อย่าทำร้ายนายท่าน!”

“น้าหลิงหลง ปล่อยเขาเร็ว!”

“ขอแค่คุณปล่อยคุรปู่ ฉันรับรองว่าคุณจะไปอย่างปลอดภัย!” หลิ่วหรูยู่พูดด้วยความตกใจ

ยู่หลิงหลงหัวเราะเอ่ยว่า: “หลานสาวที่แสนดี ฉันรู้ว่าก้นบึ้งจิตใจของเธอดี แต่โลกของผู้ใหญ่เธอไม่เข้าใจหรอก”

“ฉันรู้ดีกว่าใคร ปล่อยตาแก่ไปฉันต้องถูกสับเป็นชิ้น ๆ ทันทีแน่”

คนหมู่มากจะขว้างหนูก็กลัวกระทบอย่างอื่น (จะจัดการศัตรูตรงหน้าก็กลัวคนอื่นถูกลูกหลง) อดหวาดหวั่นไม่ได้

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน!

ไม่มีใครคาดคิดว่ายู่หลิงหลงจะเป็นไส้ศึกที่อยู่เบื้องหลัง

อีกทั้ง ท่าทางของยู่หลิงหลงดูแล้วชดช้อย เป็นหญิงสูงศักดิ์ที่ร่ำรวยมีเกียรติ นึกไม่ถึงว่าพอจู่โจมขึ้นมาก็รวดเร็วเช่นนี้

แม้แต่จุยเฟิง ก็ไม่มีโอกาสขัดขวาง

สีหน้าจุยเฟิงเคร่งขรึมเหมือนเหล็ก

เขารู้สึกว่าทั้งหมดนี้ควรโทษเขา เพราะว่า เขาเป็นบอดี้การ์ดประจำตัวของนายท่าน

แต่เขากลับห่างจากตัวนายท่านโดยพละกาล เปิดโอกาสให้ยู่หลิงหลง

เขาค่อย ๆ ชับมีดยาวออกมา กัดฟันพูดว่า: “ถ้าเธอกล้าทำร้ายนายท่านแม้แต่ขนเส้นเดียว ฉันจะให้เธอ กับคนทั้งหมดของเป่ยเจียงสังเวยด้วยเลือด!”

ยู่หลิงหลงหัวเราะเอ่ยว่า: “ฉันรู้จักนาย ราชาลับ ดูผิวเผินเหมือนไม่ร้ายกาจ ซึ่งความจริง ทั้งตระกูลอันคนที่ร้ายกาจที่สุดก็คือนาย

“เพียงแต่ว่า มีดของนายต่อให้เร็วแค่ไหนจะเร็วกว่าปืนหรือเปล่า?”

“ฉันตายที่นี่ได้ แต่ว่า ต้องลากตาแก่นี่ตายตามไปด้วย”

“พวกนายอยากฆ่าก็เข้ามาฆ่าเลย”

ไม่มีใครกล้าลงมือ!

ฉินเทียนเพิ่งจะก้าวเข้ามาข้างหน้า ยู่หลิงหลงรีบหลบหลังอันกั๋วพูดด้วยเสียงดังว่า: “ถอยไป!”

เธอเหมือนจะหวาดกลัวฉินเทียนเป็นพิเศษ

สีหน้าฉินเทียนเคร่งขรึม ในสถานการณ์อย่างนี้ เขาก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามลงมือ

ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นยู่หลิงหลง เขาก็รู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา

นึกไม่ถึง ว่าจะจะแสบอย่างนี้

เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว ชูสองมือขึ้นเป็นสัญญาณว่าเขาไม่เป็นภัย

“ว่ามา เธอจะเอายังไง?” เขาพูดด้วยเสียงเข้ม

ยู่หลิงหลงใช้อานกั๋วเป็นตัวประกันพูดด้วยเสียงดังว่า: “พวกนายถอยไปให้หมด!”

“ให้คนขับรถของฉันขับรถมา!”

“เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยของฉัน ฉันจะให้ตาแก่ส่งฉันไปเป่ยเจียงด้วยตัวเขาเอง!”

“เป็นไปไม่ได้!”

“ฝันไปเถอะ!” หูปินกับพวกทำตาดุสบถคำด่า

ยู่หลิงหลงยิงปืนขึ้นฟ้าอีกครั้ง กลุ่มคนในที่เกิดเหตุเงียบกริบไร้เสียง

“ไม่อย่างนั้นก็ปล่อยฉันไป หรือไม่ก็แหลกไปพร้อมกัน พวกนายเลือกเองแล้วกัน”

คนหมู่มากต่างมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี